ซือหม่าเจี้ยนหย่วนและปรมาจารย์อีกเจ็ดคนลงมือโจมตีหลิงฮันพร้อมกัน
ในหมู่ระดับดาราทั้งแปดคนนี้ ซือหม่าเจี้ยนหย่วนแข็งแกร่งที่สุด มีอีกสองคนที่บรรลุขั้นสูงเหมือนกัน แต่เป็นเพียงขั้นสูงชั้นต้นเท่านั้น สามจากห้าคนที่เหลือมีระดับพลังคือดาราขั้นกลาง ส่วนอีกสองคนคือดาราขั้นต้น
การร่วมมือกันของพวกเขาแสดงให้เห็นว่าต้องการจัดการหลิงฮันให้จบอย่างรวดเร็วเพียงใด
‘ครืนน’ แต่ละคนปลดปล่อยดวงดารา อำนาจอันทรงพลังถูกใช้ออกอย่างไร้ความปรานี
หลิงฮันกำดาบอสูรนิรันดร์ในมือแน่นและหัวเราะ “เหล่าเฒ่าชรา พวกเราต้องตายกันไปข้าง”
ดาบอสูรนิรันดร์ส่องประกาย ตัวดาบสั่นสะท้านด้วยตัวมันเองทำให้เกิดเสียงราวกับมังกรหรือพยัคฆ์กำลังคำราม
‘พรึบ!’
หลิงฮันใช้งานอำนาจสวรรค์เพื่อลดทอนพลังต่อสู้ของทุกคนให้ลดลงสองดาว
“นี่มันอะไรกัน!”
“เหตุใดพลังของข้าถึงได้ลดลง?”
“นี่มันทักษะลับเช่นใด?”
นอกจากซือหม่าเจี้ยนหย่วน ปรมาจารย์อีกเจ็ดคนอุทานออกมา การที่จู่ๆพลังต่อสู้ได้หายไปเช่นนี้ทำให้พวกเขาเกิดความรู้สึกหวาดกลัวราวกับวันสิ้นโลกกำลังมาถึง
“ตาย!”
หลิงฮันจับดาบและสะบั้นโจมตี คลื่นแสงแห่งดาบระเบิดออกพร้อมกับพุ่งทะยานขึ้นสูงทะลวงผ่านเก้าชั้นฟ้า
‘ฉัวะ ฉัวะ’ พริบตาเดียวหัวของคนสองคนก็หลุดออกจากบ่า โลหิตจากพุ่งกระจายราวกับน้ำพุจากส่วนลำคอ
สองคนนั้นคือปรมาจารย์ระดับดาราขั้นต้น ในจักรวรรดิราชวงศ์เพลิงศักดิ์สิทธิ์หรือแม้กระทั่งทั่วดินแดนศักดิ์สิทธิ์ ทั้งสองอาจจะเรียกได้ว่าเป็นจอมยุทธที่ทรงพลัง แต่การโจมตีเดียวของหลิงฮันพวกเขาก็ไม่สามารถต้านทานได้
‘ปัง ปัง’ เพื่อสังหารทั้งสอง หลิงฮันเองก็ถูกปรมาจารย์อีกหกคนโจมตีใส่พร้อมกันและกระอักโลหิตออกมา แม้กล้ามเนื้อจะฉีกขาด แต่กระดูกของเขายังคงไร้รอยขีดข่วน กล่าวได้ว่าสำหรับหลิงฮันบาดแผลแค่นี้ถือว่าเล็กน้อย
“บัดซบ พลังป้องกันนั่นมันอะไร!” ใครบางคนอุทาน
นี่มันไร้เหตุผลสิ้นดี ในเมื่อหลิงฮันควบแน่นพลังทั้งหมดไปกับการโจมตี ในขณะนั้นพลังป้องกันของเขาก็ต้องอ่อนแอมากไม่ใช่รึไง? เหตุใดที่เมื่อถูกพวกเขาปรมาจารย์ถึงหกคนโจมตีพร้อมกันแล้ว ยังได้รับบาดเจ็บเพียงเล็กน้อยและกระอักโลหิตออกมาเท่านั้น?
สัตว์ประหลาด!
หลิงฮันยิ้มและโคจรคัมภีร์สวรรค์นิรันดร์ บาดแผลที่กล้ามเนื้อของเขาฟื้นฟูอย่างรวดเร็วจนสามารถมองเห็นด้วยตาเปล่า
บ้าไปแล้ว!
ครั้งนี้แม้แต่ซือหม่าเจี้ยนหย่วนก็ตกตะลึง จากที่สู้กันมาก่อนทำให้เขารู้เพียงว่าหลิงฮันมีกายหยาบที่ไร้เทียมทาน เขาเขาไม่เคยรู้มาก่อนว่าพลังฟื้นตัวของหลิงฮันเองก็น่าสะพรึงกลัวไม่แพ้กัน
แล้วแบบนี้จะสังหารสัตว์ประหลาดตนนี้ได้อย่างไร?
พวกเขาไม่รู้ว่าขอแค่หลิงฮันใช้งานหยดวารีนิรันดร์ ต่อให้เป็นบาดแผลที่สาหัสขนาดไหนก็สามารถฟื้นตัวได้ และพวกเขาก็ไม่รู้ด้วยว่าหลิงฮันสามารถกำเนิดใหม่จากเถ้าถ่านที่เปรียบเสมือนการเกิดใหม่จากความตาย ไม่เพียงแค่บาดแผลจะหายเป็นปลิดทิ้ง แต่พลังของเขายังกลับสู่สภาพที่สมบูรณ์ที่สุดอีกด้วย
แต่น่าเสียดายที่ด้วยพลังของพวกเขาแล้ว ไม่มีทางที่จะบังคับให้หลิงฮันใช้ไพ่ลับทั้งสองได้
“ตาย!” หลิงฮันคำราม แววตาของเขาส่องประกายอย่างเยือกเย็น ตอนนี้เขาได้กลายเป็นเครื่องจักรสังหารที่คิดเพียงจะเข่นฆ่าคนเหล่านี้
“ร่วมมือกัน!” ซือหม่าเจี้ยนหย่วนตื่นตระหนก เขาตะโกนออกมาโดยไม่สนว่าอีกฝ่ายจะเป็นเพียงจอมยุทธระดับดาราขั้นต้น
*ถ้าหลิงฮันฟื้นฟูบาดแผลได้อย่างต่อเนื่อง เช่นนั้นหากปล่อยไว้เช่นนี้คงเป็นพวกเขาเองที่เผาผลาญพลังจนหมด
ทั้งหกคนมองหน้าและตัดสินใจร่วมมือกัน
การต่อสู้ดำเนินต่อไป พลังของหลิงฮันไม่แข็งแกร่งพอจะบดขยี้ทั้งหกคนที่ร่วมมือกัน แต่พวกซือหม่าเจี้ยนหย่วนเองก็ไม่สามารถทำให้กายหยาบของหลิงฮันได้รับบาดเจ็บเช่นกัน
“ฮึ่ม พวกเรารับรู้แล้วว่าเจ้าแข็งแกร่ง!” ซือหม่าเจี้ยนหย่วนกล่าวออกมา “เอาแบบนี้เป็นอย่างไร เจ้ามอบสมบัติที่มีให้พวกเราแค่ครึ่งเดียวก็พอ”
“ถูกแล้ว แค่ครึ่งเดียว” คนอื่นๆพยักหน้า ไม่เช่นนั้นต่างฝ่ายต่างก็ไม่สามารถตัดสินผลการต่อสู้กันได้
หลิงฮันหัวเราะก่อนจะกล่าว “หัวของพวกเจ้าได้รับความเสียหายรึไง? ของของข้าก็ต้องเป็นของข้า ทำไมต้องแบ่งให้พวกเจ้าครึ่งหนึ่งด้วย? เป็นพวกเจ้าต่างหากที่ต้องทิ้งชีวิตเอาไว้ที่นี่แล้วมอบสมบัติที่มีให้ข้า!”
“เพ้อเจ้อ!” ทั้งหกคนตะโกนลั่น แม้พวกเขาจะไม่สามารถทำลายพลังป้องกันของหลิงฮันได้ แต่ทั้งหกคนก็มั่นใจว่าพลังของพวกเขานั้นเพียงพอที่จะปกป้องตนเอง
“งั้นรึ?” หลิงฮันลงมือ
“ฮึ่ม!” ทั้งหกคนผสานพลังและโมตีใส่หลิงฮัน
“กาลเวลาแปรผันพันปี!” หลิงฮันพึมพำ เขายกมือซ้ายขึ้นพร้อมกับปลดปล่อยคลื่นพลังของกาลเวลาแปรผันพันปี พริบตาเดียวพลังทำลายของการโจมตีของทั้งหกคนก็ค่อยๆเสื่อมสลาย
หลิงฮันสะบั้นดาบปลดปล่อยทักษะดาบฟ้าคำราม แสงอันไร้ที่สิ้นสุดถูกปลดปล่อยออกมาจากดาบอสูรนิรันดร์ ดาบเล่มนี้คืออาวุธที่จะกลายเป็นอุปกรณ์ระดับนิรันดร์ในอนาคต!
‘ฉัวะ!’
ปรมาจารย์ระดับดาราอีกคนสิ้นชีพ หัวของเขาถูกดาบอสูรนิรันดร์ตัดขาด วิญญาณของเขาแหลกสลายไปพร้อมกับพลังชีวิตทันที ดวงตาของปรมาจารย์ผู้นั้นเปิดกว้างราวกับทำใจเชื่อไม่ลงว่าตนเองจะถูกฆ่าตาย
“เหลืออีกห้า” หลิงฮันกล่าวอย่างสงบนิ่ง
เมื่อใดยินน้ำเสียงที่สงบนิ่งของหลิงฮัน ปรมาจารย์ที่เหลืออีกห้าคนก็รู้สึกเย็นยะเยือกราวกับอยู่ในถ้ำน้ำแข็ง
หลิงฮันกวัดแกว่งดาบอสูรนิรันดร์และโจมตีอีกครั้ง
ปรมาจารย์โจมตีผสานกัน แต่ต่อหน้ากาลเวลาแปรผันพันปีแล้วย่อมไม่อาจทำอะไรได้ การโจมตีของพวกเขาค่อยๆอ่อนพลังลงจนไม่อาจต้านดาบอสูรนิรันดร์เอาไว้ได้ ในด้านของพลังป้องกันนั้นหากถูกดาบอสูรนิรันดร์ฟาดฟันเข้าใส่โดยตรง มีรึที่ร่างกายของพวกเขาจะป้องกันเอาไว้ได้?
อย่างน้อยในระดับดารานี้ ย่อมไม่มีใครสามารถรับการโจมตีจากดาบอสูรนิรันดร์โดยตรงแล้วมีชีวิตรอด
‘ฉัวะ’ หัวของปรมาจารย์อีกคนลอยขึ้นฟ้าพร้อมกับโลหิตสาดกระจายและร่างได้ร่วงหล่นลงพื้นดิน ตอนนี้ปรมาจารย์ที่เหลือรอดคือซือหม่าเจี้ยนหย่วนและจอมยุทธระดับดาราขั้นสูงอีกสองคน
ที่จริงหากร่วมมือกันอย่างพร้อมเพรียง พวกเขาก็ใช่ว่าจะไม่สามารถต้านทานการโจมตีของดาบอสูรนิรันดร์ แต่ว่าในขณะที่การโจมตีพุ่งเข้าใส่ พวกเขาแต่ละคนกลับเลือกแยกย้ายกันหลบหนีดาบอสูรนิรันดร์แทน
“จับนางไว้!” ซือหม่าเจี้ยนหย่วนชี้นิ้วไปยังสตรีศักดิ์สิทธิ์แห่งนกอมตะสวรรค์
“ใช่แล้ว ต้องใช้สตรีผู้นั้นข่มขู่เจ้าหนูนั่น!” ปรมาจารย์อีกสองคนรีบพุ่งเข้าหาสตรีศักดิ์สิทธิ์แห่งนกอมตะสวรรค์ทันที
“รนหาที่ตาย!” หลิงฮันปลดปล่อยจิตสังหารและสะบัดมือ ‘พรึบ’ เซียนหวู่เซียนถูกโยนออกมาอีกครั้ง
“เจ้าหนู ยังไม่เลิกทำแบบนี้อีก!” เซียนหวู่เซียงที่ถูกจับแยกออกจากต้นสังสารวัฏแน่นอนว่าต้องเกรี้ยวกราดและปลดปล่อยออร่าแห่งเซียนออกมา
“อะไรกัน!” พวกซือหม่าเจี้ยนหย่วนหวาดกลัว นี่มันออร่าของเซียน!
หลิงฮันใช้โอกาสนี้ปลดปล่อยทักษะย่างก้าวไล่ตามดารา หลังจากทำความเข้าใจทัณฑ์สายฟ้าสวรรค์ได้สำเร็จ ความเร็วของเขาก็นน่าสะพรึงกลัวยิ่งขึ้น เขากวัดแกว่งดาบอสูรนิรันดร์ด้วยความเร็วแสง ‘ฉัวะ ฉัวะ ฉัวะ’ หัวสามหัวลอยกระเด็นขึ้นสู่ท้องฟ้า
“เจ้าหนู…” เซียนหวู่เซียงต้องการจะกล่าวอะไรบางอย่าง แต่ก่อนที่จะกล่าว หลิงฮันได้นำเขากลับเข้าหอคอยทมิฬอย่างรวดเร็วราวกับคุ้นชินกับการทำเช่นนี้แล้ว