นายน้อยฮัน!
จินหมิงเรียกรุ่นเยาว์ผู้นี้ว่านายน้อยอย่างนั้นรึ!
รู้รึเปล่าว่าขนาดกับเชี่ยตงหลาย จินหมิงยังเรียกอีกฝ่ายว่าทายาทเขี่ยห้วนๆ เขาไม่แยแสอีกฝ่ายแม้แต่น้อย แต่ต่อหน้าหลิงฮันจินหมิงกับมีน่าทีอ่อนน้อมเรียกอีกฝ่ายว่านายน้อยฮัน การที่ต้องไว้หน้าหลิงฮันขนาดนั้นมันหมายถึงอะไร?
เขาไม่รู้ว่าทำไมจินหมิงต้องมีท่าทีสุภาพขนาดนั้น แถมแถมไม่เพียงจินหมิงต้องการให้เขาขอโทษหลิงฮันแต่ยังจะให้เขาร้องขอให้อีกฝ่ายกลับเข้าไปยังงานประมูลด้วย
เขานึกถึงตอนที่หลิงฮันกล่าวว่า ‘ข้าหวังว่าเจ้าจะไม่เสียใจภายหลัง’ ขึ้นมาทันที เขานึกว่านั่นเป็นเพียงคำดูถูกเฉยๆ แต่ตอนนี้เขากลับรู้สึกเสียใจจริงๆ
รุ่นเยาว์ผู้นี้เป็นใครกันแน่ ทำไมจินหมิงถึงให้ความสำคัญขนาดนี้?
“ผู้อาวุโสจิน!” หลิงฮันลุกขึ้นยืนทันที อีกฝ่ายเป็นถึงตัวตนระดับดารา หากเขายังนั่งอยู่คงเป็นการกระทำที่จองหองเกินไป
จินหมิงพยักหน้าและกล่าว “ชายชรารู้สึกผิดจริงๆที่ไม่สามารถดูแลผู้ใต้บังคับบัญชาให้ดีจนเขาไปทำให้นายน้อยฮันเสียความรู้สึก”
“ฮ่าๆๆ” หลิงฮันยิ้มและมองไปยังจินซวน “เขาคือใครรึ?”
ใบหน้าของจินซวนกระตุกทันที เขาเพิ่งไล่เจ้าออกมาเมื่อครู่ เป็นไปได้อย่างไรที่เจ้าจะไม่รู้จักข้า? เห็นได้ชัดว่าหลิงฮันต้องการสร้างความลำบากให้กับเขา
ถ้าจินหมิงไม่อยู่ข้างๆ เกรงว่าเขาคงลงมือตบหน้าอีกฝ่ายไปแล้ว ส่วนตัวแล้วเขานั้นบรรลุระดับสุริยันจันทราขั้นสูงสุดมาเป็นเวลามากกว่าสองล้านปีแล้ว ในความคิดของเขาการกำราบจอมยุทธระดับสุริยันจันทราขั้นต้นย่อมไม่ใช่เรื่องยากลำบาก
แต่ตอนนี้เขาทำได้เพียงระงับอารมณ์เอาไว้ด้วยสีหน้ามืดมนและฟังที่จินหมิงสั่ง
“จินซวน เจ้ายังไม่กล่าวขอโทษนายน้อยฮันอีกรึ!” จินหมิงกล่าวเสียงเบา
จินซวนไม่พอใจอย่างมากก่อนจะเอ่ยถาม “ข้าขอถามท่านจินหมิงว่าข้าทำอะไรผิดงั้นรึ?” หากยอมขอโทษง่ายๆเขาก็ต้องเสียหน้าไม่ใช่รึไง?
ถึงแม้สถานะของจินหมิงจะสูงกว่าเขา แต่เขาเองก็เป็นคนของตระกูลจินเช่นกัน ดังนั้นจึงสามารถขัดขืนคำสั่งที่ไร้เหตุผลได้
“ฮึ่ม!” จินหมิงเค้นเสียง เขาอยากจะตบหน้าเจ้าตัวโง่งมตรงหน้าซักที นอกจากจะทำประโยชน์อะไรไม่ได้แล้วเจ้ายังไม่รู้จักมองการไกลอีก? “นายน้อยฮันคือคนที่เสนอศิลาวิญญาณปฐพีเข้าประมูล!”
