วงวิถีจักรวาลหมุนไปมาโดยมีดวงดาวขนาดใหญ่นับไม่ถ้วนโคจรอยู่รอบๆ
หยางฮ่าวอุ่นใจขึ้นมาทันใด เมื่ออาจารย์ลงมือแล้วต่อให้อีกฝ่ายเป็นใครก็ทำอะไรเขาไม่ได้!
คิดจะสังหารเขางั้นรึ? ช่างน่าขัน
แต่เขาก็อดสงสัยไม่ได้ สตรีตรงหน้าเป็นใครกัน เหตุใดนางถึงได้ทรงพลังจนปรมาจารย์สามวิถีต้องลงมือเอง นางยังเยาว์วัยนัก แถมยังมีพลังบ่มเพาะที่แข็งแกร่ง ถ้าหากได้นางมาครอบครองล่ะก็… ความโลภก่อตัวขึ้นในความคิดหยางฮ่าวหยางฮ่าว
สตรีที่งดงามเช่นนั้น จะไม่ให้เขาจิตใจหวั่นไหวได้อย่างไร?
ทันใดนั้นเอง หมัดที่ชกอย่างไม่แยแสของฮูหนิวก็พุ่งเข้ามา ‘ปัง’ วิถีจักรวาลแตกสลายในพริบตาพร้อมกับดวงดาวขนาดใหญ่ที่ระเบิดกระจุย
อะไรกัน!
หยางฮ่าวตกอยู่ในความหวาดกลัวอันไร้ที่สิ้นสุด อีกฝ่ายปล่อยหมัดออกมาลวกๆ การป้องกันของตัวตนระดับวารีนิรันดร์ๆก็ถูกบดขยี้เป็นเศษซาก
นางไม่ใช่ศัตรูที่จะต่อกรได้แม้แต่น้อย!
พลังของสตรีตรงหน้าลึกลับราวกับเทพเซียน
ฮูหนิวเดินไปคว้าหัวของหยางฮ่าวและกล่าว “ตัวอัปลักษณ์เช่นเจ้า บังอาจทำร้ายหลิงฮันของหนิว ช่างโง่เง่ายิ่งนัก!”
‘ตุบ’ ปรมาจารย์สามวิถีล้มลงกับพื้น ภายใต้อำนาจที่ทรงพลังเมื่อครู่ ยอดเขาสูงสุดแห่งนี้ถูกบดขยี้จนเกิดเป็นรอยยาวตั้งแต่ยอดเขาจนถึงตีนเขา
ทั่วบริเวณของยอดเขาพังทลายไม่เหลือซาก
น่ากลัวเกินไป… ฮูหนิวไม่ได้เล็งแม้แต่น้อย แม้จะใช้เพียงหมัดธรรมดาในการทำลายการป้องกันของเขา แต่แผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นจากอำนาจของหมัดนั้นทำให้ปรมาจารย์สามวีถีไม่สามารถควบคุมจนเองได้และล้มนั่งก้นกระแทกภูเขา
‘ครืนนน’ ท้องฟ้าเบื้องบนพังทลาย ผู้คนรอบข้างยืนแน่นิ่งเป็นรูปปั้นหิน
พวกเขาตกตะลึงจนพูดอะไรไม่ออก
ในตอนแรกทุกคนคิดว่าฮูหนิวเป็นจอมยุทธระดับสุริยันจันทราขั้นสูงสุด นางจึงสามารถทำให้หยางฮ่าวหมดสติได้ ส่วนในตอนที่นางโค่นก่าวฮวงกับฮวาหยางเหวินอย่างง่ายดาย พวกเขาก็เปลี่ยนไปคิดว่านางเป็นจอมยุทธระดับดารา
แต่พอฮูหนิวสังหารจอมยุทธระดับดาราขั้นสูงสุดสองคน ทุกคนก็เปลี่ยนใจอีกครั้งโดยคิดว่านางเป็นจอมยุทธระดับวารีนิรันดร์
ความจริงแล้ว… พลังของนางคือระดับไหนกันแน่?
ด้วยหมัดที่ปล่อยออกมาลวกๆก็สามารถทำให้ปรมาจารย์สามวิถีล้มลงได้
นางเป็นตัวตนที่สูงกว่าอย่างสมบูรณ์!
จอมยุทธระดับวารีนิรันดร์ขั้นกลางไม่ก็ขั้นสูง? หรือบางที… อาจจะขั้นสูงสุด?
