ปราณรูปร่างมนุษย์ดูหงุดหงิดอย่างอธิบายไม่ถูก
รุ่นเยาว์ทั้งเจ็ดคนไม่มีใครยอมรับเขาในฐานะอาจารย์ คิดว่าตัวเองเป็นจอมยุทธระดับสร้างสรรพสิ่งหรือไง?
เขากล่าวอย่างเคร่งขรึมว่า “เนื่องจากพวกเจ้าไม่ยอมรับข้าในฐานะอาจารย์ เช่นนั้นสมบัติที่อยู่ที่นี่ก็ไม่ได้มีไว้เพื่อเจ้า”
หลังจากพูดจบ เขาก็กวาดสายตามองทั้งเจ็ดคนอีกครั้ง และเห็นใบหน้าที่ตกใจของทั้งเจ็ดคน
เขาไม่เชื่อว่ารุ่นเยาว์พวกนี้จะไม่สามารถต่อต้านการล่อลวงของเขาได้
“อย่างไรก็ตาม ทักษะเหล่านี้ล้วนไม่มีประโยชน์สำหรับข้า และข้าก็ไม่รังเกียจที่จะมอบให้พวกเจ้าทั้งหมด” ปราณรูปร่างมนุษย์กล่าวอีกครั้ง
“ดูเหมือนท่านจะมีเงื่อนไข เช่นนั้นเงื่อนไขของท่านคืออะไร?” หลิงฮันกล่าว
ปราณรูปร่างมนุษย์แสดงรอยยิ้มและพูดว่า “มันไม่ใช่เงื่อนไข ถ้าเจ้าต้องการทักษะลับเหล่านี้ ข้าก็ต้องการให้หนึ่งในหมู่พวกเจ้าเป็นภาชนะ แล้วข้าจะมอบทักษะเหล่านั้นให้กับพวกเจ้า”
“ใครก็ตามที่ต้องการทักษะเหล่านั้น จงให้ข้ายืมร่างซะ มิฉะนั้นข้าจะไม่สามารถทำอะไรได้!”
หลังจากพูดจบ กลุ่มของหลิงฮันทั้งเจ็ดคนก็ตกตะลึง
นี่ไม่ได้หมายความว่าเป็นการยึดครองร่างหรอกหรือ?
ถึงจะฟังดูดี แต่อีกฝ่ายเป็นเพียงแค่วิญญาณที่เหลืออยู่ ถ้าให้มันสิงร่างก็เท่ากับว่าเป็นการส่งเนื้อเข้าปากเสือ
“ใครต้องการทักษะลับบ้าง?” ปราณรูปร่างมนุษย์กล่าวเย้ายวน
กลุ่มของหลิงฮันทั้งเจ็ดคนนิ่งเงียบและไม่ลดการป้องกัน ถึงอีกฝ่ายจะทำเป็นพูดสุภาพ แต่ใครจะไปรู้ว่าเมื่อเขาถูกปฏิเสธจะโกรธเกรี้ยวแค่ไหน
“ไม่มีเลยอย่างนั้นหรือ?” ปราณรูปร่างมนุษย์กล่าวอีกครั้ง เมื่อเห็นไม่มีใครตอบ เขาถอนหายใจและพูดว่า “เดิมทีข้าไม่อยากจะใช้วิธีการแบบนี้หรอก แต่ดูเหมือนคงจะหลีกเลี่ยงไม่ได้แล้ว!”
เขาหันไปมองและชี้นิ้วไปที่หลิงฮัน “ร่างกายของเจ้าเหมาะสมที่จะเป็นภาชนะของข้ามากที่สุด ทั้งยังมีพลังวิญญาณที่แกร่งกล้า แม้แต่ข้าก็ยังไม่มั่นใจว่าจะกำจัดได้หรือไม่”
“ขอบคุณสำหรับคำชมของท่าน แต่ดูเหมือนผู้อาวุโสจะเป็นแค่หนู ที่ไม่รู้ว่าโลกนั้นกว้างใหญ่แค่ไหน” หลิงฮันกล่าวอย่างไม่แยแส อีกฝ่ายใช้ทักษะลับล่อลวงพวกเขาก่อนให้ดูเหมือนเป็นคนดี แต่เมื่อไม่มีใครยอมรับเขา เขาก็เริ่มเผยธาตุแท้ออกมา
หากเป็นเช่นนั้น หลิงฮันจึงไม่จำเป็นต้องทำตัวสุภาพด้วย และการที่อีกฝ่ายยังล่อลวงเขาก่อน นั่นหมายความว่าอย่างไร?
ถ้าปราณรูปร่างมนุษย์แข็งแกร่งเท่าจอมยุทธระดับวารีนิรันดร์ เช่นนั้นจำเป็นต้องใช้ทักษะล่อลวงพวกเขาที่เป็นจอมยุทธระดับภูผาวารีด้วยหรือ?
