“เจ้า… เจ้าเป็นคนลึกลับคนนั้น!” ศิษย์ของนิกายสวรรค์เยือกแข็งทั้งสี่คนชี้นิ้วไปยังหลิงฮัน พวกเขารู้ว่าชายคนนี้เป็นคนที่ชาหยวนเรียกว่า ‘มดปลวกจากโลกใบเล็ก’ แต่ตอนนี้พวกเขารู้แล้วว่าอีกฝ่ายเป็นคนลึกลับที่ลงมือกับจี้เจิ่งผิงก่อนหน้านี้
เป็นไปได้อย่างไร!
เมื่อใดกันที่ยุคสมัยนี้มีรุ่นเยาว์ที่แข็งแกร่งระดับราชาปรากฏตัว? ดูจากการโจมตีเมื่อครู่ก็รู้แล้วว่าอีกฝ่ายสามารถทัดเทียมกับ เหอเต๋า อู๋เจ๋อและหกราชาคนอื่นๆได้แน่นอน
หลิงฮันชำเลืองมองและกล่าว “ทิ้งอุปกรณ์มิติเอาไว้แล้วไสหัวไป ”
คนเหล่านี้คิดจะปล้นเม็ดยาของเขา แน่นอนว่าหากปล่อยพวกเขาไปเฉยๆก็จะดูใจดีเกินไป
“อย่าได้ใจเกินไป!” จี้เจิ่งผิงเกี้ยวกราด แต่ไหล่ของเขาที่ถูกยิงยังคงมีโลหิตทะลักออกมาทำให้ขัดต่อภาพลักษณ์ของเขาและดูไม่น่าเกรงขามแม้แต่น้อย
หลิงฮันยิ้มเล็กน้อย “ประสบการณ์ที่เจ้าผ่านมาคงจะราบลื่นเกินไปเจ้าถึงได้เอ่ยคำพูดที่ไร้เดียงสาเช่นนี้ออกมา! ต่อหน้าข้าเจ้ามีสิทธิ์เลือกงั้นรึ? หากไม่ทิ้งอุปกรณ์มิติไว้ข้าจะสังหารเจ้า!”
จี้เจิ่งผิงรู้สึกถึงความอัปยศครั้งใหญ่ แต่นั่นก็ช่วยไม่ได้ เขาเป็นคนเริ่มใช้ยาพิษขู่อีกฝ่ายให้มอบเม็ดยาปราณโลหิตคลั่งมาเองและจะสังหารทุกคนหากกล้าขัดขืน ตอนนี้เขาก็เหมือนถูกกรรมตามทัน
ความยุติธรรมงั้นรึ? ในโลกวรยุทธแห่งนี้ใครที่แข็งแกร่งกวานั่นแหละคือความยุติธรรม
“เจ้าคนโหดเหี้ยม!” พวกจี้เจิ่งผิงสี่คนถอดแหวนมิติออกและโยนไว้บนพื้นด้วยความไม่พอใจ พวกเขาถูกเรียกว่าอัจฉริยะมาตลอดทำให้มีนิสัยหยิ่งยโสอวดดีขึ้นมาเอง แล้วเหตุผลพวกเขาจะต้องถูกทำให้อัปยศเช่นนี้ด้วย?
ชาหยวนเองก็โยนแหวนมิติเอาไว้และจากไปพร้อมกับพวกจี้เจิ่งผิง
หลิงฮันอดหัวเราะออกมาไม่ได้ “นายน้อยชา หัวของเจ้าได้รับกระทบกระเทือนรึไง? ข้าบอกตอนไหนว่าให้เจ้าไปได้?”
