หลังจากราคาเพิ่งขึ้นถึงสามร้อยล้านเชี่ยตงหลายก็จงใจเพิ่มจำนวนสิบล้านเข้าไป เขากล่าวราคาด้วยเสียงที่ราวกับเป็นผู้ชนะ
เชี่ยตงหลายเป็นคนหยิ่งทะนงในตัวเองอยู่แล้ว คนจนๆเหล่านี้มีคุณสมบัติจะมาแย่งชิงกันเขาด้วยรึ?
เขาเป็นทายาทของตระกูลเชี่ยที่มั่งคั่ง แถมไม่กี่วันก่อนเขาได้นำกองทัพบุกไปทำลายรังโจรแห่งหนึ่งอีกด้วยทำให้เขาในตอนนี้ร่ำรวยเป็นอย่างมาก หลังจากที่ขายของต่างๆที่ยึดมา ผลึกก่อเกิดที่เขาครอบครองก็มีถึงเกือบๆสี่ร้อยล้านผลึก!
ดูเหมือนว่าพระเจ้ากำลังเข้าข้างเขาอยู่ การมาสนามรบสองดินแดนครั้งนี้ไม่เพียงแต่จะได้นำตัวสตรีที่หลบหนีการแต่งงานกลับไปแต่ยังได้พบกับศิลาวิญญาณปฐพีขนาดเท่าฝ่ามือโดยไม่คาดฝันอีกด้วย
ด้วยพรสวรรค์ของเขา หากดูดซับศิลาวิญญาณปฐพีก้อนนี้โอกาสที่จะทะลวงผ่านระดับดาราจากสามส่วนก็จะเพิ่มเป็นเก้าส่วนกว่าๆเกือบสิบส่วน
แน่นอนว่าการขัดเกลาระดับพลังให้บรรลุขั้นสมบูรณ์นั้นยากลำบากกว่าทะลวงผ่านระดับใหญ่เสียอีก
การขัดเกลาระดับพลังให้บรรลุขั้นสมบูรณ์นั้นบางทีต่อให้มีศิลาวิญญาณปฐพีก้อนใหญ่ก็อาจจะล้มเหลว ดังนั้นเขาจึงล้มเลิกความคิดนั้นและตัดสินใจทะลวงผ่านระดับดาราดีกว่า
เพราะอย่างไรแม้จะเป็นในดาวหยุนติ่งแห่งนี้ จำนวนของจอมยุทธระดับดาราก็ยังน้อยอยู่ดี หลังจากบรรลุระดับนี้แล้วสามารถเรียกได้ว่าเป็นปรมาจารย์และไม่ว่าจะไปที่ไหนก็ล้วนแต่ได้รับความเคารพ
แน่นอนว่าเรื่องนี้จะเป็นไปได้ก็ต่อเมื่อเขาชนะการประมูลศิลาวิญญาณปฐพี
แต่เขามั่นใจว่าผลึกก่อเกิดจำนวนเกือบสี่ร้อยล้านี้จะต้องเพียงพอให้เขาเป้นผู้ชนะแน่นอน
“สามร้อยสามสิบล้าน!” เสียงของสตรีดังขึ้น แม้เสียงของนางจะไม่ดังมากแต่ก็ก้องกังวาลไปถึงหูของทุกคน
ทุกคนตะลึงทันที นางเป็นใครกัน เหตุใดถึงได้มั่งคั่งขนาดเพิ่มราคาทีเดียวสิบล้านผลึก? เทียบกับเชี่ยตงหลายแล้วนางดูร่ำรวยกว่ามาก
ทั้งหลิงฮันและจินซวนชะงัก
เสียงของสตรีผู้นี้คือสตรีที่ตบหน้าจินหยวน
ในการประมูลครั้งก่อนๆนางไม่ได้ร่วมแย่งชิงใดๆ นี่เป็นครั้งแรกที่นางเปิดปากเสนอราคา ดูเหมือนว่าจุดประสงค์ที่นางมาที่นี่ก็เพื่อศิลาวิญญาณปฐพีก้อนนี้ แต่ก็แปลกมาก… แม้จะสามารถได้ยินเสียงของนางอย่างชัดเจนแต่กลับไม่สามารถสัมผัสได้ว่าต้นตอของเสียงมาจากที่ใด
“สามร้อยสามสิบล้าน!!” เชี่ยตงหลายเต้นเสียงและเสนอราคาเพิ่ม
เขารู้สึกว่าตนเองพ่ายแพ้ เมื่อครู่เขาเพิ่งเพิ่มราคาให้สูงรวดเดียวเพื่อทำให้ทุกนตะลึงได้แต่ๆ แต่เหตุใดจู่ๆถึงมีคนเสนอราคาที่สูงกว่าเขาได้อีก? อีกเพิ่มราคาครั้งเดียวสูงขึ้นยี่สิบล้านผลึก…
“สามร้อยห้าสิบล้าน” สตรีผู้นั้นกล่าวอย่างไม่แยแส
“สามร้อยห้าสิบห้าล้าน!” เชี่ยตงหลายกัดฟัน เขาเสนอราคาออกไปด้วยความรู้สึกเจ็บปวด จะให้เขายอมแพ้งั้นรึ? ฝันไปเถอะ แต่ถ้าหากไม่ได้ศิลาวิญญาณปฐพีมาครอง ความหวังที่จะบรรลุขั้นสมบูรณ์คงกลายเป็นศูนย์ และการคาดการที่จะทะลวงผ่านระดับดาราก็ต้องล่าช้าไปหลายพันหลายหมื่นปี
ไม่มีทาง ข้าต้องเอามันมาให้ได้!
