หนึ่งชายชราหนึ่งรุ่นเยาว์ หนึ่งผู้แข็งแกร่งหนึ่งผู้อ่อนแอ ทั้งสองกำลังจ้องหน้ากัน
จะมีสักกี่คนที่กล้าจ้องมองปรมาจารย์ระดับวารีนิรันดร์ด้วยสายตาเช่นนี้? อย่าว่าแต่จ้องมองเลย แค่ออร่าของตัวตนระดับวารีนิรันดร์ก็เพียงพอจะบดขยี้จอมยุทธระดับสุริยันจันทราให้กลายเป็นเศษเนื้อแล้ว
“น่าเสียดายที่เจ้าไม่ใช่คนของตระกูลเชี่ย!” ผ่านไปสักพักเชี่ยเฉียนก็เอ่ยปากพูดด้วยน้ำเสียงเสียดาย
จอมยุทธที่สามารถรับทัณฑ์สายฟ้าสวรรค์ได้อย่างง่ายดายเช่นนี้เขาเพิ่งเคยเห็นเป็นครั้งแรก เขาที่มีพลังระดับวารีนิรันดร์ถึงกับเอ่ยคำชม แต่น่าเสียดายที่หลิงฮันลงมือสังหารหลานของเขา
คนของตระกูลเชี่ย… ไม่อาจได้รับความอัปยศ!
ดังนั้นเขาจึงเสียดายที่ราชาระดับแนวหน้าในอนาคตจะต้องมาตายด้วยมือของเขา
สำหรับตัวตนระดับวารีนิรันดร์ เวลาครึ่งวันย่อมผ่านไปรวดเร็วเหมือนกระพริบตา
‘ครืนนน’ หลังจากที่สายฟ้าสวรรค์ระลอกสุดท้ายผ่าลงมา เมฆสายฟ้าเบื้องบนก็สลายหายไป
เชี่ยเฉียนลงมือทันที มือขวาของเขายื่นออกไปด้านหน้า วิถีดาราจักรที่มีดวงดาวนับร้อยล้านดวงลอยอยู่ปรากฏขึ้นมาและพุ่งเข้าใส่หลิงฮัน ดวงดาวแต่ละดวงอัดแน่นไปด้วยพลังโจมตีของจอมยุทธระดับดารา วิถีดาราจักรนี้จึงเปรียบเสมือนกับการโจมตีพร้อมกันของตัวตนระดับดาราร้อยล้านคน
ซึ่งนี่เป็นเพียงการโจมตีโดยสัมผัสสวรรค์ของเชี่ยเฉียนเท่านั้น
ตูมมมมม!
เมื่อการโจมตีนี้ถูกปลดปล่อยออกไป พื้นดินก็ถูกระเบิดเป็นหลุมยักษ์ที่มีเส้นผ่าศูนย์กลางร้อยไมล์ อย่าลืมว่าที่นี่คือด้านในของสนามรบสองดินแดน หากเป็นดินแดนศักดิ์สิทธิ์ภายนอกล่ะก็ หลุมที่จะเกิดจากผลกระทบของการโจมตีนี้ไม่สิ้นสุดแค่หนึ่งพันไมล์แน่นอน
ควันรูปเห็ดขนาดยักษ์พุ่งสูงขึ้นสู่ท้องฟ้า
เชี่ยเฉียนแสดงสีหน้าประหลาดใจเนื่องจากหลิงฮันได้หายไปทันทีที่เขาโจมตี
เขาสะบัดมือสร้างคลื่นลมพัดกลุ่มควันให้หายไป
หายไปไหน?
