กระดูกสีขาวกองพูนเรียงล้อมรอบเนินเขาขนาดเล็ก
ในที่สุดหลิงฮันก็เข้าใจถึงสาเหตุการตายของพวกเขาเหล่านั้น พวกเขาไม่ได้ตายเพราะแย่งชิงดอกไม้ แต่ดูเหมือนจะตายเพราะถูกก้อนเมฆสีดำสังหารในพริบตาในขณะที่เดินเข้าไปหาดอกไม้
“อ่า” สุ่ยเยี่ยนยวี่ร้องเสียงหลงด้วยความตกใจ ความหวาดกลัวยังคงหลงเหลืออยู่ในจิตใจของนาง ถ้าหลิงฮันไม่ได้รั้งนางเอาไว้ นางคงจะเป็นแบบสองคนนั้นไปแล้ว
“นะ นั่นมันคืออะไร?” นางถามด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ
หลิงฮันส่ายหัว “มันเกิดขึ้นเร็วเกินไป ข้ามองไม่ทัน”
สุ่ยเยี่ยนยวี่ประหลาดใจ ขนาดหลิงฮันก็ยังมองเห็นไม่ชัด? เมฆสีดำนั่นต้องรวดเร็วขนาดไหนกัน
หลิงฮันครุ่นคิดชั่วขณะก่อนจะโยนบอลสีดำขึ้นกลางอากาศ
“ฮ่าๆๆ จักรพรรดิน้อยมาแล้ว!” ลูกบอลสีดำขยายใหญ่กลางอากาศ ขาและแขนอย่างละข้างงอกออกมากลายและค่อยๆเปลี่ยนรูปร่างกลายเป็นหุ่นเชิดมนุษย์
พรึบ!
เมฆสีดำลอยออกมาอีกครั้ง คราวนี้มันลอบโฉบเข้าใส่จักรพรรดิจอมอสูร
“เจ้าคืออะ… อ๊ากก!” จักรพรรดิจอมอสูรเกรี้ยวกราด แต่เสียงตะโหนที่ขุ่นเคืองของเขาก็เปลี่ยนเป็นเสียงร้องตกตะลึงและวิ่งหนีมาด้านหลัง เมฆสีดำจับกลุ่มลอยตามเขามาก่อนจะห่อหุ้มร่างของเขาเอาไว้
สุ่ยเยี่ยนยวี่และหูเฟยหยินอุทานด้วยความตะลึง บนร่างของจักรพรรดิจอมอสูรปรากฎหลุมรูมากมาย แขนซ้ายของเขาได้รับความเสียหายมากที่สุด มันถูกกัดจนผุพังแทบไม่เหลือ แต่สภาพส่วนอื่นของร่างกายยังคงดีอยู่
“นายท่าน!” จักรพรรดิจอมอสูรมองไปยังหลิงฮันด้วยใบหน้าที่ทรมานใจ ไม่เห็นจำเป็นต้องโหดร้ายกับเขาขนาดนี้เลยก็ไม่ได้ไม่ใช่รึไง?
หลิงฮันเมินเฉยไม่สนใจและกล่าว “เมฆสีดำนั่นคือฝูงแมลงที่ เพียงเพราะพวกมันมีขนาดเล็กมากเมื่อรวมกลุ่มกันจึงมองเห็นเป็นก้อนเมฆ”
“นั่นคือฝูงแมลง?” จักรพรรดิจอมอสูรส่ายแขนทีผุพังในขณะที่กระโดดลุกขึ้นยืน “พสกมันมีฟันที่แหลมคมขนาดไหนกันแน่? แล้วมนุษย์ประเภทไหนถึงจะป้องกันการโจมตีจากพวกมันได้?”
