Alchemy Emperor of the Divine Dao – ตอนที่ 1103

“เอาเถอะ จะของจริงหรือปลอม ไว้ให้จักรพรรดิจอมอสูรเข้าไปสิงหุ่นเชิดดูก็รู้”

หลิงฮันเก็บหุ่นเชิดโลหะสีดำ เนื่องจากหุ่นเชิดไม่มีผลึกก่อเกิดใส่เอาไว้มันจึงไม่สามารถสำแดงพลังได้

เมื่อเขาเก็บหุ่นเชิดเข้าไปจู่ๆภาพก็ตัดและเขาได้กลับมาปรากฏตัวด้านหลังรูปปั้นหินและมีผู้คนมองดูอยู่ทั้งสองฝั่งเหมือนเดิม ดูเหมือนว่าจะไม่มีใครรู้ตัวเลยว่าเมื่อครู่เขาหายตัวไป

ถึงแม้ระยะเวลาที่เขาหายไปจะไม่นาน แต่ก็นับได้หลายลมหายใจ เป็นไปได้อย่างไรที่จะไม่มีใครสังเกตุเห็น?

นั่นหมายความว่าพลังที่ใช้พาเขาไปอีกที่นั้นอัศจรรย์มาก

“หลิงฮัน!”

“อาจารย์!”

ทั้งสุ่ยเยี่ยนยวี่และติงผิงเดินเข้ามาหาเขาด้วยใบหน้านับถือเชยชม

ขนาดสุดยอดอัจฉริยะอย่างเซี่ยอู๋เฉียนยังต้องยอมแพ้ แต่หลิงฮันที่มีพลังบ่มเพาะเพียงระดับภูผาวารีขั้นสูงกลัยสามารถผ่านด่านทั้งหมดได้สำเร็จ ถ้าเปรียบเทียบแล้วจะเห็นว่าความสำเร็จครั้งนี้น่าทึ่งขนาดไหน

“ยินดีกับน้องชายหลิงด้วย!” พวกเส้าซือซือสามคนเดินเข้ามาหา

เซี่ยอู๋เฉียนแผดเสียง เขาลังเลเล็กน้อยก่อนจะพาเหล่าผู้ติดตามจากไป

เขาต้องการสังหารหลิงฮันเป็นอย่างยิ่ง แต่ดูเหมือนสถานการณ์ในตอนนี้จะเป็นไปได้ยากแล้ว ไม่ต้องกล่าวถึงเรื่องที่หลิงฮันมีพลังป้องกันที่น่าสะพรึงกลัว ต่อให้เขาลงมือพวกเส้าซือซือก็คงไม่ยอมให้เขาสังหารอีกฝ่ายเป็นแน่ เพราะงั้นเขาจึงเลือกที่จะจากไป

มีหลายคนที่เดินเข้ามาเพื่อต้องการพูดคุยกับหลิงฮัน แต่ด้วยการที่มีพวกเส้าซือซือสามคนอยู่ ด้วยแรงกดดันที่ทรงพลังจากทั้งสามคนเหล่าคนที่เดินมาจึงหยุดชะงักไร้คำพูดและเดินจากไป

พวกเส้าซือซือสามคนต้องการจะเป็นสหายกับหลิงฮัน แต่ที่นี่ไม่ใช่สถานที่ที่เหมาะสมสำหรับพูดคุยเท่าไหร่ ทั้งสี่คนตกลงกันว่าจะไปเจอกันที่นิกายสวรรค์เยือกแข็งและค่อยพูดคุยกันอีกครั้ง

ฝูงคนค่อยๆแยกย้ายกันไปด้วยท่าทีผิดหวัง เนื่องจากพวกเขาเห็นว่าหลิงฮันเดินกลับออกมาจากรูปปั้นหินโดยที่ไม่มีรางวัลติดมือกลับมาด้วย

