รุ่นเยาว์ผู้นี้มีสมบัติอยู่มากมายเพียงใดกันแน่?
ทุกคนทั้งตกตะลึงและสงสัย ดาบทั้งสองเล่มที่หลิงฮันถืออยู่นั้นเรียกได้ว่าเป็นสมบัติสุดทรงพลัง แต่ตอนนี้สมบัติที่ว่ากลับตกอยู่มือของคนเพียงคนเดียว
ต่อให้นำสมบัติทั้งชีวิตของพวกเขามารวมกันทั้งหมดก็ยังไม่ล้ำค่าเท่ากับสมบัติของรุ่นเยาว์ที่อายุน้อยกว่าห้าร้อยปีผู้นี้!
จักรพรรดิโจ้วเทียนแสดงสีหน้าจริงจังและรู้สึกว่าจิตวิญญาณของดาบในมือกำลังสั่นไหวราวกับกำลังหวาดกลัว
ดาบนั่นมันอะไรกัน? แม้ภัยคุกคามที่เขาสัมผัสได้จะไม่เท่าไหร่ แต่อำนาจของตัวดาบเหตุใดถึงน่าสะพรึงกลัวเพียงนั้น? ต้องรู้ก่อนว่าดาบในมือเขานั้นเป็นสมบัติสืบทอดของจักรวรรดิราชวงศ์สวรรค์นิรันดร์จากรุ่นสู่รุ่น หากพลังของมันถูกฟื้นฟูกลับไปเหมือนยุคสมัยก่อนพลังอำนาจของมันจะสามารถทัดเทียมได้แม้แต่ตัวเขา!
ขนาดสมบัติเช่นนี้ยังหวาดกลัวต่อดาบตรงหน้าที่ไม่ได้เป็นแม้อุปกรณ์ศักดิ์สิทธิ์ที่ระดับสูงกว่ามัน ช่างน่าแปลก!
ต่อให้ดาบของเขาอยู่ต่อหน้าอุปกรณ์ศักดิ์สิทธิ์ระดับวารีนิรันดร์มันก็ยังไม่มีอาการเช่นนี้!
“ลงมือ!” จักรพรรดิปี้ลั่วหวัดแกว่งหอกในมือ เขาเองก็สัมผัสได้เช่นกันว่าหอกวารีเยือกแข็งในมือของเขากำลังหวาดกลัว ดังนั้นเขาจึงต้องการสังหารหลิงฮันให้เร็วที่สุด ไม่เช่นนั้นจิตวิญญาณในหอกเล่มนี้อาจจะหวาดกลัวจนสลายไป!
‘พรึบ’ ดาบอสูรนิรันดร์ปลดปล่อยอำนาจสวรรค์ออกมาทำให้พลังต่อสู้ของจักรพรรดิปี้ลั่วลดลงไปสองดาว
ด้วยการขัดเกลาจากหลิงฮัน ดาบอสูรนิรันดร์จึงสามารถแสดงพลังของอำนาจสวรรค์ออกมาได้อย่างสมบูรณ์เนื่องจากมัตัวนถูกสร้างมาจากแร่โลหะนิรันดร์ หากลองเปลี่ยนอุปกรณ์ศักดิ์สิทธิ์ที่ถูกสร้างจากแร่โลหะศักดิ์สิทธิ์ชนิดอื่น พวกมันจะไม่สามารถต้านทานแรงกดดันไเจตจำนงยุทธ์ของอำนาจสวรรค์ได้และพังทลายไปในทันที
จักรพรรดิปี้ลั่วรู้สึกว่าพลังของเขาลดลงไปถึงร้อยเท่า!
เขารีบหยุดมือทันที การที่พลังต่อสู้ลดลงไปมากขนาดนี้ทำให้เขาระมัดระวังตัวยิ่งกว่าเก่า
จักรพรรดิโจ้วเทียนขมวดคิ้วในขณะที่มองจักรพรรดิปี้ลั่ว นี่เจ้าเป็นอะไรของเจ้า?
เขาเค้นเสียงและกวัดแกว่งดาบ แต่ยังไม่ทันได้โจมตีเขาก็ต้องหยุดชะงักเหมือนกับจักรพรรดิปี้ลั่ว เขามองไปยังดาบอสูรนิรันดร์บนท้องฟ้าด้วยสายตาละโมบ
พลังต่อสู้ของเขาจะแข็งแกร่งขึ้นขนาดไหนหากได้ครอบครองดาบเล่มนั้น?
หากทำให้พลังต่อสู้ของศัตรูลดลงได้สองดาวก็เปรียบเสมือนตัวเขามีพลังต่อสู้เพิ่มขึ้นสองดาว!
พลังต่อสู้ที่เพิ่มขึ้นขนาดนั้นสามารถเทียบได้กับอำนาจแห่งจักรภพเลยทีเดียว
หลิงฮันยิ้มและกล่าว “จักรพรรดิปี้ลั่ว เจ้าสนใจมาร่วมมือกับข้าสังหารจักรพรรดิบัดซบนั่นรึเปล่า?”
ว่าไงนะ?
จักรพรรดิปี้ลั่วมึนงง นี่เจ้าคิดจะใช้แผนการสิ้นคิดแบบนั้นหลอกข้า?
หลิงฮันกล่าวต่อ “หากพวกเจ้าสังหารข้าแล้วสุดท้ายก็ต้องไปสู้กันเองอยู่ดี งั้นข้าขอถามเจ้าหน่อยว่าเจามั่นใจรึไงว่าจะเอาชนะจัดรพรรดิบัดซบนั่นได้?”
“แน่นอนว่าเจ้าไม่มีทางมั่นใจ!” หลิงฮันพูดเองตอบเอง “ดังนั้นข้าถึงชวนให้เจ้ามาร่วมมือกับข้า อย่างที่เจ้าเห็นว่าดาบของข้าสามารถลดพลังต่อสู้ของศัตรูได้สองดาว ด้วยข้อได้เปรียบสองดาวนี้ไม่ใช่ว่าเจ้าจะสามารถสังหารจักรพรรดิบัดซบได้อย่างง่ายดายหรอกรึ?”
“สังหารจักรพรรดิบัดซบก่อนค่อยมาสังหารข้าทีหลังก็ไม่สายใช่รึเปล่า?”
ก็ถูกอย่างที่หลิงฮันว่า!
ต้องยอมรับว่า ณ วินาทีนี้จักรพรรดิปี้ลั่วรู้สึกลังเลอย่างมาก หากใช้ประโยชน์จากหลิงฮันในการสังหารจักรพรรดิโจ้วเทียนได้ หลังจากนี้ต่อให้เขาต้องถูกหลิงฮันลดพลังต่อสู้สองดาวก็ยังไม่ใช่เรื่องยากที่เขาจะสังหารหลิงฮัน
เมื่อเห็นสีหน้าที่กำลังถูกชักจูงของจักรพรรดิปี้ลั่ว จักรพรรดิโจ้วเทียนก็รีบกล่าว “อย่าได้ถูกเจ้าหนูนั่นหลอก! เจ้าหนูนั่นเจ้ามีเล่ห์เหลี่ยมมากมายไม่สิ้นสุด หากปล่อยไว้ก็ไม่รู้ว่าในอนาคตจะมีแผนการอะไรอีก เราต้องกำจัดเขาเป็นคนแรก!”
จักรพรรดิโจ้วเทียนเคร่งเครียด หากจักรพรรดิโจ้วเทียนตามน้ำไปกับคำพูดของหลิงฮันจริงๆ ด้วยความต่างของพลังต่อสู้สองดาว เขาต้องพ่ายแพ้ต่อจักรพรรดิปี้ลั่วแน่นอน!
จักรพรรดิปี้ลั่วลังเล คำพูดของหลิงฮันช่างล่อตาล่อใจมากนักแถมยังมีโอกาสสำเร็จสูง หากพลาดโอกาสนี้ไปต่อให้เขาครอบครองจักรพรรดินีแห่งดาราได้ ในอนาคตก็ยังต้องก่อสงครามกับจักรวรรดิราชวงศ์สวรรค์นิรันดร์อย่างไม่สิ้นสุด
“อย่าได้คิดว่าแผนเจ้าเล่ห์ของเจ้าจะได้ผล!” จักรพรรดิโจ้วเทียนสะบัดมือโจมตีหลิงฮัน ตราบใดที่สามารถสังหารหลิงฮันได้และยึดครองดาบเล่มนั้นมาเขาก็จะลงมือจัดการกับจักรพรรดิปี้ลั่ว
จักรพรรดิปี้ลั่วมีท่าทีลำบากใจ เขาเองก็หวั่นเกรงว่าหลิงฮันจะมีแผนอะไรซ้อนเอาไว้อีกทีรึไม่ ยิ่งกว่านั้นเขาก็ไม่รู้ด้วยว่าอีกฝ่ายมีไพ่ลับซ่อนอยู่อีกมากมายแค่ไหน
ก่อนอื่นคือต้องนำดาบเล่มนั้นมาให้ได้!
