โลงศพโบราณที่ไม่เคยเกิดการเปลี่ยนแปลงเลยตั้งแต่ยุคบรรพกาล จู่ๆมีเสียงเกิดขึ้นเช่นนี้ ปรมาจารย์ระดับวารีนิรันดร์ทุกคนจึงตกตะลึงเป็นอย่างมาก
ต่อให้พวกเขาส่วนใหญ่จะไม่ไม่ได้เห็นห้วงความฝันเอง แต่จากที่ได้ยินมา ตัวตนที่ทรงพลังหาที่ใดเปรียบได้ทิ้งบางอย่างเอาไว้ ตราบใดที่ช่วยบุตรสาวของอีกฝ่ายให้คืนชีพได้ พวกเขาจะได้รับรางวัลที่ว่า
ตอนนี้ทุกคนอยากจะหยุดการต่อสู้แล้วหาทางครอบครองรางวัลนั่นเหลือเกิน
แต่เชี่ยเฉียนนั้นยังคงลงมืออย่างบ้าคลั่ง เขาสูญเสียสติไปอย่างสมบูรณ์และหลงเหลืออยู่เพียงความคิดจะฆ่าสังหาร
‘แกร่ก แกร่ก แกร่ก’ โลงศพโบราณส่งเสียง ฝาโลงค่อยๆเปิดออก
เหล่าปรมาจารย์ต่างเต็มไปด้วยความรู้สึกคาดหวัง บางทีกุญแจที่จะช่วยให้พวกเขาเปิดประตูแห่งเซียนอาจจะอยู่ที่นี่!
ตูม!
แท่งแสงถูกยิงออกจากโลงศพขึ้นสู่ท้องฟ้า ชั้นมิติของสนามรบสองดินแดนพังทลาย ลำแสงที่ทะยานขึ้นท้องฟ้านั้นปลดปล่อยแสงสว่างอันไร้ที่สิ้นสุดยิ่งกว่าดวงตะวัน
เหล่าตัวตนระดับวารีนิรันดร์รีบแย่งกับบินไปยังแท่งแสง
แต่ทันใดนั้นเอง แท่งแสงที่พุ่งค้ำท้องฟ้าเอาไว้ก็หมุนวนด้วยความเร็วสูงจนแม้แต่ระดับวารีนิรันดร์ก็ไม่อาจหลบพ้น
“อ้ากกก” เหล่าปรมาจารย์ระดับวารีนิรันดร์กรีดร้อง พวกเขาพบว่าพลังวิญญาณของพวกเขากำลังถูกเผาไหม้ วารีนิรันดร์ด้านหลังค่อยๆระเบิดทีละดวงอย่างไม่อาจหยุดยั้ง
พวกเขาตกอยู่ในสภาพเดียวกันเชี่ยเฉียน ที่ต่างกันมีเพียงแค่พวกเขาไม่ได้สูญเสียสติและรับรู้ว่ากำลังเกิดอะไรขึ้น ซึ่งยิ่งทำให้พวกเขาทรมานขึ้นไปอีก
ความตายเป็นสิ่งน่ากลัวไม่ผิดแน่ แต่การที่ต้องคอยมองดูตัวเองตายนั้นเป็นประสบการณ์ที่ไม่ว่าใครก็ไม่อาจรับได้
แต่พวกเขาก็ไม่อาจต้านทานได้ ปรมาจารย์ระดับวารีนิรันดร์ทุกคนทำได้เพียงมองดูพลังชีวิตของตนเองถูกเผาผลาญจนในที่สุดพวกเขาก็จะกลายเป็นศพ พลังชีวิตของเหล่าปรมาจารย์ระดับวารีนิรันดร์น่าอัศจรรย์มาก ดินแดนแห้งแล้งแห่งนี้เมื่อสัมผัสเข้ากับพลังชีวิตมากมายก็มีต้นไม้ หญ้าสีเขียวและดอกไม้นับไม่ถ้วนงอกขึ้นมาทันที
กลิ่นหอมธรรมชาติแพร่กระจายไปทั่วทำให้สถานที่แห่งนี้ราวกับกลายเป็นสวรรค์บนดิน
