เมื่อเข้ามายังวิหารชำระล้าง สมุนไพรศักดิ์สิทธิ์ที่มีขนาดสูงราวร้อยฟุตก็ปรากฏอยู่ด้านหน้า
ผลต้นกำเนิดวิถีสวรรค์!
“ทำไมถึงยังเป็นสมุนไพรนี้?” หลิงฮันประหลาดใจ ที่ชั้นแรกสมุนไพรในวิหารก็เป็นสมุนไพรชนิดนี้ พอชั้นที่สองก็ยังเป็นสมุนไพรเดิม ต้องรู้ก่อนว่าหากเป็นสมุนไพรที่มีประสิทธิ์สูง ต่อให้กินหนึ่งอันหรือร้อยอันผลลัพธ์ก็ไม่ต่างกัน
เช่นนั้นแล้วเหตุใดถึงได้ปลูกผลต้นกำเนิดวิถีสวรรค์ในเขตแดนลี้ลับถึงสองต้น หรือเจ้าของเขตแดนลี้ลับแห่งนี้คิดจะมอบมันให้ใครบางคน?
ไม่เช่นนั้นปรมาจารย์ผู้สร้างเขตแดนแห่งนี้ก็คงมีงานอดิเรกคือปลูกผลต้นกำเนิดวิถีสวรรค์?
“หืม?”
หลิงฮันต้องมองอย่างละเอียดและพบว่าผลต้นกำเนิดวิถีสวรรค์ต้นนี้แตกต่างไปจากเดิมเล็กน้อย
“ดูเหมือนว่าจะมีบางอย่างถูกผสานอยู่ภายในผลต้นกำเนิดวิถีสวรรค์ต้นนี้” หลิงฮันมองออกอย่างรวดเร็ว ด้วยความเข้าใจในสมุนไพรของเขาในตอนนี้การแยกแยะสมุนไพรจึงไม่ใช้เรื่องยากลำแบก
เพียงแต่ว่าเขาไม่ได้ตรวจสอบผลต้นกำเนิดวิถีสวรรค์ในชั้นแรกให้ละเอียด ทำให้ไม่รู้ถึงความแตกต่างที่ชัดเจน
“สมุนไพรต้นนี้ใกล้จะเติบโตเต็มที่แล้ว” หลิงฮันแหงนมอง ต้นกำเนิดวิถีสวรรค์จะออกผลเพียงหนึ่งผลต่อหนึ่งต้น ภายในผลของมันได้อัดแน่นไปด้วยอำนาจแห่งกฎเกณฑ์ของสวรรค์และปฐพี ดังนั้นมันจึงถูกเรียกว่าผลต้นกำเนิดวิถีสวรรค์
สมุนไพรชนิดนี้เป็นสมุนไพรระดับสูงสุด อัตตราการเติบโตของมันจึงไม่สามารถคาดเดาได้แน่ชัด ใกล้โตเต็มที่ที่ว่านั้นอาจจะหมายถึงหนึ่งปีหรือหมื่นปี แม้แต่ด้วยสายตาอันแหลมคมของหลิงฮันก็ไม่สามารถบอกได้อย่างแม่นยำ
เหตุผลเป็นเพราะพลังบ่มเพาะของหลิงฮันในตอนนี้ยังต่ำเกินไป แถมบริเวณรอบด้านสมุนไพรยังมีรูปแบบอาคมสังหารใต้หล้าที่ส่งผลกระทบต่อการตรวจสอบของเขา
“คงต้องไปยังชั้นสามและตรวจสอบให้ละเอียด” หลิงฮันกล่าวในใจ
เขาเดินเข้าไปยังทางขึ้นชั้นสาม พริบตาเดียวกันตัวเขาก็ปรากฏขึ้นที่ห้องหินที่มีโต๊ะหินและนาฬิกาทรายตั้งอยู่
“ทดสอบจำแนกรูปลักษณ์สมุนไพร เริ่มได้” เสียงอันไร้อารมณ์ดังขึ้นอีกครั้ง
ช่างบังเอิญที่เป็นการนจำแนกรูปลักษณ์สมุนไพรอีกครั้ง
เมื่อการทดสอบเริ่มต้น ชิ้นสมุนไพรก็ปรากฏด้านหน้าหลิงฮัน แต่สมุนไพรแต่ละชนิดแตกต่างจากชั้นแรกทั้งหมด ส่วนความยากนั้นไม่ได้ยากขึ้นแม้แต่น้อย
หลิงฮันตอบชื่อสมุนไพรอย่างรวดเร็ว เมื่อนาฬิกาทรายหมดเวลา เขาก็สามารถทำผลลัพธ์ได้น่าอัศจรรย์อีกครั้ง ทันใดนั้นนาฬิกาทรายที่หยุดเดินบนศีรษะของเขาก็เริ่มนับเวลาต่อ
สามารถเพิ่มเวลาต่อจากเดิมได้!
