“อย่าสังหารข้า!!”
ทั้งสามคนหวาดกลัวและโอดครวญร้องไห้น้ำตาไหล เมื่อต้องเผชิญหน้ากับช่วงความเป็นความตาย พวกเขาแต่ละคนได้แสดงนิสัยสันดานที่แท้จริงของแต่ละคนออกมา พวกเขาไม่สนใจชีวิตของสหายอีกต่อไป
“พวกเจ้ามีค่าอะไรที่จะปล่อยให้มีชีวิตต่อไป?” หลิงฮันกล่าว
“นายท่าน ให้จักรพรรดิน้อยจัดการเอง!” จักรพรรดิจอมอสูรเค้นเสียงฮึดฮัด ก่อนหน้านี้มันถูกทั้งสามคนนี้รุมโจมตี เป็นธรรมดาที่เมื่อมีโอกาสมันจึงต้องการแก้แค้นเอาคืน
มันเป็นสิ่งมีชีวิตใต้พิภพที่ชั่วร้าย การสังหารมนุษย์ไม่ได้ทำให้มันรู้สึกผิดหรือสงสารแม้แต่น้อย
“ไม่! ไม่!” ทั้งสามคนร้องโอดครวญ
“ยกโทษให้ข้าด้วย ข้ามีแผนที่เก่าแก่ที่จะนำทางไปสู่ตำแหน่งที่ตั้งของสมบัติโบราณ!” ชายคนหนึ่งกล่าว
“ว่าไงนะ!” อีกสองคนอุทานออกมา
“ไหนเจ้าบอกว่าทำแผนที่ที่ว่าหายไปแล้วไง?”
“ที่แท้เจ้าก็ตั้งใจเก็บมันเอาไว้คนเดียว!”
ทั้งสองคนสถบด่าอย่างเกรี้ยวกราด
จักรพรรดิจอมอสูรมองไปยังหลิงฮันและรู้ว่าหลิงฮันสนใจแผนที่สมบัติที่ว่า มันทำขรึมและเค้นเสียงกล่าว “แผนที่สมบัติอันใด จงมอบมันมาเดี๋ยวนี้!”
“หากข้ามอบให้เจ้าต้องไว้ชีวิตข้านะ?” ชายคนนั้นเอ่ยถาม
ตูม!
จักรพรรดิจอมอสูรปล่อยหมัดใส่ชายคนนั้นและกล่าวข่มขู่ “เจ้ามีสิทธิ์ต่อรองงั้นรึ?”
ชายคนนั้นหวาดกลัวจนใบหน้าเปลี่ยนเป็นสีเขียว เขารีบกล่าวออกมา “อย่าสังหารข้า! ข้าจะพาเจ้าไปยังที่ซ่อนแผนที่เอง”
“เจ้าไม่ได้เก็บไว้กับตัว?” จักรพรรดิจอมอสูรถาม
“ไม่!” ชายคนนั้นรีบส่ายหัว ถึงแม้พวกเขาทั้งสามคนจะเป็นสหายกันแต่ก็ไม่มีใครเชื่อใจกันและกัน เช่นนั้นแล้วเขาจะเสี่ยงเก็บแผนที่สมบัติไว้ในอุปกรณ์มิติได้อย่างไร?
หากมีโอกาสพวกเขาก็อาจจะปล้อนกันเองได้ ดังนั้นสมบัติล้ำค่าจึงไม่อาจเก็บไว้กับตัวเดินไปไหนมาไหน
จักรพรรดิจอมอสูรมองไปยังหลิงฮันและเห็นท่าทีของหลิงฮันยังคงแน่นิ่งเช่นเดิม มันตัดสินใจสังหารชายสองคนที่ไร้ประโยชน์ด้วยการปล่อยหมัดระเบิดหัว ชายที่เหลืออยู่หวาดกลัวจนฉี่แตกออกมา
ถึงแม้พวกเขาทั้งสามคนจะเคยสังหารคนมามากมาย แต่เมื่อเห็นพวกตัวเองโดนระเบิดหัวเช่นนี้ เขาก็อดรู้สึกเข่าอ่อนไม่ได้
จักรพรรดิจอมอสูรให้นักล่าที่เหลืออยู่นำทางโดยที่หลิงฮันเดินตามหลังมา นักล่าได้พาพวกเขาไปยังหุบเขาเล็กๆแห่งหนึ่ง เมื่อเขาขยับโขดหินออก ด้านล่างโขดหินก็มีแหวนมิติวงหนึ่งซ่อนเอาไว้บริเวณรอยร้าวของใต้โขดหิน
ถ้าไม่ใช่เพราะนักล่าเป็นคนบอกที่ซ่อน คงแทบจะเป็นไปไม่ได้ที่จะมีคนหาแหวนมิติวงนี้พบ
จักรพรรดิจอมอสูรหยิบแหวนมิติไปมอบให้หลิงฮันด้วยท่าทีประจบสอพลอ
หลิงฮันรับแหวนมาและใช้สัมผัสสวรรค์ตรวจสอบ ด้านในมีของอยู่เล็กน้อยอย่างเช่นผลึกก่อเกิด ทักษะบ่มเพาะ แร่โลหะรวมถึงแผนที่
เขานำแผนที่ออกมาจากแหวนและกล่าว “แผนที่นี้มีที่มายังไง?”
