ความเร็วของโสมเฒ่านั้นรวดเร็วมาก แต่เจ้ากระต่ายเองก็รวดเร็วเหมือนกัน ยิ่งมันไล่ตามโสมเฒ่ามากเท่าไหร่ กรงเล็บของมันก็ยิ่งใกล้ถึงตัวโสมเฒ่ามากขึ้นเท่านั้น
“ข้าตายแน่!” โสมเฒ่ากรีดร้องและรีบเร่งความเร็ว แต่ก็ยังไม่สามารถสลัดเจ้ากระต่ายหลุด
เมื่อมันเห็นหลิงฮันอยู่ตรงหน้า มันก็รีบวิ่งไปหาหลิงฮันด้วยสีหน้ามีความสุข
พรึบ เงาสีขาววิ่งผ่าน และเมื่อมันเห็นหลิงฮัน มันก็รู้สึกตกตะลึงและพูดว่า “เจ้าหนู รีบช่วยข้าจับโสมแก่นี่ซะ แล้วข้าจะแบ่งส่วนเล็กๆส่วนหนึ่งให้เจ้า!”
หลิงฮันหัวเราะและพูดว่า “เจ้าเป็นของข้าอยู่แล้ว ทำไมข้าจะต้องขอส่วนแบ่งจากเจ้าด้วย?”
เขาปล่อยฝ่ามือออกไปเพื่อหยุดการเคลื่อนที่ของเจ้ากระต่าย
“เจ้าหนู อย่าเข้ามาขัดขวางข้า!” เจ้ากระต่ายกรีดร้องและเร่งความเร็วราวกับสายฟ้าเพื่อหลบฝ่ามือของหลิงฮันและวิ่งไล่ตามโสมเฒ่าต่อ
หืม? เจ้ากระต่ายนี่ทะลวงผ่านระดับสุริยันจันทราแล้ว?
หลิงฮันประหลาดใจ ความเร็วของมันน่าทึ่งมาก เขาจับตามองไม่ทันเลย!
ถึงจะคิดเช่นนั้น แต่เขาก็เคลื่อนไหวอีกครั้ง แล้วใช้ปราณดาบเพื่อหยุดยั้งการเคลื่อนไหวของเจ้ากระต่าย ด้วยทักษะอัสนีคำรามที่รวดเร็วและทรงพลัง หากคู่ต่อสู้เป็นระดับสุริยันจันทราเหมือนกันก็แทบจะหลบหลีกไม่พ้นและไม่สามารถต้านทานได้
“เจ้าหนู ถ้าเจ้าสังหารเจ้ากระต่ายตัวนี้ให้ข้า ข้าจะตบรางวัลให้เจ้าอย่างงาม!” โสมเฒ่าหยิบชุดชั้นในสีชมพูออกมาที่ไม่รู้ว่ามันเอามาจากไหนและยื่นให้กับหลิงฮัน
สีหน้าของหลิงฮันกลายเป็นบูดบึ้ง ชุดชั้นในสีชมพูที่มันหยิบออกมา เขาไม่ต้องเดาก็รู้ว่ามันเอามาจากที่ไหน
“ฮ่าฮ่าฮ่า!” เจ้ากระต่ายระเบิดเสียงหัวเราะออกมาอย่างกะทันหัน และนอนขำกลิ้งอยู่บนพื้น
“ขำอะไรของเจ้า?” โสมเฒ่ากล่าว “เจ้าหนู นี่เจ้ารู้จักเจ้ากระต่ายโง่ตัวนี้ด้วยอย่างนั้นรึ?”
“เจ้าหัวไชเท้า เจ้าเรียกข้าว่าอะไรนะ?” เจ้ากระต่ายลุกขึ้นมาอย่างกะทันหันและจ้องมองด้วยตาแดงก่ำ
หลิงฮันถอนหายใจ ทำไมรอบตัวเขาถึงมีแต่ตัวประหลาด? เขายื่นมือออกไปและพูดว่า “เจ้ากระต่าย ทำไมเจ้าถึงมาอยู่ที่นี่ได้?” มันควรจะอยู่ที่จักรวรรดิต้าหลิง
“เมื่อข้ามาถึงดินแดนศักดิ์สิทธิ์ ข้าก็วิ่งไปทั่วทุกที่ แต่โชคร้ายข้าเผลอเข้าไปในรูปแบบอาคมโบราณและโผล่ออกมาที่นี่” เจ้ากระต่ายถอนหายใจ “อย่างไรก็ตาม ข้าก็ได้พบเม็ดยาศักดิ์สิทธิ์บางอย่างเข้า หลังจากที่กินมันเข้าไปมันก็ทำให้ระดับพลังของข้ากลายเป็นระดับสุริยันจันทรา”
ทำไมมันถึงโชคดีขนาดนี้?