ว่าไงนะ!
จินซวนตกตะลึง นี่น่ะรึเหตุผลที่จินหมิงให้ความสำคัญต่อหลิงฮันขนาดนั้น ที่แท้เขาก็เป็นลูกค้าคนสำคัญนี่เอง เหตุผลที่ว่าทำไมการประมูลครั้งนี้ถึงได้ใหญ่โตขนาดนี้ก็เป็นเพราะมีศิลาวิญญาณปฐพีขนาดเท่าฝ่ามือถูกลงประมูล
ยิ่งศิลาวิญญาณปฐพีมีขนาดใหญ่เท่าไหร่ อำนาจแห่งกฎเกณฑ์ภายในศิลาก็จะยิ่งสมบูรณ์และง่ายต่อการเข้าความเข้าใจ
ดังนั้นต่อให้นำศิลาวิญญาณปฐพีก้อนเล็กสิบก้อนมารวมกันก็ยังมีค่าน้อยกว่าศิลาก้อนใหญ่หลายสิบเท่า
เพียงแต่ไม่ว่าอย่างไรอีกฝ่ายก็เป็นเพียงคนนำของมาขายเท่านั้น จำเป็นต้องให้ความสำคัญกับเขามากขนาดนั้นเลยรึไง? ที่พบเจอศิลาวิญญาณปฐพีก้อนใหญ่ขนาดนั้นเป้นเพราะดวงดีเท่านั้น
“ยังไม่ขอโทษอีก!” จินหมิงเริ่มจะหมดความอดทนและเกิดความคิดที่จะนำตัวเจ้าโง่ตัวนี่กลับตระกูลไปซะ หากปล่อยคนเช่นนี้เผ่นผ่านไปทั่วมีแต่จะทำให้ชื่อเสียงของโรงประมูลเสื่อมเสียไม่ได้ทำประโยชน์อะไรขึ้นมา
ใบหน้าของจินซวนเปลี่ยนเป็นสีแดงอมเขียวและสุดท้ายก็ยินยอม “ที่เสียมารยาทไปเมื่อครู่ ขอให้นายน้อยฮันยกโทษให้ข้าด้วย!”
ถ้าหลิงฮันโกรธแล้วยกเลิกการประมูลศิลาวิญญาณปฐพีขึ้นมา ตระกูลจินจะต้องตกเป็นขี้ปากของใครหลายคนอย่างไม่ต้องสงสัย ในฐานะคนที่ทำให้เกิดเรื่องเช่นนั้นเขาคงหนีไม่พ้นการลงโทษจากตระกูล
เพราะงั้นหลักจากไตร่ตรองดีๆแล้วเขาจึงเลือกที่จะขอโทษ
หลิงฮันส่ายหัวและกล่าว “ข้าไม่รู้จักเจ้า”
จินซวนโมโหทันที สิ่งที่หลิงฮันต้องการจะสื่อเขาเข้าใจได้ไม่ยาก นั่นคืออีกฝ่ายไม่รับคำขอโทษจากเขานั่นเอง เจ้าเป็นเพียงจอมยุทธระดับสุริยันจันทราขั้นต้นเจ้ามีสิทธิ์อะไร?
จินหมิงกล่าว “จินซวน ถ้านักปรุงยาระดับแปดถูกเจ้าขับไล่ออกมา เจ้าคิดว่าควรจะทำอย่างไรให้อีกฝ่ายหายโกรธเคือง?”
จินซวนชะงักกับคำพูดของจินหมิง หลิงฮันคือนักปรุงยาระดับแปดงั้นรึ? อายุของรุ่นเยาว์ผู้นี้ยังไงก็ไม่เกินหนึ่งพันปีแน่ๆ เป็นไปได้อย่างไรที่เขาจะเป็นอัจฉริยะทั้งศาสตร์แห่งวรยุทธกับปรุงยา
ทักษะปรุงยาจะสามารถพัฒนาได้ด้วยวิธีใด? นักปรุงยาจะต้องฝึกฝนสั่งสมประสบการณ์ผ่านการปรุงยาจริงๆ มันไม่เหมือนกับศาสตร์แห่งวรยุทธที่สามารถยกระดับผ่านการกินเม็ดยา
นักปรุงยาระดับแปดที่อายุน้อยกว่าพันปี? นี่มันเรื่องตลกชัดๆ!
