“ศิลาวิญญาณปฐพีอยู่ที่ไหน?” หลิงฮันถาม
“เจ้าไม่น่าถาม มันแน่นอนอยู่แล้วว่าจะต้องอยู่ในสถานที่ที่ได้รับผลกระทบจากอำนาจแห่งกฎเกณฑ์ของทั้งสองโลกห่ำหั่นกันมากที่สุด” เจ้ากระต่ายกล่าว
“นั่นหมายความว่าห่างออกไปหนึ่งหมื่นไมล์ตรงหน้า” หลิงฮันกล่าว ถ้าไปไกลกว่านั้นมันก็จะเป็นดินแดนใต้พิภพ ในเมื่อที่นี่คือฐานที่มั่นของดินแดนศักดิ์สิทธิ์ อีกฝั่งหนึ่งก็น่าจะเป็นฐานที่มั่นของดินแดนใต้พิภพ
ยิ่งพวกเขาอยู่ในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบมากเท่าไหร่ ก็จะมีสิ่งมีชีวิตจากทั้งสองดินแดนแย่งศิลาวิญญาณปฐพีมากขึ้นเท่านั้น
ท้ายที่สุดนี่เป็นสงครามบุกโจมตี หรือสงครามป้องกันด้วยเองกันแน่ หรือมันเป็นแค่การใช้ประโยชน์จากสงคราม?
หลิงฮันส่ายหัว เขาขี้เกียจคิดมากเกินไป ในเมื่อเขามีต้นสังสารวัฎอยู่แล้ว เขาเลยไม่ต้องการศิลาวิญญาณปฐพีเท่าไหร่นัก ยิ่งไปกว่านั้นเป้าหมายการเดินทางของเขาครั้งนี้คือก็เพื่อตามหาสตรีศักดิ์สิทธิ์แห่งวิหคอมตะเท่านั้น
เขายังคงรอให้กองกำลังจันทราม่วงเคลื่อนไหว หลังจากที่โสมเฒ่าและเจ้ากระต่ายทะเลาะกันเสร็จ พวกมันก็กอดคออย่างสนิทสนมราวกับเป็นเพื่อนซี้
จากนั้นเจ้ากระต่ายและโสมเฒ่าก็บอกเขาว่าจะไปตามหาศิลาวิญญาณปฐพีด้วยกัน แล้วทั้งสองคนก็รีบวิ่งจากไปทันที แต่หลิงฮันก็ไม่ได้สนใจ
ระหว่างรอ เขาหยุดฝึกฝนวรยุทธและปรุงยาเอาไว้ก่อน ก่อนหน้านี้เขาได้รับสูตรหลอมเม็ดยาโบราณมาหลายสูตร แม้ว่าเขาจะกลายเป็นนักปรุงยาระดับแปดแล้ว แต่จำนวนสูตรปรุงยาที่เขาครอบครองอยู่นั้นยังถือว่าน้อยมาก แล้วเขาจะคู่ควรกับชื่อจักรพรรดินักปรุงยาได้อย่างไร?
เขาปล่อยจักรพรรดิจอมอสูรออกมาด้านนอก ส่วนหลิงฮันก็เข้าไปในหอคอยทมิฬ ถ้ากองกำลังจันทราม่วงมีการเคลื่อนไหวอะไร จักรพรรดิจอมอสูรก็จะส่งเสียงเรียกเขา
ปัง!
หลิงฮันเพิ่งจะมาถึงต้นสังสารวัฎ เขาก็รู้สึกได้ถึงแรงสั่นสะเทือนที่รุนแรงอยู่ใกล้ๆเลยรีบออกจากหอคอยทมิฬทันที แต่สิ่งที่เขาเห็นคือจักรพรรดิจอมอสูรกำลังต่อสู้กับกลุ่มคนอยู่
คนกลุ่มนี้มีแค่สามคนที่เป็นจอมยุทธระดับสุริยันจันทรา ส่วนคนที่เหลือเป็นแค่จอมยุทธระดับภูผาวารี อย่างไรก็ตามหุ่นเชิดที่จักรพรรดิจอมอสูรสิงอยู่นั้นก็ได้รับความเสียหายหนักมาก พลังของมันจึงลดเหลือแค่ระดับภูผาวารีเท่านั้น
ถ้าไม่ใช่เพราะหุ่นเชิดตัวนี้เป็นหุ่นเชิดระดับสุริยันจันทรา ภายใต้การถูกลุมโจมตี จักรพรรดิจอมอสูรคนจะตายไปนานแล้ว
หลิงฮันไม่พอใจ เขารีบกระโจนออกไปและพูดว่า “หยุด!”
