“อะไร!” อู๋เจ๋อตกใจ “หลันหยุน นี่เจ้ายังไม่ตายอีกงั้นรึ?” เขาจ้องมองไปที่ศพบนพื้น
“ฮ่าฮ่าฮ่า!” ในขณะที่หัวเราะศพที่นอนอยู่บนพื้นก็ลุกขึ้นยืนและร่างเงาของเขาก็ทอดยาวไปตามแสงสว่าง
หลิงฮันและคนอื่นๆรู้สึกตกตะลึงเป็นอย่างมาก
แม้ว่าพวกเขาจะสงสัยว่าเจ้าสิ่งมีชีวิตลึกลับนี่อาจไม่ใช่เจ้าของสถานที่แห่งนี้ แต่พวกเขาก็ต้องตกใจอยู่ดีเมื่อเห็นศพของชายผิวฟ้าลุกขึ้นยืนอีกครั้ง
อู๋เจ๋อจ้องมองไปที่ชายผิวสีฟ้า หลังจากที่เขาระเบิดเสียงหัวเราะออกมาครู่หนึ่ง เขาก็พูดว่า “ฮ่าฮ่าฮ่า ที่แท้เจ้าก็ตายไปแล้ว ตอนนี้สิ่งที่เหลืออยู่ในตัวมันเป็นแค่จิตสำนึกเท่านั้น”
“ถูกต้อง!” ชายผิวฟ้าพยักหน้า “ถึงกระนั้น แค่นี้ก็เกินไปแล้วที่จะฆ่าเจ้า!”
สีหน้าของอู๋เจ๋อยังคงเหมือนเดิม แต่น้ำเสียงของเขาเปลี่ยนไป “ที่เจ้าไม่ปรากฏตัวออกมา ก็เพราะรอให้ข้าครอบงำร่างของผู้อื่นแล้วเจ้าจะได้มีโอกาสสังหารข้า!”
ชายผิวฟ้าหัวเราะและพูดว่า “ถูกต้อง เจ้าเอาแต่ซ่อนตัวอยู่ในแกนโลก แล้วข้าก็ตายไปแล้ว มันจึงเป็นไปไม่ได้เลยที่ข้าจะไล่ล่าเจ้าได้ แล้วข้าจะเด็ดหัวเจ้าได้อย่างไร?”
“เจ้าช่างมีความอดทนยิ่งนัก!” อู๋เจ๋อกล่าว “ทั้งที่เวลาผ่านมาแล้วหลายล้านปี และกระดูกของเจ้ากำลังจะกลายเป็นขี้เถ้าที่ลอยไปตามลม แต่เจ้าก็ยังต้องการสังหารข้าผู้นี้อยู่อีกงั้นรึ?”
“แม้ข้าจะต้องตายอีกสักพันรอบ ข้าก็จะไม่มีวันปล่อยให้วิญญาณชั่วร้ายจากดินแดนใต้พิภพอย่างเจ้าไปเด็ดขาด!” ชายผิวฟ้าตะโกนอย่างเดือดดาล
อะไรนะ! เจ้าสิ่งมีชีวิตลึกลับนี่แท้จริงแล้วเป็นคนจากดินแดนใต้พิภพ!
ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมชายผิวฟ้าถึงสลักตัวอักษรบนพื้นด้วยความเกลียดชังต่อดินแดนใต้พิภพ เมื่อรวมกับซากปรักหักพังที่หลงเหลือจากการต่อสู้ที่ด้านนอกก็สามารถอนุมานได้ว่าจะต้องมีการต่อสู้ครั้งใหญ่ระหว่างพวกเขาทั้งสองคน
ส่วนผลลัพธ์ของการต่อสู้ชายผิวฟ้าน่าจะเป็นผู้ชนะ แต่เขาก็ได้รับบาดเจ็บสาหัสและเสียชีวิตในไม่ช้า มีเพียงแค่จิตวิญญาณเท่านั้นที่หลงเหลืออยู่ แต่เนื่องจากความสามารถพิเศษของสิ่งมีชีวิตใต้พิภพ ทำให้มันสามารถหลบซ่อนอยู่ในแกนโลกได้
เมื่อเวลาผ่านไปหลายล้านปีต่อมา สิ่งมีชีวิตลึกลับก็คิดว่าชายผิวฟ้าตายไปแล้ว มันจึงปรากฏตัวออกมาเพื่อยึดร่างของอู๋เจ๋อและเริ่มต้นชีวิตที่สอง
อย่างไรก็ตาม นี่แสดงให้เห็นว่าสิ่งมีชีวิตลึกลับปรากฏตัวได้แค่ภายในพระราชวัง มิฉะนั้นสิ่งมีชีวิตลึกลับคงออกไปจากที่นี่นานแล้ว แทนที่จะรอให้มีใครเปิดประตูพระราชวังเข้ามา ทั้งที่เขตแดนลี้ลับจะเปิดทุกร้อยปี
เขาคิดว่าชายผิวฟ้าตายไปตลอดกาลแล้ว แต่เขาคิดผิด ที่แท้มันเป็นแค่กลอุบายเพื่อทำให้เขารู้สึกปลอดภัยและออกมาจากแกนโลกเพื่อครอบงำร่างกายของผู้อื่น แล้ววิญญาณของเขาก็จะไม่สามารถวิ่งหนีได้อย่างอิสระอีกต่อไป…
และร่างกายของเขาในปัจจุบัน…มันอ่อนแอมาก!
อู๋เจ๋อสั่นสะท้านไปด้วยความกลัว ทั้งที่ในตอนแรกเขาไม่มีความตึงเครียดและความกลัวแบบนี้เลย แต่มันเป็นเพราะเขาสิงอยู่ในร่างกายที่อ่อนแอและดวงวิญญาณของเขาไม่สามารถหลบหนีได้อย่างอิสระอีกต่อไป
“หลันหยุน แผนของเจ้าไม่เลวเลย!” เขากัดฟันแน่น
“นั่นก็เพื่อจัดการกับเต่าที่เอาแต่หดหัวอยู่ในกระดองอย่างเจ้า” ชายผิวฟ้าหัวเราะ “เจ้าไม่จำเป็นต้องชวนข้าคุยเพื่อถ่วงเวลา ถึงข้าจะหลงเหลือแค่จิตสำนึก แต่ก็ไม่มีปัญหาที่จะอยู่พูดคุยกับเจ้าสามถึงห้าวัน”
สีหน้าของอู๋เจ๋อเปลี่ยนไปอีกครั้ง เขาต้องการถ่วงเวลาจริงๆ
ชายผิวฟ้าแตกต่างจากเขา ถึงจะตายไปแล้วก็จริง แต่ก็ยังเหลือจิตสำนึกที่อยู่ได้สามถึงห้าวัน ทว่าในเมื่อชายผิวฟ้าเกลียดชังสิ่งมีชีวิตจากดินแดนใต้พิภพขนาดนั้น เขาจะปล่อยให้มันมีชีวิตสามถึงห้าวันได้อย่างไร?
“เฒ่ามารเฉินยิน ไปลงนรกของเจ้าซะ!” ชายผิวฟ้าโจมตีด้วยพลังที่น่าเกรงขามอย่างเหลือล้น แม้กระทั่งดวงดาวก็ยังต้องสั่นไหว
นี่คือพลังที่เหนือกว่าระดับดารา!
ทำไมเขตแดนลี้ลับถึงไม่หยุดเขาน่ะหรือ นั่นก็เป็นเพราะว่าเขาเป็นเจ้าของสถานที่แห่งนี้ แล้วมันจะมีผลต่อเขาได้อย่างไร?
ตู้ม!
เพียงแค่หนึ่งฝ่ามือ ร่างของอู๋เจ๋อก็กลายเป็นระอองฝนทันที ร่างกายที่แสนจะอ่อนแออย่างเขาจะต่อต้านการโจมตีของจอมยุทธระดับวารีนิรันดร์ได้อย่างไร
อย่างไรก็ตาม ชายผิวฟ้ายังไม่หยุดแค่นั้น เขากวาดสายตามองเหมือนกำลังหาอะไรบางอย่างอยู่
มันไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะสังหารจอมยุทธจากดินแดนใต้พิภพ แม้ร่างหลักของมันถูกทำลายไปแล้ว แต่จิตวิญญาณของมันยังหลบหนีไปได้
“ฮึ่ม คิดจะหนีอย่างนั้นรึ!” ชายผิวฟ้าโจมตีอีกครั้งไปที่ประตู
ตู้ม ประตูพังทลายและสามารถมองเห็นเงาดำด้วยตาเปล่าที่กำลังรีบหลบหนี
สมแล้วที่เป็นจอมยุทธจากดินแดนใต้พิภพ!
