หลินจื่อหงตกตะลึง ดาบที่กำลังพุ่งเข้ามาไม่ได้รับผลกระทบใดๆเลยแม้แต่น้อย!
ในความคิดของเขา เมื่อคลื่นเสียงของกลองโจมตีออกไป ไม่ว่าจะเป็นอุปกรณ์ศักดิ์สิทธิ์ใดๆก็ต้องพังทลายแหลกเป็นเศษซาก
แต่หลินจื่อหงจะรู้ได้อย่างไรแท้จริงแล้วดาบอสูรนิรันดร์นั้นถูกสร้างขึ้นด้วยแร่โลหะนิรันดร์?
เมื่อเห็นดาบพุ่งใกล้เข้ามา ร่างกายของเขาก็สั่นสะท้านด้วยความรู้สึกหวาดกลัว
ดาบนี้คือดาบอะไรกัน เหตุใดถึงได้น่าสะพรึงกลัวเพียงนี้
หลินจื่อหงล่าถอยอย่างรวดเร็วและกระหน่ำสะบัดมือตีกลอง เขาไม่เชื่อว่าจะต้านทานดาบอสูรนิรันดร์ไม่ได้
แต่ไม่ว่าทำอย่างไร ความพยายามของเขาก็ต้องสูญเปล่า
ดาบอสูรนิรันดร์ถูกยกระดับเป็นแร่โลหะระดับสิบแล้ว ซึ่งเทียบเป็นพลังบ่มเพาะแล้วถือว่าทัดเทียมกับหลินจื่อหง ในระดับพลังเดียวกัน หากอาวุธที่ถูกหลอมด้วยแร่โลหะนิรันดร์ไม่สามารถบดขยี้ศัตรูได้มันจะถูกเรียกว่าแร่โลหะนิรันดร์ได้อย่างไร?
‘พรึบ พรึบ พรึบ’ เจตจำนงดาบนับไม่ถ้วนแพร่กระจายกลายเป็นตะข่ายขนาดมหึมา
หลินจื่อหงพยายามจะทำลายตะข่ายเจตจำนงดาบ แต่อำนาจของเจตจำนงดาบได้ทำให้ร่างของเขาหยุดชะงักจนกระอักโลหิตออกมาไม่หยุด นี่เขายังแค่ถูกโจมตีด้วยเจตจำนงดาบเท่านั้น หากถูกดาบฟันเข้าใส่โดยตรงเกรงว่าคงได้รับบาดเจ็บสาหัสกว่านี้มาก
“ว่าไง” หลิงฮันเอ่ย
หลินจื่อหงสะดุ้ง เขามัวจดจ่ออยู่แต่กับการรับมือดาบอสูรนิรันดร์จนล่าถอยเข้ามาใกล้หลิงฮันตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้
หากเป็นเช่นนี้ก็ต้องจัดการเจ้าของดาบก่อน!
ในเมื่อดาบเล่มนี้เป็นอุปกรณ์ศักดิ์สิทธิ์ของหลิงฮัน ดาบต้องหยุดโจมตีแน่หากเขาสังหารหลิงฮันได้
เมื่อคิดได้เช่นนี้ หลินจื่อหงก็ตั้งสติดึงความมั่นใจกลับมาได้ เขาหันหลังตั้งฝ่ามือเป็นกรงเล็บโจมตีใส่หลิงฮัน
หลิงฮันยิ้ม กล้าสู้ระยะประชิดกันเขารึ หลินจื่อหงไปเอาความกล้าขนาดนั้นมาจากไหน?
เขาปล่อยหมัดตอบโต้กรงเล็บของอีกฝ่าย
ตูม!
