การขยับตัวทุกครั้งของหลินอวีฉีนั้นเย้ายวนมาก
ที่หลิงฮันประหลาดใจก็คือคำว่านายหญิงที่สาวใช้ใช้เรียกนางนั้น นางก็สมควรจะเป็นสตรีที่แต่งงานแล้ว แต่ชุดที่นางสวมใส่กลับไม่แสดงให้เห็นว่านางแต่งงานแม้แต่น้อย
แต่ถึงอย่างไรนั่นก็ไม่ใช่เรื่องของเขาอยู่ดี
รถม้าคันนี้มีขนาดใหญ่ หลินอวีฉีหันมามองเขาและยิ้ม “เชิญนายน้อยหลิงนั่งตามสบาย!”
หลิงฮันยิ้มและนั่งลง “ท่านชวนข้ามาเช่นนี้ไม่ทราบว่ามีธุระอันใด?” ตอนนี้เขากำลังจะมุ่งหน้าไปยังหุบเขาต้นกำเนิดวารีเพื่อตามหาสตรีศักดิ์สิทธิ์แห่งนกอมตะสวรรค์ เขาไม่ต้องการเสียเวลาอยู่ที่นี่
เมื่อเห็นแววตาอันเร่งรีบของเขา หลินอวีฉีก็ชะงักทันที
นางเป็นสตรีที่งดงามและยั่วยวน นางชอบความรู้สึกที่ได้ทำให้ผู้คนลุ่มหลงและและไม่เคยปฏิเสธว่าตนเองเป็นปีศาจสาวทรงเสน่ห์ ก็ใครใช้ให้นางมีรูปลักษณ์ที่งดงามเช่นนี้กันล่ะ?
แววตาที่เหมือนจะเร่งรีบออกไปจากที่ของหลิงฮันทำให้นางรู้สึกเสียหน้าอย่างมาก!
ถ้าหลิงฮันแค่ทำหน้าตาไม่สนใจนาง นางก็พอเข้าใจว่าอีกฝ่ายคงจะแกล้ทำเป็นเสแสร้ง แต่ตอนนี้ใบหน้าของหลิงฮันนั้นสงบนิ่งและจ้องมองนางด้วยแววตาที่เร่งรีบ หลินอวีฉีจึงเชื่อว่าบุรุษตรงหน้าไม่ต้องการพบเจอนางจริงๆ
แววตาไม่มีทางโกหก… ยิ่งหลินอวีฉีคุ้นชินกับบุรษมามากแล้ว อีกฝ่ายกำลังคิดอะไรอยู่นั้นนางสามารถเดาได้ง่ายมาก
ช่างน่าหงุดหงิดอะไรเช่นนี้!
“หากไม่มีธุระอะไร ข้าจะคุยกับนายน้องหลิงไม่ได้รึไง?” นางกล่าว
หลิงฮันส่ายหัวและกล่าว “ถ้าท่านไม่มีอะไรจะพูดข้าคงต้องขอตัวก่อน!”
เขายืนขึ้นและกำลังจะก้าวออกจากรถม้า
“หยุดก่อน! หยุดก่อน!” หลินอวีฉีระเบิดอารมณ์และอยู่ก็ปรากฏอยู่ด้านหน้าหลิงฮัน ความเร็วของนางนั้นรวดเร็วจนใบหน้าหลิงฮันชะงัก สตรีงดงามนางนี้ที่แท้ก็เป็นปรมาจารย์
การเคลื่อนไหวของนางเมื่อครู่เขามองเห็นได้เพียงเรือนราง ถ้าหากอีกฝ่ายต้องการโจมตีเขา เขาคงไม่มีทางรอด!
เพียงแต่ว่าด้วยการเคลื่อนไหวเมื่อครู่ ยอดเขาสองลูกของนางแทบจะถลนออกมาโดนตัวเขา หลิงฮันขมวดคิ้วและก้าวถอยกลับเข้ารถม้า
ขุมกำลังที่เขาไปล่วงเกินมีมากพอแล้ว แน่นอนว่าเขาไม่ต้องการจะล่วงเกินใครเพื่อสร้างศัตรูเพิ่มอีก
เมื่อหลินอวีฉีเห็นเช่นนั้นนางก็เผลอกระตาปริบๆด้วยท่าทางออดอ้อน ความเย้ายวนนี้เพียงพอจะทำให้นางมัดใจชายทั่วโลกได้ นางหัวเราะและกล่าวด้วยน้ำเสียงอ่อนหวาน “เจ้าก้าวถอยเพราะหวาดกลัวอะไรรึ? หรือว่าเจ้ากลัวว่าข้าจะกินเจ้า?”
เป็นอย่างที่นางว่า!
หลิงฮันพยักหน้าไปตามตรงและกล่าว “นายหญิง ท่านควรจะรักนวลสงวนตัวกว่านี้หน่อย!”
หลินอวีฉียิ้มอย่างมีเลศนัย “ฮึฮึ แล้วเจ้าอยากจะลองชิมนายหญิงคนนี้ดูไหมล่ะ?”
เจ้าเด็กน้อยตัวดี… คราวนี้ติดกับข้ารึยังล่ะ?
