หลิงฮันไม่มีพรสวรรค์ในการตั้งชื่อแม้แต่น้อย
หากดูจากแต่ละชื่อที่เขาเคยตั้งจะรู้ได้ว่ามันสิ้นคิดแค่ไหน
“ในเมื่อตอนนี้มันกลายเป็นแร่เหล็กระดับศักดิ์สิทธิ์แล้ว และในอนาคตมันอาจจะกลายเป็นแร่เหล็กระดับนิรันดร์… ดาบระดับนิรันดร์งั้นรึ” หลิงฮันครุ่นคิดอยู่ชั่วครู่ก่อนจะเริ่มเบื่อและตั้งชื่อไปส่งๆ
“ถ้าเรียกว่าดาบอสูรนิรันดร์จะดูโอ้อวดเกินไปรึเปล่า?”
“ช่างเถอะ เอาเป็นดาบอสูรนิรันดร์แล้วกัน”
เขาหัวเราะอย่างมีความสุขและเพิ่มระดับให้ดาบอสูรนิรันดร์อย่างต่อเนื่อง
ทุกๆครั้งที่เหวี่ยงดาบ ดาบอสูรนิรันดร์ก็จะเกิดการพัฒนาทีละน้อย แต่การพัฒนาก็เป็นไปอย่างเชื่องช้า หากต้องการจะให้ดาบระดับหนึ่งพัฒนาเป็นดาบระดับสอง เขาจำเป็นต้องใช้แร่เหล็กระดับศักดิ์สิทธิ์จำนวนมาก
“โชคดีที่สำหรับข้าตอนนี้แร่เหล็กระดับศักดิ์สิทธิ์ระดับหนึ่งไม่นับว่าผลาญเงินเท่าไหร่!”
หลิงฮันใช้เวลาสามวันสามคืนในหอคอยทมิฬเพื่อขัดเกลาดาบศักดิ์สิทธิ์ระดับหนึ่ง ในระหว่างนี้เขาออกจากหอคอยทมิฬไปครั้งหนึ่งเพื่อนำแร่เหล็กระดับศักดิ์สิทธิ์มาเพิ่ม และในที่สุดเมื่อผ่านไปสามวัน ดาบอสูรนิรันดร์ก็เกิดการเปลี่ยนไปที่สามารถเห็นได้ชัด
ดาบพัฒนาเป็นแร่เหล็กศักดิ์สิทธิ์ระดับสองแล้ว!
หลิงฮันพบว่าในการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ เจตจำนงของเขาได้เข้าไปอยู่ในดาบอสูรนิรันดร์จนถึงจุดสูงสุด ภายในเวลาไม่เท่าไหร่รูปแบบอักษรศักดิ์สิทธิ์ถึงเจ็ดอันก็ถูกสลักลงไปบนตัวดาบ
เรื่องนี้ทำให้หลิงฮันตกตะลึงมาก
ต้องรู้ก่อนว่าการจะทำให้เจตจำนงหลอมรวมกับอาวุธจนก่อให้เกิดเป็นรูปแบบอาคมศักดิ์สิทธิ์นั้นต้องใช้ระยะเวลานานมาก โดยปกติแล้วต้องใช้เวลาถึงอย่างน้อยหนึ่งน้อยปี
ดาบอสูรนิรันดร์ราวกับกลายเป็นกระดาษเปล่าหลังจากเปลี่ยนแปลงเพิ่มระดับและรอคอยให้หลิงฮันคนคนวาดเขียนเติมแต่งลงไป ภายในชั่วเวลาไม่เท่าไหร่รูปแบบอาคมศักดิ์สิทธิ์ตั้งเจ็ดอันก็ถูกสลักลงไปแล้ว จะไม่ให้หลิงฮันดีใจได้อย่างไร?
“ตอนนี้ความทนทานของดาบพัฒนาเป็นแร่เหล็กศักดิ์สิทธิ์ระดับสองแล้ว แต่พลังทำลายของมันยังเป็นเพียงอุปกรณ์ศักดิ์สิทธิ์ระดับหนึ่ง”
นี่หมายความว่าหากเขาใช้ดาบนี้โจมตี ดาบจะไม่ช่วยเสริมพลังให้กับเขาและพลังทำลายที่เกิดขึ้นจะเป็นพลังของเขาอย่างเดียว ดาบอสูรนิรันดร์ในตอนนี้เป็นแร่โลหะศักดิ์สิทธิ์ระดับสองไม่ใช่อุปกรณ์ศักดิ์สิทธิ์ระดับสอง
“ข้าต้องขัดเกลาพัฒนามันต่อไป”
ไม่เช่นนั้นหากเขาใช้ดาบนี้ปะทะกับอุปกรณ์ศักดิ์สิทธิ์ระดับสามหรือสี่ มีโอกาสสูงมากที่ดาบของเขาจะแตกหักและต้องไปขอให้จินจื้อฮุยซ่อมให้ หากปล่อยไว้โดยไม่ซ่อมคุณสมบัติอันเป็นเอกลักษณ์ที่สามารถเติบโดตได้ของแร่เหล็กกลืนกินอาจจะหายไปก็ได้
หากเป็นเช่นนั้นจริงจินจื้อฮุยคงผิดหวังในตัวเขาเป็นแน่ นั่นเพราะอีกฝ่ายใช้เวลาเป็นหมื่นปีในการสร้างดาบอสูรนิรันดร์เล่มนี้ขึ้นมา
“แต่ว่า… ข้าไม่มีเงินแล้ว!”
