“ก็หมายความว่าท่านต้องสร้างร่างเก้าร่างทุกๆครั้งที่เจ้าพยายามขัดเกลาพลังเพื่อให้บรรลุจุดสมบูรณ์แบบของระดับพลัง?” หลิงฮันถาม
“ถูกต้อง” จักรพรรดินีแห่งดาราพลักหน้าด้วยท่าทีจริงจัง “ยิ่งพลังบ่มเพาะของข้าสูงขึ้น ระยะเวลาที่ร่างทั้งเก้าของข้าจะบรรลุจุดสมบูรณ์ก็จะนานขึ้นด้วย ถ้าข้ายังคงฝืนทำเช่นนี้จนถึงระดับวารีนิรันดร์ ข้าอาจจะไม่มีเวลาเพียงพอเพื่อบรรลุระดับสร้างสรรพสิ่ง”
“เพียงแต่ว่า…” นางแน่นิ่งไปชั่วครู่ก่อนจะกล่าวต่อ “ทุกอย่างเปลี่ยนไปแล้วเพราะตอนนี้มีต้นสังสารวัฏ”
โชคชะตาได้เปลี่ยนไปจริงๆ ยิ่งระดับพลังสูงขึ้นระยะเวลาที่ต้องใช้ในการทำความเข้าใจกฎแห่งเต๋าก็ต้องมากขึ้น เพียงแต่ว่าต้นสังสารวัฏสามารถช่วยเหลือในการทำความเข้าใจได้ ระยะเวลาภายใต้ต้นสังสารวัฏหนึ่งวันจะเท่ากับโลกภายนอกหนึ่งปี ต่อให้คนเก้าสิบคนมาฝึกฝนพร้อมกับเก้าสิบคนก็ไม่มีปัญหา ดังนั้นจึงไม่ต้องกล่าวถึงร่างแยกเก้าร่างเลย
หลิงฮันชำเลืองมองไปยังจักรพรรดินี นางหมายความว่าอย่างไร? นางยังไม่ได้กลายเป็นสมาชิกของตระกูลหลิงเสียหน่อยแต่นางกลับคิดจะใช้ประโยชน์จากทรัพยากรของตระกูลหลิงแล้ว?
“อะแฮ่ม!” หลิงฮันไอเสียงเบาและกล่าว “เรื่องนั้น เอ่อ… ถึงแม้ข้าบอกว่าจะแบ่งปันความลับกับท่านก็จริง แต่ข้าไม่เคยบอกสักครั้งว่าจะแบ่งปันต้นสังสารวัฏกับท่าน!”
“พื้นดินภายใต้สวรรค์ทั้งหมดเป็นกรรมสิทธิ์ของจักรวรรดิ” จักพรรดินีแห่งดารากล่าวอย่างหยิ่งผยอง “เจ้าเป็นประชากรของจักรวรรดิของข้า และข้าก็เมตตามากแล้วที่ยอมให้เจ้าครอบครองต้นสังสารวัฏ เช่นนั้นเจ้ายังต้องการเก็บผลประโยชน์ไว้กับตัวเจ้าคนเดียวน่ะรึ?”
‘บัดซบ! สมกับเป็นจักรพรรดินีผู้ไม่แยแสใคร นางช่างหน้าไม่อายจริงๆ!’
หลิงฮันส่ายหัวและและกล่าว “สิ่งนี้คือสมบัติที่ล้ำค่าที่สุดของข้า ข้าจะแบ่งปันกับคนนอกได้อย่างไร? ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้ที่ท่านจะบ่มเพาะพลังที่นี่ แต่ลองมองดูสิ สี่คนที่กำลังฝึกฝนอยู่เป็นผู้ติดตามของข้า ส่วนผู้อาวุโสคนนั้น… ช่างมันเถอะ เขาไม่ใช่คนด้วยซ้ำ แต่ไม่ว่าอย่างไรท่านก็ไม่ใช่หนึ่งในพรรคพวกของเรา ดังนั้นท่านจึงไม่ได้รับอณุญาติให้บ่มเพาะพลังที่นี่”
เซียนหวู่เซียงอดรู้สึกโมโหขึ้นมาไม่ได้ ถ้าเขาไม่ใช่คนงั้นเขาเป็นอะไร? เจ้าไม่เห็นต้องแว้งกัดข้าแบบนั้นก็ได้ไม่ใช่รึไง? อย่างน้อยครั้งหนึ่งเขาก็เคยเป็นถึงเซียนนะ!
‘เห้อ ข้าอยู่ภายใต้อาณาเขตของคนอื่น สิ่งเดียวที่ข้าทำได้คืออดทน’
จักรพรรดินีแห่งดาราจะไม่เข้าใจคำว่าหนึ่งในพรรคพวกของเราได้อย่างไร? ‘หนึ่งในพวกของเรา’ มันหมายถึงอะไรน่ะรึ? นางเค้นเสียงไม่พอใจตอบกลับไป เจ้าหนูนี่กล้าที่จะมีความคิดลามกกับนาง
เพียงแต่ไม่ว่าอย่างไรนางก็ไม่รู้สึกโกรธ
ถ้าหลิงฮันเป็นบุรุษชั้นต่ำไร้ยางอายจริงๆล่ะก็เขาคงไม่พลักไสนางและทำเรื่องอย่างว่ากับนางไปนานแล้ว ทำไมเขาจะต้องรอจนถึงตอนนี้ด้วย?
‘เป็นคนที่แปลกจริงๆ’
“เข่นนั้นเจ้าต้องการอะไร?” นางถลึงตาและปลปล่อยออร่าที่น่าสะพรึงกลัวออกมาจากร่าง
“เหอๆ ท่านควรคิดให้ดีก่อนจะลงมือทำอะไรดีกว่า” หลิงฮันกล่าวพร้อมหัวเราะเบาๆ “ที่นี่คืออาณาเขตของข้า ไม่ว่าข้าจะกล่าวอะไรออกไปท่านก็ไม่ควรมีท่าทีหยิ่งยโสโอหังเกินไป ไม่เช่นนั้นท่านระวังจะถูกข้าลงโทษ!”
เขาอยากจะจับจักรพรรดินีคนนี้มาตีก้นนานแล้ว ถึงแม้นี่จะไม่ใช่ร่างหลักของจักรพรรดินีก็ตาม แต่นั่นก็ไม่สำคัญ จิตใจและวิญญาณของนางยังอยู่ในร่างนี้ ดังนั้นนางจะต้องรู้สึกเหมือนกับที่ร่างนี้รู้สึกแน่นอน
ออร่าของจักรพรรดินีอ่อนลงทันที ถ้าเป็นโลกภายนอกนางสามารถสยบหลิงฮันได้ในหนึ่งฝ่ามือ แต่ที่นี่ล่ะ? ที่นี่คืออาณาเขตของหลิงฮันที่ทุกอย่างจะเป็นไปตามที่เขาต้องการทุกอย่าง
หลิงฮันภูมือเขาหากัน ท่าทีของเขานั้นราวกับว่ากำลังรอให้จักรพรรดินีแสดงท่าทีปากไม่ตรงกับใจออกมา
หลิงฮันยิ้มและกล่าว “ทำไมจู่ๆท่านถึงปรากฏตัวออกมา? ไม่ใช่ว่าเป็นเพราะท่านหึงหวงหรอกรึ?”
“หึ” จักรพรรดินีแห่งดาราหัวเราะอย่างเย็นชา “หึงหวง? เจ้าคิดว่าข้ามีเวลามากขนาดนั้น?”
“งั้นทำไมท่านถึงปรากฏตัวออกมาขัดจังหวะล่ะ?” หลิงฮันถามด้วยรอยยิ้ม เขาไม่ลังเกียจที่จะสละเวลาเพื่อมาคุยกับจักรพรรดินี้ผู้นี้
“ทำไมข้าต้องบอกเจ้า?” จักรพรรดินีแห่งดาราตอบอย่างเย็นชา
หลิงฮันยิ้มเจ้าเล่ห์ “ท่านบังคับข้าเองนะ!”
เขายกร่างจักรพรรดินีขึ้นมาและจับนางนั่งงอตัวบนตักของเขา
เพี๊ยะ เพี๊ยะ เพี๊ยะ!
เขาตีบั้นท้ายของจักรพรรดินี
เขาคือตัวตนที่แข็งแกร่งที่สุดในหอคอยทมิฬ… ถ้าไม่รวมหอคอยน้อยล่ะก็นะ
หลิงฮันไม่เคยคิดว่าตัวเองเป็นบุรุษที่แสนดี สิ่งที่เดียวยับยั้งเขาเอาไว้ไม่ให้ฉวยโอกาสกับจักรพรรดินีเป็นเพราะหลักคุณธรรมที่เขายึดถือ แต่ถึงอย่างไรพวกเขาก็ทั้งกอด จูบ และสัมผัสอย่าลึกซึ้งกันแล้ว ในความคิดของหลิงฮันนางเป็นภรรยาของเขาไปเรียบร้อยแล้ว
พวกเขาเลยเถิดกันไปถึงขนาดนั้น เขาจะยอมให้จักรพรรดินีไปแต่งงานกับคนอื่นงั้นรึ? ไม่มีทาง!
จักรพรรดินีพยายามออกแรงเพื่อให้เป็นอิสระ ถูกทำเช่นนี้มันน่าอายเกินไป!
“เจ้าคนน่ารังเกียจ!” นางกัดฟันพูด เพียงแต่ว่าน้ำเสียงของนางนั้นผสมผสานไปด้วยความย้ำยวนและน่าดึงดูด
ตอนนี้นางอยู่ในร่างของหูเฟยหยินและไม่ได้งดงามไร้ที่ติ เพียงแต่ว่าจิตใจของนางก็ยังเป็นของจักรพรรดินี ทุกๆการเคลื่อนไหวของนางล้วนแฝงไว้ด้วยเสน่ห์ของสตรี
หลิงฮันหัวเราะในใจก่อนจะกล่าว “เอาล่ะ ท่านจะบอกข้าได้รึยัง?”
“เจ้าอยากตายรึ?” จักรพรรดินีเอ่ยถามด้วยความโกรธ นางไม่คาดคิดเลยว่าหลิงฮันที่มีความอดทนถึงสองปีจะทำอะไรบ้าบิ่นเช่นนี้ เขากล้าตีบั้นท้ายของนาง!
นางสัมผัสได้ถึงความรู้สึกชาที่แผ่ซ่านไปทั่วบั้นท้าน นางไม่รู้สึกเจ็บด้วยซ้ำแต่มันกลับทำให้อารมณ์บางอย่างภายในจิตใต้สำนึกของถูกจุดขึ้นมาทำให้นางเผลอเกร็งขาเข้าหากันโดยไม่รู้ตัว
หลิงฮันหัวเราะลั่น “ท่านสำนึกแล้วรึยัง?”
ตีก้นของร่างแยกยังรู้สึกดีเพียงนี้ แล้วถ้าหากเขาตีก้นของร่างหลักล่ะจะรู้สึกดีขนาดไหน?
จิตใจของเขาสั่นสะท้านเมื่อคิดเช่นนี้ เขาตื่นเต้นจนเกือบจะโห่ร้องตะโกนออกมา
“จะ เจ้าชนะ!” จักรพรรดินีทำได้เพียงยอมจำนนต่อหลิงฮัน สถานการณ์ในตอนนี้ไม่เหลือทางเลือกอื่นให้นาง
หลิงฮันยังรู้สึกไม่หนำใจ “ทำไมเจ้าไม่ทนให้นานกว่านี้? เห้อ…”
จักรพรรดินีแห่งดารารู้สึกราวกับจะกลายเป็นบ้า นางเค้นเสียงและกล่าว “ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้ที่จะเจ้าแต่งงานกับข้า!”
พวกเขาทั้งกอดจูบลูบคลำกันมากแล้ว และนางก็ยังไม่สามารถทำใจให้สังหารบุรุษผู้นี้ได้ด้วย ดังนั้นการแต่งงานจึงเป็นตัวเลือกเดียวที่นางมี
“ท่านมีเงื่อนไขอะไร? บอกมาได้เลย!” หลิงฮันกล่าวด้วยท่าทีมั่นใจ
“ข้าจะแต่งงานกับเจ้าเมื่อเจ้าบรรลุระดับสร้างสรรพสิ่ง!” จักรพรรดินีแห่งดารากล่าว
“เอ่อ… นั่นดูจะเป็นการเล่นลิ้นเกินไปหน่อย!” หลิงฮันไม่ยอมรับ “ท่านมีพรสวรรค์ขนาดนั้นยังเวลาหนึ่งล้านปีเพื่อบรรลุขั้นสูงสุดของระดับดารา ถ้าข้าจะแต่งงานกับท่านไม่ใช่ว่าข้าต้องใช้เวลาถึงสองหรือสามล้านปีเลยรึไง?”
หลิงฮันมั่นใจอย่างมากว่าเขาจะบรรลุระดับสร้างสรรพสิ่งได้ แต่ที่เขากังวลก็คือระยะเวลาที่ยาวนานกว่าจะไปถึงระดับนั้น
แต่อย่างน้อยในความคิดของจักรพรรดินี ระยะเวลาสองถึงสามล้านปีนั้นไม่ได้ยาวนานอะไรเลย
“ข้ากำลังจะบรรลุจุดสมบูรณ์แบบของระดับดาราแล้ว ส่วนจะทะลวงผ่านระดับวารีนิรันดร์ตอนไหนนั้นก็ขึ้นอยู่กับเวลาเท่านั้น ถ้าระดับพลังบ่มเพาะของเจ้าต่ำกว่าข้า เจ้าจะมีสิทธิ์แต่งงานกับข้างั้นรึ?” นางกล่าวด้วยน้ำเสียงสงบนิ่ง
“เข้าใจแล้ว!” หลิงฮันปรบมือและกล่าว “เจ้าตั้งตารอได้เลย โชคชะตาของเจ้าถูกกำหนดให้เป็นภรรยาข้า!”
จักรพรรดนีแห่งดาราเค้นเสียงและกล่าว “นั่นเป็นเรื่องของอนาคต ตอนนี้เจ้ายังเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาของข้า ถ้าเจ้ากล้า… อ้ายย!”
นางคิดจะกล่าวเตือนหลิงฮัน แต่นางกลับถูกจับนั่งลงบนตักและถูกตีก้นอีกครั้ง
“จักรพรรดินี ท่านเข้าใจอะไรผิดไปอย่างนะ การแต่งงานก็เป็นแค่พิธีการเท่านั้น ถ้าคิดท้าทายอำนาจของสามีท่าน!” หลิงฮันมีความสุขที่เขาหาโอกาสตีก้นของจักรพรรดินีได้อีกครั้ง
“จริงสิ แล้วจะเกิดอะไรขึ้นกับจิตวิญญาณของราชินีที่เก้าล่ะ?”