เมื่อหลิงฮันกลับมาทั่วทั้งจักรวรรดิก็เร่าร้อนทันที
ข่าวจากเมืองจักรพรรดิมาถึงที่นี่แล้ว ผู้คนของจักรวรรดิต้าหลิงฮันอดไม่ได้ที่จะตื่นเต้นอย่างออกหน้าออกตา
ราชาของพวกเขา… กลายเป็นปรมาจารย์ระดับดาราแล้ว!
ในตอนแรกที่หลิงฮันเปิดสวรรค์ขึ้นมา จักรวรรดิของพวกเขาถูกห้อมล้อมไปด้วยตัวแทนจากจักรวรรดิมากมายที่หวังจะยึดครองจักรพรรดิต้าหลิง สุดท้ายหลิงฮันก็ได้ยอมที่จะอยู่ภายอำนาจของจักรวรรดิราชวงศ์ดวงดาราหายนะ
เหตุการณ์ในตอนนั้นได้สร้างความอัปยศไปทั่วทั้งจักรวรรดิต้าหลิง
แต่เวลาผ่านไปเพียงยี่สิบปี หลิงฮันก็เปลี่ยนจากมดปลวกตัวจ้อยกลายเป็นตัวตนอันสูงสุดซึ่งทำให้ประชากรทุกคนตื่นเต้นเป็นอย่างมาก
ใครเป็นคนกำหนดกันว่าคนจากโลกใบเล็กจะมีชะตากรรมที่ต่ำต้อย?
พวกเรามีราชาเป็นตัวอย่างให้เห็นแล้ว!
“โฮ่ง! โฮ่ง!” อสูรศิลาพุ่งเข้ามาหาหลิงฮันอย่างรวดเร็ว มันไม่ได้วิ่งสองขาตามปกติแต่ใช้ขาและสองทั้งสองคู่ยันพื้นเอาไว้ราวกับเป็นสุนัข
“โอ้ ฮันน้อย นี่เจ้าเลี้ยงสุนัขศิลาเอาไว้ด้วยรึ?” โสมเฒ่าเอ่ยกล่าว
ตูม!
อสูรศิลาประจบประแจงเพียงหลิงฮันคนเดียวเท่านั้น เมื่อเห็นท่าทีดูถูกของโสมเฒ่ามันได้ปล่อยหมัดออกไปทันที
“นายท่านโสมกลัวแล้ว!” โสมเฒ่ารีบเผ่นหนี มันมีดีแค่การเคลื่อนไหวที่รวดเร็วแต่ไม่มีความสามารถในการต่อสู้ที่แข็งแกร่ง
หลิงฮันหัวเราะและนำผลึกหินที่ได้จากหอคอยทมิฬจำนวนมากออกมาให้อสูรศิลา ผลึกหินเหล่านี้สามารถช่วยยกระดับพลังของอสูรศิลาได้อย่างยอดเยี่ยม
อสูรศิลารีบวิ่งมาหยิบผลึกหินโดยไม่สนใจคนรอบข้าง ท่าทีของมันเร่งรีบราวกับกลัวว่าจะมีใครมาแย่งมันผลึกหินของมันไป
Anchor
สตรีศักดิ์สิทธิ์แห่งนกอมตะสวรรค์ เฉินหลุยเจียงและคนอื่นๆจิตใจสั่นไหวและระลึกถึงความทรงจำเก่า พวกเขาไม่ได้เห็นทิวทัศน์ของทวีปฮงเทียนไม่นานกว่าหมื่นปีแล้ว
หลังจากที่จัดงานสังสรรค์ขึ้นทั่วทั้งจักรวรรดิ หลิงฮันก็วางแผนจะจัดงานแต่งงานขึ้น
ไม่ใช่งานแต่งของเขากับสตรีศักดิ์สิทธิ์แห่งนกอมตะสวรรค์ แต่เป็นของติงผิงกับหลี่ลั่วถง
ตอนนี้หลิงฮันไม่ใช่ตัวประกันอีกต่อไป เขาเป็นปรมาจารย์ระดับดาราที่มีอำนาจ และเมื่อที่หลิงฮันสังหารจอมยุทธระดับดาราขั้นสูงของจักรวรรดิราชวงศ์สวรรค์นิรันดร์มาถึง ชื่อเสียงของหลิงฮันก็น่าสะพรึงกลัวขึ้นไปอีก
ตอนนี้เป็นที่รู้กับแล้วว่าพลังต่อสู้ของหลิงฮันนั้นทัดเทียมกับตัวตนระดับดาราขั้นสูงสุด แม้กระทั่งจักรพรรดิก็ไม่สามารถกำราบเขาได้!
