ถึงแม้ฉางตงจะใช้หม้อต้มภูผามรกตเลียนแบบ แต่ก็ยังไม่สามารถเอาชนะหลิงฮันได้
เป็นไปได้ยังไง!
ต้องทราบก่อนว่าฉางตงแข็งแกร่งพอที่จะเป็นศิษย์หลัก แต่ตอนนี้เขากลับถูกหลิงฮันจัดการได้อย่างง่ายดาย…อย่าบอกนะว่าหลิงฮันมีความแข็งแกร่งเทียบเท่ากับศิษย์เมล็ดพันธ์?
เรื่องแบบนี้ทุกคนจะทำใจเชื่อได้อย่างไร?
“จ…เจ้าเป็นใครกันแน่?” ฉางตงรู้ตัวว่าตอนนี้เขาได้เตะแผ่นเหล็กเข้าให้แล้ว
“คนที่จะฆ่าเจ้ายังไงล่ะ!” หลิงฮัน
ฉางตงกัดฟันแน่น เขาไม่กล้ารับมือกับหลิงฮันอีกต่อไปและหันหลังกลับเพื่อวิ่งหนี
วิ่ง!
คนที่หยิ่งยโสอย่างฉางตงกลับวิ่งหนีหลังจากปะมือกับหลิงฮันสองกระบวนท่า
ทุกคนคิดว่ามันเป็นเรื่องที่น่าเหลือเชื่อ เมื่อพวกเขามองย้อนกลับไป ถึงแม้จะแค่สองกระบวนท่า แต่ฉางตงก็ประสบกับความสูญเสียครั้งใหญ่ หม้อต้มภูผามรกตได้รับความเสียหาย มันก็จะทำให้เขาได้รับบาดเจ็บ
แต่อีกฝ่ายจะปล่อยให้เขาหนีอย่างนั้นหรือ?
หลิงฮันยิ้มเล็กน้อย เขาตวัดนิ้วและเจตจำนงแห่งดาบก็เคลื่อนที่กลายเป็นลำแสงไล่ตามฉางตง
มันเร็วเท่ากับแสง
ฉางตงโจมตีออกไปเพื่อป้องกัน แต่ดาบของหลิงฮันนั้นรวดเร็วเกินไป เขาไม่สามารถหยุดมันได้ทัน และเจตจำนงแห่งดาบก็ผ่าร่างของเขาออกเป็นสองส่วนทันที
ผู้คนที่อยู่รอบข้างหวาดกลัวจนแถมฉี่แตก คนที่แข็งแกร่งอย่างฉางตงกลับถูกฟันจนร่างกายออกเป็นสองส่วน?
หลิงฮันพึงพอใจเป็นอย่างมาก การโจมตีเมื่อครู่เขาใช้ทักษะบัญญัติดาบเร็วและพลังแห่งกฎเกณฑ์ ทำให้การโจมตีของเขาทั้งรวดเร็วและทรงพลัง แต่ในทางตรงกันข้ามถ้าเขาใช้ทักษะบัญญัติดาบเร็วเพียงอย่างเดียว การโจมตีของเขาอาจรวดเร็วกว่านี้และถ้าใช้พลังแห่งกฎเกณฑ์เพียงอย่างเดียวพลังทำลายล้างก็จะมากยิ่งขึ้น
เขารวมคุณสมบัติทั้งสองเอาไว้ในการโจมตีเดียว แต่เห็นได้ชัดว่ามันยังไม่สมบูรณ์แบบ
นี่ถือเป็นเรื่องดี เพราะมันแสดงให้เห็นว่าเขาสามารถพัฒนามันได้อีก!
ฉางตงยังไม่ตาย จอมยุทธระดับภูผาวารีต่างมีพลังชีวิตที่แข็งแกร่ง เขาเหยียดมือออกไปและพยายามเชื่อมต่อร่างกายเข้าด้วยกันและรักษาบาดแผล ขณะเดียวกันก็ใช้พลังปราณห้ามเลือดเอาไว้
เขากระอักเลือดและพูดว่า “เจ้าอย่าได้ทำอวดดีมากเกินไป เจ้ารู้หรือว่าไม่เจ้านายของข้าคือหยางเฮ่า!”
“ข้ารู้” หลิงฮันพยักหน้า จากนั้นเขาก็ตวัดนิ้วอีกครั้งอย่างไม่ลังเล
ฉัวะ!
ทั้งที่เขารู้แล้วว่าเจ้านายของฉางตงคือหยางเฮ่า แต่ทำไมเขาถึงยังไม่หยุดมืออีก?
ในขณะนั้นเอง ฝูงชนก็รู้สึกว่านี่ไม่ใช่การต่อสู้เล็กๆอีกต่อไป ตอนนี้มีผู้คนมุงดูอย่างน้อยหนึ่งแสนคน
ในระยะไกลศิษย์เมล็ดพันธ์ทั้งหมดยี่สิบคน เป็นชายหนุ่มรูปหล่อและหญิงสาวที่งดงาม ซึ่งละคนดูเยาว์วัยมากและมีกลิ่นอายที่ทรงพลังเริ่มเดินทางมาถึง
“หึ่ม กลุ่มคนไร้ค่า ทำไมข้าจะต้องเลือกคนไร้ค่าพวกนี้เป็นผู้ติดตามของข้าด้วย?” ชายหนุ่มชุดเขียวกล่าวอย่างไม่แยแสและแสดงท่าทางหยิ่งยโส
ระดับพลังของเขาอยู่ที่ระดับภูผาวารีขั้นกลางชั้นสูงเท่านั้น แต่เขากลับได้รับสถานะศิษย์เมล็ดพันธ์จากนิกายสวรรค์เยือกแข็ง นั่นแสดงให้เห็นว่าเขาจะต้องมีพรสวรรค์ด้านวรยุทธที่ไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน ศักยภาพในอนาคตคือจุดที่นิกายสวรรค์เยือกแข็งสนใจ
“ใช่แล้ว พวกเรากลับกันเถอะ!” หญิงสาวคนหนึ่งที่มีผลึกสีแดงอยู่บนหน้าผากกล่าว
“หืม? ดูเหมือนตรงนั้นจะเกิดอะไรบางอย่างขึ้น!” ชายหนุ่มชุดแดงชี้ไปยังจุดที่หลิงฮันและฉางตงต่อสู้กัน
“น…นั่นมันฉางตง!” ชายหนุ่มชุดเขียวอุทานก่อนที่จะเผยสีหน้าตกตะลึง “เขาเป็นผู้ติดตามของศิษย์พี่หยางมิใช่รึ? ข้าอยากเห็นหน้าคนที่กล้าทำเขายิ่งนัก!”
