หลิงฮันตัดสินใจรอดูว่าอีกฝ่ายจะเคลื่อนไหวอย่างไร ถึงจะมีข่าวลือไม่ดีเกี่ยวกับเขามากมายในนิกายสวรรค์เยือกแข็ง แต่ท้ายที่สุด ศิษย์ทุกคนที่สามารถเข้าร่วมนิกายสวรรค์เยือกแข็งได้ล้วนมีแต่คนฉลาด ข่าวลือดังกล่าวแม้จะแพร่กระจายอย่างรวดเร็ว แต่ก็จะหายไปอย่างรวดเร็วเช่นกัน
เขาไปที่ร้านค้าตระกูลโม่เพื่อขายเม็ดยาจำนวนมากและคัดลอกสูตรปรุงยา นอกจากนั้นเขายังตัดสินใจที่จะขายหยดเซียนหยวนอีกด้วย
– ก่าวฮวง ในเมื่อเจ้าต้องการมันขนาดนั้น ข้าก็จะไม่มีวันยกให้เจ้า
หลิงฮันไม่จำเป็นต้องใช้หยดเซียนหยวน
ประสิทธิภาพของมันแค่จะช่วยให้เกิดการรู้แจ้งเท่านั้น ไม่ได้ช่วยยกระดับบ่มเพาะพลัง ในเมื่อเขาสามารถฝึกฝนใต้ต้นสังสารวัฎได้ แล้วทำไมเขาจะต้องใช้มัน?
ดังนั้น หลิงฮันจึงตัดสินใจขายหยดเซียนหยวนเพื่อเพิ่มความมั่งคั่งให้กับตัวเองและนำเงินที่ได้ไปซื้อแร่เหล็กศักดิ์สิทธิ์เพื่อยกระดับดาบอสูรนิรันดร์
แต่ก่อนที่ดาบอสูรนิรันดร์จะบรรลุแร่เหล็กระดับนิรันดร์ หลิงฮันก็ได้ถูกกำหนดให้กลายเป็นคนจนที่น่าสงสารไปแล้ว และต้องใช้เงินทั้งหมดที่มีไปกับดาบอสูรนิรันดร์ อย่างไรก็ตามพลังของดาบอสูรนิรันดร์ก็เริ่มแสดงออกมาให้เห็นแล้ว และตอนนี้มันก็มีพลังไม่น้อยไปกว่าหลิงฮัน
คุ้มค่ากับเงินที่เสียไป!
หลังจากที่เขาบอกฮันหั่วว่าจะขายหยดเซียนหยวน อีกฝ่ายก็แสดงสีหน้าตกตะลึงออกมาให้เห็นทันที และจากนั้นเขาก็ตกลงคุยเรื่องรายละเอียดกับหลิงฮัน แล้วตัดสินใจที่จะจัดงานประมูล โดยของที่จะนำประมูลคือ หยดเซียนหยวน สูตรปรุงยาและเม็ดยาที่จัดทำโดยหลิงฮัน
รายการที่นำมาประมูลอย่างหยดเซียนหยวนและสูตรปรุงยาจะต้องมีมูลค่ามหาศาลอย่างแน่นอน ส่วนเม็ดยาที่ถูกนำมาประมูลนั้นจะสามารถขายได้ในราคาที่สูงกว่าปกติ
แต่คนที่ทำการค้าขายจะคิดต่าง พวกเขาจะคิดอย่างรอบคอบมากกว่าหลิงฮัน
หลิงฮันพยักหน้าและมอบทุกอย่างให้กับฮันฮั่ว จากนั้นเขาก็กลับไปที่นิกายสวรรค์เยือกแข็งเพื่อเริ่มฝึกฝนทักษะย่างก้าวไล่ตามดาราและปรุงเม็ดยาตัวใหม่
เมื่อกลับมาถึงวัง เขาก็เห็นโสมเฒ่ากำลังพูดคุยกับหลี่เหว่ยเหว่ยและจื่อหยุนเอ๋ออย่างสนุกสนาน ในขณะเดียวกันมันก็แอบใช้โอกาสนี้นวดไหล่ให้กับพวกนางทั้งสองคน
หมดวิธีจัดการกับเจ้าโสมลามกนี่แล้ว!