“ข้าจนอีกแล้ว!”
เฮ้ออ!
หลิงฮันถอนหายใจ ตอนที่เขาซื้อแร่โลหะระดับศักดิ์สิทธิ์จำนวนมาก เขาใช้เงินเก็บไปแทบทั้งหมดแล้ว ตอนนี้ด้วยผลึกก่อเกิดที่เหลืออยู่เพียงน้อยนิดเขาจะซื้อแร่โลหะระดับสองได้อย่างไร?
ไม่น่าแปลกใจที่ทำไมหอคอยน้อยจึงบอกว่าการที่แร่เหล็กกลืนกินจะพัฒนาเป็นแร่โลหะนิรันดร์ได้ถึงเป็นเพียงทฤษฎี หากจะทำสำเร็จจริง เกรงว่าคงต้องใช้แร่โลหะศักดิ์สิทธิ์ทั้งยี่สิบระดับจากทั่วทั้งดินแดนศักดิ์สิทธิ์
“จริงสิ ไม่ใช่ว่าหอคอยทมิฬสามารถสร้างแร่โลหะขึ้นมาได้หรอกรึ?”
หอคอยทมิฬจะสร้างแร่โลหะระดับพระเจ้าทุกปีเหมือนกับที่สร้างหินพลังวิญญาณ เพียงแต่ว่าหากเขาไม่นำแร่โลหะที่ว่าไปใช้ระดับของมันก็จะเพิ่มขึ้นทุกๆปี เรื่องนี้ทำให้หลิงฮันรู้สึกลังเล
นั่นเพราะต่อให้แร่โลหะมีระดับต่ำแต่หากมีจำนวนนับร้อยก็ดีกว่าแร่โลหะระดับสูงชิ้นเดียว
“ลืมเรื่องนั้นไปก่อนแล้วกัน สิ่งที่ข้าต้องการตอนนี้คือแร่โลหะศักดิ์สิทธิ์ระดับสองจำนวนมหาศาล” หลิงฮันกล่าวในใจ
“ถ้าเงินไม่มีก็ต้องใช้ทักษะการปรุงยาให้เกิดประโยชน์!”
หลิงฮันเลือกบ่มเพาะพลังให้ช้าลงและเอาเวลาไปทุ่มเทกับการปรุงยา เพราะอย่างไรเขาก็ครอบครองต้นสังสารวัฏ เขาบ่มเพาะแค่หนึ่งวันก็เท่ากับคนอื่นบ่มเพาะพลังหนึ่งปี
เขาตัดสินใจหลอมเม็ดยารอเวลารับสมัครศิษย์ของนิกายสวรรค์เยือกแข็ง
ทางด้านสุ่ยเยี่ยนยวี่นางใช้เวลาบ่มเพาะพลังให้ก้าวหน้าที่สุดเท่าที่จะทำได้ แน่นอนว่านางฝึกฝนภายใต้ต้นสังสารวัฏ
เป้าหมายของนางเดาไม่ยาก นั่นคือการถูกเลือกโดยนิกายสวรรค์เยือกแข็งพร้อมกับหลิงฮันนั่นเอง หากนางไม่ถูกเลือกก็ไม่รู้ว่าต้องรออีกนานเท่าใด! ยิ่งกว่านั้นแสงแห่งความรุ่งโรจน์ของหลิงฮันเป็นสิ่งที่ไม่มีสิ่งใดปกปิดได้มิด นางต้องจับตามองเขาเอาไว้เพื่อไม่ให้สตรีใดมายุ่มย่าม
แต่นางรู้ดีว่านางไม่ได้มีพรสวรรค์ในทักษะยุทธที่สูงมาก พลังต่อสู้ของนางคือสองดาวเท่านั้น แม้ในสำนักนภาสีชาดจะถือว่าเป็นอัจฉริยะ แต่ท่ามกลางหมู่ดาราจรัสแสงอย่างศิษย์นับร้อยของนิกายสวรรค์เยือกแข็ง พลังต่อสู้สองดาวไม่นับว่าเป็นอันใดเลย
ดังนั้นหากนางต้องการเข้าร่วมนิกายสวรรค์เยือกแข็งนางจำเป็นต้องพึ่งพาสิ่งอื่น
สิ่งนั้นคืออายุและพลังบ่มเพาะ
จอมยุทธระดับภูผาวารีทั่วไปย่อมไม่อยู่ในสายตาของนิกายสวรรค์เยือกแข็ง แต่จอมยุทธระดับภูผาวารีขั้นสูงหรือขั้นสูงสุดที่อายุต่ำกว่าสี่สิบปีล่ะ? จอมยุทธเช่นนี้ยังพอเรียกได้ว่าเป็นหัวกะทิแนวหน้า
แม้พรสวรรค์ของข้าจะไม่สูงเท่า แต่ข้าสามารถบ่มเพาะพลังได้เร็วกว่าและมีพลังบ่มเพาะสูงกว่าก็นับว่าข้าเหนือกว่า
หลิงฮันอดหัวเราะไม่ได้ “ภรรยาข้า หัวใจของเจ้าส่งมาถึงสามีแล้ว ไหนมาให้ข้าจูบหน่อยสิ”
สุ่ยเยี่ยนยวี่กรอกตาและกล่าว “ข้าต้องการเข้าร่วมนิกายสวรรค์เยือกแข็งเพื่อความก้าวหน้าของข้าเอง มีส่วนไหนที่เกี่ยวกับเจ้า?”
