เกิดฉากที่น่าตกตะลึงขึ้น
เพลิงสีดำพุ่งไหลออกมาจากร่างของฉื้อหวงจี่โดยไม่มีท่าทีว่าจะหยุด ราวกับกำลังถูกอะไรบางอย่างดูดออกไป และหลังจากนั้นชั่วครู่หนึ่ง เปลวเพลิงศักดิ์สิทธิ์ต้นกำเนิดก็แยกออกมาจากร่างของฉื้อหวงจี่และพันอยู่รอบตัวหลิงฮัน
“เป็นไปไม่ได้-” ฉื้อหวงจี่อุทานด้วยความตกใจ นี่มันไม่ใช่ความประสงค์ของเขา ถึงแม้จะต้องการแผดเผาหลิงฮันด้วยเปลวเพลิงก็ตาม แต่ตอนนี้เขาถูกพลังลึกลับดูดมันออกไป
มันเป็นแบบนี้ได้อย่างไร?
เพลิงศักดิ์สิทธิ์ต้นกำเนิดคือพลังของสวรรค์และปฐพี การดำรงอยู่ของมันเก่าแก่และทรงพลังที่สุด นอกเหนือจากเพลิงศักดิ์สิทธิ์ต้นกำเนิดด้วยกันแล้วอะไรจะเทียบกับมันได้? แล้วถึงแม้ว่าหลิงฮันจะมีพลังที่ทัดเทียมกับเพลิงศักดิ์สิทธิ์ต้นกำเนิด มันก็ควรจะห้ำหั่นกันเอง แล้วเหตุใดเขาถึงถูกดูดเปลวเพลิงออกจากร่างกาย?
ฉื้อหวงจี่ตื่นตระหนกมากขึ้น เพราะเขาไม่เข้าใจเรื่องที่เกิดขึ้น ทั้งที่เพลิงศักดิ์สิทธิ์ต้นกำเนิดควรจะทรงพลังที่สุดทั้งดินแดนศักดิ์สิทธิ์และดินแดนใต้พิภพ เป็นไปได้หรือไม่ว่า…หลิงฮันจะมีสมบัติที่อยู่เหนือกว่าทั้งสองดินแดนนี้?
หากเป็นเช่นนั้น…มันก็จะอธิบายเรื่องที่เกิดขึ้นได้!
หลิงฮันไม่ค่อยสนใจเท่าไหร่นักที่ถูกโจมตีด้วยเปลวเพลิงศักดิ์สิทธิ์ต้นกำเนิด นั่นเป็นเพราะตัวเขาที่ขัดเกลาร่างกายด้วยเปลวเพลิงนิรันดร์ เปลวเพลิงต้นกำเนิดจะไปทำอะไรเขาได้
แต่ในขณะนั้นเองหอคอยน้อยก็ได้พูดกับเขาว่าขอให้เขาไม่ตอบโต้กลับ เพราะมันจะแย่งชิงเปลวเพลิงศักดิ์สิทธิ์ต้นกำเนิด
แน่นอนว่าหลิงฮันให้ความร่วมมือเป็นอย่างดีและดูดเข้าไปในหอคอยทมิฬ
ดังนั้น หลิงฮันยังคงยืนนิ่งและปล่อยให้ฉื้อหวงจี่ปล่อยเปลวเพลิงศักดิ์สิทธิ์ต้นกำเนิดออกมาเรื่อยๆ แล้วจากนั้นก็จะดึงเปลวเพลิงศักดิ์สิทธิ์ต้นกำเนิดทั้งหมดออกมาจากร่างกายของฉื้อหวงจี่
“ยอดเยี่ยม มันเป็นเปลวเพลิงศักดิ์สิทธิ์ต้นกำเนิดจริงๆ และสามารถทำให้ข้าฟื้นฟูได้หนึ่งในหมื่น” หอคอยน้อยมีความสุขเล็กน้อย
เดี๋ยวก่อน!
หลิงฮันรีบพูดทันทีว่า “เจ้าคงไม่ได้หมายความว่าจะกลืนกินมันทั้งหมดหรอกใช่ไหม?”