หลิงฮันส่ายหัว จะว่าไปแล้วหลี่เหว่ยเหว่ยกับจื่อหยุนเอ๋อมาที่นี่ทำไม?
“เจ้าโง่หลิงกลับมาแล้วอย่างนั้นรึ และกล้ามากที่ไม่ส่งเสียงบอกข้า!” เมื่อเห็นหลิงฮัน หลี่เหว่ยเหว่ยก็รีบลุกขึ้นมาทันทีและทำให้โสมเฒ่าเลียฝีปาก เพราะหน้าของมันกำลังซุกอยู่ในหน้าอกของนาง
แต่หลี่เหว่ยเหว่ยไม่รู้ตัวแม้แต่น้อย หลิงฮันจึงทำได้แค่หัวเราะแห้งๆอย่างช่วยไม่ได้
หลิงฮันยิ้มและกล่าว “แล้วเจ้ามาที่นี่ทำไม?”
“หึ่ม ข้ามาเพื่อตามหาความจริง หลังจากที่ข้าไปถามราชินีที่เก้ามา” หลี่เหว่ยเหว่ยกล่าวด้วยความภาคภูมิใจ
แน่นอนว่าหูเฟยหยินไม่อาจปฏิเสธคำขอของหลี่เหว่ยเหว่ยได้ นั่นเป็นเพราะนางเป็นร่างแยกของจักรพรรดินีและเป็นส่วนหนึ่งของร่างกายของจักรพรรดินี จึงเป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่นิสัยบางส่วนของนางจะไม่เหมือนร่างหลัก
ตัวอย่างเช่น หูเฟยหยินไร้เดียงสาและใสซื่อ นี่คือนิสัยที่ถูกแยกออกมาจากจักรพรรดินีและจะไม่แสดงให้เห็นในตัวจักรพรรดินี
“เจ้าโง่หลิง เจ้าจะจัดการเรื่องนี้ยังไง? ทุกคนต่างพูดว่าเจ้าสังหารศิษย์ร่วมนิกายเพื่อสมบัติ!” หลี่เหว่ยเหว่ยไม่สนใจตัวตนของหลิงฮัน และพูดด้วยความเป็นห่วง
“ข้าไม่รู้ว่าพวกมันจะใช้วิธีไหน แล้วข้าจะจัดการเรื่องนี้ได้อย่างไร?” หลิงฮันกล่าวด้วยรอยยิ้ม
“นี่มันไม่ใช่เรื่องเล็กๆนะ!” หลี่เหว่ยเหว่ยกรีดร้อง แต่เมื่อเห็นท่าทางมั่นใจของหลิงฮัน นางก็ผ่อนคลายขึ้นมาทันที นั่นเป็นเพราะหลังจากที่หลิงฮันออกจากจักรวรรดิราชวงศ์ดาราหายนะ เขาเจอกับเรื่องต่างๆมากมาย แต่ก็แก้ปัญหาเหล่านั้นสำเร็จ
จากนั้น เฟิงโป๋วหยุน ติงผิงและคนอื่นๆเองก็เข้ามาสอบถามหลิงฮันเช่นกัน แต่หลิงฮันก็พูดคุยกับพวกเขาอย่างสบายใจ นี่แสดงให้เห็นว่าเขาสามารถจัดการเรื่องนี้ได้เพียงลำพัง
แต่ในอีกไม่กี่วันต่อมา หลิงฮันไม่มีเวลาฝึกฝน เส้าสือสือ เซี่ยอู๋เซีย ซูจิงและคนอื่นๆ ต่างมาหาเพื่อช่วยเหลือหลิงฮัน ตราบใดที่หลิงฮันต้องการความช่วยเหลือจากพวกเขา พวกเขาก็จะพยายามสุดความสามารถเพื่อแก้ปัญหานี้ให้กับหลิงฮัน แต่หลิงฮันก็ปฏิเสธพวกเขา
จากนั้นเหอเจ๋อและราชาคนอื่นๆก็มาหาหลิงฮันด้วยตัวเองเช่นกัน และพูดคล้ายกับเส้าสือสือและคนอื่นๆ พวกเขามาที่นี่เพื่อต้องการช่วยหลิงฮัน
นี่เป็นเพราะหลิงฮันเป็นผู้บริสุทธิ์ และมาจากโลกใบเล็กด้วยการเปิดสวรรค์ ดังนั้นเขาจึงไม่มีภูมิหลังบนดินแดนศักดิ์สิทธิ์
ถึงหลิงฮันจะไม่ต้องการความช่วยเหลือจากพวกเขา แต่ในตอนนี้มีข่าวว่านิกายสวรรค์เยือกแข็งกำลังจะพิจารณาข้อกล่าวหาของหลิงฮันอย่างจริงจัง และเป็นไปได้มากว่าการตัดสินจะถูกจัดขึ้นต่อหน้าสาธารณชนในอีกไม่กี่วันข้างหน้า
ในที่สุดก่าวฮวงก็เคลื่อนไหว!