“นายท่าน!” จักรพรรดิจอมอสูรกรีดร้อง และรีบหลบไปอยู่ด้านข้างหลิงฮันทันที การปรากฏตัวของหลิงฮันเป็นเหมือนพระเจ้าที่เข้ามาช่วยชีวิตของมัน ทำให้มันรู้สึกตื่นเต้นจนอยากจะร้องไห้ออกมา
ทว่าคนกลุ่มนั้นก็ยังคงไม่หยุดมือและแอบแสยะยิ้ม คนผู้หนึ่งเดินออกมาและพูดว่า “เจ้าคนชั่วช้า เจ้ากล้าดีอย่างไรที่สมรู้ร่วมคิดกับปีศาจจากดินแดนใต้พิภพ!”
หรือว่าคนพวกนี้ค้นพบตัวตนที่แท้จริงของจักรพรรดิจอมอสูรแล้ว?
หลิงฮันต่อยหมัดออกไปและบังคับให้คนที่พูดถอยหลัง “หุ่นเชิดตัวนี้คือข้ารับใช้ของข้า แล้วมันจะเกี่ยวข้องกับดินแดนใต้พิภพได้อย่างไร?”
จักรพรรดิจอมอสูรหลบอยู่ด้านหลังหลิงฮันและพูดว่า “นายท่าน คำสั่งที่นายท่านมอบหมายให้ข้าจับตาดูการเคลื่อนไหวของกองกำลังจันทราม่วง ข้าเลยออกจากหุ่นเชิดตัวนี้ ด้วยเหตุนี้ทำให้ข้าถูกคนพวกนี้เห็น พวกมันเลยแห่กันเข้ามาสังหารข้า”
ก่อนหน้านี้มันกลายเป็นหมอกดำ ถึงจะบินบนดินแดนศักดิ์สิทธิ์ แต่ก็สามารถยืดร่างกายเพื่อสังเกตการณ์จากที่สูงได้ แต่มันกลับกลายเป็นว่าเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำ
หลิงฮันพยักหน้า เรื่องที่เกิดขึ้นมันไม่ใช่ความผิดของจักรพรรดิจอมอสูร มันแค่ต้องการทำตามคำสั่งของเขาให้สำเร็จลุล่วง
“เจ้าหนู หากเจ้าไม่หลบจะถือว่าเจ้าเป็นคนทรยศของดินแดนศักดิ์สิทธิ์และจะต้องถูกประหาร!” อีกฝ่ายพูดข่มขู่
“หยุดพูดเหลวไหลกับมันได้แล้ว บางทีเจ้าเด็กนี่อาจเป็นจอมยุทธจากดินแดนใต้พิภพที่ปลอมตัวมาก็ได้ รีบสังหารเจ้าเด็กนี่ซะ!”
“บางทีเจ้าเด็กนี่อาจเป็นลูกหลานของตระกูลใหญ่ก็เป็นได้และน่าจะมีสมบัติติดตัวมากมาย!”
คนเหล่านั้นเริ่มแสดงสีหน้าโลภมากออกมาให้เห็น
หลิงฮันกล่าว “พวกเจ้าคงเป็นโจรปล้นคนอื่นที่ชอบปล้นคนที่อยู่คนเดียว”
“ฮึ่ม!” คนเหล่านั้นแสยะยิ้ม “ในเมื่อเจ้าคิดแบบนั้น เช่นนั้นก็ตายซะ!”
ถึงหลิงฮันจะเป็นจอมยุทธระดับสุริยันจันทรา แต่เขาก็อยู่แค่ระดับสุริยันจันทราขั้นต้นชั้นกลางเท่านั้นและตัวคนเดียว ขณะที่อีกฝ่ายมีจอมยุทธระดับสุริยันจันทราสามคน
แววตาของหลิงฮันเผยให้เห็นถึงจิตสังหาร ในเมื่อหลีกเลี่ยงการต่อสู้ไม่ได้ เช่นนั้นเขาก็จะสังหารพวกมันให้มัน
“ลุมมันเลย!”
คนกลุ่มนี้ไม่สนการต่อสู้ตัวต่อตัว และจอมยุทธมากกว่าสิบคนก็กระโจนเข้าหาหลิงฮันและจักรพรรดิจอมอสูรพร้อมกัน
สีหน้าของหลิงฮันดูมืดมนและเขาก็พูดว่า “ถ้าพวกเจ้าไปต่อสู้กับจอมยุทธจากดินแดนใต้พิภพที่อยู่ตรงหน้า และไม่รอดักซุ่มโจมตีคนที่อยู่ที่นี่ พวกเจ้าคงไม่มีจุดจบเช่นนี้!” หลิงฮันตวัดนิ้วและหัวของโจรผู้หนึ่งก็หลุดออกจากบ่าทันทีและดวงวิญญาณของมันก็ถูกฉีกเป็นชิ้นๆ จากนั้นร่างกายของมันก็ดิ้นไปมาอยู่ซักพักก่อนที่จะแน่นิ่งอย่างสมบูรณ์
“เจ้ากล้า!” กลุ่มโจรต่างแสดงความโกรธเกรี้ยว ถึงจอมยุทธระดับภูผาวารีคนหนึ่งจะถูกสังหารได้อย่างง่ายดาย แต่พวกมันก็ยังไร้ความหวาดกลัวและโจมตีหลิงฮันต่อ
ตู้ม!