“หลิงฮัน เจ้าคิดจะสังหารข้าจริงๆ? เจ้าไม่เกรงกลัวเพลิงแค้นของบิดาข้าที่จะมาไล่ล่าเจ้าถึงที่นี่รึอย่างไร?” ชาหยวนกล่าว ตอนนี้ตราคำสั่งได้ถูกทำลายไปแล้วทำให้เขาเริ่มเกิดความรู้สึกหวาดกลัว
หลิงฮันส่ายหัว “บุตรไร้ค่าเช่นเจ้า ข้าคิดว่าจอมพลชาคงไม่รังเกียจหากจะสูญเสียไปซักคน”
“เดี๋ยวก่อน เจ้าก็ได้ทรัพย์สินของพวกข้าไปแล้ว เช่นนั้นทำไมไม่ปล่อยวางเรื่องนี้ไปเสียล่ะ?” รุ่นเยาว์ชุดฟ้ากล่าว พวกเขามาด้วยกันห้าคน แน่นอนว่าพวกเขาย่อมไม่ต้องการเห็นพวกพ้องถูกสังหาร
หลิงฮันมองไปยังรุ่นเยาว์คนนั้นและกล่าวอย่างไม่แยแส “ภายในสามลมหายใจ ถ้าพวกยังไม่หายไปให้พ้นๆข้าจะฝังเจ้าไปพร้อมกับเขา!”
เขาเริ่มหมดความอดทน ออร่าที่รุนแรงราวกับคลื่นมหาสมุทรถูกปลดปล่อยออกมา
พวกจี้เจิ่งผิงสี่คนตกตะลึงทันที ชายตรงหน้าเป็นราชาไม่ผิดแน่!
ใบหน้าของพวกเขาซีดเผือดก่อนจะหันหลังจากไปโดยไม่พูดอะไรอีกเพราะเกรงว่าจะถูกหลิงฮันสังหาร
“อย่าไป ช่วยข้าด้วย! ช่วยข้า!” ชาหยวนทำอะไรไม่ถูก นี่เป็นครั้งแรกที่เขารู้สึกว่าความตายขยับเข้ามาใกล้มากขนาดนี้
พวกจี้เจิ่งผิงสี่คนไม่สนใจและจากไปอย่างรวดเร็ว
ชาหยวนเลิ่กลั่กและมองไปยังหลิงฮันก่อนจะพูดขึ้นมา “อย่าสังหาร! ข้าสามารถเป็นสหายกับเจ้าได้! ข้าเป็นบุตรของตัวตนระดับดารา ถ้าเป็นเป็นสหายกับข้าเจ้าย่อมไม่มีอะไรเสียหาย!”
หลิงฮันยิ้มและกล่าว “ข้าไม่ได้พูดเพื่ออยากทำให้เจ้ากลัวหรอกนะ แต่เมื่อพูดถึงสหายของข้าแล้ว ข้ามีทั้งเซียนที่เป็นสหายและมีจักรพรรดินีเป็นภรรยา… ข้าไม่เห็นประโยชน์จากการเป็นสหายกับเจ้าเลย”
ชาหยวนชะงัก เจ้าต้องโกหกข้าแน่ๆ!
เซียน!
เป็นไปได้รึไง? มีเพียงจอมยุทธระดับสร้างสรรพสิ่งเท่านั้นถึงจะถูกเรียกแบบนั้น แถมเมื่อพูดถึงเรื่องได้จักรพรรดินีเป็นภรรยานั้น… เอิ่ม เจ้ารู้รึไม่ว่าจักรพรรดินีสูงส่งขนาดไหน ต่อให้เป็นบิดาของเขาก็ยังเคยแค่ชำเลืองมองส่วนปากของนาง
“กับคนที่กำลังจะตายแล้วข้าไม่จำเป็นต้องโกหก แต่เจ้าก็ไม่จำเป็นต้องเชื่อก็ได้” หลิงฮันยิ้ม “เจ้าพร้อมตายรึยัง?”
ชาหยวนรู้สึกว่าร่างกายเย็นยะเยือก ขาของเขาอ่อนแรงโดยไม่รู้ตัว เขาล้มลงกับพื้นและร้องโอดครวญ “อย่าสังหารข้า! ข้ายังไม่อยากตาย! ข้ายังไม่อยากตาย!”