การทดสอบที่ยากขนาดนั้นแต่ไม่ได้รางวัลอะไรตอบแทนเลย ช่างน่าผิดหวังจริงๆ

หลังจากฝูงชนจากไป หลิงฮันก็โยนลูกบอลโลหะสีดำออกมาและกล่าว “จักรพรรดิน้อย เจ้าลองเข้าสิงควบคุมสิ่งนี้ดู” ครั้งนี้เขาใส่ผลึกก่อเกิดเข้าไปเรียบร้อยแล้ว

จักรพรรดิจอมอสูรไม่รอช้า ‘พรึบ’ หุ่นเชิดมนุษย์เคลื่อนไหวและปลดปล่อยอำนาจที่ทรงพลังออกมา

“นายท่าน นี่มันหุ่นเชิดระดับสุริยันจันทรา!” จักรพรรดิจอมอสูรตกตะลึงจนเกือบเป็นลม

ก่อนหน้านี่ที่ต้องเสียหุ่นเชิดระดับกึ่งสุริยันจันทราไปสองตัวทำให้เขาทุกข์อกทุกข์ใจเป็นอย่างยิ่ง แต่ตอนนี้เขาได้พลังที่เคยเสียไปกลับมาอีกครั้งแล้ว ไม่คาดคิดเลยว่าเวลาผ่านไปแค่ปีเดียวนายท่านของเขาจะหาหุ่นเชิดระดับสุริยันจันทราของจริงมาได้

“ลองตรวจสอบดูว่ามันมีพลังขั้นอะไร?” หลิงฮันถาม

หลังจากเคลื่อนไหวอยู่หลายครู่ จักรพรรดิจอมอสูรก็กล่าว “ขอตอบนายท่าน มันสมควรเป็นหุ่นเชิดระดับสุริยันจันทราขั้นกลาง”

“เพียงแค่ขั้นกลาง!” หลิงฮันไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่ แต่ในเมื่อได้รับมาฟรีก็ไม่ควรจะบ่นอะไรมากสินะ? เขาพยักหน้าและกล่าว “หุ่นเชิดนี้ข้ามอบให้เจ้า”

“ขอบคุณนายท่าน จักรพรรดิน้อยผู้นี้จะทำประโยชน์ให้มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นคำสั่งแบบไหนข้าก็จะทำทุกอย่างด้วยความทุ่มเท…” จักรพรรดิจอมอสูรกล่าว

ครั้งนี้ถึงแม้จะได้มีพลังระดับสุริยันจันทราแล้ว เขาก็ไม่กล้ามีความคิดแก้แค้นหลิงฮันแม้แต่น้อย ในความคิดของเขาการที่หลิงฮันยกหุ่นเชิดระดับสุริยันจันทราให้เขาง่ายๆเช่นนี้แสดงว่าอีกฝ่ายต้องมีไพ่ลับที่แข็งแกร่งยิ่งว่าอยู่ในมือและต้องสามารถสยบเขาได้อย่างง่ายดายแน่นอน

ซึ่งที่จักรพรรดิจอมอสูรคิดก็ถูกต้องแล้ว ต่อให้หลิงฮันไม่มียันต์อาคมเหล็กไหลหรือยันต์อื่นๆเขาก็สามารถจัดการจักรพรรดิจอมอสูรได้อย่างไม่ยากเย็น

วิญญาณของจักรพรรดิจอมอสูรนั้นอ่อนแอมาก แค่หลิงฮันใช้ทักษะจิตเจ็ดสังหารเขาก็สามารถทำให้จักรพรรดิจอมอสูรหมดสติและนำตัวเข้าไปในหอคอยทมิฬได้แล้ว

หลิงฮันทำการฟื้นฟูบาดแผลที่ได้รับจากรูปปั้นหิน เมื่อโคจรคัมภีร์สวรรค์นิรันดร์บาดแผลของเขาก็ฟื้นฟูกลับมาเป็นปกติด้วยความเร็วที่น่าตกตะลึง

ขาเปลี่ยนชุดใหม่และยิ้ม “ไปกันเถอะ”

ทั้งสามคนออกเดินทางต่อ

ในขณะเดินทางหลิงฮันได้เล่าเรื่องที่เขาได้รับยันต์ทั้งสามแผ่นและหุ่นเชิดให้สุ่ยเยี่ยนยวี่และติงผิงฟัง

“มีคนถูกฝังอยู่ที่นี่… เขาคือใครกัน?”