“ข้าเองก็ไม่รู้ ข้าเพียงเจอมันตอนที่ปล้นคนกลุ่มหนึ่ง” นักล่ากล่าว “ทีนี้จะช่วยปล่อยข้าไปได้รึยัง?”
“ปล่อยตัวน้องสาวเจ้าน่ะสิ!” จักรพรรดิจอมอสูรปล่อยหมัดสังหารนักล่าทันที
หลิงฮันไม่มีความสารแม้แต่น้อย เพราะอย่างไรจุดประสงค์ของคนพวกนี้คือการปล้นฆ่า การกระทำที่น่ารังเกียจของพวกเขาไม่น่าเห็นใจแม้แต่น้อย
“ที่นี่… คือที่ไหน?” หลิงฮันมองดูแผนที่ บริเวณจุดกึ่งกลางของแผนที่ถูกวงกลมไว้ด้วยหมึกสีแดง มันสมควรเป็นที่ที่มีสมบัติอยู่ เพียงแต่ว่าภูมิประเทศบริเวณรอบๆจุดที่ถูกวงไว้นั้นเขาไม่คุ้นแม้แต่น้อย
“เมื่อพูดถึงสมบัติแล้ว ข้ายังมีภารกิจต้องตามหาตำแหน่งเขตแดนลี้ลับสิบสองสวรรค์อีก”
หลิงฮันนึกถึงเหตุการณ์เมื่อตอนอยู่บนโลกใบเล็ก เขตแดนลี้ลับสิบสองสวรรค์ถูกสร้างขึ้นโดยปรมาจารย์สิบสองคนที่คอยรับใช้ราชันวารีสวรรค์ ตราบใดที่เขาหาที่ตั้งของสิบสองเขตแดนลี้ลับสวรรค์เจอ เขาจะได้รู้ตำแหน่งที่ซ่อนสมบัติสืบทอดที่แท้จริงของราชันวารีสวรรค์
ก่อนหน้านี้หลิงฮันอาศัยอยู่ที่ดาวเหอหนิงมาตลอด ดังนั้นจึงเป็นไปไม่ได้เลยที่เขาจะหาตำแหน่งเขตแดนพบ แต่ตอนนี้เขาออกเดินทางมายังดาวหยุนติ่ง บางทีเขาอาจจะลองเดินทางตามหาดู
“ว่าแต่ว่าแต่ว่าใครคือราชันวารีสวรรค์กัน?”
“ทักษะศักดิ์สิทธิ์ที่ข้าได้รับจากเขตแดนลี้ลับบนโลกใบเล็กนั้น ไม่ว่าจะเป็นทักษะกายาเก้ามังกรทรราชหรือทักษะศรฆ่ามังกรทะลวงดาราก็ล้วนแต่เป็นทักษะศักดิ์สิทธิ์ระดับสูง ด้วยวิสัยทัศน์ของข้าในตอนนี้ราชันวารีสวรรค์สมควรเป็นตัวตนระดับวารีนิรันดร์เป็นอย่างน้อย”
“จริงสิ จำได้ว่าข้าได้รับไข่มาจากเขตแดนลี้ลับด้วย”
หลิงฮันครุ่นคิดและนำไข่ออกมาทันที
ไข่ใบนี้เป็นสิ่งที่เขาได้รับมาจากขตแดนลี้ลับสิบสองสวรรค์ เขาเก็บมันเอาไว้ในหอคอยทมิฬตลอดตั้งแต่ได้รับมา และเพราะว่าไข่ไม่เกิดการเปลี่ยนแปลงอะไรเสียทีเขาจึงลืมมันไปสนิท
“ไข่ใบนี้มีพลังงานชีวิต มันยังสามารถฟักได้อยู่”
“แต่ต้องรออีกนานเท่าใด?”
“นี่คือไข่ที่เป็นทายาทของอีแร้งเพลิงสีคราม โดยปรกติแล้วมันไม่สมควรใช้เวลาฟักนานขนาดนี้ หรือจะเป็นเพราะหอคอยทมิฬ? มิติภายในหอคอยทมิฬสามารถนำสิ่งมีชีวิตเข้าไปอยู่ได้ก็จริง แต่ภายในนั้นไม่มีอำนาจแห่งกฎเกณฑ์ใดๆ มันไม่ใช่โลกที่แท้จริง”
“ไข่ใบนี้เป็นไข่ของอีแร้งเพลิงสีคราม… แต่หากฟักออกมาแล้วมันจะยังเป็นอีแร้งเพลิงสีครามอยู่รึเปล่า?”
“หรือข้าควรจะกินไปเลยดีนะ?”
ความคิดนี้แวบผ่านเข้ามาในหัวหลิงฮัน แต่สุดท้ายเขาก็เลือกจะเก็บไข่เอาไว้แบบนี้ บางทีถ้าเขานำมันออกมารับแสงแดดภายนอก ไข่อาจจะฟักตัวก็เป็นได้
เขาวางไข่เอาไว้ข้างๆและนั่งบนโขดหินก่อนจะเริ่มคิดอะไรบางอย่าง
“หากต้องการลงไปยังโลกใบเล็กจำเป็นต้องมีการช่วยเหลือการจอมยุทธระดับสุริยันจันทรา และด้วยอำนาจแห่งกฎเกณฑ์ที่แบ่งแยกระหว่างสองโลกจอมยุทธที่ลงไปจะต้องผนึกพลังบ่มเพาะของตนเองให้เหลือเพียงระดับทลายมิติ”
“นอกเสียจากว่าเป็นจะตัวตนจากดินแดนแห่งเซียนถึงจะสามารถเมินเฉยอำนาจแห่งกฎเกณฑ์ของโลกใบเล็กได้”
“เดี๋ยวก่อน เช่นนั้นเฒ่าจักรพรรดิเพลิงอัสนีที่ข้าเจอ… ก็เป็นตัวตนจากดินแดนแห่งเซียนน่ะสิ?”
จักรพรรดิเพลิงอัสนีมอบภารกิจให้เขาตามหาเขามังกรแท้จริงและขนนกอมตะสวรรค์ซึ่งพวกมันล้วนแต่เป็นสัตว์อสูรระดับเซียน จากคำพูดที่ดูไม่แยแสของเฒ่าจักรพรรดิเพลิงอัสนีเมื่อพูดถึงเขามังกรแท้จริงกับขนนกอมตะสวรรค์แล้ว หลิงฮันก็พอเข้าใจได้หากอีกฝ่ายเป็นตัวตนจากดินแดนแห่งเซียน
“ให้ตายเถอะ เหตุใดทวีปฮงเทียนถึงได้ดึงดูดสัตว์ประหลาดมามากมายเช่นนี้?”
หลิงฮันรู้สึกประหลาดใจ จักรพรรดิจอมอสูรเคยบอกว่าทวีปฮงเทียนนั้นครั้งหนึ่งเคยขึ้นมายังดินแดนศักดิ์สิทธิ์ผ่านการเปิดสวรรค์แล้ว แต่ไม่รู้ทำไมมันถึงย้อนกลับไปยังโลกใบเล็กได้ การเปิดสวรรค์ของหลิงฮันเป็นครั้งที่สองของทวีปฮงเทียน
“บางทีเรื่องนี้ข้าคงหาคำตอบได้หลังจากเข้าไปยังดินแดนแห่งเซียนได้แล้วเท่านั้น”
“อย่างน้อยที่รู้ตอนนี้ก็คือจอมยุทธระดับสร้างสรรพสิ่งไม่สามารถนำแผ่นดินจากดินแดนศักดิ์สิทธิ์ลงไปยังโลกใบเล็กได้ ที่พวกเขาทำได้คือสร้างโลกและทำลายดวงดาว”
“ที่ข้าได้รับสืบทอดหอคอยทมิฬดูถ้าจะเป็นอะไรที่อันตรายเสียแล้ว”
หลิงฮันส่ายหัว เขานำไข่กลับเข้าไปในหอคอยทมิฬและรอให้กองกำลังของกองทัพจันทราม่วงเคลื่อนไหว
ตูม!
แต่ทันใดนั้นเอง คลื่นดาบที่ส่องสว่างก็พุ่งเข้ามาใส่หลิงฮัน พลังของมันนั้นน่าสะพรึงกลัวจนราวกับท้องฟ้าจะล่มสลาย
“ตายซะเจ้านักล่า!”