หลิงฮันส่ายหัว ทั้งที่เขาฝึกฝนอย่างหนักถึงจะทะลวงผ่านระดับสุริยันจันทราได้ ความก้าวหน้าของเขาถือว่าน่าอัศจรรย์ แต่เขาก็ไม่สามารถทนต่อความโชคดีของเจ้ากระต่ายนี่ได้ เจอเม็ดยาศักดิ์สิทธิ์และกินมันเข้าไปก็ทะลวงผ่านระดับสุริยันจันทราแล้ว?
อย่างไรก็ตาม ถ้าระดับบ่มเพาะพลังเพิ่มขึ้นโดยผลของเม็ดยา รากฐานพลังจะไม่มั่นคงและเป็นไปไม่ได้ที่จะปลดปล่อยพลังออกมาได้เต็มที่
“เจ้ากระต่ายโง่ จงคุกเข่าต่อหน้าข้าซะเพื่อเป็นการขอโทษที่ไล่ตามข้ามาตลอดทาง!” โสมเฒ่ากล่าว
“เจ้าหัวไชเท้าเฒ่ามาที่ชามข้าวของข้าซะดีๆ!” แน่นอนว่าเจ้ากระต่ายจะไม่แสดงความอ่อนแอ
“หยุด!” หลิงฮันยื่นมือออกไปและหยุดเจ้ากระต่าย “เจ้ากระต่าย รูปแบบอาคมโบราณที่เจ้าว่ามันอยู่ที่ไหน?”
เขาไม่คิดเลยว่าดาวเหอหนิงจะมีรูปแบบอาคมเคลื่อนย้ายเชื่อมต่อกับที่นี่ ดังนั้นตอนที่เขาจะเดินทางกลับก็จะสะดวกมาขึ้นและไม่ต้องเสียเวลาเดินทางสองปี
“เจ้าหนู ทำไมข้าจะต้องบอกเจ้าด้วย” เจ้ากระต่ายส่ายหัวและพูดด้วยสีหน้าจริงจังว่า “รูปแบบอาคมโบราณนั้นมีความซับซ้อนมาก มันจะต้องมีพิกัดที่สอดคล้องกันเพื่อไปยังอีกสถานที่หนึ่ง เจ้ารู้หรือไงว่าดาวเหอหนิงอยู่ที่ไหน หากเจ้าไม่รู้ก็มีแต่ส่งตัวเองไปที่ไหนก็ไม่รู้”
หลังจากที่ได้ยินหลิงฮันรู้สึกแปลกและพูดว่า “ถ้างั้นการที่เจ้ามาที่นี่ได้ นั่นหมายความว่าเจ้ารู้พิกัดใช่หรือไม่?” ถ้าไม่ใช่มันจะเคลื่อนย้ายจากดาวเหอหนิงมาที่ดาวหยุนติงได้อย่างไร? และมันน่าจะเดินทางกลับตามทางเดิม
แววตาของเจ้ากระต่ายเปลี่ยนไป ตอนแรกที่มันพูดออกมา มันยังไม่ทันคิดให้รอบคอบ ดังนั้นตอนนี้มันจึงพูดส่งๆไปเพราะไม่ต้องการให้หลิงฮันรู้
“หึ่ม รูปแบบอาคมเคลื่อนย้ายนั่นเก่าแก่เกินไป หลังจากที่ข้าเดินทางมาที่นี่มันก็หายไปแล้ว” มันส่ายหน้าและทำสีหน้าโศกเศร้า
หลิงฮันถอนหายใจ ดูเหมือนว่าตอนเดินทางกลับเขาจะต้องพึ่งพาพาหนะแหวกเมฆาเหมือนเดิม โชคดีที่เดินทางแค่สองปี ซึ่งเขาสามารถฝึกฝนอยู่ในหอคอยทมิฬได้อย่างไม่เสียเวลาเปล่า
“จะว่าไปแล้วดูเหมือนเจ้าจะคุ้นเคยกับที่นี่มาก?” หลิงฮันไม่พูดถึงรูปแบบอาคมเคลื่อนย้ายอีกต่อไปและเปลี่ยนหัวข้อสนทนา
“นั่นเป็นเพราะ!” เจ้ากระต่ายกล่าวด้วยท่าทางภาคภูมิใจ “ข้ากินเม็ดยาศักดิ์สิทธิ์เข้าไป ทำให้พลังของเขาพัฒนาอย่างก้าวกระโดด ดังนั้นที่นี่จึงเป็นสถานที่ที่ดีที่สุดสำหรับการต่อสู้”
นอกจากนั้นดาวหยุนติงยังเป็นสถานที่ที่เผ่ามนุษย์และสัตว์อสูรสามารถอาศัยอยู่ร่วมกันได้เพราะมีศัตรูร่วมกัน กลับกันหากที่นี่เป็นดาวเหอหนิง เจ้ากระต่ายคงถูกฆ่าไปทำอาหารไปแล้ว
ทว่าแววตาของโสมเฒ่ากลับเปล่งประกาย มันพูดกระซิบอยู่ข้างหูหลิงฮันว่า “เจ้าหนู สังหารเจ้ากระต่ายตัวนี้ซะ มันบอกว่ามีพลังของเม็ดยาศักดิ์สิทธิ์อยู่ในร่างกาย ถ้าพวกเรากินมัน มันก็จะทำให้พวกเราก้าวหน้าอย่างก้าวกระโดด!”
