เหลวไหล!
บังคับให้พวกเขาสองคนปั้มลูก?
หลิงฮันกล่าว “ท่านเป็นถึงผู้อาวุโส แต่กลับพูดแบบนั้น?”
“หึ่ม ความอกตัญญูนั้นมีอยู่สามประการ ที่หนักหนาสาหัสที่สุดก็คือการไม่มีทายาท” เซียนไร้พ่ายกล่าวเหมือนกับคำพูดของเขาล้วนแต่มีความชอบธรรม เห็นได้ชัดว่าเขาเป็นชายที่ไร้ยางอาย คำพูดแค่คำสองคำคงไม่สามารถเอาชนะเขาได้
หลิงฮันหันไปพูดเปลี่ยนเรื่องว่า “ทำไมท่านถึงต้องการลูกของพวกข้าขนาดนั้น ทั้งที่ท่านก็เห็นแล้วว่าพวกเราคนหนึ่งมีการโจมตีที่ทรงพลัง ส่วนอีกคนหนึ่งมีพลังป้องกันที่ไร้เทียมทาน แค่นี้ยังไม่เพียงพออีกหรือ?”
“หึ่ม ข้าจะเชื่อใจพวกเจ้าได้อย่างไร?” ท่าทางของเซียนไร้เทียมทานดูกลายเป็นเย็นชาอย่างกะทันหัน
“เพื่อไม่ให้พวกเจ้าสงสัยจนตาย ข้าจะบอกอะไรบางอย่างให้พวกเจ้าฟัง นั่นเป็นเพราะพวกเจ้าเป็นพ่อแม่ของลูกศิษย์ของข้าที่กำลังจะถือกำเนิดขึ้นมา” เซียนไร้เทียมทานกล่าว “ในอดีต ข้าเป็นคนที่มีอำนาจมากที่สุดในโลกก่อน และข้ามีศิษย์ทั้งหมดสามคน แต่ก็ถูกศิษย์ของตัวเองหักหลังและทำให้ข้าต้องทนทุกข์กับอาการบาดเจ็บเต๋าที่รักษาไม่หาย”
มันกลับกลายเป็นว่าเขาถูกหักหลังและกลายเป็นคนที่ไม่เชื่อใจคนอื่นนี่เอง
นอกจากนั้น คำว่าศิษย์มีความหมายที่ลึกซึ้ง มันอาจกล่าวได้ว่าเป็นกระดูกส่วนหนึ่งของร่างกาย การที่เขาถูกทรยศโดยคนใกล้ชิดเช่นนี้ ทำให้เขายากที่จะเชื่อใจคนอื่น
หลิงฮันขัดจังหวะและพูดว่า “แล้วพวกข้าไม่ดีเท่ากับพวกเขาเลยหรือ?”
“หึ่ม เจ้าคิดว่าระดับสร้างสรรพสิ่งนั้นง่ายที่จะทะลวงผ่านอย่างนั้นรึ?” เซียนไร้เทียมทานกล่าว “แม้ศิษย์ของข้าทั้งสามคนจะเป็นอัจฉริยะในหมู่อัจฉริยะ แต่โอกาสที่จะทะลวงผ่านระดับสร้างสรรพสิ่งยังน้อยกว่าหนึ่งเปอร์เซ็นต์”
“แม้จะเป็นอัจฉริยะก็ใช่ว่าจะทะลวงผ่าน แต่มันยังต้องพึ่งปัจจัยอื่นด้วยเช่นโอกาสและการสนับสนุนจากเม็ดยาศักดิ์สิทธิ์ที่มากพอ มิฉะนั้นการจะทะลวงผ่านจะเป็นเพียงแค่ความฝัน”
“ดังนั้นพวกเขา…จึงต้องการผลแห่งเต๋าของข้า แม้ว่ามันจะไม่สามารถทำให้พวกเขาทะลวงผ่านระดับสร้างสรรพสิ่งได้ทันที แต่ก็มีโอกาสอย่างน้อยสามสิบเปอร์เซ็นต์ที่จะทะลวงผ่าน!”
