‘ครืนน’ เพลิงพุ่งเข้ามาด้วยความเร็วที่ยากจะมองเห็น เพราะอย่างๆไรมันก็เป็นการโจมตีของตัวตนระดับสุริยันจันทราขั้นสูงสุด
หากเป็นแต่ก่อนเป็นไปไม่ได้ที่หลิงฮันจะต้านทานเพลิงของอีกฝ่าย ต่อเป็นเป็นกายหยาบของเขาก็คงจะถูกเผาไหม้เป็นเถ้าถ่าน
แต่กายหยาบของเขาในตอนนี้ผ่านการขัดเกลาด้วยเพลิงนิรันดร์มาแล้ว ต่อให้ตอนขัดเกลาเขาจะได้รับการปกป้องการหอคอยทมิฬ แต่พลังทำลายของเพลิงนั่นก็ยังเหนือกว่าเพลิงที่กำลังพุ่งเข้ามาหาเข้าแน่นอน
เพราะงั้นแล้วหลิงฮันจึงคร้านที่จะหลบหลีก เขายื่นมือขวาออกไปปะทะเข้ากับเปลวเพลิง ด้วยเจตจำนงของทักษะบัญญัติดาบไวทำให้มือของเขาขยับได้อย่างรวดเร็ว
ปัง!
เปลวเพลิงปะทะเข้ากับฝ่ามือของเขา ด้วยพลังทำลายที่รุนแรงของเปลวเพลิงทำให้ร่างของหลิงฮันถูกดันถอยหลัง แต่มือเขาได้ระเบิดแสงสว่างจ้าออกมาปัดป้องเปลวเพลิงจนแยกออกเป็นแนวโค้งโดยที่มือไม่ถูกเผาไหม้
‘ตูม’ หลิงฮันพลักเปลวเพลิงเบี่ยงไปด้านหลัง เปลวเพลิงที่ถูกพลักไม่ได้มีความเร็วช้าไปกว่าที่ถูกปล่อยมาก่อนหน้านี้ ตำแหน่งที่เขาปัดเปลวเพลิงไปคือตำแหน่งของศิษย์นิกายเพลิงไพศาลคนหนึ่งยืนอยู่
หากถูกเปลวเพลิงนี้แผดเผาจะเป็นอย่างไร
เปลวเพลิงนี้คือพลังโจมตีเต็มกำลังของตัวตนระดับสุริยันจันทราขั้นสูงสุด แม้แต่แร่โลหะศักดิ์สิทธิ์ระดับหกก็ต้องหลอมละลาย!
แต่ศิษย์ที่ถูกเปลวเพลิงแผดเผาเป็นเพียงระดับสุริยันจันทราขั้นต่ำชั้นปลายเท่านั้น เขาจะต่อต้านพลังทำลายของเปลวเพลิงได้อย่างไร? โลหิตของศิษย์ผู้นั้นสาดกระจายราวกับห่าฝน กระดูกและเนื้อของเขาลอยกระเด็นและหล่นจากลงมาจากท้องฟ้า พลังชีวิตของเขาจบสิ้นในพริบตา
เมื่อเปลวเพลิงถูกปัดออกไปร่างของหลิงฮันก็หยุดล่าถอย เขาสะบัดมือเล็กน้อยเพื่อดับเพลิงที่ยังติดอยู่บนมือ เมื่อเขายกฝ่ามือขึ้นมามองก็พบว่าฝ่ามือของเขาถูกเผาเป็นสีดำสนิท ผิวของเขาลอกเล็กน้อย
แน่นอนว่าด้วยระดับพลังที่ต่างกันหลายขั้น เขาก็ยังได้รับบาดแผลอยู่ดี
หลิงฮันเงยหน้าและยิ้ม “ขอโทษที ข้าไม่ได้สายตาดีขนาดมองเห็นด้านหลังได้เลยเผลอสังหารพรรคดิพวกของเจ้าไปเสียแล้ว แต่จะโทษข้าก็ไม่ถูก ถ้าจะโทษก็ต้องไปโทษคนที่โจมตีมาใส่ข้าต่างหาก”
คนของนิกายเพลิงไพศาลแน่นิง่ตกตะลึงจนพูดไม่ออก
หมอนี่เป็นสัตว์ประหลาดรึไง?
ขนาดถูกเปลวเพลิงของตัวตนระดับสุริยันจันทราขั้นสูงสุดเข้าไปก็ยังไม่สะทกสะท้านแถมยังนำไปประยุกต์ใช้โจมตีได้ด้วย
จะบอกว่าเฉียนเซินไม่เอาจริงงั้นรึ? น่าขัน… หลิงฮันปัดการโจมตีใส่ศิษย์น้องของพวกเขาจนร่างแหลกกระจาย นี่ยังเรียกว่าเป็นพลังที่ออมมือเอาไว้อีกรึไง?