“เจ้าหัวไชเท้า นี่้เจ้ากำลังซุบซิบอะไรอยู่?” เจ้ากระต่ายหูดีมาก มันกลายเป็นตื่นตัวและพูดว่า “ข้าต่างหากที่จะเป็นฝ่ายกินเจ้า!”
“หึ่ม กระต่ายโง่อย่างเจ้าน่ะรึจะกินข้า มันยังเร็วไปล้านปี!” โสมเฒ่าใช้หลิงฮันเป็นเกราะกำบังและรีบหลบไปอยู่ด้านข้าง
เจ้ากระต่ายวิ่งไล่โสมเฒ่าอยู่รอบตัวหลิงฮันเป็นวงกลม และซักพักมันก็เริ่มทำให้หงุดหงิด
ตุบ! ตุบ!
หลิงฮันยื่นมืออกไปคว้าตัวโสมเฒ่าและเจ้ากระต่ายพร้อมกัน แล้วพูดว่า “พวกเจ้าเชื่อหรือไม่ว่าข้าสามารถทำเนื้อกระต่ายตุ๋นและโสมตุ๋นได้พร้อมกัน?”
เจ้ากระต่ายและโสมเฒ่าพากันตัวสั่น เมื่อนึงถึงฮูหนิวที่อยู่ข้างกายเด็กคนนี้
หลิงฮันโยนโสมเฒ่าและเจ้ากระต่ายลงกับพื้น จากนั้นเขาก็พูดว่า “เจ้ากระต่าย ในเมื่อเจ้าอยู่ที่นี่มาสองปี เจ้ารู้อะไรบ้าง?”
เจ้ากระต่ายหันไปมองโสมเฒ่าและอดที่จะกลืนน้ำลายไม่ได้ จากนั้นมันก็พูดว่า “สนามรบสองดินแดนมีพลังปราณที่เบาบางมาก มันเป็นสถานที่ที่เลวร้ายที่สุดสำหรับจอมยุทธ ทว่าเนื่องจากที่นี่คือสถานที่ที่ทั้งสองดินแดนเชื่อมต่อกัน จึงทำให้อำนาจแห่งกฎเกณฑ์ห้ำหั่นซึ่งกันและกัน แล้วกลายเป็นก้อนพลัง”
“โอ้ว?” หลิงฮันรู้สึกแปลกใจ อำนาจแห่งกฎเกณฑ์นั้นไม่สามารถมองเห็นและสัมผัสได้ ดังนั้นจึงเป็นเรื่องยากที่จะทำความเข้าใจมัน แต่การห้ำหั่นซึ่งกันและกันทำให้มันกลายเป็นพลังงาน?”
“มันเรียกว่าศิลาวิญญาณปฐพีที่ทำให้เจ้าสามารถยกระดับความเข้าใจอำนาจแห่งกฎเกณฑ์ได้!” เจ้ากระต่ายกล่าว “ข้าเคยได้รับมันมาก้อนหนึ่ง หลังจากที่ดูดซับพลัง มันก็ได้สร้างความก้าวหน้าในวิถีแห่งเต๋าให้ครั้งอย่างมาก”
“ฮ่าฮ่าฮ่า และว่ากันว่าบางครั้งก็มีจอมยุทธระดับสร้างสรรพสิ่งมาที่สนามรบสองดินแดนเพื่อตามหาศิลาวิญญาณปฐพี แต่มันเป็นอะไรที่หาได้ยากมาก และยิ่งเจ้ามีระดับพลังสูงเท่าไหร่ เจ้าก็จะยิ่งต้องใช้ศิลาวิญญาณปฐพีมากขึ้นเท่านั้น”
หลังจากที่ได้ยิน หลิงฮันไม่รู้สึกแปลกใจว่าทำไมจักรวรรดิราชวงศ์ทั้งสองแห่งถึงกระตือรืนร้นที่จะต่อกรกับดินแดนใต้พิภพหรือเหตุผลว่าทำไมสิ่งมีชีวิตของทั้งสองดินแดนต่อสู้กันทุกคน นั่นเพราะเป็นทุกคนต่างต้องการศิลาวิญญาณปฐพีที่อยู่ที่นี่!