หลิงฮันปล่อยฝ่ามือออกไปและหัวของโจรอีกคนหนึ่งก็ลอยขึ้นไปในอากาศและร่างของมันก็แน่นิ่งหายไปพร้อมกับดวงวิญญาณ
ถ้าต้องการสังหารจอมยุทธขอบเขตพระเจ้าจะต้องบดขยี้ดวงวิญญาณของอีกฝ่าย มิฉะนั้นวิญญาณของมันอาจหลุดรอดไปได้ และถ้ามันได้กายหยาบใหม่ก็อาจทำให้มันแข็งแกร่งขึ้น
ตู้ม! ตู้ม! ตู้ม! ตู้ม! ตู้ม! หัวของกลุ่มโจรระเบิดออกจากบ่าทีละคน ทั้งที่ก่อนหน้านี้พวกมันมีกันหลายสิบคน แต่ตอนนี้เหลือแค่จอมยุทธระดับสุริยันจันทราสามคนเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม ทั้งสามคนที่เหลือรอดอยู่ก็รู้สึกหวาดหวั่นด้วยความโกรธ เด็กหนุ่มที่อยู่ตรงหน้าเป็นเหมือเทพสังหาร เพียงแค่หนึ่งฝ่ามือก็สามารถสังหารหนึ่งในพรรคพวกของพวกเขาได้อย่างง่ายดาย ความแข็งแกร่งดังกล่าวทำให้พวกมันหวาดกลัว
แข็งแกร่งมาก
“บัดซบ!” หนึ่งในสามโจรตะโกน “น้องสอง น้องสาม อย่าลังเลที่จะใช้ยันต์อาคมของพวกเจ้า มิฉะนั้นพวกเราจะไม่มีวันรอดออกจากที่นี่” จากนั้นเขาก็นำยันต์อาคมใบหนึ่งแปะที่หน้าอก
ทันใดนั้นแสงสีแดงก็ระเบิดออกมาจากร่างกายของเขากลายเป็นเปลวเพลิงที่ไม่รู้จบ และทำให้กลิ่นอายของเขาแข็งแกร่งขึ้นหลายเท่า
สองคนที่เหลือรีบนำยันต์อาคมออกมาและแปะบนร่างกาย
พวกมันทั้งสามคนฝึกฝนทักษะเดียวกันและใช้ยันต์อาคมแบบเดียวกัน แสงสีแดงอันร้อนแรงระเบิดออกมาจากร่างและทำให้พลังของพวกมันทะยานสูงขึ้นไปอยู่ที่ระดับสุริยันจันทราขั้นกลาง
“ตาย!” ทั้งสามคนผสานการโจมตีเพื่อที่จะฆ่าหลิงฮัน
หลิงฮันรู้สึกประหลาดใจ ยันต์อาคมประเภทเสริมพลังต่อสู้นั้นล้ำค่ามาก แต่โจรสามคนกลับมีไว้ครอบครอง – หรือว่ามันจะแลกมาจากแต้มสังหาร?
ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมที่นี่ถึงมีจอมยุทธจำนวนมาก เพราะในสนามรบก็เปรียบเสมือนขุมทรัพย์ ตราบใดที่พวกเขาสามารถสะสมแต้มสังหารได้มากพอ ก็สามารถแลกเปลี่ยนเป็นสมบัติได้ทั้งหมด
แต่น่าเสียดายที่ยันต์อาคมเสริมพลังต่อสู้กลับถูกใช้โดยโจรสามคนนี้ ช่างเป็นอะไรที่น่าเสียดายจริงๆ
หลิงฮันโคจรพลังอำนาจสวรรค์ และทั้งสามคนก็คุกเข่าลงกับพื้นอย่างไร้พลัง
พวกมันแค่พึ่งพาพลังของยันต์อาคมเพื่อยกระดับพลังต่อสู้ แต่ความแข็งแกร่งของจิตวิญญาณของพวกมันไม่ได้เปลี่ยนแปลงเลยแม้แต่น้อย แล้วพวกมันจะต่อต้านอำนาจสวรรค์ของหลิงฮันได้อย่างไร?