ชายหนุ่มชุดเขียวเคลื่อนที่ไปข้างหน้าในทิศทางของหลิงฮัน และทุกคนก็หลีกทางให้กับเขา
“หยุด!” ชายหนุ่มชุดเขียวเหลือบมองและตะโกน
“นายน้อยฟู!” ฉางตงตื่นเต้นมากถึงขั้นกรีดร้องออกมา
ถ้าศิษย์เมล็ดพันธ์เข้ามาแทรกแซงการต่อสู้ เขาก็จะรอด
ฉัวะ!
ฉางตงเพิ่งจะเห็นแสงสว่างแห่งความหวัง แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าหลิงฮันจะหยุดมือ และเจตจำนงแห่งดาบของหลิงฮันก็ฟันมาที่หัวของฉางตงโดยตรง แม้จะเป็นจอมยุทธระดับสร้างสรรพสิ่งก็ไม่รอด
“เจ้า-” ชายหนุ่มชุดเขียวโกรธจนตัวสั่น ทั้งที่เขาพูดให้หยุดแล้ว แต่เจ้าหมอนี่กลับไม่สนใจ
กล้าหาญมาก!
“เจ้าจะฆ่าตัวตายหรือจะให้ข้าเป็นคนลงมือ?” เขากล่าวอย่างเย็นชา
“ไร้สาระ!” หลิงฮันกล่าวและเดินตรงไปข้างหน้า
“ได้! ได้! ได้! เจ้าทำให้ข้าไม่มีทางเลือก!” ชายหนุ่มชุดเขียวชี้นิ้วใส่หลิงฮัน แต่หลิงฮันก็ไม่สนในอีกฝ่ายเลยแม้แต่น้อย และเดินผ่านเขาไป เมื่อเห็นเช่นนั้น ชายหนุ่มชุดเขียวก็ไม่อาจทนไหวและพูดว่า “เจ้ารู้หรือไม่ข้าเป็นใคร์ ข้าคือฟูเหลียงเย่! หลานชายของจักรพรรดิแห่งจักรวรรดิราชวงศ์เทียนจุน!”
หลิงฮันไม่หันหลังกลับไปมอง เขาเพียงแค่ตวัดนิ้ว ฉัวะ และฝ่ามือของฟูเหลียงเย่ก็กลายเป็นรูทันที
“อ๊าก-!” ฟูเหลียงเย่กรีดร้อง
สีหน้าของผู้คนที่มุงดูอยู่รอบข้างกลายเป็นซีดขาวด้วยความโกรธ ชายคนนี้โหดเหี้ยมเกินไป เขาไม่เพียงแค่สังหารผู้ติดตามของหยางเฮ่าเท่านั้น แต่ยังกล้าทำร้ายศิษย์เมล็ดพันธ์ด้วย
หลิงฮันไม่สนใจฟูเหลียงเย่แม้แต่น้อยและยังคงเดินตรงไปยังสถานที่ที่มีศิษย์เมล็ดพันธ์หลายคนยืนอยู่
และเห็นคนผู้หนึ่งที่เป็นเป้าหมายของการเดินทางของเขาในครั้งนี้ นั่นคือ ราชินีที่เก้า หูเฟยหยิน
จนถึงตอนนี้หลิงฮันก็ยังไม่เข้าใจว่าทำไมคนอย่างนางถึงถูกเลือกให้เป็นศิษย์เมล็ดพันธ์
“หึ่ม สุนัขก็ควรอยู่กับสุนัข เจ้าคิดว่าจะมีที่สำหรับคนอย่างเจ้าอย่างนั้นรึ?” หญิงสาวที่มีผลึกสีแดงอยู่ตรงหน้าผากกล่าวดูถูก
ถึงแม้ว่านางจะงดงาม แค่ความงามของสุ่ยเยี่ยนยวี่ก็เหนือกว่านางหลายเท่าแล้ว ยิ่งไปกว่านั้นหลิงฮันอยู่กับจักรพรรดินีสองต่อสองเป็นเวลาสองปี ในสายตาของหลิงฮันจะมีใครงดงามกว่านางได้?
หลิงฮันทำเป็นไม่ได้ยินและเดินไปหาหูเฟยหยิน
“เจ้า!” กังสื่อหยุนกล่าวอย่างเย็นชา จากนั้นนางก็นำแส้ที่เป็นอาวุธศักดิ์สิทธิ์ออกมาและฟาดใส่หลิงฮัน
นอกจากนั้น ระดับพลังของนางยังเหนอกว่าฟูเหลียงเย่ นางเป็นจอมยุทธระดับภูผาวารีขั้นสูงชั้นสูงสุด!