ต่อให้หลิงฮันมีกายหยาบที่แข็งแกร่งขนาดป้องกันการโจมตีของตัวตนระดับสุริยันจันทราขั้นสูงสุดได้ แต่มันจะป้องกันการเผาไหม้ของเปลวเพลิงได้อย่างไร?
เปลวเพลิงที่ตัวตนระดับสุริยันจันทราขั้นสูงสุดใช้โจมตีนั้นสามารถหลอมละลายได้แม้แต่แร่โลหะศักดิ์สิทธิ์ระดับแปด แม้แต่จอมยุทธระดับสุริยันจันทราขั้นสูงก็ต้องถูกเผาจนร่างมอดไหม้ แต่หลิงฮันกลับสามารถปัดเปลวเพลิงทิ้งได้และได้รับบาดเจ็บที่ฝ่ามือเพียงเล็กน้อย?
โลกนี้มีสัตว์ประหลาดเช่นนี้อยู่ได้อย่างไร?
หลิงฮันโคจรคัมภีร์สวรรค์นิรันดร์ หนังที่ถูกเผาไหม้บนฝ่ามือของเขาหายไปทันทีและถูกแทนที่ด้วยผิวหนังชั้นใหม่
เขายิ้มและกล่าว “ข้าเสนอเจรจาซื้อขายกับเจ้าแล้วแต่เจ้าไม่เอาและเลือกวิธีปล้นชิงทรัพย์… หากเจ้าเลือกทางนั้นแล้วก็ต้องรับความเสี่ยงเอาไว้ด้วย!”
‘พรึบ’ ร่างของหลิงฮันพุ่งออกไป เขากำหมัดแน่นและปล่อยการโจมตีเพื่อสังการศิษย์คนอื่นของนิกายเพลิงไพศาล
“หยุด!” เฉียนเซินลงมือทันที เจ้าหนูนี่มีพรสวรรค์ที่น่าสะพรึงกลัวเกินไป แต่พลังต่อสู้ก็ไม่สามารถวัดได้ด้วยระดับพลังบ่มเพาะ หากเขาปล่อยให้หลิงฮันลงมือศิษย์คนอื่นๆจะต้องถูกสังหารไม่เหลือแน่นอน
สำหรับนิกายเพลิงไพศาล ศิษย์ระดับสุริยันจันทราถือว่าล้ำค่าหาใครเปรียบ!
มีศิษย์ของนิกายมาที่นี่หกคนและตอนนี้เหลืออยู่เพียงห้าคน เพื่อที่จะฟูมฟักศิษย์ระดับนี้ขึ้นมาได้นิกายต้องใช้เวลาไปหลายพันหลายหมื่นปี ศิษย์เหล่านี้มีพรสวรรค์สูงส่ง หากพบวาสนาในอนาคตก็ใช่ว่าพวกเขาจะไม่มีโอกาสก้าวสู่ระดับดารา
นิกายจะมั่นคงได้จำเป็นต้องมีการเหล่าผู้อาวุโสคอยช่วยเหลือก็จริง แต่กระดูกสันหลังของนิกายที่แท้จริงคือเหล่าศิษย์ต่างหาก
ไม่ว่าอย่างไรเฉียนเซินก็เป็รปรมาจารย์ระดับสุริยันจันทราขั้นสูงสุด เมื่อเขาลงมือปลดปล่อยแรงกดดันที่รุนแรงราวกับขุนเขาออกไปการเคลื่อนไหวของหลิงฮันย่อมถูกสะกดเอาไว้ทำให้ศิษย์คนอื่นๆมีโอกาสหนีรอด
“ช่างน่ารำคาญเสียจริง!” หลิงฮันส่ายหัว การจะสังหารใครโดยที่มีปรมาจารย์ระดับสุริยันจันทราขั้นสูงสุดคอบคุ้มกันอยู่คงเป็นไปไม่ได้
“เจ้าหนู เจ้านับว่าแข็งแกร่งมากก็จริง แต่ความต่างของชายชราผู้กับเจ้าก็ยังถือว่ากว้างใหญ่ เจ้าไม่มีโอกาสชนะ!” เฉียนเซินกล่าว “ส่งศิลาวิญญาณปฐพีมาพร้อมกับทำลายแขนของเจ้าทิ้งแล้วข้าจะไว้ชีวิต”
“ปรมาจารย์เฉียน!” พวกหยานจุนทั้งห้าคนตะโกนขึ้นมา
เจ้าหนูนี่สังหารศิษย์ของนิกายเพลิงไพศาลไปแล้ว จะยอมปล่อยเขาไปง่ายๆได้อย่างไร?