เชี่ยเฉียนแสดงสีหน้าครุ่นคิด เขาสัมผัสไม่ได้ถึงการฉีกขาดของชั้นมิติจึงมั่นใจว่าหลิงฮันไม่ได้ใช้ยันต์เคลื่อนย้ายในพริบตาหนีไปแน่นอน ยิ่งกว่านั้นด้วยการโจมตีระยะใกล้เช่นนี้ หลิงฮันจะมีเวลาพอให้นำยันต์เคลื่อนย้ายในพริบตาออกมาใช้ได้อย่างไร
หรือต่อให้หลิงฮันใช้ยันต์เคลื่อนย้ายในพริบตาจริง ด้วยระยะโจมตีที่กว้างขวางของเขา ไม่ว่าอย่างไรหลิงฮันก็ไม่มีทางหนีพ้น
แต่ว่า… หลิงฮันกลับหายไปกับอากาศราวกับไม่เคยอยู่ที่นี่มาก่อน
“น่าแปลก!” เชี่ยเฉียนพึมพำ เขาผู้ไม่เคยหวั่นไหวมาหลายแสนหลายล้านปี วันนี้ได้ถูกรุ่นเยาว์ระดับสุริยันจันทราทำให้ตกตะลึงถึงสองครั้ง
“ช่างน่าสงสัย เจ้าหนูนั่นใช้วิธีการอะไรกันแน่!” สัมผัสสวรรค์ของเขาค่อยๆแพร่กระจายออกเป็นวงกว้างเพื่อตามหาหลิงฮัน
การกระทำเช่นนี้ได้กระตุ้นให้ตัวตนระดับดาราหลายคนตื่นตระหนกทันที เจ้าปลดปล่อยสัมผัสสวรรค์มาหาพวกข้าทำไม?
อยากปะทะ?
ถ้าที่นี่เป็นอาณาของตนเองก็ไม่ใช่ปัญหาอะไร หากเจ้าอยากปลดปล่อยสัมผัสก็เรื่องของเจ้า
แต่ที่นี่นั้นไม่ใช่ ปรมาจารย์ระดับวารีนิรันดร์ที่อยู่ที่นี่มีมากกว่าสิบ ปรมาจารย์คนใดที่ปลดปล่อยสัมผัสสวรรค์มั่วซั่ว ปรมาจารย์คนอื่นอาจจะคิดว่าตนเองถูกยั่วยุ ยิ่งกว่านั้นที่นี่ยังมีปรมาจารย์จากฝั่งของดินแดนใต้พิภพอยู่ด้วย
เหตุนี้เองปรมาจารย์ระดับวารีนิรันดร์ทุกคนจึงย่อรัศมีสัมผัสสวรรค์ของตัวเองให้เล็กที่สุดเพื่อไม่ให้กระตุ้นปรมาจารย์คนอื่นและนำไปสู่การเข้าใจผิด ดังนั้นจึงไม่มีใครคาดคิดว่าเชี่ยเฉียนจะกล้าถึงขนาดล่วงเกินปรมาจารย์ระดับวารีนิรันดร์ทุกคนในที่นี้
ไม่ต้องกล่าวถึงเรื่องที่ว่าเชี่ยเฉียนไม่ได้มีพลังต่อสู้โดดเด่นที่สุด หากเขาถูกปรมาจารย์หลายคนรุมโจมตีย่อมไม่อาจหนีความตายพ้น
เพราะงั้นทุกคนจึงรู้สึกประหลาดใจมากว่าทำไมเชี่ยเฉียนถึงทำเช่นนี้?
เชี่ยเฉียนอยู่ในอารมณ์ที่จะสนใจความรู้สึกของตนอื่น จะอย่างไรเขาก็เป็นถึงตัวตนระดับวารีนิรันดร์ ไม่มีใครกล้าผลีผลามลงมือกับเขาแน่นอน แต่ไม่ว่าอย่างไรการกระทำของเขาก็ต้องมีขีดจำกัด หากเหล่าปรมาจารย์ร่วมมือกันจริงๆเขาคงทำได้เพียงเผ่นหนี สู้ดินรนไปก็มีแต่จะเอาชีวิตไปทิ้ง
แต่ไม่ว่าเขาจะขยายขอบเขตสัมผัสสวรรค์จนกว้างขนาดไหนก็หาหลิงฮันไม่พบ เขาทั้งรู้สุกประหลาดใจและสนใจมากขึ้น
ในโลกนี้มีไม่กี่อย่างที่สามารถดึงดูดให้เขาสนใจได้ หลิงฮันย่อมเป็นหนึ่งในนั้น
“เชี่ยเฉียน พอรึยัง?” ตัวตนระดับวารีนิรันดร์คนหนึ่งเอ่ยขึ้น จงใจปล่อยสัมผัสสวรรค์ไปทั่วเช่นนี้ คิดจะยั่วยุกันรึไง? เจ้าตัวว่าเป็นแข็งแกร่งที่สุดในระดับวารีนิรันดร์?