เหล่าปรมาจารย์ระดับวารีนิรันดร์ร้องโอดครวญและพยายามหลุดพ้นจากภัยพิบัตินี้ แต่ไม่ว่าพวกเขาจะทำอย่างไรก็ไร้ประโยชน์ พลังงานที่กำลังควบคุมพวกเขานั้นทรงพลังเกินไป พวกเขาทำได้เพียงรอคอยให้ตนเองสิ้นชีพเหมือนกับปลาที่นอนอยู่บนเขียง
พวกเขาก็เหมือนกับเชี่ยเฉียนที่พลังชีวิตจะแห้งเหือดภายในหนึ่งวัน หากไร้พลังชีวิต แม้กายหยาบของพวกเขาจะยังคงอยู่ก็เป็นได้เพียงศพที่ไร้วิญญาณ
หมื่นล้านปีจนถึงตอนนี้ โศกนาฏกรรมเข่นฆ่าสังหารหมู่เช่นนี้ไม่เคยเกิดขึ้นกับเขตดวงดาวแสงคงกระพันมาก่อน
ภายในหอคอยทมิฬ หลิงฮันกับสตรีศักดิ์สิทธิ์แห่งนกอมตะสวรรค์มีท่าทีตกตะลึงอย่างมาก โดยเฉพาะสตรีศักดิ์สิทธิ์แห่งนกอมตะสวรรค์ที่ฟังเรื่องราวจากหลิงฮัน สำหรับนางแล้วระดับวารีนิรันดร์คือตัวตนที่ทรงพลังที่สุดในจักรวาล แต่ตัวตนไร้เทียมทานเช่นนั้นกลับถูกเผาผลาญพลังชีวิตอย่างไม่อาจขัดขืน
“ดูเหมือนว่า… ติงจื่อเฉินจะโกหกพวกเรา” หลิงฮันกล่าว
สตรีศักดิ์สิทธิ์แห่งนกอมตะสวรรค์พยักหน้า แม้แต่ระดับวารีนิรันดร์ยังไม่อาจขัดขืน บางทีต่อให้ตัวตนระดับเซียนมาก็คงมีชะตากรรมไม่ต่างกัน ใต้สวรรค์นี้ใครจะรอดพ้นจากตัวตนระดับติงจื่อเฉิน?
“ไม่เพียงแค่โกหก แต่พวกเรายังถูกหลอกใช้อีกด้วย” นางคาดเดา “ที่ติงจื่อเฉินนำร่างของบุตรสาวมาไว้ที่นี่อาจจะเป็นเพราะแผนของเขามีความเกี่ยวข้องกับสนามรบสองดินแดน”
หลิงฮันพยักหน้า “ตั้งแต่สี่ร้อยล้านปีก่อน ไม่มีใครรู้ว่าสนามรบสองดินแดนมีคนตายมากมายขนาดไหน โลหิตได้ไหลซึมไปทั่วผืนดินไม่รู้กี่หยก แม้ข้าจะไม่รู้วิธีผสานวิญญาณให้แก่คนตาย แต่ข้ามั่นใจว่ามันต้องเกี่ยวข้องกับความตายและโลหิตแน่นอน เพราะงั้นสนามรบสองดินแดนจึงเป็นสถานที่ที่เหมาะที่สุดในการคืนชีพ”
“เมื่อพลังชีวิตถูกสะสมบนสนามรบสองดินแดนจนถึงจุดจุดหนึ่ง สถานที่แห่งนี้จึงเปิดออก” สตรีศักดิ์สิทธิ์แห่งนกอมตะสวรรค์กล่าวต่อ
“ห้านิกายโบราณใช้ชีวิตของสิ่งมีชีวิตเพื่อหลอมเป็นเม็ดยา วิธีการของติงจื่อเฉินก็ไม่ต่างกันแถมน่าอัศจรรย์กว่าอีก เขาถึงกับใช้ชีวิตของจอมยุทธระดับพระเจ้าเป็นวัตถุดิบในการคืนชีพ” สตรีศักดิ์สิทธิ์แห่งนกอมตะสวรรค์กล่าวอีกครั้ง
ทั้งสองคนมองหน้ากัน พวกเขาพอเข้าใจความจริงขึ้นมาบ้างแล้วแต่ก็ไม่อาจแก้ไขอะไรได้ พวกเขาทำได้เพียงนั่งดูอยู่ภายในหอคอยทมิฬ
หากออกไปก็ต้องตาย!