“ที่นี่รู้สึกไม่เหมือนสุสานแม้แต่น้อย เหตุใดคนที่จะตายถึงต้องทำอะไรที่สับซ้อนเช่นนี้?”

ทั้งสุ่ยเยี่ยนยวี่และติงผิงรู้สึกเหลือเชื่อ เจ้าบอกว่าเจ้าฝังตนเองไว้ที่นี่ แต่เจ้ากลับสร้างหลุมศพที่พิสดารเต็มไปด้วยรูปแบบอาคมมากมาย?

“คงไม่อยากจะรู้สึกโดดเดี่ยว?” หลิงฮันพึมพำ เพราะอย่างไรคนเราก็ไม่สามารถหลบหนีความตายได้พ้น ปรมาจารย์คนนี้จึงได้ทิ้งข้อความสรรเสริญตนเองเอาไว้เพราะไม่อยากถูกลืมเลือน?

พลังชีวิตของที่แห่งนี้หนาแน่นมาก ไม่เพียงแต่จะช่วยขัดเกลาพลังบ่มเพาะ แต่ยังช่วยซ่อมแซมอาการบาดเจ็บที่เกิดจากการบ่มเพาะพลังได้อีกด้วย

บางคนไม่ได้ออกเดินทางสำรวจเพราะคิดว่าพลังของตนเองต่ำเกินไปไม่สามารถแย่งชิงกับคนอื่นได้ พวกเขาเอกที่จะหาสถานที่สันโดษเพื่อบ่มเพาะพลังและขัดเกลาร่างกายให้บรรลุถึงจุดสูงสุด

“อาจารย์ ข้าต้องการทะลวงผ่านระดับพลัง!” ไม่กี่วันต่อมาจู่ๆติงผิงก็เอ่ยกล่าวขึ้นมา

เขาได้รับเม็ดยามากมายจากหลิงฮัน พลังบ่มเพาะของเขาจึงพัฒนาได้อย่างรวดเร็ว ที่นี่คือดินแดนศักดิ์สิทธิ์ที่พลังบ่มเพาะของระดับมนุษย์สามารถบ่มเพาะได้อย่างง่ายดาย ด้วยการที่มีต้นสังสารวัฏคอยช่วยเหลือ ถ้าไม่ใช่เพราะติงผิงต้องขัดเกลาพลังต่อสู้ให้ถึงสิบเก้าดาว เขาคงจะทะลวงผ่านไปนานแล้ว

หลิงฮันคอยคุ้มกันติงผิง ต่อให้เป็นดาวดวงนี้กฎแห่งสวรรค์ก็ยังคงมีอยู่ไปทุกหนแห่ง ทันใดนั้นสายฟ้าจากสวรรค์ก็เริ่มผ่าลงมาใส่ติงผิง

ติงผิงบ่มเพาะพลังระดับทลายมิติจนเกือบจะถึงจุดสมบูรณ์แบบ แต่เพราะเขาไม่ใช่ผู้เปิดสวรรค์จากโลกใบเล็ก พลังต่อสู้ของเขาจึงไม่อาจบรรลุยี่สิบดาว แต่ถึงอย่างไรสิบเก้าดาวก็นับว่าแข็งแกร่งมากแล้ว ด้วยพลังต่อสู้เช่นนี้ของเขาบททดสอบสายฟ้าสวรรค์จึงค่อนข้างง่าย

ครึ่งวันต่อมาติงผิงก็บรรลุระดับพระเจ้า

“อาจารย์ ทีนี้ข้าสามารถออกเดินทางด้วยตนเองได้รึยัง?” ติงผิงรอเวลานี้มานาน เขาคาดหวังที่จะเดินทางฝึกตนไปยังทิศเหนือใต้ได้อย่างอิสระเหมือนอาจารย์ลุงทั้งสาม

หลิงฮันยิ้มและและกล่าว “ทำไมรึ เจ้าต้องการเป็นอิสระขนาดนั้นเลย?”