“ถูกแล้ว ไม่มีใครอยากตายหรอก!” หลิงฮันยกมือขึ้น “แต่เพื่อที่จะสนองความต้องการของตนเอง เจ้าถึงกับส่งคนมาสังหารข้า ถ้าหากข้าไม่มีไพ่ลับซ่อนเอาไว้ เกรงงว่าข้าคงมีหลุมศพของตัวเองแล้ว”
เขาปล่อยหมัดออกไปอย่างรุนแรง ‘โพล๊ะ’ ชาหยวนถูกบดขยี้กลายเป็นหมอกโลหิตทันที แม้แต่กระดูกสักท่อนก็ไม่เหลือ
“พ่อรูปหล่อ เจ้าสังหารศิษย์ของนิกายสวรรค์เยือกแข็งไปจริงๆรึ? เจ้าจะสังหารพวกเราด้วยรึเปล่า?” เมิ่งเหว่ยกลืนน้ำลาย
หลิงฮันหัวเราะ “ไม่ต้องกังวล จะอย่างไรข้าก็ปล่อยให้คนหนีไปแล้วตั้งสี่คน แล้วก็พวกเจ้าคงจะไม่ปากมากหรอกสินะ?”
เมิ่งเหว่ยและเหล่าลูกน้องส่ายหัวแทบไม่ทัน
“เป็นเช่นนั้นก็ดี” หลิงฮันหยิบแหวนมิติที่พวกจี้เจิ่งผิงทิ้งเอาไว้ขึ้นมาและย้ายของด้านในไปยังหอคอยทมิฬ
หากนำสิ่งของที่ขโมยมาเข้าในเก็บในแหวนมิติและถูกค้นเจอในอนาคตเขาก็จะถูกกล่าวหาว่าเป็นฆาตกรได้ แต่ถ้าหากนำไปเก็บในหอคอยทมิฬ ใครจะสามารถค้นเจอ?
“พ่อรูปหล่อ เม็ดยาปราณโลหิตคลั่งขวดนี้เป็นของเจ้า” เมิ่งเหว่ยยื่นขวดเม็ดยาออกมา
หลิงฮันยิ้ม “จะดีกว่ารึไม่หากแบ่งกันอย่างเท่าเทียม?”
“เจ้าช่วยชีวิตพวกเราไว้อีกครั้งแล้ว แถมพวกเขาก็ได้สูตรเม็ดยาอื่นๆมามากแล้วด้วย แค่นี้ก็ถือว่าพวกข้าได้รับผลประโยชน์มหาศาลแล้ว! ในฐานะมนุษย์คนเราไม่ควรโลภมากเกินไป” เมิ่งเหว่ยส่ยหัว
“เข้าใจแล้ว” หลิงฮันรับขวดเม็ดยาไว้ ตลอดการเดินทางตามหาสมบัติเม็ดยานี้เขาเป็นคนที่ลงมือเยอะที่สุด
“ถ้างั้นพ่อรูปหล่อ พวกเราขอกล่าวลากันตรงนี้เลยแล้วกัน!” เมิ่งเหว่ยโค้งประสานมือคำนับเพื่อรอให้หลิงฮันพยักหน้าก่อนจะกล่าวต่อ “เจ้าไม่อยากเสริมมิตรภาพระหว่างพวกเราให้แน่นแฟ้นขึ้นจริงๆรึ?”
“ไปได้แล้ว!”
หลังจากเห็นเมิ่งเหว่ยกับคนอื่นๆจากไป พวกหลิงฮันสามคนก็ออกเดินทางต่อ แต่ความสนใจของหลิงฮันนั้นกลับจดจ่อไปยังตำราเม็ดยาที่เพิ่งได้รับมา
เขาอาจจะไม่สามารถหลอมเม็ดยาที่เหนือกว่าระดับห้าขึ้นไปได้เนื่องจากจิตวิญญาณยังไม่กล้าแข็งพอ แต่หากเป็นเม็ดยายาระดับห้าพอดีเขาอาจจะพอฝืนๆหลอมได้สำเร็จเนื่องจากจิตวิญญาณของเขาถูกคัมภีร์สวรรค์นิรันดร์ขัดเกลาให้แข็งแกร่งกว่าจอมยุทธระดับภูผาวารีทั่วไปหลายขุม
เขามองไปยังตำราเม็ดยาและพบว่าหนึ่งในสูตรเม็ดยามีชื่อเม็ดยาปราณโลหิตคลั่งเขียนเอาไว้!