สตรีผู้นี้ช่างหน้าบาง!
หลิงฮันหัวเราะและกล่าว “ภรรยาข้า เจ้าเป็นเช่นนี้ตลอด เอาแต่ปฏิเสธว่าเจ้าถูกข้าสยบแล้ว! แต่นั่นก็ไม่ได้สำคัญอะไร ข้ายินดีที่จะสนุกไปกับการสยบเจ้าอย่างช้าๆ!”
“หืม?”
จู่ๆก็เกิดคลื่นสั่นไหวที่สั่นไปถึงหัวใจ จากนั้นทั้งสองคนแหงนมองบนท้องฟ้าพร้อมกัน
ท่ามกลางท้องฟ้ามีดวงตะวันลอยอยู่โดยมีดวงดาวอยู่ล้อมรอบ แต่กลับมีดาวดวงใหญ่ดวงหนึ่งที่ปลดปล่อยแสงอันสว่างไสวเกินกว่าดาวดวงอื่น
ครืนน!
เกิดคลื่นสั่นไหวขึ้นอีกระลอกอย่างไม่มีปีมีขลุ่ย ทั้งสองมั่นใจว่าคลื่นสั่นไหวที่เกิดขึ้นจะต้องเกี่ยวกับดวงดาวที่ส่องประกายดวงนั้นแน่
“ดาวดวงนั้นคืออะไรกัน หรือนั่นจะเป็นดาวที่ใกล้จะดับสลายและกำลงจะระเบิดตัวเอง?”
ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ต่างจากโลกใบเล็ก ในส่วนของโลกใบเล็กนั้นดวงดาวดวงนึงจะมีเพียงทวีปเดียว และดวงดาวบนท้องฟ้าก็เป็นเพียงอุกาบาตที่จอมยุทธที่แข็งแกร่งสามารถบดขยี้ได้อย่างง่ายดาย
แต่บนดินแดนศักดิ์สิทธิ์นั้น ดวงดาวทุกดวงจะมีขนาดใหญ่ แม้แต่เปลวเพลิงของดวงอาทิตย์ก็สามารถแผดเผาจอมยุทธระดับดาราให้มอดไหม้ได้ แม้แต่ระดับวารีนิรันดร์ก็ไม่กล้าเข้าใกล้ดวงอาทิตย์
ดวงทุกๆดวงนั้นมีอายุขัยของตัวมันเอง ซึ่งอายุขัยของดาวแต่ละดวงอาจจะมีทั้งพันล้านปีหรือหลายพันล้านปี แม้แต่จอมยุทธระดับดาราที่อายุยืนยาวก็ยังยากที่จะพบเห็นดาวที่สิ้นอายุขัย
พวกเขาเคยได้ยินมาว่าดาวดวงใดที่ถึงจุดจบมันจะเกิดปรากฏการณ์การระเบิดครั้งใหญ่
เหตุการณ์เช่นนั้นถือว่าน่าสะพรึงกลัวมาก ลองคิดดูว่าดาวดวงหนึ่งมีจอมยุทธอาศัยอยู่มากมายเท่าใด โดยการระเบิดนั้นจะเกิดขึ้นเพียงไม่กี่ลมหายใจต่อให้เป็นจอมยุทธระดับดาราก็เกรงว่าจะตกตายใจพริบตา
พลังทำลายล้างของการระเบิดครั้งใหญ่มีเพียงตัวตนระดับสร้างสรรพสิ่งที่สามารถต้านทานไหว
เพราะงั้นตอนนี้เมื่อดวงดาวบนท้องฟ้าเกิดการระเบิด จึงเป็นไปได้มากกว่าดาวดวงนั้นได้มาถึงอายุขัยของมันแล้ว