หลิงฮันและคนอื่นๆแปลกใจ แม้กระทั่งการโจมตีของจอมยุทธระดับวารีนิรันดร์ ก็ยังไม่สามารถกำจัดจอมยุทธจากดินแดนใต้พิภพนี้ได้
“หลันหยุน เจ้าบังคับให้ข้าต้องใช้วิธีนี้ แม้เจ้าจะตายไปแล้ว แต่ข้าก็จะทำลายศพของเจ้าไม่ให้เหลือ!” เงาดำบินลอยขึ้นไปบนท้องฟ้าเพื่อดูดซับปราณแห่งสวรรค์และปฐพี
แต่เขาคือจอมยุทธจากดินแดนใต้พิภพ การดูดซับพลังจากสวรรค์และปฐพีเป็นอันตรายอย่างยิ่งต่อเขาเช่นเดียวกับพิษ
แต่ถ้าเขาไม่สู้ก็จะมีเพียงแค่ความตายเท่านั้นที่รออยู่!
แต่ถ้าเขาไม่ตาย มันก็ยังสามารถรักษาอาการบาดเจ็บนี้ได้
ชาวผิวฟ้าเค้นเสียงและพูดว่า “ข้ารอคอยเจ้ามานานหลายล้านปี คิดว่าข้าจะปล่อยให้มันล้มเหลวอย่างนั้นรึ?” ร่างของเขากลายเป็นลำแสงและโจมตีใส่เงาดำด้วยความเร็วสูง
นั่นมันทักษะย่างก้าวไล่ตามดารา!
หลิงฮันกล่าวในใจ ถึงเขาจะยังไม่ได้เริ่มฝึกฝนทักษะนี้ก็เถอะ แต่เพียงแค่มองก็รู้แล้ว
ตู้ม!
“เจ้า-” จอมยุทธจากดินแดนใต้พิภพอย่างจะกะอักโลหิต และกรีดร้องว่า “ถึงเจ้าจะสังหารข้าได้ แต่ในไม่ช้าร่างกายของเจ้าก็จะเหลือแค่กระดูก และไม่สามารถกลับมามีชีวิตได้อีกครั้ง!”
“ฮ่าฮ่าฮ่า ถึงจะเป็นเช่นนั้น ข้าก็รอคอยวันนี้มานานแล้ว!” ชายผิวฟ้าโจมตีปิดฉากเงาดำ
อักขระศักดิ์สิทธิ์ผสานเข้ากับอำนาจแห่งกฎเกณฑ์ นี่คือพลังที่แท้จริงของจอมยุทธระดับวารีนิรันดร์
“ไม่!” จอมยุทธจากดินแดนใต้พิภพกรีดร้องอย่างสิ้นหวัง และจิตวิญญาณของมันก็กระจายหายไปทั่วเขตแดนลี้ลับแห่งนี้
นี่คือการโจมตีของจอมยุทธระดับวารีนิรันดร์
ท้องฟ้าเต็มไปด้วยความมืดมนที่น่าหดหู่ ซึ่งนี่คือเจตจำนงที่เหลืออยู่ของจอมยุทธจากดินแดนใต้พิภพ
“ในที่สุด..มันก็จบสักที!” ชายผิวฟ้าแสดงรอยยิ้มพึงพอใจ ในไม่ช้าร่างของเขาก็ตกลงมาจากท้องฟ้าอย่างรวดเร็วและดวงวิญญาณของเขาก็กลายเป็นแสงสว่างสลายหายไป
ในที่สุดปรมาจารย์ที่แข็งแกร่งผู้นี้ก็ตายจากไปอย่างสมูบรณ์
หลิงฮันและคนอื่นๆถึงกับพูดไม่ออก พวกเขาแทบไม่มีบทบาทในการต่อสู้ครั้งนี้เลย หากจะพูดให้ถูกคือพวกเขาเป็นเหยื่อล่อ
ราชารุ่นเยาว์ทั้งหกคนจะสามารถลดศักดิ์ศรีของตัวเองเป็นเหยื่อล่อได้อย่างไร?