เชี่ยเฉียนขมวดคิ้ว ตัวเขาเองย่อมรู้อยู่แล้วว่าความอดทนของเหล่าปรมาจารย์มีจำกัด เขาควบคุมสัมผัสสวรรค์จากทุกทิศทางให้กลับมายังบริเวณโลงศพโบราณทันที
“อั่ก!” จู่ๆเชี่ยเฉียนก็ร้องโอดครวญ ใบหน้าของเขาเปลี่ยนเป็นหน้าเกลียด ในตอนนั้นเองสัมผัสสวรรค์ที่ถูกชี้นำให้ย้อนกลับเกิดการสะไหวราวกับสูญเสียการควบคุมและระเบิดพลังอำนาจอันทรงพลังออกมาดั่งคลื่นยักษถาโถม
“อ้ากก!” พริบตาเดียวคนอย่างน้อยหลายร้อยคนก็ได้รับผลกระทบจนร่างกายสั่นสะท้านและกลายเป็นศพ ปรมาจารย์ระดับวารีนิรันดร์คนหนึ่งที่บังเอิญอยู่ใกล้ได้รับผลกระทบจากสัมผัสสวรรค์ของเชี่ยเฉียนเช่นกัน เขาเกรี้ยวกราดและคิดจะโจมตีใส่เชี่ยเฉียน
แต่ยังไม่ทันทีเขาจะปล่อยฝ่ามืออยู่ๆร่างของเขาก็ต้องชะงักเนื่องจากพบว่าสภาพของเชี่ยนเฉียนตอนนี้ดูย่ำแย่อย่างมาก ดวงตา หู จมูกและปากของเขามีโลหิตสีดำไหลออกมา
แน่นอนว่าจอมยุทธระดับพระเจ้าย่อมไม่ตายเพียงเพราะมีโลหิตไหลออกจากร่าง แต่ประเด็นก็คือเหตุใดปรมาจารย์ระดับวารีนิรันดร์ถึงได้ตกอยู่ในสภาพเช่นนี้?
“สังหารพรรคพวกของข้า อย่าคิดว่าแค่อธิบายเหตุผลแล้วจะจบ” ปรมาจารย์ระดับวารีนิรันดร์ของดินแดนใต้พิภพกล่าวอย่างเย็นชา ในหมู่คนที่ตกตายไปเมื่อครู่มีคนที่เกี่ยวข้องกับเขาอยู่ด้วย ไม่เช่นนั้นคนเหล่านั้นคงไม่มีคุณสมบัติจะมาอยู่ใกล้เขา
เชี่ยเฉียนไม่ได้ยินอะไรทั้งนั้น สองมือของเขากดกุมหัวเอาไว้ด้วยสีหน้าทรมาน โลหิตสีดำไหลออกมาจากดวงตา หู จมูกและปากของเขาไม่หยุด วารีนิรันดร์สี่ดวงปรากฏขึ้นด้านหลังของเขาแล้วค่อยๆระเบิดออกทีละดวง
ทุกๆครั้งที่วารีนิรันดร์แต่ละดวงถูกทำลาย พลังของจอมยุทธระดับวารีนิรันดร์จะต่อยๆลดลงทีละขั้น
การกระเช่นนี้ไม่ต่างอะไรกับการฆ่าตัวตาย
บ้าไปแล้ว เขาต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ!