ผลการตรวจสอบออกมาอย่างรวดเร็ว
ระดับของนักปรุงยากับความสามารถในการตรวจสอบเม็ดยานั้นไม่เหมือนกัน แม้จะเป็นนักปรุงยาระดับหนึ่งก็สามารถตรวจเม็ดยาระดับสูงกว่าได้หากพวกเขามีความเข้าใจในเม็ดยามากพอ
หลิงฮันเป็นฝ่ายชนะ!
เม็ดยาระเบิดอัสนีของเหอจิงหยุนมีคุณภาพระดับหกได้อย่างเฉียดฉิว ส่วนของหลิงฮันนั้นเป็นเม็ดยาคุณภาพเก้าดาวอย่างแน่แท้
ที่เม็ดยามีคุณภาพเพียงเท่านี้เพราะหลิงฮันไม่ได้ใช้สามเปลวเพลิงชี้นำ เขายังไม่ต้องการเปิดเผยตัวตนให้ศิษย์ทั้งสองรู้
เหอจิงหยุนจิตใจแตกสลาย เขาแพ้ด้วยความต่างของคุณภาพเม็ดยาที่ไม่ใช่เพียงหนึ่งหรือสองดาว
“เชิญ!” หลิงฮันยิ้ม
ถ้าแพ้ก็ห้ามกลับเข้าสู่ศาสตร์ปรุงยา
เหอจิงหยุนเค้นเสียงก่อนจะหันหลังจากไป เขาไม่มีหน้าจะอยู่ที่นี่ต่อแล้ว
“เดี๋ยวก่อน เจ้าจะหนีไปดื้อๆแบบนั้นน่ะรึ?” หลิงฮันกล่าว
เหอจิงหยุนหันกลับมาและกล่าวด้วยท่าทีหยิ่งยโส “เจ้าต้องการให้นักปรุงยาระดับหกเช่นข้า… อ้ากก!”
ในขณะที่เขากำลังจะพูดจบ เขาก็ถูกหลิงฮันคว้าบิดแขนเอาไว้ทำให้ไม่สามารถเคลื่อนที่ได้อย่างอิสระ พวกเขามีพลังบ่มเพาะระดับสุริยันจันทราขั้นต้นเหมือนกันแท้ๆ แต่ทำไมเขาถึงไม่สามารถต่อต้านพลังของหลิงฮันได้แม้แต่นิดเดียว?
“ข้าเกลียดคนที่ไม่รักษาสัญญาที่สุด!” หลิงฮันกดร่างของอีกฝ่ายลงกับพื้น “ในเมื่อเจ้าเป็นคนกล่าวเองเจ้าก็ต้องทำ!”
“ถ้าเจ้ากล้าแตะต้องข้าแม้แต่เส้นผม ข้ารับประกันเลยว่าตำหนักเป่าหลินจะบดขยี้เจ้าแน่!” เหอจิงหยุนขู่หลิงฮัน ถ้าเขาทำตามสัญญาจริงๆเขาคงไม่มีหน้าไปพบใครอื่น
หลิงฮันยิ้มและกล่าว “ข้ากลัวจริงๆ!” เขาใช้เท้าถีบลงไป “เจ้าจะทำตามสัญญารึไม่?”
เหอจิงหยุนปฏิเสธหัวชนฝา เขาไม่มีทางยอมเสียหน้าเช่นนั้นแน่
“ปรมาจารย์หลิง แค่นั้นก็พอแล้วดีกว่า” นักปรุงยาหู่และคนอื่นๆเกลี้ยกล่อม
“งั้นเอาเช่นนี้ หากมีใครทำตามสัญญาแทนเขา ข้าจะปล่อยเขาไป!” หลิงฮันยิ้ม
เหล่านักปรุงยาของตำหนักเปาหลินมองหน้ากันและส่ายหัว ล้อเล่นรึเปล่า คนที่ต้องเสียหน้าคือเหอจิงหยุนแท้ๆ เหตุใดพวกเขาต้องไปทำแทนด้วย?
“ไปขอความช่วยเหลือเร็ว!”
