“ทำไมเมื่อคืนพี่สาวสุ่ยถึงหายตัวไปอย่างกะทันหันแบบนั้น?” เช้าวันถัดมาหูเฟยหยินพูดถามด้วยความสงสัย
สุ่ยเยี่ยนยวี่ที่กำลังรับประทานแทบจะสำลักออกมาและหันยิงตาขาวใส่หลิงฮัน
เหตุการณ์แบบนี้จะไม่เกิดขึ้นถ้าหลิงฮันไม่เรียกนางตอนดึกเพื่อทำเรื่องน่าอับอาย
หลิงฮันอดที่จะยิ้มออกมาไม่ได้และพูดว่า “ระหว่างรับประทานอาหารเจ้าไม่ควรพูดมากและรีบกินจะดีกว่า”
หูเฟยหยินบุ้ยปากด้วยความไม่พอใจ นางไม่ได้รับคำตอบจากสุ่ยเยี่ยนยวี่ แล้วตอนนี้ก็ยังไม่ได้รับคำตอบจากหลิงฮันอีก
หลังจากที่พวกเขารับประทานอาหารเช้าเสร็จ พวกเขาก็ออกเดินทางต่อ
ที่นี่ไม่ได้มีเพียงแค่บุปผาครอบงำจิตเท่านั้น แต่ยังมีสิ่งมีชีวิตที่น่ากลัวอย่างแมลงศักดิ์สิทธิ์อยู่ด้วย
นอกจากนั้น พวกเขายังพบสมุนไพรหลายชนิดระหว่างทาง แต่น่าเสียดายที่พวกเขามาช้าไปเล็กน้อยและสมุนไพรเหล่านั้นส่วนใหญ่ได้ถูกเก็บเกี่ยวไปหมดแล้ว
บางคนทำตัวต่ำทรามมาก คนเหล่านั้นไม่เพียงแค่เก็บเกี่ยวสมุนไพรเท่านั้น แต่ยังทำลายรากของมันอีกด้วย แต่ก็ยังมีคนดีอยู่บ้าง พวกเขาเก็บสมุนไพรด้วยความระมัดระวังเพื่อไม่ให้รากของมันได้รับความเสียหายและสามารถเติบโตให้เก็บเกี่ยวได้อีกร้อยปีข้างหน้าหรืออาจอีกร้อยปีถัดไปถึงจะเก็บเกี่ยวได้อีกครั้ง
แต่หลิงฮันก็ไม่ได้สนใจเรื่องพวกนั้น ถ้าเขาเห็นรากเขาก็สามารถขุดแล้วนำไปปลูกในหอคอยทมิฬได้ ด้วยอำนาจพลังพิเศษของมันจะทำให้สมุนไพรต้นนั้นเติบโตได้
รอยยิ้มบนใบหน้าของหลิงฮันกว้างขึ้นเรื่อยๆ ครั้งนี้เขาสามารถกอบโกยกำไรได้มาก ถ้าเขาเก็บเกี่ยวสมุนไพรได้มากมายแบบนี้ทุกวัน อย่าพูดถึงเรื่องกำไรเลย ควรคิดว่าจะเก็บสมุนไพรได้มากแค่ไหนจะดีกว่า
อย่างไรก็ตาม โชคลาภไม่ได้อยู่ข้างเขาตลอด บางครั้งเขาพบแค่สมุนไพรเจ็ดหรือแปดชนิดต่อวันเท่านั้น
เจ็ดวันผ่านไปอย่ารวดเร็ว
ปัง! ปัง! ปัง!