ด้านหนึ่งโอกาสน้อยกว่าหนึ่งเปอร์เซ็นต์ ส่วนอีกด้านหนึ่งโอกาสมากกว่าสามสิบเปอร์เซ็นต์ ดังนั้นศิษย์เหล่านั้นจึงเลือกที่จะฆ่าอาจารย์ของตัวเอง
“เรื่องมันผ่านไปแล้ว” หลิงฮันพูดปลอบโยน แต่แล้วเขาก็รู้สึกสงสัยอีกครั้ง และพูดว่า “ในเมื่อท่านถูกศิษย์ทรยศ แล้วทำไมท่านถึงต้องการลูกศิษย์อีก?”
“หึ่ม เพราะอย่างนั้นไงข้าถึงต้องการศิษย์ที่ยังเด็กเหมือนกระดาษขาว” เซียนไร้เทียมทานกล่าว
“ถ้างั้นพวกเราคงไม่มีอะไรต้องพูดกันอีก ปล่อยพวกข้าไปได้แล้ว!” หลิงฮันกล่าว
“หึ่ม เจ้าต้องปั้มลูกให้ข้าก่อน แล้วข้าจะปล่อยพวกเจ้าออกไป!” เซียนไร้เทียมทานกล่าว “ลูกที่กำเนิดจากพวกเจ้า ในอนาคตจะต้องกลายเป็นตัวตนที่ยิ่งใหญ่ที่สามารถกวาดล้างดวงดาวได้อย่างแน่นอน แล้วมันจะรุ่งโรจน์ขนาดไหนกันเชียว!”
หลิงฮันหัวเราะและพูดว่า “เรื่องนั้นท่านไม่ต้องกังวล ในอนาคตข้าจะต้องกวาดล้างดวงดาวได้อย่างแน่นอน โดยไม่ต้องพึ่งพาลูกของตัวเอง!”
“เจ้าเด็กอวดดี เจ้าไปเอาความมั่นใจแบบนั้นมาจากไหนถึงกล้าพูดว่าจะกวาดล้างดวงดาว!” เซียนไร้เทียมทานกล่าว
หลิงฮันยิ้มและพูดว่า “ท่านเองก็ยังเรียกตัวเองว่าเซียนไร้เทียนทานมิใช่หรือ?”
เมื่อได้ยินเช่นนั้นช่วยไม่ได้ที่เซียนไร้เทียมทานจะพูดไม่ออก อย่างไรก็ตามแต่เดิมแล้วเขาเป็นคนดี แม้ว่าจะปากเสียอยู่บ้าง แต่อีกฝ่ายรู้เรื่องอะไรเกี่ยวกับเขาบ้างล่ะ? เขาพูดว่า “นามที่แท้จริงของข้าคือเซียนหวู่เซียง!”
เขาพูดถึงตัวตนของตัวเองเอีกครั้งพราะเกรงว่าหลิงฮันจะโจมตีเขาด้วยเรื่องนี้อีก
หลิงฮันคิดอยู่ชั่วครู่และพูดว่า “ผู้อาวุโส เรื่องที่เกิดขึ้นมันได้ผ่านมาหลายปีแล้ว บางทีศิษย์ทั้งสามคนของท่านอาจตายไปแล้วก็ได้”
“เป็นไปไม่ได้!” เซียนหวู่เซียงรีบกล่าว “เวลาเพิ่งผ่านไปแค่หนึ่งร้อยล้านปีเท่านั้น ด้วยพรสวรรค์ศิษย์ของข้าทั้งสามคน พวกเขาจะต้องยังมีชีวิตอยู่แน่นอน!”
หลิงฮันสัมผัสได้ถึงความโศกเศร้าของเซียนหวู่เซียงอยู่เล็กน้อย เขาถูกศิษย์ทรยศก่อนที่จะเสียชีวิต แต่เขาก็ยังเป็นโศกเศร้าเมื่อพูดถึงลูกศิษย์ของตัวเองอีก ทำไมถึงเป็นเช่นนั้น?
