ฟิ้ว ลูกศรถูกยิงออกมาจากคันศร
ลูกศรที่ถูกยิงออกไปรวดเร็วมากจนกลายเป็นลำแสงและยิงใส่สัตว์อสูร
หลิงฮันแอบพยักหน้าอยู่ในใจ แม้ว่าพลังทำลายล้างของลูกศรดอกนี้จะไม่เท่ากับทักษะศรฆ่ามังกรทะลวงดารา แต่ก็ไม่ได้แตกต่างกันมากนัก อย่างไรก็ตาม ถ้าเขาเป็นคนใช้คันศรและลูกศรของนางด้วยทักษะศรฆ่ามังกรทะลวงดารา ความรุนแรงจะมากกว่า
ตู้ม!
ลูกศรเข้าปะทะและเกิดประกายไฟขึ้น จากนั้นมันก็เด้งกลับมา
สัตว์อสูรตัวนั้นดูเหมือนจะตื่นและลุกขึ้นยืน
มันเหมือนพรมที่ถูกยกขึ้นมาจากตรงกลาง แต่ระหว่างที่มันยกตัวขึ้นมา ร่างของมันก็เปลี่ยนไปจากพรมบางๆกลายเป็นเสือที่มีความยาวสิบฟุต สูงห้าฟุตและมีขนสีแดงปกคลุมไปทั่วร่างกาย
ทุกคนรู้สึกประหลาดใจไม่ใช่เพราะรูปร่างของสัตว์อสูร แต่เป็นเพราะลูกศรของเส้าซือซือทำอะไรมันไม่ได้เลย
นี่เป็นเรื่องที่น่าทึ่งมาก
“ความแข็งแกร่งของเจ้าสัตว์อสูรตัวนี้เกิดกว่าความคาดหมายของพวกเราทุกคน”
“ถ้างั้นพวกเราจะทำยังไงกับมันดี?”
“ทำไมพวกเราไม่แบ่งเป็นสองกลุ่ม กลุ่มหนึ่งเข้าไปล่อเสือ ส่วนอีกกลุ่มหนึ่งไปเปิดประตู แล้วค่อยเข้าไปพร้อมกัน?”
“เป็นความคิดที่ดี พวกเราไม่ควรมาเสียเวลากันที่นี่”
ทุกคนพยักหน้าเห็นด้วย
หลังจากพูดคุยกันจบ พวกเขาก็ตัดสินใจให้ตู่อัน เฉียนหลี่เสวี่ยนและซู่จิงเป็นนกต่อล่อเสือออกไป ส่วนคนที่เหลือรับผิดชอบเปิดประตู
พวกเขาทุกคนต่างก็เป็นอัจฉริยะ ในเมื่อวางแผนกันเสร็จเรียบร้อยแล้ว พวกเขาก็ลงมือทำตามแผนทันทีอย่างไม่ลังเล
“เจ้าเสือน่าเกลียด แน่จริงก็ตามพวกข้ามาสิ!”
ทั้งสามคนเริ่มพูดจายั่วยุ แต่สัตว์อสูรตัวนี้ขี้เกียจและไม่สนใจพวกเขาเลยแม้แต่น้อย ราวกับว่าก่อนหน้านี้มันไม่เคยถูกลูกศรยิงมาก่อน และขี้เกียจเกินไปที่จะโต้ตอบ
กลุ่มของตู่อันทั้งสามคนเปลี่ยนแผน พวกเขารวบรวมพลังปราณก่อเกิดจำนวนมากไว้ที่ฝ่ามือและโจมตีไปที่สัตว์อสูร
สัตว์อสูรตัวนี้ขี้เกียจเกินไปที่จะให้ความสนใจ แต่หลังจากที่มันถูกยั่วยุอยู่หลายครั้ง ในที่สุดมันก็ทนไม่ไหวและส่งเสียงคำรามพร้อมกับวิ่งไล่ทั้งสามคน
ความเร็วของมันนั้นรวดเร็วมาก
กลุ่มของตู่อันทั้งสามคนรีบวิ่งหนีออกมาและใช้ประโยชน์จากภูมิประเทศเพื่อเล่นซ่อนหากับมัน
หลิงฮันและคนอื่นจึงรีบใช้โอกาสกระหน่ำโจมตีไปที่ประตู
ปัง! ปัง! ปัง!
เสียงระเบิดดังต่อเนื่อง แต่ในไม่ช้าทุกคนก็เผยสีหน้าประหลาดใจ เพราะทั้งที่พวกเขากระหน่ำโจมตี แต่ประตูกลับไม่เป็นอะไรเลย
“เปิดไม่ได้!”