ปราณรูปร่างมนุษย์ไม่โกรธ มันเพียงแค่ส่ายหัวและพูดว่า “ข้าอาศัยอยู่ที่นี่มานานนับไม่ถ้วน แล้วข้าจะรู้เรื่องโลกภายนอกได้อย่างไร? ฮ่าฮ่าฮ่า!” จากนั้นเขาก็หันไปมองเฉินจู๋เอ๋อ “ข้าสัมผัสได้ว่าแม่นางคนนี้มีพลังสายเลือดที่แข็งแกร่ง แต่น่าเสียดายที่ได้รับการป้องกันจากพลังลึกลับ ดังนั้นข้าจึงไม่สามารถกระตุ้นได้”
เขาชี้ทีละคนทีละคนและบอกความแข็งแกร่งของแต่ละคน ซึ่งทำให้ทั้งเจ็ดคนรู้สึกประหลาดใจมาก
ในที่สุด ปราณรูปร่างมนุษย์ก็ชี้นิ้วไปที่อู๋เจ๋อและพูดว่า “เจ้าเป็นคนที่อ่อนแอที่สุด ทั้งยังมีพรสวรรค์ที่ต่ำที่สุด คนอย่างเจ้าไม่เหมาะที่จะเป็นภาชนะให้กับข้าแม้แต่น้อย แต่ในเมื่อไม่มีทางเลือกอื่น มันก็เป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้”
หลังพูดจบ ปราณรูปร่างมนุษย์ก็กลายเป็นเส้นแสงและพุ่งเข้าหาอู๋เจ๋อทันที
อู๋เจ๋อที่ตั้งท่าป้องกัน รีบผลักฝ่ามือทั้งสองข้างออกไปอย่างรวดเร็วและโคจรพลังทั้งหมดออกมาห่อหุ้มร่างของเขาเอาไว้
แต่น่าเสียดายเมื่อเผชิญหน้ากับปราณรูปร่างมนุษย์ที่แปลกประหลาดนี้ มันสามารถทะลวงผ่านเกราะป้องกันของเขาได้อย่างง่ายดายและเข้าไปในปากของอู๋เจ๋อ
“อ๊าก-” อู๋เจ๋อส่งเสียงตะโกนออกมาอย่างกะทันหัน หน้าของเขายกขึ้นและปราณรูปร่างมนุษย์ก็ไหลลงไปในลำคอและปรากฏก้อนพลังบางอย่างบนหัว ซึ่งดูแปลกประหลาดมาก
“ฮ่าฮ่าฮ่า พวกเจ้าต้องการสั่งสอนข้าอย่างนั้นเรอะ! ยังเร็วเกินไป!” ปราณรูปร่างมนุษย์กล่าว เสียงของมันดังมาจากห้วงวิญญาณ
หลังจากนั้นไม่นาน ท้องของอู๋เจ๋อก็ป๋องเหมือนกับเขากลายเป็นคนอ้วน แต่การแสดงออกทางสีหน้าของเขานั้นดูเจ็บปวดมาก เส้นเลือดบนใบหน้าและตาของเขาปูดบวมราวกับจะทะลักออกมา
นอกจากนั้น ใบหน้าของเขาก็เกิดการเปลี่ยนแปลง ราวกับกลายเป็นคนละคน ซึ่งดูประหลาดมาก
เขาจ้องมองไปที่กลุ่มของหลิงฮันทั้งหกคน และยื่นมือออกไปข้างหน้า เหมือนพยายามจะพูดอะไรบางอย่าง แต่หลังจากนั้นเขาก็ส่งเสียงกรีดร้องออกมาอีกครั้ง
กลิ่นอายที่น่าสะพรึงกลัวไหลทะลักออกมาจากร่างกายของเขา มันทั้งมืดมน ชั่วร้าย และเต็มไปด้วยกลิ่นอายของความตาย
เหมือนกับหมอกดำที่อยู่ข้างนอกไม่มีผิด!
“ไม่ เขาถูกช่วงชิงร่างไปแล้ว!”
“หากเขาถูกชิงร่างไปอย่างสมบูรณ์ ความแข็งแกร่งของเขาอาจเปลี่ยนไปอย่างมาก!”
ทั้งหกคนอุทาน ถ้าสิ่งมีชีวิตลึกลับนี่ช่วงชิงร่างของอู๋เจ๋อได้อย่างสมบูรณ์ ความแข็งแกร่งของมันจะต้องเพิ่มขึ้นมากอย่างแน่นอน
“ฆ่ามัน!” อู๋เหวิ่นตงรีบตัดสินใจ
ด้วยความแข็งแกร่งของอู๋เจ๋อ มันไม่มีทางที่เขาจะต่อต้านสิ่งมีชีวิตลึกลับนี่ได้ นอกจากนั้นพวกเขาก็ไม่มีวิธีขับไล่สิ่งมีชีวิตลึกลับนี่ออกจากร่างกายของเขาได้เช่นกัน ดังนั้นหนทางเดียวที่เหลืออยู่คือฆ่าอู๋เจ๋อก่อนที่จะสายเกินไป
“ฆ่าเขาเลย!” เฉินจู๋เอ๋อพยักหน้าเห็นด้วย
ตามกฎของนิกายสวรรค์เยือกแข็ง ศิษย์ของนิกายจะไม่สามารถสังหารศิษย์ร่วมนิกายได้ แต่นั่นขึ้นอยู่กับสถานการณ์ ตอนนี้อู๋เจ๋อไม่ใช่อู๋เจ๋ออีกต่อไป แต่กลายเป็นสิ่งมีชีวิตที่ชั่วร้าย
พวกเขาทั้งหกคนรีบโจมตีใส่อู๋เจ๋อพร้อมกันทันที