“ระดับสร้างสรรพสิ่ง… นางเป็นจอมยุทธระดับสร้างสรรพสิ่ง!” ปรมาจารย์สามวิถีหวาดกลัว เขาเคยเห็นการต่อสู้ระหว่างจ้าวอสูรกับเซียนที่สนามรบสองดินแดนมาก่อน มันคือพลังที่สามารถบดขยี้ดวงดาวทิ้งได้จนไม่เหลือเศษซาก
เซียนคือจอมยุทธที่มีพลังระดับสร้างสรรพสิ่ง ส่วนจ้าวอสูรคือเผ่าอสูรที่มีพลังเทียบเท่าระดับสร้างสรรพสิ่ง ความแข็งแกร่งของทั้งสองทัดเทียมกัน
พรวด!
ทุกคนตกตะลึงจนอ้าปากค้างอีกครั้ง เด็กสาวผู้นี้… คือเซียน!
‘เซียน’ ตัวตนที่แข็งแกร่งที่สุดในจักรวาล!
“พระเจ้า!”
“ไม่น่าเชื่อ!”
ทันใดนั้นกลุ่มคนกลุ่มหนึ่งก็บินเข้ามา พวกเขาเป็นจอมยุทธระดับดาราของนิกายสวรรค์เยือกแข็ง เกิดการต่อสู้ที่รุนแรงเช่นนี้ขึ้นหากพวกเขาไม่สังเกตและเคลื่อนไหว พวกเขาก็ไม่เรียกตนเองจอมยุทธระดับดาราแล้ว
แต่เมื่อพวกเขามาถึง แต่ละคนต่างแสดงสีหน้ามึนงง
เกิดอะไรขึ้น!
ปรมาจารย์สามวิถีกำลังนั่งอยู่กับพื้น ผมของเขากระเซาะกระเซิงยุ่งเหยิง เหตุใดเขาถึงตกอยู่ในสภาพเช่นนี้?
ใครกันสามารถทำให้ปรมาจารย์ระดับวารีนิรันดร์กลายเป็นแบบนี้ได้?
“เกิดอะไรขึ้นที่นี่?” ใครคนหนึ่งเอ่ยถาม
นี่คือสิ่งที่ทุกคนที่เพิ่งมาถึงอยากรู้ พวกเขาไม่กล้าถามปรมาจารย์สามวิถีโดยตรงจึงเลือกถามคนอื่นแทน และเมื่อพวกได้ยินเรื่องราวทั้งหมด ใบหน้าก็เปลี่ยนเป็นซีดเผือดทันที
ถ้าปรมาจารย์สามวิถีไม่ได้นั่งอยู่ที่พื้น พวกเขาคงไม่มีทางเชื่อแน่ ในจักรวาลแห่งนี้ไม่มีทางที่ปรมาจารย์สามวิถีจะแพ้ใคร
เซียนระดับสร้างสรรพสิ่ง? เด็กสาวคนนี้น่ะรึ? เป็นไปได้อย่างไร…
นางยังเยาว์วัยมาก อายุของนางไม่มีทางเกินหนึ่งร้อยปีแน่นอน ต่อให้เป็นสุดยอดอัจฉริยะ ถ้าอายุร้อยปีอย่างมากพวกเขาก็บรรลุเพียงระดับภูผาวารีเท่านั้น ในยุคบรรพกาลอาจจะมีบ้างที่บรรลุระดับสุริยันจันทรา แต่ในยุคสมัยนี้เรียกได้ว่าหาได้เพียงน้อยนิด ไม่ต้องกล่าวถึงระดับสร้างสรรพสิ่งเลย
‘เพี๊ยะ เพี๊ยะ เพี๊ยะ’ ด้วยนิสัยของฮูหนิว นางไม่แยแสต่อคนอื่นๆแม้แต่น้อย นางตบใบหน้าของหยางฮ่าวจนบวมเหมือนหัวหมู นางยิ้มและกล่าว “หลิงฮัน หมอนี่ดูดีกว่าเดิมรึยัง?”
หลิงฮันยิ้ม “แน่นอน ดูสบายหูสบายตาขึ้นเยอะ”
เมื่อหลิงฮันชมฮูหนิวก็ยิ้มแป้นทันที นางกล่าวอย่างภาคภูมิใจ “เรื่องงานฝีมือ หนิวเก่งอยู่แล้ว”
แม้หยางฮ่าวจะถูกตบตีเขาก็ไม่ได้หมดสติ เขาจ้องเขม็งไปยังหลิงฮันกับฮูหนิว
เป็นไปได้อย่างไรที่หลิงฮันจะมีผู้หนุนหลังที่แข็งแกร่งเช่นนี้?
ถ้าเขารู้ก่อนล่ะก็เขาไม่มีทางกล้าลงมือกับหลิงฮันแน่!
มีผู้หนุนหลังเป็นถึงตัวตนระดับเซียน…
ช่างน่ารังเกียจยิ่งนัก!