พวกเขาทำได้แค่ยอมรับพลังของตนเอง ต่อหน้าประตูบานนี้พวกเขาเป็นเหมือนแมลงเม่าที่พยายามเขย่าโค่นต้นไม้ยักษ์
“ดูที่คอของเจ้าเสือนั่น” เส้าซือซือชี้ไปที่คอของเจ้าเสือ
ทุกคนหันไปมองและพบว่ามีกุญแจห้อยอยู่ที่คอของเสือ
“ดูเหมือนว่าพวกเราจะต้องเอาชนะเจ้าเสือตัวนี้ซะก่อน แล้วค่อยเก็บกุญแจไปไขประตู”
“ดูเหมือนจะเป็นเช่นนั้น”
“ถ้างั้นพวกเราจะต้องเรียกพวกตู่อันกลับมาต่อสู้ด้วยกัน”
ทุกคนไม่ได้หวาดกลัว แต่ก่อนหน้านี้พวกเขาแค่กลัวที่จะเสียเวลาเท่านั้นเลยตัดสินใจที่จะล่อเจ้าเสือตัวนี้ออกไป แต่ตอนนี้พวกเขาทำได้แค่ต่อสู้กับมันเพื่อเอากุญแจ
ส่วนสุ่ยเยี่ยนยวี่และชายหนุ่มที่ใช้หอกล่าถอยออกไปอยู่ด้านข้าง พวกเขาไม่สามารถแทรกแซงการต่อสู้ได้ มิฉะนั้นพวกเขาจะถูกฆ่าตาย เพราะเสือตัวนี้แข็งแกร่งเกินไป
พวกเขาเริ่มส่งสัญญาณเพื่อเรียกให้กลุ่มของตู่อันกลับมา
“เกิดอะไรขึ้น?”
กลุ่มของตู่อันทั้งสามคนมุ่งหน้ากลับมาและเห็นว่าประตูยังคงปิดอยู่ จึงช่วยไม่ได้ที่พวกเขาจะรู้สึกแปลกใจ
“ประตูบานนี้ไม่สามารถเปิดได้ มันต้องใช้กุญแจที่ห้อยอยู่บนคอเสือ” กวงหลงอธิบาย
“ฮ่าฮ่าฮ่า เช่นนั้นคงไม่มีทางเลือกนอกจากสู้กับมัน” กลุ่มของตู่อันทั้งสามคนกล่าวอย่างไร้ความหวาดกลัว
อัจฉริยะทั้งแปดคนยืนอยู่เคียงข้างกันเพื่อต้อนรับเสือที่กำลังวิ่งกลับมาหาพวกเขา
ความแข็งแกร่งของเจ้าเสือตัวนี้ไม่อาจจินตนาการได้ มันมีอักขระศักดิ์สิทธิ์มากถึงแปดสิบแถวบนตัวมัน!
นี่หมายถึงอะไร?
ความแข็งแกร่งของมันเทียบเท่าอัจริยะแปดดาว และยังมีความแข็งแกร่งเทียบเท่าจอมยุทธระดับภูผาวารีขั้นสูงชั้นสูงสุด บวกกับพลังต่อสู้แปดดาว เท่ากับว่ามันแข็งแกร่งกว่าทุกคนที่อยู่ที่นี่
ไม่แปลกใจเลยว่าไมถึงต้องเป็นกลุ่มสิบคน แม้ว่าหลิงฮันและคนอื่นๆต่างก็เป็นอัจฉริยะเหมือนๆกัน แต่ก็ยังไม่แข็งแกร่งเท่าเจ้าเสือตัวนี้ ในทางทฤษฎีแล้ว จำนวนสิบคนสามารถชดเชยความแตกต่างของพลังต่อสู้ได้หนึ่งดาว
ท้ายที่สุดแล้ว ยังไม่มีพวกเขาคนใดสามารถสร้างภูผาวารีสายที่ห้าได้ และเมื่อเผชิญหน้ากับสัตว์อสูรตัวนี้มันแทบจะไม่มีทางออก
“เข้ามา!” ทั้งแปดคนเต็มไปด้วยความมั่นใจ
นอกจากหลิงฮันแล้ว คนที่เหลืออีกเจ็ดคนต่างก็ทะลวงผ่านระดับภูผาวารีขั้นสูงชั้นสูงสุดหมดแล้ว และมีพลังต่อสู้มากถึงหกดาว บวกกับทักษะลับที่พวกเขาครอบครองจะทำให้พวกเขามีพลังต่อสู้อย่างน้อยเจ็ดดาวถึงแปดดาว
ดังนั้นโอกาสที่พวกเขาชนะจึงค่อนข้างสูง
“ข้านำเอง” หลิงฮันกล่าว
เส้าซือซือ ซู่จิง และตู่อันต่างก็เห็นด้วย แม้ว่าเซี่ยอู๋เฉียนจะไม่พอใจ แต่ก็ไม่คัดค้านอะไร พวกเขาทุกคนรู้ดีว่าหลิงฮันมีกายหยาบที่แข็งแกร่งกว่าพวกเขาทุกคน ดังนั้นจึงเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดที่จะให้เขานำหน้า
ส่วนพวกเฉียนหลี่เสวี่ยนทั้งสามคนยังไม่เคยเห็นพลังป้องกันของหลิงฮันมาก่อน ทำให้พวกเขาแปลกใจอยู่เล็กน้อย จอมยุทธระดับภูผาวารีขั้นกลางเป็นคนนำการต่อสู้งั้นรึ?