ในคืนที่ข่าวดังกล่าวแพร่สะพัด มีจอมยุทธระดับสุริยันจันทราผู้หนึ่งปรากฏตัวอยู่ด้านหน้าวังของหลิงฮัน
“ข้ามีนามว่าโจวตง! ข้ามาตามคำสั่งของนายท่าน นายท่านได้กล่าวไว้ว่าจะมอบโอกาสสุดท้ายให้กับเจ้าและจงมอบหยดเซียนหยวนสี่หยดแต่โดยดี มิฉะนั้น…เจ้าจะถูกตราหน้าเป็นคนบาปที่สังหารศิษย์ร่วมนิกาย!” โจวตงกล่าวด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความภาคภูมิใจ
หลิงฮันยิ้มและพูดว่า “โอ้ ทั้งที่เจ้าเป็นถึงจอมยุทธระดับสุริยันจันทรา แต่กลับวิ่งไปมาเหมือนสุนัขที่ทำตามคำสั่งของเจ้านายไม่มีผิด”
“กล้ามาก!” โจวตงระเบิดความโกรธออกมาทันทีและมีเปลวไฟแผ่กระจายออกมาทั่วร่าง
หลิงฮันโบกมือและพูดว่า “อย่ารุนแรงกับข้ามากนัก เจ้าแค่ฝึกฝนบ่มเพาะพลังมาก่อนข้าหลายพันปีเท่านั้นแหละ! แล้วเจ้าเชื่อหรือไม่ว่าข้าสามารถเอาชนะเจ้าได้ภายในสิบปี?”
นี่เป็นคำพูดที่อวดดีมาก จอมยุทธระดับภูผาวารีกล้าพูดว่าสามารถเอาชนะจอมยุทธระดับสุริยันจันทราขั้นกลางได้ภายในสิบปี ใครจะเชื่อเรื่องนี้กัน?
แต่โจวตงไม่กล้าสบประมาท ความก้าวหน้าและพรสวรรค์ของเจ้าเด็กนี่น่ากลัวเป็นอย่างมาก มันอาจเป็นเช่นนั้นจริงๆก็ได้ – แม้แต่เขาจะไม่อยากเชื่อก็ตาม
เขาเค้นเสียงและพูดว่า “ถ้าเจ้าไม่ส่งหยดเซียนหยวนมาให้ข้า เจ้าคงมีชีวิตอยู่ไม่ถึงสิบปี!”
หลิงฮันยิ้ม ตอนนี้เขามีสูตรปรุงยาเม็ดยาปราณโลหิตคลั่งอยู่ และยังมีผลราชาพิรุณสีชาดอีกหลายลูกในหอคอยทมิฬ เมื่อเขาทะลวงผ่านระดับสุริยันจันทราเมื่อไหร่ เขาก็จะสามารถปรุงเม็ดยาปราณโลหิตคลั่งได้จำนวนมาก
อาจกล่าวได้ว่าความก้าวหน้าของเขาอาจก้าวกระโดดในระยะหนึ่ง
“เจ้าจงกลับไปก่างฮวงว่า หากเจ้าต้องการหยดเซียนหยวน จงเตรียมผลึกก่อเกิดเอาไว้และเข้าร่วมงานประมูลที่จะจัดขึ้นในอีกสามเดือนข้างหน้า” หลิงฮันกล่าว นี่ถือเป็นโอกาสดีทีเดียวที่จะได้โฆษณา