“แน่นอน ข้าตั้งใจจะทำเช่นนั้นตั้งแต่แรกแล้ว เพราะยังไงมันก็เป็นของข้า” หอคอยน้อยกล่าวอย่างไม่ละอาย “นอกจากนั้น เมื่อใดที่ข้าซ่อมแซมหอคอยทมิฬได้สมบูรณ์ ข้าสามารถหลอกลวงสวรรค์และปฐพีได้เพื่อที่ความลับของหอคอยทมิฬจะได้ไม่ถูกเปิดเผย หลังจากที่เจ้าก้าวเข้าสู่ดินแดนแห่งเซียนในอนาคต”
“เจ้าเป็นโจร!” หลิงฮันโวยวายด้วยความไม่พอใจ
“อย่าพูดจาเหลวไหลและให้ความร่วมมือกับข้า!” หอคอยน้อยกล่าว การดำรงอยู่ของหอคอยทมิฬอาจดึงดูดความสนใจของจอมยุทธบนดินแดนแห่งเซียน ดังนั้นหลิงฮันจึงทำได้แค่ให้ความร่วมมือกับมัน
“ก็ได้ข้าจะให้ความร่วมมือกับเจ้า แต่ต้องแบ่งเปลวเพลิงศักดิ์สิทธิ์ต้นกำเนิดให้ข้าด้วย” หลินฮันต่อรอง
“….ก็ได้!” หอคอยน้อยลังเลอยู่ซักพัก แต่ก็ตอบตกลงอย่างไม่เต็มใจ
หลิงฮันและหอคอยน้อยร่วมมือกันเพื่อดูดเปลวเพลิงศักดิ์สิทธิ์ต้นกำเนิดเข้ามาในหอคอยทมิฬ
เขาเหยียดมือจับคว้าเปลวเพลิงสีดำเอาไว้ จากนั้นเขาก็อ้าปากเพื่อกลืนกินมันเข้าไป
“คืนมันมาให้ข้า!” ฉื้อหวงจี่คำรามด้วยความโกรธเกรี้ยว เปลวเพลิงศักดิ์สิทธิ์ต้นกำเนิดคือหนึ่งในไพ่ลับที่สำคัญที่สุดของเขา แล้วเขาจะยืนดูอยู่เฉยๆและปล่อยให้หลิงฮันกลืนกินเปลวเพลิงศักดิ์สิทธิ์ต้นกำเนิดได้อย่างไร
ส่วนคนอื่นๆทั้งหกคนต่างหวาดกลัวและสับสน
นั่นคือเปลวเพลิงศักดิ์สิทธิ์ต้นกำเนิดจริงหรือ? มิใช่ว่าแม้แต่จอมยุทธระดับเซียนก็ยังต้องถูกแผดเผาเมื่อสัมผัสหรอกรึ? แต่ทำไมหลิงฮันถึงดูดกลืนมันได้?
แต่เปลวเพลิงศักดิ์สิทธิ์ต้นกำเนิดก็ยังคงพยายามที่จะเป็นอิสระ แต่เรื่องแบบนั้นเป็นไปไม่ได้เลยเมื่ออยู่ภายใต้การควบคุมของหอคอยทมิฬ และถูกหลิงฮันกลืนกินทีละนิด
คนอื่นอาจเห็นว่าเปลวเพลิงศักดิ์สิทธิ์ต้นกำเนิดถูกดูดกลืนเข้าไปในปากของหลิงฮัน แต่ในความจริงแล้วมันถูกดูดเข้าไปในหอคอยทมิฬ เพราะอย่างไรก็ตามเปลวเพลิงศักดิ์สิทธิ์ก็เต็มไปด้วยความประสงค์ที่จะสังหารเขา จึงเป็นไปไม่ได้เลยที่เขาจะหลอมรวมเข้ากับมัน
เมื่อเห็นว่าเปลวเพลิงศักดิ์สิทธิ์ต้นกำเนิดถูกกลืนหายไปทีละนิดทีละนิด ฉื้อหวงจี่ก็วิตกและหวาดผวา และระเบิดพลังต่อสู้ที่แข็งแกร่งขึ้นออกมาเพื่อยับยั้งไม่ให้หลิงฮันดูดกลืนเปลวเพลิงไปมากกว่านี้
“รนหาที่ตาย! รนหาที่ตาย! รนหาที่ตาย!” ฉื้อหวงจี่แผดเสียงคำรามไม่หยุด ตั้งแต่เกิดมาเขาไม่เคยเดือดดาลเท่านี้มาก่อน
ไม่มีทางที่เขาจะปล่อยให้เปลวเพลิงศักดิ์สิทธิ์ต้นกำเนิดถูกดูดกลืนหายไปได้ มันเป็นไพ่ลับที่สำคัญที่สุดของเขา!
“ข้าต้องขอโทษเจ้าด้วย ในเมื่อมันเข้ามาในตัวข้าแล้ว นั่นหมายความว่ามันเป็นของของข้า” หลิงฮันพูดพร้อมเสียงหัวเราะ ภายใต้การจัดการของหอคอยน้อย หอคอยทมิฬเริ่มดูดกลืนมันเร็วขึ้นเรื่อยๆ
มันต้องใช้เวลานานในการดูดกลืน เพราะหอคอยทมิฬยังไม่แข็งแกร่งพอ กลับกัน หอคอยน้อยพยายามที่จะควบคุมความเร็วในการดูดกลืนของหอคอยทมิฬไม่ให้เร็วหรือช้าจนเกินไป เพราะกลิ่นอายของหอคอยทมิฬอาจเล็ดลอด
“ไอสารเลว!” ในที่สุดฉื้อหวงจี่ก็นำอาวุธเซียนออกมา และมีมังกรไฟพุ่งออกมาจากกระจกและส่งเสียงคำรามไปที่หลิงฮัน
เมื่อเห็นอาวุธเซียนของฉื้อหวงจี่ สีหน้าของเป่ยหวงเปลี่ยนไป แม้เขาจะเป็นคนใจกว้าง แต่เขาไม่อาจยอมรับความพ่ายแพ้ต่อฉื้อหวงจี่ได้ เหตุผลที่อีกฝ่ายชนะเขาได้ไม่ใช่เพราะความแข็งแกร่งของตัวเอง แต่เป็นเพราะอาวุธเซียนนั่นต่างหาก
ชิ่ง ดาบอสูรนิรันดร์ปรากฎอยู่ในมือของหลิงฮัน และกวัดแกว่งสะบั้นมังกรไฟที่กำลังพุ่งเข้ามา
ฉัวะ!
ดาบหลายร้อยเล่มทะลวงผ่านมังกรไฟ มันถูกสะบั้นเป็นชิ้นๆ และสลายหายไปอย่างไร้อำนาจ
“หืม?”
เป่ยหวงและคนอื่นๆต่างรู้สึกตกตะลึง และจ้องมองไปที่ดาบอสูรนิรันดร์ที่อยู่ในมือของหลิงฮัน
ทุกคนทราบดีว่าอาวุธเซียนทรงพลังแค่ไหน อย่างไรก็ตาม มันดูเหมือนว่าดาบที่อยู่ในมือของหลิงฮันจะแข็งแกร่งกว่าอาวุธเซียน!
ฟ่อ!
ในการต่อสู้ระดับเดียวกัน จอมยุทธที่ใช้อาวุธเซียนจะมีความได้เปรียบ แต่ดาบของหลิงฮันกลับแข็งแกร่งกว่า นั่นหมายความว่า…ดาบของหลิงฮันเองก็เป็นอาวุธระดับเซียน ทั้งยังทรงพลังกว่ามากอีกด้วย!
ฟุบ!
อยทมิฬดูดกลืนเปลวเพลิงศักดิ์สิทธิ์ต้นกำเนิดระลอกสุดท้ายสำเร็จ และหลิงฮันก็ปิดปากของเขาพร้อมกับเผยสีหน้าที่พึงพอใจ
เขาจ้องมองไปที่ฉื้อหวงจี่ด้วยความรู้สึกขอบคุณ และชอบคนประเภทฉื้อหวงจี่ที่วาสนาดี เพราะของอีกฝ่ายก็เหมือนของของข้า และมันยังเป็นประโยชน์กับตัวเขาอีกมาก
ฉื้อหวงจี่รู้สึกโกรธเกรี้ยวมากและพูดว่า “เอาเปลวเพลิงศักดิ์สิทธิ์ต้นกำเนิดของข้าคืนมา!”
“อย่าทำเป็นขี้เหนียวหน่อยเลยน่า ทุกคน-” หลิงฮันดูเหมือนจะพูดอะไรบางอยย่าง แต่ทันใดนั้นเองสีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไป เพราะหอคอยน้อยสกัดเปลวเพลิงศักดิ์สิทธิ์ต้นกำเนิดเสร็จแล้ว และแบ่งส่วนหนึ่งให้กับเขาตามข้อตกลง
แต่ส่วนที่มันแบ่งมาให้ยังไม่ถึงหนึ่งในร้อยล้านเลยด้วยซ้ำ!
มันน้อยเกินไปแล้ว!
“หอคอย! น้อย!” หลิงฮันคำรามอยู่ในใจ
“เจ้ามีอะไร? ข้าไม่ได้หูหนวก” หอคอยน้อยกล่าวอย่างไม่แยแส
“ทำไมส่วนแบ่งของข้าถึงน้อยขนาดนั้น?” หลิงฮันไม่พอใจ ทั้งที่เขาพยายามอย่างหนัก แต่ส่วนแบ่งที่ได้รับกลับได้ไม่คุ้มเสีย