นี่ข้าด้อยกว่าหลิงฮันตรงไหน พรสวรรค์ข้าไม่ได้อ่อนด้อยเลยแท้ๆ รูปลักษณ์ของข้าก็เหนือกว่าอีก ทำไมสตรีที่งดงามเช่นนี้ถึงได้หลงใหลในตัวหลิงฮัน?
“ข้าผิดไปแล้ว!” หยางฮ่าวกัดฟันพูด ตราบใดที่เขารอดพ้นจากวันนี้ไปได้ เขาจะฝึกฝนอย่างหนักให้บรรลุระดับสร้างสรรพสิ่งและกลับมาทวงบัญชีแค้นแน่นอน
“แน่นอนว่าเจ้าผิด ดังนั้นไปลงนรกเสียเถอะ!” ฮูหนิวยิ้มและยื่นมือออกไป ‘พรึบ’ ร่างของหยางฮ่าวถูกนางโยนขึ้นบนท้องฟ้า ‘ตูม’ อุกกาบาตที่ลอยอยู่ระเบิดกลายเป็นเศษหินร่วงลงมาทันที
นี่มัน…
โยนคนขึ้นใบบนฟ้าให้กระแทกกับอุกกาบาตจนอุกกาบาตแหลกกระจุย ทุกคนสามารถมองเห็นจุดจบของหยางฮ่าวได้เลย ร่างกายและกระดูกของเขาคงแหลกจนไม่เหลือแม้แต่ซาก
นี่คือพลังของเซียนระดับสร้างสรรพสิ่ง ในสายตาของทุกคนการจะทำเช่นนี้ได้คงมีเพียงในเรื่องเล่าตำนาน
“แล้วก็เจ้าเฒ่านั่น!” ฮูหนิวตั้งใจจะสะสางเรื่องราว นางพุ่งไปคว้าร่างของปรมาจารย์สามวิถี ‘กร๊วบ’ นางบีบคอของอีกฝ่ายทันที ภายใต้พลังอำนาจที่น่าสะพรึงกลัวจากมือของนาง จอมยุทธระดับวารีนิรีนดร์ก็ไม่ต่างจากลูกไก่ในกำมือ
ตอนนี้ทุกคนเชื่อแล้วว่าฮูหนิวเป็นเซียนระดับสร้างสรรพสิ่งของจริง ไม่เช่นนั้นนางจะมีพลังน่ากลัวขนาดนั้นได้อย่างไร?
เซียนที่เยาว์วัยขนาดนี้… บ้าไปแล้ว!
“จะ เจ้าเป็นใครกันแน่?” ปรมาจารย์สามวิถีไม่ร้องขอความเมตตา เซียนระดับสร้างสรรพสิ่งสามารถทำทุกอย่างได้ตามใจชอบโดยไม่ต้องแยแสผู้ใด ต่อให้เขาพูดอะไรไปก็ไม่มีสามาถชักจูงนางได้ เขาเพียงแค่อยากรู้ว่าคนที่เขาล่วงเกินไปคือใคร
“หนิวคือฮูหนิวของหลิงฮัน!” ฮูหนิวกล่าว “เรื่องแค่นี้ก็ไม่รู้ ทำไมเจ้าถึงได้โง่เพียงนี้? มิน่าเจ้าถึงกล้าทำร้ายหลิงฮันของหนิว! ที่แท้เจ้าก็เป็นตัวโง่งมนี้เอง!”
‘เพี๊ยะ เพี๊ยะ เพี๊ยะ’ ฮูหนิ่วตบใบหน้าของปรมาจารย์สามวิถี”เฒ่าตัวเหม็น เจ้าบังอาจมากที่ทำร้ายหลิงฮันของหนิว โชคดีที่หลิงฮันไม่เป็นอะไรมาก ไม่เช่นนั้นหนิวต้องโกรธแน่!”
ทุกคนกลายเป็นไร้คำพูด เจ้าทำขนาดนี้ยังเรียกว่าไม่โกรธอีกรึ?
แล้วถ้าเจ้าโกรธเจ้าจะอาละวาดขนาดไหน?
แน่นอนว่าไม่มีใครกล้าเอ่ยถาม ล้อเล่นรึเปล่า? อีกฝ่ายเป็นถึงเซียนระดับสร้างสรรพสิ่ง!
“ข้าไม่เล่นกับเจ้าแล้ว!” ฮูหนิวโยนร่างของปรมาจารย์สามวิถีขึ้นกลางอากาศและปล่อยหมัดเข้าใส่ ‘ตูม’ ร่างของปรมาจารย์สามวิถีระเบิดทันที แม้จากระดูกสักท่อนก็ไม่เหลือ
หนิวยิ้มอย่างไรเดียวสาและกล่าว “ยังมีใครคิดจะทำร้ายหลิงฮันของหนิวอีกไหม?”