“ผู้อาวุโส แล้วท่านกลับมามีชีวิตอีกครั้งไม่ได้หรือ?” หลิงฮันถาม
“หากไม่มีบุปผาวิญญาณ แล้วข้าจะกลับมามีชีวิตอีกครั้งได้อย่างไร?” เซียนหวู่เซียงทานกล่าว “มีเพียงแค่บุปผาวิญญาณเท่านั้นที่ทำให้ข้ากลับมามีชีวิตอีกครั้งได้ ซึ่งแต่ละดอกต้องใช้เวลาหนึ่งหมื่นล้านปีในการเติบโต!”
“เลิกพูดจาไร้สาระได้แล้ว จงมอบลูกของพวกเจ้าให้กับข้า!”
“ไม่ต้องกังวล ข้าจะไม่แอบดูพวกเจ้าหรอก”
“เดี๋ยวก่อน! เดี๋ยวก่อน!” หลิงฮันตะโกน แต่แท่นหินก็ไม่ตอบสนอง
ก่อนหน้านี้จักรพรรดินีแห่งดาราหายนะฟังอย่างเงียบๆ แต่ตอนนี้นางหันไปมองหลิงฮันด้วยจิตสังหาร
ต้องการมีลูกกับข้างั้นรึ?
ไปตายซะ!
จักรพรรดินีกำลังจะโจมตีใส่หลิงฮัน แต่แล้วนางก็ต้องตกใจที่พบว่าระดับพลังของนางถูกปิดผนึกอยู่ที่ระดับทลายมิติ แล้วนางจะสังหารหลิงฮันได้อย่างไร?
“เจ้าหนู ข้าปิดผนึกพลังของนางเอาไว้แล้ว นี่เจ้ายังไม่เริ่มทำอีกเรอะ!” เสียงของเซียนหวู่เซียงดังขึ้นอีกครั้ง
“เจ้าแก่เฒ่าไร้ยางอาย!” หลิงฮันสบถ
เขาหันไปมองจักรพรรดินีแห่งดาราหายนะและอดที่จะอ้าปากด้วยความตกตะลึงไม่ได้
พลังของนางถูกปิดผนึกอยู่ที่ระดับทลายมิติ ทำให้พลังปราณที่ปกปิดใบหน้าของนางหายไปอย่างรวดเร็วและเผยให้เห็นโฉมหน้าที่แท้จริง
สวย สง่างาม บริสุทธิ์ มีเสน่ห์ เทพธิดา ไร้ที่ติ!
หลิงฮันไม่สามารถบรรยายออกมาเป็นคำพูดด้วย ความงดงามของจักรพรรดินีแห่งดาราหายนะนั้นมีเสน่ห์อย่างแท้จริง นางดูไร้เดียงสา แต่ก็มีความเย้ายวน นางดูเย็นชา แต่ก็ดูงดงาม ซึ่งมันไม่ควรเกิดขึ้นในคนๆเดียว
ความงามของนางเหนือกว่าหญิงสาวที่เขาเคยพบเจอมาทั้งหมด
แต่ในแง่ของภาพลักษ์ อดีตประมุขตำหนักวายุมัจฉานั้นไม่ได้ด้อยไปกว่านาง อาจเหนือกว่าเล็กน้อยด้วยซ้ำ แต่อย่างน้อยหลิงฮันก็ไม่เคยเห็นสตรีคนใดมีความเป็นกุลสตรีมากไปกว่าจักรพรรดินี
ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมจักรพรรดิแห่งจักรวรรดิราชวงศ์นภาสีครามและจักรวรรดิสวรรค์นิรันดร์ถึงยินดีที่จะยกจักรวรรดิให้จักรพรรดินี เพราะพวกเขาแข็งแกร่งเท่ากับนาง จึงทำให้พวกเขาเห็นโฉมหน้าที่แท้จริงของนางได้
ข้าเชื่อว่าจอมยุทธระดับดาราทุกคนสามารถมองเห็นโฉมหน้าที่แท้จริงของนางออก ส่วนเหตุผลที่พวกเขาไม่กล้ามองหน้านาง อาจเป็นเพราะกลัวว่าตัวเองจะทำเรื่องโง่ๆออกไป
แต่ตอนนี้นางถูกปิดผนึกพลังอยู่ ตราบใดที่หลิงฮันจะข่มเหงนางเขาก็สามารถทำได้ทันที ความงดงามของนางจะมีชายใดต้านทานไหวได้อย่างไร?