“สามร้อยเจ็ดสิบล้าน” สตรีผู้นั้นยังคงไม่สะทกสะท้าน
“สามร้อยเก้าสิบล้าน!” เชี่ยตงหลายคำรามเสียงดัง นี่เป็นราคาสูงสุดที่เขาจะเสนอได้ ถ้าอีกฝ่ายยังเพิ่มราคาขึ้นอีกเขาคงต้องเป็นฝ่ายยอมแพ้
แต่ไม่ว่าอย่างไรเขาก็ต้องชนะดังนั้นจึงได้กล่าวบางอย่างเพิ่มเติม “ข้าคือหลานของแม่ทัพเชี่ย ช่วยเห็นแก่หน้าของแม่ทัพเชี่ยสักครั้งแล้วข้าจะตอบแทนเจ้า!”
นี่เป็นคำข่มขู่ หากอีกฝ่ายยังกล้าประมูลต่อจะถือว่าเป็นศัตรู!
“น่าขัน เชี่ยเฉียนไม่นับเป็นอันใดในสายตาข้า แล้วเจ้ามีสิทธิ์อะไร?” เมื่อเสียงอันเย็นชาถูกกล่าวออกมา มือที่ขาวดังหยกก็ปรากฏขึ้นและตบเข้าที่ใบหน้าของเชี่ยตงหลาย
“ชักไม่ดีแล้ว!” เมื่อข้ารับใช้เฒ่าสองคนเห็นสิ่งที่เกิดขึ้น ใบหน้าของพวกเขาก็เปลี่ยนสีและพุ่งไปทันที พวกเขาต้องการจะป้องกันฝ่ามือนั่นให้กับเชี่ยตงหลาย แต่พวกเขายังไม่ทันได้เคลื่อนไหวก็ถูกแรงกดดันที่น่าสะพรึงกลัวกระแทกเข้าใส่ ‘ปัง ปัง’ ทั้งสองคนลอยกระเด็นทันที
เชี่ยตงหลายตะลึง มันช้าไปแล้วที่จะป้องกันฝ่ามือที่พุ่งเข้ามา ‘เพี๊ยะ’ ใบหน้าของเขาถูกตบอย่างรุนแรงจนร่างกระแทกลงกับพื้น ร่างของเขาทะลุจากห้องชั้นสามลงไปยังห้องชั้นล่างสุดของโรงประมูล
“ใครกล้าสร้างความวุ่นวายในโรงประมูลจินหยวนของข้า?” จินหมิงตะโกนอย่างเกรี้ยวกราดและพุ่งไปยังชั้นสามด้วยจิตสังหาร แต่หลังจากที่เขาขึ้นไปเสียงตะโกนก็เงียบลงเปลี่ยนเป็นเสียงอันสุภาพของแทน “ขอรับ ไม่มีปัญหาขอรับ ฮะๆๆ เชิญท่านอาวุโสสนุกกันการประมูลต่อ!”
เสียงอันสุภาพนั่นดังออกมาจากชั้นสี่ จินหมิงเดินออกจากห้องนั้นมาด้วยท่าทีโค้งคำนับ ใบหน้าของเขาท่วมไปด้วยเม็ดเหงื่อ
ชั้นสี่!