“ข้าหวังว่าเจ้ากระต่ายกับโสมเฒ่าจะไม่เป็นอะไร พี่ชายอู่เมี่ยนและคนอื่นๆนั้นพวกเขาคงเอาตัวรอดได้อยู่แล้ว” หลิงฮันถอนหายใจ
“อาจจะ” สตรีศักดิ์สิทธิ์แห่งนกอมตะสวรรค์พยักหน้า
อู่เมี่ยนและราชาคนอื่นๆนั้นแข็งแกร่งมาก การหลบหนีคงไม่ใช่ปัญหา ส่วนเจ้ากระต่ายกับโสมเฒ่า แม้ระดับพลังของพวกมันจะไม่สูง แต่ก็เคลื่อนที่ได้รวดเร็ว ทักษะการเผ่นหนีของพวกมันนั้นเรียกได้ว่าชั้นหนึ่ง
“แต่ธิดาซื่อเยว่…” หลิงฮันกับสตรีศักดิ์สิทธิ์แห่งนกอมตะสวรรค์กล่าวพร้อมกันก่อนจะหยุดกลางคัน
พวกเขาทั้งสองต่างเคยได้รับการช่วยเหลือจากธิดาซื่อเยว่ แต่ด้วยสถานการณ์ในตอนนี้พวกเขาจึงสามารถออกไปช่วยเหลือนางได้ทำให้ทั้งสองรู้สึกแย่อย่างมากและรังเกียจติงจื่อเฉิน
อยากคืนชีพให้บุตรสาวก็เรื่องของเจ้า เหตุใดต้องนำชีวิตของคนมากมายมาใช้ประโยชน์ด้วย
พูดตามตรงแล้ว ติงจื่อเฉินก็ไม่ต่างอะไรกับห้านิกายโบราณที่สังหารชีวิตนับไม่ถ้วน
‘ตุบ ตุบ ตุบ’ ร่างของเหล่าปรมาจารย์แต่ละคนร่วงจากท้องฟ้า แม้ตามร่างกายจะไม่มีบาดแผลแต่วิญญาณของพวกเขาได้ถูกนำออกจากร่างจนกลายเป็นศพไปเรียบร้อยแล้ว
ครืนนนน!
โลงศพโบราณปลดปล่อยคลื่นแสงออกมาอีกครั้ง แต่ครั้งนี้รุนแรงกว่าครั้งก่อนมาก ท่ามกลางคลื่นแสงมีร่างหนึ่งค่อยๆปรากฏให้เห็น แขนขาของร่างนั้นห้อยลงอย่างไร้เรี่ยวแรงราวกับกำลังหลับไหล
ร่างนั้นคือสตรี สภาพของนางในตอนนี้ผอมบางจนเห็นโครงกระดูก ชุดกระโปรงยาวสีเขียวที่สวมใส่อยู่พริ้วไหวไปตามสายลม
แต่สิ่งที่น่าประหลาดก็เกิดขึ้น จู่ๆผิวของเขาก็ฟื้นสภาพกลับมามีน้ำมีนวล
ที่เห็นได้ชัดคือก้นที่แบนราบของนางจู่ๆก็อวบใหญ่ หน้าอกเองก็ค่อยๆขยายใหญ่จนโค้งนูน
ในส่วนใบหน้านั้น ริมฝีปากของนางแดงฉ่ำดั่งเปลวเพลิง แก้มด้านหนึ่งเรียบเนียนราวกับหยกแสดงให้เห็นถึงเอกลักษณ์ของสตรีที่งดงาม
แต่ความงดงามที่ว่าคือครึ่งใบหน้าเท่านั้น
‘ฟุบ’ คลื่นแสงสลายหายไปโดยที่สตรีผู้นั้นยังคงยืนอยู่กลางอากาศ
เปลือกตาของนางสั่นเครือและลืมตาขึ้น