การโจมตีของทั้งสองคนเข้าปะทะกัน ครั้งนี้ไม่ใช่การปะทะกันของปราณก่อเกิดเพียงอย่างเดียว แต่มือของพวกเขาปะทะกันโดยตรง
ใบหน้าอันมั่นใจของหลินจื่อหงหายไปทันทีและแทนที่ด้วยใบหน้าอันเจ็บปวด
นิ้วมือทั้งห้าของเขาหักงอ บางนิ้วงอไปด้านหน้าบางนิ้วงอไปด้านหลัง ผิวหนังถูกฉีกขาดจนโลหิตหยดไหลออกมา
หลินจื่อหงตกตะลึงจนไร้คำพูด พลังของเขาเหนือกว่าหลิงฮัน เขาต้องเป็นฝ่ายบดขยี้หลิงฮันให้ราบคาบแท้ๆ แต่สถานการณ์กลับกลายไปว่านิ้วมือทั้งห้าของเขาหักงอ ส่วนมือของหลิงฮันไร้รอยขีดข่วน
หลิงฮันใช้นิ้วแทนดาบทิ่มเข้าใส่หน้าผากหลินจื่อหง
ในช่วงเวลาของความเป็นความตาย หลินจื่อหงไม่สนใจความเจ็บปวดที่มืออีกต่อไปและรีบพลักร่างตัวเองล่าถอย
“ระวังด้านหลัง” หลิงฮันกล่าวเตือน
เป็นไปได้รึที่หลินจื่อหงจะฟังคำพูดของศัตรู เขายังคงกระโดดไปด้านหลังโดยถือกลองเอาไว้ในมือ ด้วยระยะเท่านี้หลิงฮันหลบไม่พ้นแน่!
ตายไปซะ!
ฉัวะ!
มือของเขายังไม่ได้สะบัดตีกลองก็มีปลายดาบแทงทะลุหน้าอกมาจากด้านหลัง
ดาบอสูรนิรันดร์!
เขาลืมดาบสังหารเล่มนี้ไปเสียสนิท
ในตอนที่ดาบอสูรนิรันดร์สร้างแรงกดดันให้แก่เขา เขาก็เผลอลืมหลิงฮัน ในตอนที่หลิงฮันสร้างแรงกดดันให้แก่เขา เขาก็เผลอลืมดาบอสูรนิรันดร์
ประเด็นก็คือดาบนี้แทงเข้ามาบริเวณหัวใจของเขา เขาจะเอาชีวิตรอดได้อย่างไร?
‘ครืนน’ คลื่นพลังอันน่าสะพรึงกลัวระเบิดออกภายในร่างกายหลินจื่อหง หัวใจเป็นส่วนแรกที่ถูกทำลาย หากเพียงแค่หัวใจยังไม่ทำไหร่ แต่ที่น่ากลัวก็คือแม้แต่ห้วงจิตวิญญาณกับตันเถียนของเขาก็ยังได้รับความเสียหาย
เมื่อใดที่ตันเถียนถูกทำลาย พลังบ่มเพาะก็จะสูญสลายอย่างสมบูรณ์ และหากห้วงจิตวิญญาณถูกทำลาย ดวงวิญญาณของเขาก็จะสลายหายไป
หลินจื่อหงเต็มไปด้วยความรู้สึกหวาดกลัว ตอนนี้เขารู้สึกแล้วว่าความตายได้ใกล้เข้ามาหาเขาแล้วจริงๆ
“ช่วยข้าด้วย!” หลินจื่อหงจ้องมองหลิงฮันด้วยสายตาอ้อนวอน
หลิงฮันทำสีหน้าตกตะลึง ต้องมีปาฏิหาริย์เช่นใดเกิดขึ้นข้าถึงจะยอมช่วยเจ้า?
“ข้าคือนายน้อยของตำหนักสาขาอังหยวน เจ้าเป็นเพียงแขกของจำหนัก ดังนั้นข้าขอสั่งให้เจ้าช่วยข้า!” หลินจื่อหงคำรามในขณะที่พยายามกำราบพลังทำลายที่เกิดขึ้นในร่างกาย
หลิงฮันกลายเป็นไร้คำพูด เวลาแบบนี้หมอนี่ยังทำท่าทีอวดเบ่งอยู่อีก?
“ข้ายอมมอบหลินอวีฉีให้เจ้า!” หลินจื่อหงตะโกนลั่น แต่ไม่ว่าอย่างไรทุกอย่างก็สายเกินแก้แล้ว พลังทำลายของดาบอสูรนิรันดร์ได้แพร่กระจายไปทั่วร่างกายไม่ว่าจะส่วนบนหรือส่วนล่าง อีกแต่นิดเดียวก็จะถึงห้วงจิตวิญญาณและตันเถียนของเขาแล้ว
“นางไม่ใช่ของเจ้า แต่อันที่จริงถ้าจะให้ข้าพูด ข้าก็ไม่ได้คิดจะครอบครองนางอยู่แล้ว เป็นเจ้าที่คิดเองเออเอง” หลิงฮันกล่าวอย่างไม่แยแส แน่นอนว่าเขาไม่มีความคิดจะช่วยเหลืออีกฝ่าย
หลินจื่อหงแสดงสีหน้าสิ้นหวังและเสียใจ
แต่ความสิ้นหวังก็หายไปยังรวดเร็วและแทนที่ด้วยความบ้าคลั่ง ในเมื่อยังไงเขาก็ต้องตาย งั้นก็ต้องลากหลิงฮันไปด้วยกัน!
“ฮึ่ม!” เขาคำรามและระเบิดตันเถียนของตัวเอง
ดวงดาราสองดวงอันเป็นสัญลักษณ์ของระดับดาราขั้นกลางระเบิดออกก่อให้เกิดเป็นคลื่นพลังอันน่ารุนแรง
การระเบิดตัวเองของจอมยุทธระดับดารานั้น ต่อให้เป็นเพียงระดับดาราขั้นกลางก็สามารถเทียบเท่าได้กับการโจมตีสุดกำลังของตัวตนระดับวารีนิรันดร์ขั้นต้นหรืออาจจะขั้นกลาง คลื่นพลังอันรุนแรงระเบิดออกเป็นวงกว้างไปทั่วทิศทางโดยมีหลินจื่อหงกับหลิงฮันอยู่กึ่งกลาง
คลื่นพลังทำลายเทียบเท่าพลังโจมตีสุดกำลังของตัวตนระดับวารีนิรันดร์ จอมยุทธระดับดาราจะต้านทานได้อย่างไร?
กายหยาบของหลินจื่อหงระเบิดกระจุยก่อนเป็นอย่างแรกก่อนที่ดวงวิญญาณจะค่อยๆแหลกสลาย เขาพยายามฝืนรั้งคงสภาพดวงวิญญาณเอาไว้เพื่อดูจุดจบของหลิงฮัน
ร่างของหลิงฮันหายเข้าไปในหอคอยทมิฬ หากจะลองใช้กายหยาบของเขาทดสอบป้องกันพลังทำลายของระดับวารีนิรันดร์ก็ดูจะเป็นการกระทำที่สิ้นคิดเกินไปหน่อย
พริบตาที่คลื่นระเบิดสลายไป ร่างของหลิงฮันก็ปรากฏตัวออกมาอย่างรวดเร็วราวกับไม่เคยหายไปไหน
หลิงฮันยืนแน่นิ่ง แม้แต่ชายเสื้อของเขาก็ไม่ปรากฏแม้แต่รอยขีดข่วน เศษเสี้ยวดวงวิญญาณของหลินจื่อหงกระตุกบิดเบี้ยว แต่ในขณะเดียวกันดาบอสูรนิรันดร์ก็พุ่งทะลวงเข้ามาบดขยี้ดวงวิญญาณของหลินจื่อหงจนสูญสลายไปทันที
หลิงฮันเอื้อมมือออกไปคว้าอุปกรณ์มิติที่หลินจื่อหงเหลือทิ้งเอาไว้
แค่มองดูภายในแวบแรกก็รู้แล้วว่าเขาเป็นบุตรของผู้นำตำหนัก ไม่เพียงแค่ผลึกก่อเกิด แต่ภายในอุปกรณ์มิติยังมีทั้งแร่โลหะศักดิ์สิทธิ์ สมุนไพร และสมบัติล้ำค่าอย่างอื่นอีกมากมาย
แน่นอนว่าสิ่งที่ล้ำค่าที่สุดย่อมเป็นกลองรบ