“เจ้าคิดว่าข้าจะล้อเจ้าเล่นงั้นรึ?” จินหมิงเค้นเสียง ถ้าไม่ใช่เพราะเหตุผลนี้เขาจะให้ความสำคัญกับหลิงฮันขนาดนี้รึไง?
ต่อให้อีกฝ่ายเป็นคนนำศิลามาขาย สถานะของจอมยุทธระดับดารากับสุริยันจันทราก็ยังกว้างใหญ่ราวกับสวรรค์และปฐพีอยู่ดี
จิตใจของจินซวนสั่นสะท้าน หลิงฮันเป็นนักปรุงยาระดับแปดจริงๆรึ?
สีหน้าของเขาซีดเผือด นี่เขาขับไล่นักปรุงยาระดับแปดงั้นรึเนี่ย… ถ้าข่าวนี้รั่วไหลออกไปเขาจะต้องถูกถลกหนังแน่!
นักปรุงยาเป็นกลุ่มคนที่นับถือกันและกัน หากล่วงเกินนักปรุงยาเพียงคนเดียวโดยไร้เหตุผลก็ถือว่าล่วงเกินนักปรุงยาทั้งสมาคม
หากนักปรุงยาทุกคนไม่ต้องการขายเม็ดยาให้กับโรงประมูลจินหยวนแล้วล่ะก็ ตระกูลจินจะขาดทุนอย่างมหาศาล และเขาที่เป็นคนก่อเรื่องนี้ขึ้นก็จะถูกตระกูลลงโทษสถานหนัก
เมื่อคิดเช่นนี้เขาก็รู้สึกเย็นยะเยือกจนขาอ่อนทันที “นายน้อยฮัน ดวงตาสุนัขของข้าไม่ดีเอง ทุกอย่างเป็นความผิดของข้า นายน้อยได้โปรดให้อภัยข้าด้วย!”
เขาก้มหัวงกๆและร้องให้ออกมาไม่หยุด
จินหมิงโกรธจนแทบอยากจะตบบหน้าเจ้าโง่ตัวนี้ เขาให้จินซวยขอโทษก็จริง แต่ไม่ได้หมายถึงให้ทำขนาดนี้! เจ้าช่างไร้ยางอายนัก ที่เจ้ากำลังทำไม่ใช่ทำให้เจ้าเสียหน้าคนเดียวแต่เป็นทั้งตระกูลจิน!
หมอนี่โง่เกินจะเยียวยาแล้ว เห็นทีคงให้อยู่ที่นี่ต่อไปไม่ได้
“โอ้ ที่แท้ก็เป็นเจ้านี่เอง!” หลิงฮันปรบมือราวกับว่าเพิ่งจำได้ว่าจินซวนเป็นใคร
จินซวนปาดเหงื่อบนโล่งอกโดยที่ไม่รู้ว่าจินหมิงตัดสินใจลงโทษขั้นเด็ดขาดกับเขาแล้ว อีกไม่นานเขาจะถูกส่งกลับตระกูลจินและห้ามออกจากตระกูลไปชั่วชีวิต
“เชิญนายน้อยฮัน!” จินหมิงคร้านจะหงุดหงิดอีกต่อไปและยิ้มไปยังหลิงฮัน
“เชิญผู้อาวุโสนำทาง!” หลิงฮันกล่าวอย่างสุภาพ
ทั้งสองคนเดินเคียงข้างกันเข้าไปยังโรงประมูล หลิงฮันจงใจเดินตามหลังอีกฝ่ายครึ่งก้าวเพื่อแสดงความเคารพต่อตัวตนระดับดาราซึ่งทำให้จิงหมิงรู้สึกพึงพอใจเป็นอย่างมาก รุ่นเยาว์ผู้นี้ไม่เพียงไม่มีนิสัยหยิ่งยโสและยังรู้จักวางตัวด้วย
จินซวนเดินตามทั้งสองอยู่ด้านหลัง เขาต้องการจะสร้างสายสัมพันธ์ที่ดีกันหลิงฮันจึงพยายามประจบประแจ ในความคิดของเขา หากตีสนิทกับหลิงฮันที่มีเป็นนักปรุงยาระดับแปดได้สถานะของเขาจะต้องทะยานสูงแน่นอน