ตราบใดที่เจ้าแสดงท่าทีน่ารังเกียจออกมาแม้แต่นิดเดียว ข้าจะสั่งสอนเจ้าในข้อหาที่ก่อนหน้านี้ทำให้ข้าเสียหน้า
หลิงฮันยิ้มและกล่าว “นายหญิงคงจะดื่มหนักไปแล้ว ท่านไม่รู้รึไงว่าการดื่มจนเมาน่ะมันไม่ดี! เอาล่ะ ข้าไม่มีเวลามั่วเล่นกับท่านมากนัก ข้าขอลาตรงนี้แล้วกัน!”
หลินอวีฉีโอดครวญ บุรุษผู้นี้ปฏิเสธนางอีกแล้ว
“ฮืออ!” จู่ๆนางก็ล้มลงกับพื้นและร้องไห้น้ำตาคลอ
นี่เจ้าทำอะไร?
ข้ายังไม่ทันสัมผัสเจ้าแม้แต่ปลายเล็บ เหตุใดเจ้าถึงมีสภาพเช่นนั้นได้?
เลิกวุ่นวายกับข้าและปล่อยข้าไปได้แล้ว!
หลิงฮันต้องการจะยกเท้าก้าวเดินออกไป แต่หลินอวีฉีได้นั่งร้องไห้ขวางทางเขาเอาไว้ พลังของสตรีผู้นี้น่าสะพรึงกลัวมาก หลิงฮันจึงไม่รู้จะทำอย่างไหรกับนางที่ขวาทางเขาอยู่ดี
“คนอันธพาล!” หลินอวีฉีร้องไห้ ด้วยใบหน้าที่งดงามของนาง น้ำตาที่ไหลออกมาทำให้ดูยั่งยวนและน่าสงสาร ไม่ว่าชายใดก็ต้องเกิดแรงกระตุ้นอยากเข้าไปโอบปลอบนาง
หลิงฮันกัดฟัน เสน่ห์ของสตรีผู้นี้ไม่ใช่ธรรมดาเลย เราเริ่มรู้สึกหวั่นไหวบ้างแล้ว
เขารีบนึกถึงจักรพรรดินีแห่งดาราอย่างรวดเร็ว ใบหน้างดงามที่หาใครเปรียบของอีกฝ่ายทำให้จิตใจฟุ้งซ่านของหลิงฮันสงบและสตรีตรงหน้าก็ไม่สามารถทำให้เขาหวั่นไหวได้อีกต่อไป
จักรพรรดินีเรียกได้ว่าเป็นย้าต้านเสน่ห์ชั้นดีสำหรับเขา!
หลินอวีฉีโอดครวญไม่สบอารมณ์อีกครั้ง ขนาดนางงัดไม้นี้ออกมาใช้แล้ว เข้ายังไม่แสดงท่าทีหื่นกระหายออกมาอีก?
หรือข้าจะต้องถอดเสื้อผ้าให้เขาดู?
นางส่ายหัวทันที นางเพียงแค่ต้องการเล่นกับความรู้สึกของบุรุษเท่านั้น นางไม่ได้อยากจะทำเรื่องอะไรที่ทำให้ตัวนางต้องเสียหาย
“นายน้อยหลิง เชิญนั่งก่อน!” จู่ๆนางก็กล่าวขึ้นมา แล้วน้ำตาบนใบหน้าที่งดงามเมื่อครู่ล่ะหายไปไหนแล้ว?
หลิงฮันหงุดหงิดจนแทบจะบ้าคลั่ง เจ้าคิดว่าพวกเราเป็นมิตรสหายกันรึอย่างไรถึงได้เล่นอะไรแบบนี้?
แต่พลังของสตรีผู้นี้ก็ยากจะหยั่งถึง ถ้านางไม่ปล่อยเขาไปหลิงฮันก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากหอคอยทมิฬ เพียงแต่ว่าตั้งแต่เขารู้ถึงการมีอยู่ของดินแดนแห่งเซียน หลิงฮันก็เริ่มระมัดระวังตัวมากขึ้นและไม่ต้องการเปิดเผยความลับของหอคอยทมิฬให้ผู้ใดรู้
หอคอยทมิฬเป็นสิ่งที่ล้ำค่าขนาดไหน?
มันสามารถทำให้ต้นสังสารวัฏที่ต้องใช้เวลาสิบสองล้านล้านปีในการเติบโตลดเหลือเพียงสามปีเท่านั้น ถึงแม้พลังของหอคอยทมิฬจะยังไม่ฟื้นฟูเต็มที่แต่สนตอนนี้พลังของมันก็เรียกว่าท้าทายสวรรค์เกินพอแล้ว
แม้จะเป็นในดินแดนแห่งเซียน เกรงว่าหอคอยทมิฬก็คงนับว่าเป็นสมบัติล้ำค่า?
เขายังไม่ทันจะบรรลุระดับสร้างสรรพสิ่งเลย หากตัวตนจากดินแดนแห่งเซียนรู้ว่าเขาครอบครองหอคอยทมิฬล่ะก็… เขาคงหนีไม่พ้นความตาย