ดังนั้นเมื่อจะมีงานแต่งของลูกศิษย์หลิงฮัน ใครบ้างจะกล้าไม่ไหวหน้าเขา?
โดยเฉพาะเหล่าขุมอำนาจที่กลัวว่าหลิงฮันจะกลับมาชำระหนี้แค้น พวกเขาต่างส่งของขวัญมาไม่ขาดสาย แม้กระทั้งราชาของบางจักรวรรดิก็ยังมางานแต่งด้วยตัวเองเพื่อเป็นการไว้หน้าหลิงฮัน
ที่จริงการที่พวกเขาสามารถเข้าร่วมงานแต่งได้ สมควรเรียกว่าหลิงฮันยอมไว้หน้าพวกเขาดีกว่า
งานแต่งนี้ข่าวแพร่กระจายไปถึงแม้กระทั่งจักรวรรดิราชวงศ์สวรรค์นิรันดร์ พวกเขาส่งอัครทูตนำของขวัญมาร่วมยินดีเช่นกัน แต่พอเปิดมาด้านในกลับเป็นโลงศพขนาดเล็ก
แน่นอนว่าเป็นไปไม่ได้อยู่แล้วที่พวกเขาจะแสดงความยินดีต่อหลิงฮัน ของขวัญที่พวกเขาส่งมาแทนคำสาปแช่ง!
หลิงฮันไล่อัครทูตคนนั้นกลับไปทันทีแต่เลือกที่จะไม่ทำลายโลงศพ เขาเก็บไว้และตั้งใจจะใช้มันฝังร่างของจักรพรรดิโจ้วเทียนในภายหลัง
เมื่องานสิ้นสุด จักรวรรดิต้าหลิงฮันก็กลับคืนสู่ความสงบ
หลิงฮันตั้งใจจะใช้โอกาสนี้ยกระดับพลังบ่มเพาะของจักรวรรดิต้าหลิง
การทดสอบเข้าร่วมสำนักละอองดารานั้นยากลำบากมาก เกรงว่าลูกศิษย์ของเขาที่มีความหวังว่าจะเข้าร่วมได้จึงมีเพียงติงผิงกับจิ่วเยาเท่านั้น พี่ชายทั้งสองของเขาเองก็เกรงว่าคงหมดสิทธิ์ แต่ถ้าหากจักรพรรดิพิรุณยังอยู่ที่นี่เขาต้องสามารถเข้าร่วมได้สำเร็จเป็นแน่
การจะเข้าร่วมสำนักละอองดาราจำเป็นต้องขัดเกลาพลังบ่มเพาะจนบรรลุขั้นสมบูรณ์อย่างน้อยหนึ่งระดับ!
หลิงฮันคิดมานานแล้วว่าอยากยกระดับวรยุทธให้กับจักรวรรดิต้าหลิงให้สูงขึ้นที่สุด ซึ่งตอนนี้เขากำลังหลอมเม็ดยาไม่หยุดในทุกๆวันเพื่อทำให้ระดับพลังบ่มเพาะของสหายรอบกายเขาสูงขึ้น
Anchor
คังซิวหยวนกับหยุนหย่งหวังคอยช่วยเหลือเขาเช่นกัน ด้วยการชี้แนะของหลิงฮัน ความเข้าใจในศาสตร์ปรุงยาของพวกเขาจึงพัฒนาขึ้นอย่างรวดเร็ว
แม้ระยะเวลาหนึ่งร้อยปีจะดูเยอะ แต่สำหรับตัวตนระดับพระเจ้าเวลาเพียงแค่นั้นไม่นับว่ายาวนานเลยแม้แต่น้อย
สามปีหลังจากงานแต่ง ติงผิงกับหลี่ลั่วถงได้ให้กำเนิดบุตรสาวคนหนึ่ง ความน่ารักของสาวน้อยตัวเล็กทำให้สตรีศักดิ์สิทธิ์แห่งนกอมตะสวรรค์มีท่าทีตื่นเต้น
หลิงฮันใช้โอกาสนี้หว่านล้อมให้สตรีศักดิ์สิทธิ์แห่งนกอมตะสวรรค์มีบุตร แต่นางก็ยังคงยืนกรานปฏิเสธจนหลิงฮันรู้สึกหดหู่ท้อใจ
เพียงแต่ว่าสตรีศักดิ์สิทธิ์แห่งนกอมตะสวรรค์ก็แค่รู้สึกอายเท่านั้น หากหลิงฮันลองตื้อให้มากกว่านี้ล่ะก็…
หลิงฮันไม่เก็บมาคิดมาก ตัวเขาในตอนนี้ไม่ได้ตั้งใจบ่มเพาะพลังก็จริงแต่ พลังบ่มเพาะของเขาก็ไม่ได้พัฒนาไม่อย่างเชื่องช้า
เม็ดยาเม็ดยาเชื่อมรากฐานเปิดสวรรค์ที่เขาหลอมขึ้นมานั้นต่อให้ฤทธิ์ของมันจะไม่ยอดเยี่ยมเหมือนกับเม็ดยาปราณโลหิตคลั่ง แต่มันก็ยังช่วยเพิ่มระดับพลังบ่มเพาะของเขาได้มากอยู่ดี
ด้วยเม็ดยานี้ หลิงฮันน่าจะใช้เวลาราวๆหนึ่งร้อยปีในการยกระดับไปยังระดับดาราขั้นกลางชั้นกลาง
เวลาเพียงเท่านี้ถือว่ารวดเร็วมาก แต่หลิงฮันก็ยังไม่พอใจ
หลังจากเข้าร่วมสำนักละอองดาราได้แล้ว เขาตั้งใจว่าจะออกเดินทางไปยังโบราณสถานต่างๆ ส่วนในตอนนี้เขาต้องทำหน้าที่ให้สมกับเป็นราชาของจักรวรรดิ
หรือเขาสมควรยกบัลลังก์ให้คนอื่น?
หลิงฮันครุ่นคิดถึงปัญหานี้ วันหนึ่งตัวเขาต้องไปยังดินแดนแห่งเซียน ซึ่งดินแดนแห่งเซียนไม่สามารถเข้าไปได้โดยการเปิดสวรรค์ ดังนั้นเขาจึงมีโชคชะตาที่ต้องจากที่นี่ไป หากเป็นเช่นนั้นเขาสมควรจะหาใครที่ไว้ใจได้ให้คอยสืบทอดจักรวรรดิต้าหลิงเอาไว้ตั้งแต่เนิ่นๆ
หากไม่คิดอะไรมากก็สามารถรวมจักรวรรดิต้าหลิงฮันเข้ากับจักรวรรดิราชวงศ์ดวงดาราหายนะได้เลย
“ฉีเชียวเซวี่ยก็ไม่เลว” หลิงฮันครุ่นคิดอยู่นานสักพัก “เอาไว้รอให้จักรพรรดินีของข้าออกมาก่อนค่อยคุยกับนางอีกครั้ง”
พริบตาเดียว วันเวลาก็ผ่านไปยี่สิบปี
สำหรับคนส่วนใหญ่ เวลาเพียงยี่สิบปีไม่ได้ทำให้ผมหงอกงอกขึ้นบนหัวพวกเขาแม้แต่เส้นเดียว แต่ระยะเวลาเพียงเท่านี้ก็เพียงพอจะให้กำเนิดรุ่นเยาว์รุ่นถัดไป
บุตรสาวของติงผิงกับหลี่ลั่วถง ติงจือจือได้เติบโตจากเด็กทารกเป็นหญิงสาว เหล่าคนที่เคยเป็นรุ่นเยาว์ของทวีปฮงเทียนก็มีหลายคนที่ตอนนี้มีครอบครัวเป็นของตนเองแล้ว อยากเช่นญาติของหลิงฮัน เย่วไค่หยู่เองก็มีผู้สืบทอดแล้ว เขาแต่งงานกับสตรีที่งดงามพร้อมกันที่เดียวถึงสามคนและให้กำเนิดบุตรที่แข็งแรงสามคน
ทางด้านจิ่วเยาเองในที่สุดก็ทะลวงผ่านระดับสุริยันจันทราในที่สุด พลังต่อสู้ของเขาค่อยๆน่าสะพรึงกลัวยิ่งขึ้นเรื่อยๆ ออร่าแห่งการฆ่าฟันของเขาทะยานสูงเสียดฟ้าจนไม่มีใครกล้าเข้าใคร ยิ่งกว่านั้นจิ่วเยาเองก็ไม่มีความคิดจะมีครอบครัวด้วยซึ่งทำให้หลิงฮันเป็นกังวลมาก
ท่ามกลางความสงบสุขจู่ๆก็มีเหตุการณ์โกลาหลครั้งใหญ่อุบัติขึ้น สองจักรวรรดิราชวงศ์อย่างจักรวรรดิราชวงศ์สวรรค์นิรันดร์และจักรวรรดิราชวงศ์นภาสีครามได้ส่งกองกำลังเข้ามาบุกรุกจักรวรรดิราชวงศ์ดวงดาราหายนะอย่างเต็มกำลังพร้อมกัน