พวกเขาพยายามเกลี้ยกล่อมหลิงฮันในขณะที่รอให้ตำหนักเป่าหลินส่งใครมาช่วยเหลือ
อันที่จริงหลิงฮันไม่สนใจอยู่แล้ว ต่อให้เหอจิงหยุนไม่ทำตามสัญญา แค่อีกฝ่ายโดยเขาเหยียบย่ำอยู่ที่พื้นก็เสียหน้าพอแล้ว
ผ่านไปสักพักการช่วยเหลือจากตำหนักเป่าหลินก็มาถึง
“หยุดมือ!” จอมยุทธผู้หนึ่งกล่าวขึ้น เขาไม่ใช่นักปรุงยาอย่างแน่นอน ร่างกายของเขาไม่มีกลิ่นสมุนไพรติดอยู่เลยแม้แต่น้อย ด้านหลังของเขามีดวงตะวันและจันทราเต็มดวงสองดวงปรากฏอยู่แสดงให้เห็นว่าเขาเป็นจอมยุทธระดับสุริยันจันทราขั้นกลางชั้นสูงสุด
“ก็ได้!” หลิงฮันกล่าวเหมือนจะตกลง แม้ปากจะพูดเช่นนั้นแต่เท้าเขายังไม่หยุด
“ข้าบอกให้เจ้าหยุด!” จอมยุทธผู้นี้เกรี้ยวกราดและปล่อยฝ่ามือไปยังหลิงฮัน
หลิงฮันปล่อยหมัดตอบโต้และกล่าวด้วยรอยยิ้ม “ข้าหยุดมือแล้ว แต่เจ้าไม่ได้บอกให้ข้าหยุดเท้าด้วย!”
‘ตูม!’
หมัดและฝ่ามือของทั้งสองปะทะกัน ร่างของหลิงฮันถูกกดลงพื้น พลังของเขาสามารถเทียบได้กับระดับสุริยันจันทราขั้นกลางชั้นปลาย พลังของเขายังเทียบไม่ได้กับชั้นสูงสุด แต่ด้วยกายหยาบที่แข็งแกร่งเขาจึงรับฝ่ามือเมื่อครู่ได้อย่างไร้รอยขีดข่วน
แต่อย่าลืมว่าเท้าของหลิงฮันยังเหยียบเหอจิงหยุนเอาไว้อยู่ พลังโจมตีเมื่อครู่ได้กดเท้าของหลิงฮันให้กระแทกลงพื้น ‘ตูม’ พื้นดินถูกทำลายเป็นเศษซากพร้อมกับร่างของเหอจิงหยุนที่จมลงไปในพื้นจนมองไม่เห็น
“เจ้า…” จอมยุทธผู้นั้นเกรี้ยวกราด เขาเป็นผู้คุ้มกันของตำหนักเป่าหลิง แม้พลังของเขาจะไม่ได้แข็งแกร่งที่สุด แต่เมื่อเทียบกับหลิงฮันที่มีพลังระดับสุริยันจันทราขั้นต้นแล้วเรียกได้ว่าเขาอยู่เหนือว่าหลายขุม
เพียงแต่สิ่งที่เกิดขึ้นกลับเหนือความคาดหมายของเขาอย่างสิ้นเชิง
“ฮ่าๆ พวกเจ้าอยากจะประลองปรุงยาระดับต่อไปรึไม่?” แววตาของหลิงฮันกวาดมอง ผู้ที่เพิ่งมาถึงไม่ใช่แค่ผู้คุ้มกันของตำหนักเป่าหลิง แต่ยังมีนักปรุงยาอีกหลายคนด้วย
“รุ่นเยาว์เอ๋ย เจ้าคงไม่ได้หมายถึงเจ้าเป็นนักปรุงยาระดับเจ็ดหรอกนะ?” ชายชราคนหนึ่งกล่าวขึ้น แววตาของเขาเต็มไปด้วยความรู้สึกเหลือเชื่อ
เมืองต้าหยิงนั้นเป็นเมืองใหญ่ก็จริง แต่ถ้าหากมองจากมุมของจักรวรรดิราชวงศ์เพลิงศักดิ์สิทธิ์แล้วมันเป็นเพียงเมืองเล็กๆ ขุมอำนาจที่แข็งแกร่งที่สุดในละแวกนี้ก็คือนิกายนกอมตะเมฆาที่มีจอมยุทธที่แข็งแกร่งที่สุดคือระดับสุริยันจันทราขั้นสูงสุด
เพราะงั้นแล้วนักปรุงยาระดับสูงสุดที่พำนักอยู่ในตำหนักเป่าหลินสาขานี้ก็คือนักปรุงยาระดับเจ็ด มีบ้างที่นานๆครั้งนักปรุงยาระดับแปดจะเดินทางมาปรุงเม็ดยาศักดิ์สิทธิ์ระดับแปดหากจำเป็นจริงๆ… อาณาเขตแถวนี้จอมยุทธที่แข็งแกร่งที่สุดคือระดับสุริยันจันทราขั้นสูงสุด หากหลอมเม็ดยาระดับแปดขึ้นมา พวกเขาจะขายให้กับใคร?