มีการต่อสู้อย่างดุเดือดอยู่ด้านหน้าพวกเขา และสามารถเห็นแสงที่เกิดจากการปะทะอยู่บนท้องฟ้าได้เป็นครั้งคราว เห็นได้ชัดว่านี่เป็นการต่อสู้ที่ดุเดือด
“พวกเราไปดูกันเถอะ!” หูเฟยหยินรู้สึกอยากรู้อยากเห็น
แต่ความอยากรู้อยากเห็นของสุ่ยเยี่ยนยวี่ไม่หนักมาก นางพูดว่า “อย่าเข้าไปยุ่งเกี่ยวจะดีกว่า”
แต่ทว่าฟูเฟยหยินกระโจนไปข้างหน้าแล้ว ก่อนที่สุ่ยเยี่ยนยวี่จะพูดจบเสียอีก
เจ็ดวันที่ผ่านมา พวกเขาไม่ได้ต่อสู้กับอะไรเลย ดังนั้นราชินีที่เก้าจึงเกิดความกระตือรืนร้นเป็นพิเศษอย่างไม่สามารถควบคุมได้
หลิงฮันกับสุ่ยเยี่ยนยวี่ทำได้แค่มองหน้ากัน จากนั้นพวกเขาทั้งสองคนก็ตามหูเฟยหยินไป
อย่างไรก็ตาม พวกเขาไม่หวาดกลัวแม้แต่น้อย เพราะจอมยุทธที่มีระดับพลังมากกว่าระดับสุริยันจันทราจะไม่สามารถเข้ามาที่นี่ได้ ดังนั้นหลิงฮันแทบจะเป็นตัวตนที่ไร้พ่ายในที่แห่งนี้ อย่างน้อยเขาก็ไม่จำเป็นต้องกังวลเรื่องความปลอดภัย
มีก้อนหินยักษ์อยู่ด้านหน้าพวกเขา หลังจากที่ข้ามก้อนหินนั้นไปการต่อสู้ที่ดุเดือดก็ปรากฏอยู่ในสายตาของพวกเขา
ฝั่งหนึ่งมีเจ็ดคน ส่วนอีกฝั่งหนึ่งมียี่สิบห้า ซึ่งเป็นจำนวนที่มากกว่ามากและฝั่งที่มีเจ็ดคนกำลังถูกล้อมเป็นวงกลม
“ข้าจะไว้ชีวิตพวกเจ้าหากส่งดอกบัวเก้าเทวะมาให้ข้า!” ฝั่งที่มีจำนวนมากกว่ากล่าว
“เหลวไหล!” หนึ่งในเจ็ดคนที่ถูกล้อมกล่าวด้วยความกล้าหาญ นางเป็นหญิงสาวที่มีผมสีแดงและสวมชุกเกราะ
“ที่พวกเจ้าไม่รีบสังหารพวกข้า นั่นเป็นเพราะว่าพวกเจ้ากลัวว่าจะเกิดความเสียหายกับดอกบัวเก้าเทวะ! เจ้าจะได้รับดอกบัวเก้าเทวะก็ต่อเมื่อพวกข้าทุกคนถูกฆ่าตายเท่านั้น” นางตะโกน
“ฮ่าฮ่าฮ่า!” คนที่เป็นฝ่ายล้อมส่งเสียงหัวเราะ
“ผู้บัญชาการเมิ่ง เจ้าไม่ต้องกังวลว่าคนที่เหลือจะไม่ตาย แต่ข้าจะไม่ฆ่าเจ้า!” ชายคนหนึ่งกล่าวขณะเลียริมฝีปาก “ชื่อเสียงอันโด่งดังของหัวหน้าเมิ่ง ถ้าพวกเราไม่ได้ลิ้มรสผู้บัญชาการเมิ่ง เจ้าไม่คิดว่ามันจะสูญเปล่าหรือ?”
“ฮ่าฮ่าฮ่า!”
ผู้ที่เป็นฝ่ายล้อมต่างส่งเสียงหัวเราะด้วยความชอบใจ เขตแดนลี้ลับนั้นใหญ่มาก ความน่าจะเป็นที่จะถูกค้นพบนั้นแทบจะเป็นศูนย์ – แต่ถ้าพวกเขาถูกพบก็แค่สังหารคนผู้นั้นทิ้งซะก็จบเรื่อง
“น่ารังเกียจ!” หูเฟยหยินทนไม่ไหว นางดึงดาบออกมาและกระโจนไปข้างหน้า “เจ้าพวกคนชั่วจงลิ้มรสดาบของข้าซะ!”
เมื่อเห็นการปรากฏตัวของนางพร้อมกับจิตสังหาร ทำให้ผู้ที่เป็นฝ่ายล้อมรู้สึกตกตกลึง แต่ในไม่ช้าพวกเขาก็ส่งเสียงหัวเราะลั่น อีกฝ่ายเป็นแค่สาวน้อยก็เหมือนส่งเนื้อเข้าปากเสือหรือไม่?
“สาวงามอีกคน!”
“ฮ่าฮ่าฮ่า หากมีแค่ผู้บัญชาการเมิ่งคนเดียวพวกเราต้องต่อแถวรอคิวนานแค่ไหน? โชคดีที่มีสาวงามเพิ่มมาอีกคนหนึ่ง!”
“หัวหน้า! ตรงนั่นมีสาวงามอีกคนหนึ่ง!”
สายตาของทุกคนหันไปมองสุ่ยเยี่ยนยวี่ทันที และช่วยไม่ได้ที่พวกเขาจะระงับความหื่นกระหายไม่ไหว นางเป็นหญิงสาวที่งดงามที่สุดที่พวกเขาเคยพบเจอมา . หากได้ลิ้มลองหญิงสาวที่งดงามอย่างนาง มันจะทำให้มีอายุเพิ่มขึ้นหนึ่งร้อยปี!