“เจ้าไม่ใช่มนุษย์!” หูเฟยหยินกล่าว
จักรพรรดิจอมอสูรไม่สนใจภาพลักษณ์อยู่แล้ว เขาตอบกลับไป “ถ้าภรรยาของนายท่านกล่าวว่าข้าไม่ใช่มนุษย์ งั้นข้าก็ไม่ใช่มนุษย์! ที่จริงแล้วข้าเป็นสุนัข! โฮ่ง! โฮ่ง!” เขายืนสี่ขาและเริ่มเห่าเลียนแบบสุนัข หูเฟยหยินรู้สึกขบขันเมื่อเห็นเช่นนี้ และนางก็ไม่ได้พยายามเถียงว่านางไม่ใช่ภรรยาของหลิงฮัน
“พวกเราจะยังไปเด็ดดอกไม้นั่นอยู่รึเปล่า?” สุ่ยเยี่ยนยวี่ถาม
พวกเขาล่าถอยเว้นระยะพอสมควรเพื่อไม่ให้ได้รับผลกระทบจากดอกไม้ ถึงแม้คราวก่อนหลิงฮันกับหูเฟยหยินจะไม่เป็นอะไรซึ่งอาจจะเป็นเพราะพวกเขามีความต้านทานที่แข็งแกร่งกว่าระดับพลังของตนเอง
แต่ถ้าพวกเขายังคงอยู่ใกล้อดกไม้ดอกนั้นต่อไปก็มีสิทธิ์ที่พวกจะได้รับผลกระทบ
“แมลงเหล่านั้นอาจจะไม่ได้แข็งแกร่งมาก และนั้นเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมพวกมันต้องใช้ดอกไม้เป็นเหยื่อล่อ เมื่อเหยื่อตกอยู่ในสภาพมึนงงพวกมันก็จะบินออกมากัดกินเนื้อของเหยื่อ เพียงแต่ว่าฟันของพวกมันต้องแข็งแกร่งเป็นอย่างมากแน่นอนถึงสามารถเขมือบจอมยุทธระดับภูผาวารีได้ภายในพริบตา”
หลิงฮันครุ่นคิดชั่วครู่ก่อนจะกล่าว “ต่อให้เป็นแร่โลหะศักดิ์สิทธิ์ระดับห้าก็ไม่พอที่จะต่อกรกับพวกมัน แม้จะพอใช้ถ่วงเวลาได้แต่สุดถ้ายก็ต้องถูกกัดเขมือบอยู่ดี”
จักรพรรดิจอมอสูรเป็นข้อพิสูจน์เรื่องนี้ หุ่นเชิดที่เขาสิงอยู่ถูกสร้างขึ้นจากแร่โลหะศักดิ์สิทธิ์ระดับห้า แต่ถึงอย่างนั้นแขนของเขากลับถูกกัดจนผุพัง
รอยยิ้มมั่นใจปรากฏขึ้นบนใบหน้าของหลิงฮันก่อนที่จะกล่าว “ให้ข้าลองดู!”
สุ่ยเยี่ยนยวี่สะดุ้งและรีบตะโกน “เจ้าบ้าไปแล้ว!”
นี่เจ้าไม่เห็นสภาพที่น่าอเนจอนาถของจักรพรรดิจอมอสูรรึไง?
“ให้จักรพรรดิน้อยไปดีกว่า!” นางรีบกล่าวเสริม
“นายหญิง!” จักรพรรดิจอมอสูรโอดครวญ จะห้ามนายท่านให้ไม่ให้เสี่ยงอันตรายเขายังพอเข้าใจ แต่นั่นก็ไม่เห็นต้องโหดร้ายถึงขนาดให้เขาไปเสี่ยงอันตรายแทนเลย!
หลิงฮันยิ้ม “ไม่ต้องกังวล กายหยาบของข้าเทียบได้กับแร่โลหะศักดิ์สิทธิ์ระดับห้า รวมกับความสามารถในการฟื้นฟูบาดแผลของข้า แมลงเหล่านั้นอาจจะคุกคามข้าไม่ได้! ข้าต้องเดิมพันไม่ให้แมลงเหล่านั้นมีพลังป้องกันที่แข็งแกร่ง”
หลิงฮันไม่รับรู้การผันผวนของพลังปราณจากเมฆสีดำ นั่นแสดงว่าแมลงเหล่านั้นไม่ใช่สิ่งมีชีวิตที่บ่มเพาะพลังได้หรือไม่ก็เป็นสิ่งมีชีวิตที่มีพลังบ่มเพาะสูงกว่าเขา
แมลงเหล่านี้มีความเร็วที่น่าตกตะลึงและมีฟันที่น่าสะพรึงกลัว ถ้าหากพลังป้องกันของพวกมันยังแข็งแกร่งอีกก็คงจะไม่ยุติธรรมเกินไปหน่อย
สุ่ยเยี่ยนยวี่รู้ถึงนิสัยของหลิงฮัน นางรู้ว่าเขาจะไม่เปลี่ยนใจง่ายๆแน่นอน นางทำได้เพียงพยักหน้าและกล่าว “ระวังด้วย ระวังตัวด้วย… เจ้าต้องระวังตัวให้มาก!” นางย้ำเตือนเขาสามครั้งแสดงเห็นว่านางเป็นห่วงความปลอดภัยของเขามากจริงๆ
“แน่นอน!” หลิงฮันพยักหน้า “พวกเรายังไม่มีลูกด้วยกันเลย ข้าจะยอมตายได้อย่างไร?”