ชายชราผู้นี้แซ่หลี เขาเป็นหนึ่งในนักปรุงยาระดับเจ็ดที่พำนักอยู่ในตำหนักเปาหลินของเหมืองนี้ เขาเป็นนักปรุงยาระดับเจ็ดมานานถึงสองล้านปี เกรงว่าชั่วชีวิตนี้ของเขาคงไม่มีโอกาสยกระดับตนเองขึ้นเป็นนักปรุงยาระดับแปด
ด้วยความมากประสบการณ์เขาจึงหยิ่งยโส
แต่ตอนนี้กลับมีรุ่นเยาว์ที่ไหนไม่รู้ที่อายุน้อยกว่าเขาหลายเท่าพูดเป็นนัยๆว่าตนเองเป็นนักปรุงยาระดับเจ็ด แบบนี้แล้วจะไม่ให้เขารู้สึกริษยาได้อย่างไร?
หลิงฮันเค้นเสียงและกล่าว “เฒ่าชรา เจ้าใช้ชีวิตมานานนมแล้วยกระดับตนเองต่อไปไม่ได้ก็เรื่องของเจ้า แต่การมาริษยาคนอื่นเช่นนี้นับว่าไม่ใช่เรื่องดี!”
“เจ้า!” นักปรุงยาหลีแทบจะระเบิดความโกรธออกมา เขาคำราม “ไม่เพียงแค่อวดดี แต่ยังไร้ไร้สัมมาคารวะอีกด้วย”
“ไร้สัมมาคารวะ?” หลิงฮันส่ายหัว “หากเป็นนักปรุงยาระดับเจ็ดเหมือนกัน ความเคารพควรตัดสินกันที่ความสามารถ ไม่ใช่สิ่งที่เจ้าจะกำหนดเอาเอง!”
“ก็ได้ ชายชราผู้นี้จะประลองกับเจ้าเอง!” นักปรุงยาหลีคำราม เขาโกรธจนผมยาวทั่วหัวกระเซาะกระเซิง
“ตกลงตามนั้น!” หลิงฮันพยักหน้า “เจ้าอยากจะเดิมพันอะไรรึไม่?” เขากล่าวและชำเลืองมองไปยังเหอจิงหยุนใต้เท้า
นักปรุงยาหลีเค้นเสียงดูถูกและกล่าว “ถ้าเจ้าแพ้จงไสหัวออกไปจากเมืองต้าหยิงซะ!”
“ไม่มีปัญหา ถ้าเจ้าแพ้ก็เชิญเจ้าออกไปด้วย!” หลิงฮันกล่าว
“ปรมาจารย์หลี!” คนของตำหนักเปาหลินรีบเข้ามาเตือน รุ่นเยาว์ตรงหน้าพวกเขามีพรสวรรค์ราวกับสัตว์ประหลาดแถมพละกำลังก็น่าสะพรึงกลัวเกินไป หากจะเดิมพันกับเขามันค่อนค่างเสี่ยงไปหน่อย
“อะไร พวกเขาไม่เชื่อในตัวข้างั้นรึ?” นักปรุงยาหลีขุ่นเคือง เขากวาดสายตามองทุกคนด้วยสีหน้าไม่พอใจ
คนของตำหนักเป่าหลินเหงื่อตก พวกเขาเห็นการหลอมเม็ดยาของหลิงฮันมาแล้ว รุ่นเยาว์ผู้นี้ไม่สามารถตัดสินได้ด้วยรูปลักษณ์และอายุ ความสามารถด้านปรุงยาของเขาเรียกว่าลึกจนจะหยั่งถึง
“เจ้าหนู มาประลองกัน วันนี้ชายชราจะแสดงให้เจ้ารู้เองว่าขิงแก่ย่อมเผ็ดกว่า!” นักปรุงยาหลีกล่าวกับหลิงฮัน
หลิงฮันยิ้ม “เห็นแก่ว่าท่านชราภาพมากแล้วข้าจะเลือกเม็ดยาก่อนแล้วกัน เม็ดยาที่ข้าจะหลอมคือเม็ดยาชำระล้างกระดูก”
พรวด!
นักปรุงยาหลีสำลักออกมา