หลิงฮันเข้าใจทันทีส่าทำไมหลินอวีฉีที่เวลาบนนาฬิกาทรายยังไม่หมดแต่กลับรีบมายังวิหารกึ่งกลาง ดูเหมือนว่านางจะใช้เวลานานเพียงแค่ในชั้นแรก พอขึ้นมายังชั้นสองก็เดินทางอย่างรีบเร่งเพื่อไม่ให้สูญเสียเวลาโดยเปล่าประโยชน์
ในเมื่อเวลาสามารถซ้อนทับกันได้ เหตุใดถึงไม่มีใครสามารถขึ้นไปเหนือกว่าชั้นที่แปดของเขตแดนลี้ลับ?
หลิงฮันไม่เข้าใจ หลินอวีฉีบอกแค่ว่าไม่มีใครมีเวลาเพียงพอแต่ไม่ได้บอกรายละเอียดอย่างชัดเจน
ช่างมันเถอะ เอาไว้ไปถึงเดี๋ยวก็รู้เอง
หลิงฮันตัดสินไม่เก็บเกี่ยวสมุนไพรอื่นนอกจากสมุนไพรที่ล้ำค่าจริงๆ เนื่องจากความรู้สึกสงสัยเขาจึงต้องการไปยังชั้นที่เก้าให้ได้
ตอนนี้เขาสามารถอยู่ในชั้นที่สามได้สิบสามวัน!
หากมองจากมุมมองภายนอก แม้จะเป็นระยะเวลาสิบสามวันหรือสามวันจำนวนของเม็ดทรายในนาฬิกาทรายไม่ได้แตกต่างกันเลย แต่เป็นความเร็วในการไหลของเม็ดทรายต่างหากที่ต่างกัน
แน่นอนว่าด้วยผลการทบสอบที่ยอดเยี่ยมทำให้เขาได้รับรางวัลเป็นตำราเม็ดยาระดับหนึ่งถึงระดับสิบสอง ซึ่งเป็นตำราเม็ดยาระดับสิบเอ็ดนี่เองที่ทำให้แววตาของเขาส่องประกาย
มันคือตำราเม็ดยาเปลวเพลิงลอยล่อง เม็ดยาชนิดนี้ไม่ได้มีไว้กินแต่ใช้เพื่อโจมตีศัตรู
เมื่อเม็ดยาเพลิงลอยล่องถูกโยนออกไป มันจะสร้างคลื่นระเบิดอันรุนแรงที่เทียบเท่ากับการโจมตีเต็มกำลังของจอมยุทธระดับดาราขั้นสูง
หากเป็นเม็ดยาเพียงเม็ดเดียวคงไม่น่ากลัวเท่าไหร่ แต่หากโยนเม็ดยาชนิดนนี้ออกไปพร้อมกับสิบเม็ด ร้อยเม็ด หรือพันเม็ดล่ะ?
ตราบใดที่มีทรัพยากรมากพอ จะหลอมเม็ดยาเพลิงลอยล่องขึ้นมาสักสิบล้านเม็ดก็ไม่ใช่ปัญหา ด้วยพลังทำลายล้างเช่นนั้นเกรงว่าแม้แต่ตัวตนระดับวารีนิรันดร์ก็ต้องล่าถอย
ห้องหินพังทลายลงมาพร้อมกับร่างของหลิงฮันถูกส่งไปยังชั้นสาม
สภาพแวดล้อมของชั้นนี้คือทุ่งหิมะอันหนาวเหน็บและสายลมกรรโชก
สมุนไพรในชั้นนี้ดูเหมือนจะมีความสัมพันธ์กับสภาพแวดล้อมหนาวเย็น แต่สภาพแวดล้อมเช่นนี้ย่อมสร้างปัญหาให้กับผู้คนที้เข้ามาในนี้เป็นอย่างมาก การที่มีหิมะเต็มไปทั่วพื้นที่เช่นนี้ไม่มีใครรู้ว่าใต้หิมะเหล่านี้มีภัยร้ายแบบไหนซ่อนตัวอยู่บ้าง
สัตว์อสูรอาจจะโผล่ขึ้นมาในพริบตาและลงมือสังหารพวกเขา
แผนที่ของชั้นสามยิ่งมีรายละเอียดน้อยกว่าเดิม แต่สถานที่ที่หลิงฮันจะไปมีไม่กี่แห่งเท่านั้น
เวลาผ่านไปเพียงสองวันหลิงฮันก็ไปสถานที่ที่เขาอยากไปหมดแล้วและเก็บเกี่ยวมาได้มากมาย
สมุนไพรล้ำค่าบางชนิดมีสัตว์อสูรที่ทรงพลังคอยคุ้มครอง หลิงฮันโชคดีแอบเก็บพวกมันมาได้ไม่กี่ชนิดเท่านั้น เขาทำได้แค่ถอนหายใจและมุ่งหน้าไปยังวิหารของชั้นสาม
วิหารรุ่งโรจน์ (浩然宫)
หลิงฮันแหงนหน้ามองและพบกับสิ่งไม่คาดคิดคืออำนาจบนอักษรทั้งสามได้จางหายจนไม่เหลือแม้แต่นิดเดียว
เบื้องหน้าของเขา มีใครบางคนกำลังดูดซับพลังจากอักษร
อีกฝ่ายเพิ่งจะค้นพบพลังของอักษร… หรือว่าแท้จริงรู้มานานแล้ว?
หากเป็นแบบหลังก็หมายความว่าความลับนี้หลิงฮันไม่ได้ค้นพบเป็นคนแรก มีใครบางคนค้นพบก่อนแล้วแต่ไม่ได้แพร่งพรายให้ใครอื่นในสี่ตระกูลรับรู้ ไม่เช่นนั้นที่หน้าวิหารชั้นแรกคงจะมีคนมารวมตัวกันจำนวนมากแล้ว
แต่หากมีคนส่วนหนึ่งรู้ถึงความลับนี้อยู่แล้ว เหตุใดที่ชั้นแรกถึงยังมีพลังหลงเหลืออยู่ในอักษร?
หลิงฮันส่ายหัวไม่เก็บมาคิด ในเมื่อเขาไม่สามารถดูดซับพลังของอักษรในวิหารชั้นสองได้ ที่ชั้นนี้เองก็คงเหมือนกัน
คนที่ค้นพบว่าที่อักษรในชั้นสามมีพลังลึกลับซ่อนอยู่ ที่เขาไม่แพร่งพรายความลับให้ใครรู้อาจจะเป็นเพราะอยากเก็บไว้เพื่อยกระดับพลังให้ตนเอง หรือไม่ก็ต้องการทิ้งไว้ให้ผู้สืบทอด
หลิงฮันเดินเข้าวิหารไปและพบกับผลต้นกำเนิดวิถีสวรรค์ของชั้นสาม
เป็นอย่างที่คิด มีบางสิ่งบางอย่างแปลกประหลาด
“สมุนไพรต้นนี้ต้องมีอะไรบางอย่างผสานเข้าไป แม้ข้าไม่รู้ว่ามันคืออะไรแต่ผลต้นกำเนิดวิถีสวรรค์ต้นนี้แตกต่างกับที่ชั้นสอง!” หลิงฮันมองอย่างละเอียดก่อนจะมั่นใจ
ไม่ต้องเดาก็รู้ว่าวิหารขั้นเก้าชั้นนั้นมีผลต้นกำเนิดวิถีสวรรค์อยู่ เก้าผลต้นกำเนิดวิถีสวรรค์ที่ถูกผสานอะไรบางอย่างลงไป จะต้องมีความหมายอะไรบางอย่างแน่
เขตแดนลี้ลับถ้ำจ้าวสมุนไพรเป็นสถานที่ที่น่าอัศจรรย์มาก แม้แต่สมุนไพรระดับเซียนถูกปลูกเอาไว้ หลิงฮันอดไม่ได้ที่นึกไปถึงความน่ากลัวของผู้สร้างเขตแดนลี้ลับแห่งนี้ ปรมาจารย์เช่นนั้น… ต่อให้ตายไปแล้วก็ยังหลงเหลือความน่ากลัวจนโลกต้องสั่นสะเทือนเอาไว้
ใช่ว่าตัวเขาจะไม่เคยพบเห็นปรมาจารย์ที่ตายอยู่ในเขตแดนลี้ลับฟื้นคืนชีพขึ้นมาอีกครั้ง
อย่างเช่นจักรพรรดิจอมอสูร ในเขตแดนลี้ลับของโลกใบเล็ก ร่างของเขาถูกแบ่งเป็นแปดส่วนแต่ก็ยังไม่ตายและพยายามฟื้นคืนชีพ ในเขตแดนลี้ลับมหาสมุทรสวรรค์ ปรมาจารย์ถึงสองคนก็แสร้งทำเป็นว่าตายไปแล้ว
หรือว่า…ที่นี่ก็เหมือนกัน?