ห้องส่วนตัวชั้นสูงสุด… ปรมาจารย์ระดับวารีนิรันดร์!
ไม่น่าแปลกในที่สตรีลึกลับผู้นั้นกล้ากล่าวว่าเชี่ยเฉียนไม่ได้อยู่ในสายตาของนาง ที่แท้นางก็เป็นจอมยุทธที่มีระดับพลังระดับเดียวกัน
เชี่ยตงหลายรู้สึกไม่ได้รับความเป็นธรรม ในเมื่อเจ้าเป็นปรมาจารย์ระดับวารีนิรันดร์ เหตุใดเจ้าไม่แสดงตัวตนของเจ้าออกมา ถ้าข้ารู้ว่าเสียงของเจ้ามาจากชั้นสี่ข้าคงไม่กล้าแย่งชิงกับเจ้า
นอกจากจะทำตัวเองเสียหน้าแล้วเขายังต้องไปขอโทษอีกฝ่ายด้วย ทำไมน่ะรึ? เพราะเขาไปล่วงเกินตัวตนระดับระดับวารีนิรันดร์ไงล่ะ…
“ดำเนินการประมูลต่อได้” จินหมิงประกาศโดยไม่หันมองเชี่ยตงหลาย
แม้การประมูลจะดำเนินต่อๆแต่ใครจะกล้าเสนอราคาแข่งกับปรมาจารย์ระดับวารีนิรันดร์? ยิ่งกว่านั้นราคาในตอนนี้ก็สูงเกินกว่าที่หลายคนจะจ่ายไหวแล้ว
สตรีลึกลับผู้นั้นเพิ่มราคาอีกครั้งเป็นสี่ร้อยล้านผลึกและไม่มีใครแย่งชิงกับนางทำให้นางเป็นผู้ชนะประมูล
หลังจากการประมูลสิ้นสุด ผู้ที่ประมูลสินค้าจะต้องไปส่งมอบผลึกก่อเกิดที่ด้านหลังเวทีประมูลเพื่อรับมอบสินค้า
หลิงฮันไม่ได้ประมูลอะไร แต่เขาเป็นผู้นำของลงประมูลในครั้งนี้เขาจึงต้องไปที่หลังเวทีประมูลเพิ่มรับเงิน
เนื่องจากจำนวนผลึกนั้นมหาศาลและต้องรอให้สตรีลึกลับผู้นั้นไปส่งมอบผลึกก่อเกิดเสียก่อน ตอนนี้สิ่งที่เขาทำได้คือรอคอยเท่านั้น
ผ่านไปครู่หนึ่งกลิ่นหอมก็ลอยมาตามลม สตรีงดงามสวมเกราะเต็มด้วยเดินใกล้เข้ามา รูปลักษณ์ของนางดูมีอายุราวๆสามสิบปีต้นๆ นางเป็นสตรีงามที่มีเสน่ห์ของผู้ใหญ่อย่างที่เด็กๆสาวๆไม่สามารถเทียบได้
ด้านหลังของนางมีเชี่ยตงหลายเดินก้มหัวคอตกเดินตามมา
“ธิดาซื่อเยว่!” เมื่อทุกคนเห็นนาง ไม่มีใครเลยที่กล้ามองร่างกายอันยั่วยวนของนาง
หลิงฮันเข้าใจทันที ที่แท้สตรีผู้นี้ก็เป็นธิดาซื่อเยว่ที่ล่ำลือ นางคือผู้นำทัพของกองทัพจันทราม่วง!
เจ้าโง่เชี่ยวตงหลายนั่นกล้าประมูลแย่งชิงและพูดจาข่มขู่นาง ช่างเป็นกระทำที่โง่งมเสียจริง
เมื่อเชี่ยงตงหลายเห็นหลิงฮัน ใบหน้าของเขาก็เปลี่ยนเป็นบูดบึ้ง
ก่อนหน้านี้เขาโม้เสียดีว่าจะชนะการประมูลศิลาวิญญาณปฐพี แต่สุดท้ายกลับแพ้แถมยังไปล่วงเกินธิดาซื่อเยว่อีก ไม่ว่าอย่างไรเขาก็ต้องทำให้นางยกโทษให้ได้ ไม่เช่นนั้นหากเรื่องนี้ถึงหูตระกูลเชี่ยเขาคงจบสิ้นแน่
เขาต้องถูกหลิงหันมาเห็นในสภาพเช่นนี้!
ช่างขายหน้ายิ่งนัก