เฉียนเซินรู้ดีว่าเพลิงหัวใจพิฆาตที่เป็นการโจมตีที่รุนแรงที่สุดของเขาไม่สามารถคุกคามหลิงฮันได้ พลังป้องกันของเจ้าหนูนี่ฝืนสวรรค์เกินไป โชคดีที่เขามีพลังอำนาจแห่งกฎเกณฑ์ที่เหนือกว่า ไม่เช่นนั้นต่อให้เป็นเขาก็คงเผ่นแนบไปแล้ว
ถ้าพวกเขาได้ศิลาวิญญาณปฐพีมาภารกิจก็ถือว่าสำเร็จ และตราบใดที่ปรมาจารย์เหมาทะลวงผ่านระดับดาราได้พวกเขาเป็นฝ่ายเหนือกว่า ต่อให้เจ้าหนูนี่บรรลุระดับสุริยันจันทราขั้นสูงสุดก็เป็นได้แค่เสี้ยนหนามเล็กๆเท่านั้น
หลิงฮันส่ายหัวและกล่าว “เจ้าช่างเอาแต่ใจจริงๆ นอกจากจะต้องการลักขโมยของของข้าแล้วยังจะให้ข้าทำลายแขนของตัวเองอีก? ข้าว่าหัวของเจ้าคงไม่ปกติแล้ว!”
หลิงฮันหงุดหงิด มือขวาของเขายกขึ้นโดยกำดอกไม้ที่ดูงดงามและลึกล้ำเอาไว้ ดอกไม้ดอกนี้ปลดปล่อยกลิ่นหอมของสมุนไพรศักดิ์สิทธิ์ออกมา
หากมีใครเชื่อว่ามันคือสมุนไพรศักดิ์สิทธิ์ทั่วไปก็ถือว่าติดกับแล้ว
ดอกไม้ดอกนี้คือบุปผาหมอกครอบงำจิตที่หลิงฮันเก็บมาจากเขตแดนลี้ลับ ก่อนหน้านี้แม้แต่เขาก็ยังเกือบถูกมันครอบงำจิตใจและถูกล่อไปให้แมลงศักดิ์สิทธิ์กิน
เมื่อถูกปลูกในหอคอยทมิฬ ดอกไม้ดอกนี้ได้เติบโตขึ้นเล็กน้อยและสามารถครอบงำจิตใจได้ลึกล้ำยิ่งขึ้น
ทันใดนั้นเองใบหน้าของทั้งหกคนก็ชะงักแน่นิ่งราวกับตกอยู่ในภาพมายา ร่างกายของพวกเขาไม่ขยับ ใบหน้าก็ไม่แสดงอารมณ์ใดๆ
หลิงฮันลงมือ ‘ผัวะ ผัวะ ผัวะ’ นอกจากเฉียนเซินแล้ว ศิษย์ของนิกายเพลิงไพศาลทั้งห้าหัวระเบิดตายทันที
เฉียนเซินอยู่ในระดับสุริยันจันทรามาเป็นเวลานานแล้ว พลังบ่มเพาะของเขามั่นคงเป็นอย่างมาก ในขณะที่หลิงฮันปล่อยหมัดใส่ อีกฝ่ายก็เบี่ยงหลบด้วยสัญชาติญาณทำให้หลบจุดตายไปได้ หมัดของเขาเฉียดถูกแก้มอีกฝ่ายทำให้ก้อนเนื้อถูกฉีกขาดปรากฏให้เห็นกระดูกสีขาว
หมัดของเขาทำให้เฉียนเซินตื่นจากภาพมายาและกระโดดล่าถอยไปร้อยฟุต เขามองมายังบุปผาหมอกครอบงำจิตด้วยท่าทีหวาดกลัว ดอกไม้แปลกประหลาดนั่นทำให้สัมผัสสวรรค์ของเขาใช้งานไม่ได้ชั่วครู่ สติของเขามึนงงและเกือบจะต้องทิ้งชีวิตไปแล้ว
หลิงฮันไล่ตามทันทีและกล่าวออกมา “เฒ่าชรา ศิษย์ของเจ้าตายหมดแล้ว เจ้าไมไม่ตามไปอยู่กับพวกเขาด้วยล่ะ?”