“ข้าทนไม่ไหวแล้ว!” บางคนแสดงความตื่นเต้นออกมา
“ฮ่าฮ่าฮ่า พวกเจ้าคิดมากเกินไปแล้ว!” หลิงฮันโฉมลงมาอยู่ด้านหน้าคนเหล่านั้นและพูดอย่างเย็นชาว่า “ไสหัวออกไปจากที่นี่ แล้วข้าจะไว้ชีวิตพวกเจ้า!”
หลิงฮันไม่ใช่นักฆ่า และเขาก็ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นระหว่างกลุ่มคนทั้งสอง ดังนั้นเขาจึงไม่อยากฆ่าโดยไม่จำเป็น
“เจ้าหนู เจ้าบ้าไปแล้ว!” ชายอ้วนอายุประมาณสามสิบปีเดินออกมาพร้อมกับดาบยักษ์ที่ถืออยู่ในมือ และมีจิตสังหารที่รุนแรงมาก
“ข้าขอบคุณเจ้าสำหรับความช่วยเหลือ แต่คนพวกนี้ไม่ใช่ว่าจะจัดการได้ง่ายๆ ในเมื่อเจ้ามีโอกาสควรรีบหนีไปเสียจะดีกว่า!” หญิงสาวผมแดงตะโกน
“ในเมื่อเจ้ามาหาพวกข้าถึงที่แล้วคิดหรือว่าข้าจะไปพวกเจ้าไป?” ฝ่ายที่ล้อมกล่าว
หลิงฮันยิ้มและพูดว่า “ก็แค่สุนัขที่เก่งแต่เห่า ทำไมข้าจะต้องกลัวด้วย?”
“สามห้าว!” แววตาของชายอ้วนที่ถือดาบยักษ์กลายเป็นเย็นชา เมื่อหลิงฮันพูดจบเขาก็กระโจนใส่ทันที
ในขณะที่เขาโจมตีออกไปอักขระศักดิ์สิทธิ์บนดาบยักษ์ก็ส่องแสงประกายและแผ่ความหนาวเย็นที่น่ากลัวออกมา
ฉัวะ!
แสงที่หนาวเย็นของดาบอสูรนิรันดร์ปรากฏออกมาอย่างกะทันหัน มันเคลื่อนไหวด้วยตัวเองและตัดดาบยักษ์ของอีกฝ่ายได้อย่างง่ายดาย จากนั้นมันก็ผ่าชายอ้วนเป็นสองส่วน
โลหิตสาดกระเซ็นไปทั่วพร้อมกับอวัยวะที่กระจัดกระจาย
อะไรกัน!
ทุกคนรู้สึกตกใจและทึ่งกับดาบเล่มนี้
มันน่าสะพรึงกลัวมาก ดาบนั่นมันทรงพลังขนาดนี้ได้อย่างไร?
พรึบ ดาบอสูรนิรันดร์ลอยอยู่ด้านข้างหลิงฮัน ใบดาบไม่เปื้อนโลหิตเลยแม้แต่น้อย และปลดปล่อยกลิ่นอายที่น่าสะพรึงกลัวออกมา
เมื่อดาบอสูรนิรันดร์ยกระดับขึ้น พลังของมันก็ยังยิ่งสะพรึงกลัวมากยิ่งขึ้น! ต้องทราบก่อนว่าแร่เหล็กกลืนกินสามารถเติบโตเป็นแร่เหล็กนิรันดร์ได้ แม้จะยังไม่บรรลุถึงระดับนั้น แต่มันก็แข็งแกร่งกว่าแร่เหล็กธรรมดาในระดับเดียวกันหลายเท่า
“เจ้าเป็นใครกัน?” ฝ่ายที่ล้อมกล่าว พวกเขาไม่กล้าดูถูกหลิงฮันอีกต่อไป
กลุ่มคนพวกนี้คือกลุ่มโจรที่ซื้อสิทธิ์ในการเข้าเขตแดนลี้ลับและปล้นคนอื่นมา ดังนั้นพวกเขาจึงมีทั้งหมดยี่สิบห้าคน
แต่อย่าไดดูถูกพวกมันเชียว แม้พวกมันจะไม่ใช่อัจฉริยะ แต่ก็บ่มเพาะพลังมานานหลายปี และบรรลุระดับภูผาวารีขั้นสูงแล้ว
ในมุมมองของพวกมัน หากพวกมันทั้งยี่สิบห้าคนร่วมมือกัน พวกมันจำเป็นต้องหวาดกลัวผู้ใดด้วยหรือ?
แต่ทว่าหลิงฮันกลับสามารถสังหารสหายคนหนึ่งของพวกมันได้ด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียว ซึ่งทำให้พวกมันไม่กล้าทำตัวประมาทและในที่สุดก็ตระหนักว่ายังมีคนที่แข็งแกร่งกว่า พลังต่อสู้ของอีกฝ่ายเหนือกว่าจินตนาการของพวกมันมาก