ทว่า แม้แต่เซี่ยอู๋เฉียนยังไม่คัดค้าน พวกเขาจึงทำได้แค่ปักใจเชื่อ
หลิงฮันนำดาบอสูรนิรันดร์ออกมา และฟาดฟันดาบใส่เสือทันที
ปัง!
เมื่อดาบของหลิงฮันปะทะกับกรงเล็บของมัน ทำให้ร่างของหลิงฮันปลิวกระเด็นไปไกล ความแข็งแกร่งของมันนั้นมากเกินไปจนหลิงฮันแทบจะไม่มีสิทธิ์เข้าร่วมการต่อสู้
“อัก!” หลิงฮันกระอักโลหิต และช่วยไม่ได้ที่ใบหน้าของเขาจะซีดขาว นั่นเป็นเพราะเขาเพิ่งถูกจักรพรรดินีแห่งดาราหายนะดูดเลือดไป แม้จะฟื้นตัวไปแล้วบ้าง แต่ตอนนี้เขากลับต้องมากระอักเลือดอีกครั้ง
หลิงฮันยัดพื้นและลุกขึ้นยืนอีกครั้ง จากนั้นเขาก็โจมตีออกไปด้วยทักษะบัญญัติดาบเร็ว
พวกเฉียนหลี่เสวี่ยนทั้งสามคนรู้สึกตกตะลึงเมื่อเห็นฉากดังกล่าว ทั้งที่เขาถูกโจมตีกลับด้วยการโจมตีที่ทรงพลัง แต่เขากลับลุกขึ้นยืนราวกลับไม่มีอะไรเกิดขึ้น นี่เขาเป็นสัตว์ประหลาดหรือไงกัน?
ปัง!
การโจมตีของหลิงฮันไม่ได้ผลอีกครั้ง นี่เป็นเรื่องที่น่าเหลือเชื่อมาก
ทั้งที่ก่อนหน้านี้มันเป็นพรมที่ดูนุ่มนิ่ม แต่ตอนนี้มันแข็งราวกับทำมาจากเหล็กศักดิ์สิทธิ์ขั้นสูง ความแตกต่างทั้งสองอย่างจะอยู่ในตัวเดียวกันได้อย่างไร?
แต่การโจมตีของคนที่เหลือทั้งเจ็ดคนก็ไร้ประโยชน์เช่นเดียวกัน พลังป้องกันของเสือตัวนี้น่าทึ่งมากหลิงฮันมาก
“หรือว่ามันจะไม่ใช่สัตว์อสูร แต่เป็นหุ่นเชิด!” หลิงฮันสรุป ที่เขามีกายหยาบที่แข็งแกร่งขนาดนี้ได้เพราะเขาฝึกฝนเทคนิคคัมภีร์สวรรค์นิรันดร์ แต่ถ้าเจ้าเสือตัวนี้ถูกสร้างขึ้นมาจากแร่เหล็กศักดิ์สิทธิ์มันก็จะเป็นอีกเรื่องทันที ตราบใดที่มันถูกสร้างขึ้นมาจากแร่เหล็กศักดิ์สิทธิ์ระดับห้าพลังป้องกันของมันก็จะเหนือกว่าระดับภูผาวารีทันที หากเป็นเช่นนั้นก็จะสามารถอธิบายได้ทันทีว่าทำไมมันถึงมีพลังป้องกันที่แข็งแกร่งขนาดนี้