“ปะ ไปตายซะ!” ใบหน้าของสุ่ยเยี่ยนยวี่เปลี่ยนเป็นแดงเผือด นางเผลอพลักหลิงฮันไปด้านหน้าจนเขาเดินกระโพกกระเพกไปยังเนินเขา
หลิงฮันไม่รีรอพุ่งและรุดหน้าไปยังเนินเขา
พรึบ!
เมฆสีดำพุ่งออกมาอีกครั้ง
หลิงฮันเค้นเสียง “ข้าไม่เชื่อว่าพลังป้องกันของเจ้าจะแข็งแกร่ง!”
เปลวเพลิงปะทุออกมาจากร่างของเขา ภายในเปลวเพลิงผสานไปด้วยรูปแบบอาคมศักดิ์สิทธิ์
“แกว่ก” เมฆสีดำเริ่มปั่นป่วน พวกมันบินวนอย่างไรจุดหมายและแยกออกเป็นกลุ่มเล็กๆหลายกลุ่ม
พวกมันยังคงจับตัวเป็นก้อนเมฆสีดำเหมือนก่อนหน้านี้ แต่มีขนาดเล็กทำให้ดูกับเป็นอสรพิษที่กำลังเลื้อยคลานแทน เพียงแต่ว่ายังคงมีแมลงบางกลุ่มที่ตั้งสติได้และพุ่งเข้าหาหลิงฮัน
หลิงฮันสามารถมองเห็นอย่างชัดเจนว่า “อสรพิษสีดำ” เหล่านี้เกิดจากการรวมกลุ่มกันของฝูงแมลง แมลงแต่ละตัวมีขนาดเล็กมากและมีฟันที่แหลมคม ยิ่งกว่านั้นก็คือพวกมันไม่เกรงกลัวความตาย พวกมันรู้ทั้งรู้ว่าหลิงฮันถูกห่อหุ้มไปด้วยเปลวเพลิงแต่ก็ยังบินเข้ามาหาเขา
“แกว่ก! แกว่ก! แกว่ก!”
แมลงถูกเผาจนตายไปทีละตัว แต่พวกมันก็ยังฝืนพุ่งเข้ามาหาเขาจนเกิดเป็นช่องว่างระหว่างเปลวเพลิง ทำให้แมลงฝูงอื่นบินเข้ามาถึงร่างของหลิงฮันและทำการกัดกินเนื้อ
หลิงฮันเค้นเสียงและปลดปล่อยทักษะจิตเจ็ดสังหาร
ตึง!
เหล่าแมลงที่กำลังกัดกินเนื้อของเขาอยู่ชะงักในทันที ที่จริงจิตวิญญาณของพวกมันพังทลายเป็นชิ้นๆไปเลยด้วยซ้ำ มีเพียงแค่ไม่กี่ตัวที่ยังรอดชีวิต
เป็นอย่างที่เขาคิด แมลงเหล่านี้มีพลังป้องกันที่อ่อนแอมากเมื่อเทียบกับความเร็วและฟันที่น่าสะพรึงกลัว ไม่เพียงแค่พลังป้องกันทางกายภายที่อ่อนแอ แต่พลังป้องการทางจิตวิญญาณก็เช่นกัน
สวรรค์ยุติธรรมแล้ว แมลงเหล่านี้มีความสามารถแข็งแกร่งติดตัวโดยที่ไม่ต้องบ่มเพาะพลัง แต่พวกมันก็มีจุดอ่อนที่ร้ายแรง
พวกมันใช้ดอกไม้เป็นเหยื่อล่อ เมื่อใดที่เหยื่อตกอยู่ในสภาวะมึนงงพวกมันก็จะพุ่งออกมากัดกินเนื้อของเหยื่อในพริบตาเดียว
เพียงแต่ว่าหลิงฮันเตรียมตัวเอาไว้ก่อนแล้ว ดังนั้นผลลัพธ์จึงออกมาแตกต่างอย่างสิ้นเชิง!
“อั่ก” หลิงฮันกัดฟันด้วยความเจ็บปวด แม้เขาจะสังหารแมลงไปได้เกือบทั้งหมด แต่ฟันอันแหลมคมของพวกมันก็ยังคงกัดฝังอยู่ในกล้ามเนื้อของเขาแม้ว่าพวกมันจะตายหรือหมดสติไปแล้วก็ตาม
‘เจ็บชะมัด!’