ติงผิงชะงักทันทีและกล่าว “ศิษย์ไม่กล้าคิดเช่นนั้น!”

หลิงฮันครุ่นคิดอยู่ชั่วครู่และนำยันต์อาคมสลายเมฆามอบให้กับศิษย์ของเขา “รับสิ่งนี้ไป ถ้าเจ้าตกอยู่ในอันตรายจะได้หลบหนีเอาชีวิตรอดได้ หลังจากนี้ไว้ค่อยพบกันที่ทางเข้าสุสาน”

“ท่านอาจารย์!” ติงผิงตื่นเต้นมาก ยันต์อาคมแผ่นนี้คือรางวัลที่อาจารย์ของเขาได้มาจากการผ่านด่านรูปแบบอาคมรูปปั้นหิน มันล้ำค่ามาก

“รับไป!” หลิงฮันหัวเราะ เขามีอุปกรณ์บินแหวกเมฆาอยู่แล้ว ยันต์อาคมสลายเมฆาจึงไม่ค่อยมีประโยชน์ต่อเขาเท่าใด

ติงผิงก้มหัวคารวะหลิงฮัน เขารับยันต์อาคมสลายเมฆาเอาไว้และเดินจากไป

“เจ้าแน่ใจแล้วรึ?” สุ่ยเยี่ยนยวี่ถาม

หลิงฮันกล่าวหลังจากแน่นิ่งอยู่พักหนึ่ง “เมื่อเขาโตขึ้นแล้ว เป็นเรื่องปกติที่เขาจะบินไปยังเส้นทางของตนเองด้วยตัวเอง นอกจากนั้นข้าก็ไม่เหงาอยู่คนเดียวเสียหน่อย ข้ายังมีสาวงามอยู่ข้างกายไม่ใช่รึไง?”

สุ่ยเยี่ยนยวี่รู้ว่าหลิงฮันกล่าวถึงนางจึงอดถลึงตาใส่ไม่ได้ แต่ในขณะเดียวกันนางก็รู้สึกมีความสุข สตรีคนไหนบ้างที่จะไม่ดีใจเมื่อคนที่ตัวเองชอบชมว่างดงาม?

หลิงฮันหัวเราะ เขาโอบกอบนางและมอบจูบ

สุ่ยเยี่ยนยวี่รู้สึกอายมาก นางชี้ไปยังจักรพรรดิจอมอสูร “รอบข้างยังมีคนอยู่!”

จักรพรรดิจอมอสูรชะงักแข็งข้าง เขารีบยืนสี่ขาเห่าเหมือนสุนัขและพยายามส่ายหาง แต่เขาพบว่าตัวเองในตอนนี้ไม่ใช่หมาป่าแล้ว เขาชำเลืองตามองด้วยความอับอายและฝืนยิ้ม “นายหญิง ท่านไม่ต้องคิดว่าข้าน้อยเป็นคนก็ได้!”

ช่างน่าอับอายอะไรเยี่ยงนี้

Alchemy Emperor of the Divine Dao

Alchemy Emperor of the Divine Dao

อ่านนิยายจีนAlchemy Emperor of the Divine Dao เรื่องย่อ หลิงฮันสุดยอดจอมยุทธ์และจักรพรรดิปรุงยาเพียงหนึ่งเดียว เสียชีวิตลงในการบรรลุสู่การเป็นเทพเจ้า ในหนึ่งหมื่นปีต่อมาด้วยคัมภีร์สวรรค์นิรันดร์ เขาได้เกิดใหม่ในร่างของเด็กหนุ่มที่ชื่อเหมือนกัน จากนั้นทั้งสายลมและเมฆจะต้องแหวกออกเมื่อเขาได้ต่อกรกับเหล่าอัจฉริยะในยุคใหม่นับไม่ถ้วน เส้นทางในการเป็นตำนานของเขาได้เริ่มขึ้นอีกครั้ง ในทุกยุคสมัย ภายใต้สวรรค์ ข้าแกร่งที่สุด!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset