ชายวัยกลางคนผู้นี้มีขื่อว่าเว่ยเจ๋อเฉิง เขาเป็นจอมยุทธระดับดาราขั้นกลางและมีชื่อเสียงมากในนิกาย
ทั้งที่อยู่ในนิกายสวรรค์เยือกแข็ง ยังมีคนที่กล้าโจมตีใส่เขา ใครจะทำใจเชื่อเรื่องนี้ได้กัน?
และคนที่โจมตีเขานั้นทำไปเพื่อปกป้องศิษย์ที่เป็นแค่จอมยุทธระดับภูผาวารีเท่านั้น!
มันน่าเหลือเชื่อ
ไม่ว่าหยางเฮ่าจะแข็งแกร่งหรือมีพรสวรรค์มากแค่ไหน เขาก็เป็นแค่จอมยุทธระดับสุริยันจันทรา มันจะเทียบกับจอมยุทธระดับดาราได้อย่างไร?
อย่างไรก็ตามความพ่ายแพ้ของหยางเฮ่าทำให้ทุกคนตกตะลึง แล้วตอนนี้เว่ยเจ๋อเฉิงยังมีพ่ายแพ้อีก นี่ทำให้พวกเขาแทบจะไม่อยากเชื่อเรื่องที่เกิดขึ้น
เว่ยเจ๋อเฉิงพยายามลุกขึ้นยืนและกัดฟันแน่น ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความประหลาดใจ หากเป็นจักรพรรดินีแห่งดาราหายนะมาที่นี่ด้วยตัวเอง นางจะแข็งแกร่งขนาดไหน?
“ข้ายอมรับว่าความแข็งแกร่งของเจ้านั้นน่าทึ่งมาก แต่ที่นี่คือนิกายสวรรค์เยือกแข็ง!’ เว่ยเจ๋อเฉิงกล่าวด้วยความโกรธเกรี้ยว
จักรพรรดินีแห่งดาราหายนะเพิกเฉยเขาอย่างสมบูรณ์ นางลุกขึ้นยืนพรางสะบัดมือและพูดว่า “ถ้าเจ้าเลี้ยงสุนัขและปล่อยให้ไปไล่กัดคนอื่น ข้าจะเลาะฟันของมัน!”
ช่วยไม่ได้ที่หยางเฮ่าจะรู้สึกอับอาย นี่เขาถูกเรียกว่าสุนัข!
แต่ตอนนี้เขาสามารถพูดโต้แย้งอะไรได้หรือเปล่า?
นางคือจักรพรรดินีแห่งดาราหายนะ!
หยางเฮ่าจ้องมองไปที่หลิงฮันด้วยความเกลียดชัง เรื่องทั้งหมดเป็นเพราะชายคนนี้ที่ทำให้เขาต้องอับอายขายหน้าในที่สาธารณะ!
หลิงฮันยิ้มให้กับหยางเฮ่า จักรพรรดินีแห่งดาราหายนะคือภรรยาของเขา มันสมควรแล้วที่เขาจะได้รับความช่วยเหลือจากนาง
ใครขอให้เจ้ามาข่มข้าด้วยระดับพลังที่สูงกว่ากันล่ะ?
หากเป็นการต่อสู้ในระดับเดียวกัน เขาจำเป็นต้องกลัวใครด้วยหรือ?
เว่ยเจ๋อเฉิงเผยสีหน้าแห่งความโกรธ แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าจักรพรรดินีแห่งดาราหายนะ ทำให้เขาไม่สามารถพูดอะไรออกมาได้ และทำได้แค่กลืนคำพูดลงไปในคอ
นี่คือความแตกต่างระหว่างผู้ที่แข็งแกร่งกว่าและผู้ที่อ่อนแอกว่า
“จงจำคำพูดของข้าเอาไว้!” จักรพรรดินีแห่งดาราหายนะหันไปเหลือบมองหยางเฮ่าอีกครั้ง จากนั้นนางก็หลับตาลงและลืมตาขึ้นมาอีกครั้ง แล้วแรงกดดันที่น่าสะพรึงกลัวของนางก็หายไป
ใช่แล้ว หูเฟยหยินกลับมาเป็นเหมือนเดิม
“หืม ทำไมพวกเจ้าถึงจ้องมองข้าแบบนั้น?” หูเฟยหยินกล่าวด้วยใบหน้าที่สับสนอย่างไร้เดียงสา
ช่วยไม่ได้ที่ทุกคนจะดูแปลกใจ ใครจะคิดว่าหญิงสาวที่ไร้เดียงสาจะมีอีกด้านหนึ่งที่น่าสะพรึงกลัวขนาดนั้น
ถึงแม้ว่ากลิ่นอายของจักรพรรดินีแห่งดาราหายนะจะหายไปแล้ว แต่เว่ยเจ๋อเฉิงก็ไม่กล้าทำอะไรหูเฟยหยิน เขาเพียงแค่จ้องมองนาง จากนั้นก็คว้าตัวหยางเฮ่าและลงจากยอดเขา
– เพราะเขาถูกจักรพรรดินีโจมตีสองครั้ง ถึงแม้เขาจะไม่ตาย แต่หยางเฮ่าก็ได้รับบาดเจ็บสาหัส ซึ่งร้ายแรงกว่าหลิงฮันสิบถึงยี่สิบเท่า
นี่คือความประสงค์ของนาง หากเจ้าทำร้ายคนของข้า ข้าก็จะทำให้เจ้าชดใช้สิบเท่า!
“นางช่างเป็นคนที่น่าเกรงขามยิ่งนัก!” หลิงฮันกล่าวในใจ “ข้าไม่แปลกใจเลยที่ข้าจะไม่ได้แต่งงานกับนางจนกว่าข้าจะกลายเป็นจอมยุทธระดับสร้างสรรพสิ่ง มิฉะนั้นข้าคงถูกพลังของนางข่มอยู่ตลอดและเป็นรอง ในฐานะที่ข้าเป็นชายชาตรี ข้าจะเป็นรองนางได้อย่างไร?”
หลังจากที่เรื่องทุกอย่างจบลง ทุกคนก็ไม่คิดจะอยู่ที่นี่ต่อและแยกย้ายจากไปทีละคน
“ศิษย์พี่ฮัน ในอีกไม่กี่วันข้างหน้าข้าจะไปพูดคุยกับท่าน” เหอเต๋ากล่าวด้วยรอยยิ้ม จากนั้นเขาก็โบกมือซ้ายและเดินจากไป
หลิงฮันพยักหน้าและพูดว่า “ไว้ค่อยพูดคุยกันวันหลัง”
“ศิษย์พี่ฮัน ท่านรู้จักชายที่ชื่อหลิงฮันหรือไม่?” เส้าสือสือและคนอื่นเดินเข้ามาหาและจ้องมองหลิงฮัน
เขาเองก็เป็นคนที่มีกายหยาบน่าสะพรึงกลัว พวกเขาไม่เชื่อว่าจะมีสัตว์ประหลาดแบบนั้นอยู่สองตัวบนโลก นอกจากนั้น ชายคนนี้ยังเรียกตัวเองว่าฮันหลิน ไม่ใช่หลิงฮันหรอกหรือ?
“ข้าเดาว่าอาจเป็นเจ้า แต่ก็ไม่สามารถทำใจเชื่อได้ นั่นเป็นเพราะเมื่อสองปีก่อนเจ้ายังอ่อนแอกว่าข้า” ซูจิงพูดด้วยอารมณ์ “หลังจากนานไม่นานเจ้าก็เหนือกว่าพวกเราทุกคน เรื่องแบบนั้นจะให้พวกเราทำใจเชื่อได้อย่างไร?”
“หึหึ มันเป็นเพราะโชคชะตา!” หลิงฮันกล่าว
“หากไม่ใช้กำลังคงไม่ได้คำตอบ!”
“พาเขาไปดื่มให้เมา!”
“ใช่แล้ว ถ้าเขาเมาจะต้องพูดความจริงแน่!”
พวกเขาดึงหลิงฮัน จักรพรรดิพิรุณแะติงผิงไปดื่มด้วยกัน แต่ที่ทำให้หลิงฮันแปลกใจคือเซี่ยอู๋เซียตามพวกเขาไปด้วย ทั้งที่ตอนแรกพวกเขาเป็นศัตรูกัน แต่โดยไม่คาดคิดอีกฝ่ายจะเปลี่ยนความคิดที่มีต่อหลิงฮัน
ด้านล่างนิกายสวรรค์เยือกแข็งมีเมืองเล็กๆแห่งหนึ่งอยู่ ซึ่งมีร้านอาหารและทุกอย่างให้บริการ
เมื่อพูดถึงเขตแดนลี้ลับ มีหลายคนที่รู้เรื่องพวกนั้น
“ที่เจ้าพูดมันน่าจะเป็นเขตแดนลี้ลับ” เส้าสือสือพยักหน้า
“อย่างไรก็ตาม แม้แต่ปรมาจารย์สามวิถียังเข้าไปไม่ได้ หากพวกเราเข้าไปจะไม่ตายอยู่ที่นั้นหรอกหรือ”
“แต่ยังไงมันก็มีทักษะลับมากมายตั้งแต่สมัยโบราณกาล บวกกับเม็ดยาและสมุนไพรระดับสูง นี่ทำให้มันน่าดึงดูดมากยิ่งขึ้น”
“เพราะมีเพียงแค่จอมยุทธระดับภูผาวารีเท่านั้นที่สามารถเข้าไปได้ ดังนั้นจึงมีหลายคนที่ยังไม่ทะลวงผ่านระดับสุริยันจันทราเพื่อแสวงหาโชคก่อนที่จะทะลวงผ่าน”
“แต่ข้าได้ยินมาว่าบางคนถูกขั้นลดระดับพลังของตัวเองเพื่อให้สามารถเข้าไปในเขตแดนลี้ลับ”
“ข้าเองก็เคยได้ยินเรื่องนี้” เซี่ยอู๋เฉียนกล่าว “และถึงแม้ข้าจะลดระดับพลังของตัวเอง ข้าก็สามารถยกระดับความแข็งแกร่งได้หากใช้เม็ดยาบางอย่าง นอกจากนั้นข้ายังเข้าใจพลังแห่งกฎเกณฑ์ของระดับสุริยันจัทราอยู่แล้ว ดังนั้นข้าจึงใช้พลังของระดับสุริยันจันทราได้”
“เทียบเท่ากับว่ายังเป็นจอมยุทธระดับสุริยันจันทรา!”