จักรพรรดิทั้งสองไม่กล้าลงมือผลีผลาม เป้าหมายของเขาในตอนนี้คือดาบของหลิงฮัน หากครอบครองมันได้พวกเขาก็จะกลายเป็นฝ่ายคุมสถานการณ์ได้อย่างสมบูรณ์
หลิงฮันแอบแสยะยิ้มและกระดกลิ้น ในที่สุดเขาก็สามารถทำให้ศัตรูทั้งสองแตกแยกกันได้
เพียงแต่ว่าจอมยุทธระดับดาราขั้นสูงสุดของจักรวรรดิราชวงศ์ทั้งสองก็มีจำนวนรวมกันถึงเจ็ดคนหากไม่รวมสองจักรพรรดิ สถานการ์ของเขาไม่ได้ดีขึ้นสักเท่าไหร่
แต่เจ็ดก็ยังดีกว่าเก้า
หลิงฮันปลอบตัวเองในใจ ‘ครืน’ ดาบอสูรนิรันดร์สั่นไหวเล็กน้อยและปลดปล่อยอำนาจแห่งสวรรค์ไปยังเหล่าปรมาจารย์ระดับดารา
“ฮ่าๆ มาอยู่ในมือข้าซะ!” จักรพรรดิปี้ลั่วลงมือ เป้าหมายของเขาไม่ใช่หลิงฮันแต่เป็นดาบอสูรนิรันดร์
“งั้นรึ?” จักรพรรดิโจ้วเทียนลงมือขัดขวางไม่ยอมให้จักรพรรดิปี้ลั่วทำสำเร็จ
จักรพรรดิทั้งสองพัวพันกันแย่งชิงดาบอสูรนิรันดร์ การต่อสู้อันดุเดือดทำให้ดาบอสูรนิรันดร์ไม่สามารถช่วยเหลือหลิงฮันได้และตอบโต้จักรพรรดิทั้งสอง
เมื่อไม่มีดาบอสูรนิรันดร์คอยช่วย พลังต่อสู้ของเหล่าปรมาจารย์ทุกคนก็กลับมาเป็นเหมือนเดิม พวกเขาถอนหายใจโล่งอกและกลับมามีความมั่นใจอีกครั้ง
หลิงฮันยิ้ม พวกเจ้าคิดว่ามีเพียงดาบอสูรนิรันดร์อย่างเดียวที่สามารถลดพลังต่อสู้ของพวกเจ้าได้?
‘ครืนน’ หลิงฮันปลดปล่อยอำนาจแห่งสวรรค์ออกมา
“อะไรกัน!”
“เหตุใดพลังของข้าถึงอ่อนแอลงอีกครั้ง?”
“แปลก ข้าอยู่ห่างจากดาบนั่นตั้งไกลแล้วแท้ๆ!”
เหล่าปรมาจารย์ระดับดาราสับสน เหตุใดพวกต่อสู้ของพวกเขาถึงถูกทำให้ลดลงอีกครั้ง?
“ใช่แล้ว ต้องเป็นเพราะหมอนั่นแน่นอน!” ใครบางคนชี้ไปยังหลิงฮัน
ปรมาจารย์คนอื่นจ้องมองไปยังหลิงฮันด้วยใบหน้าโง่งม
เป็นไปได้อย่างไรที่จะมีคนที่มีความสามารถแบบนี้?
ขี้โกงเกินไปแล้ว!
หลิงฮันจับดาบไม้เอาไว้แน่นและกล่าว “วันนี้คือวันที่ข้าจะเข่นฆ่าพวกเจ้า!”
เขาเป็นฝ่ายเปิดโจมตีก่อนด้วยทักษะดาบฟ้าคำรามและกาลเวลาแปรผันพันปี ร่างของเขาเคลื่อนไหวด้วยเร็วดุจสายฟ้า เมื่อดาบไม้ถูกสะบั้นออกไปโลหิตก็สาดกระจายไปทั่ว
แม้ดาบไม้จะได้ได้ถูกสร้างจากแร่โลหะนิรันดร์ แต่มันมีแฝงเอาไว้ด้วยพลังทำลายแห่งความชั่วร้าย ระดับของสมบัติชิ้นนี้จะต้องไม่ต่ำแน่นอน ขนาดมันพุพังอยู่ในสภาพที่ไม่สมบูรณ์พลังทำลายของมันยังทรงพลังเพียงนี้
โดยเฉพาะเมื่อดาบไม้นี้ถูกใช้สังหารสิ่งมีชีวิต ตัวดาบจะปลดปล่อยออร่าอันน่าหวาดกลัวออกมาและทำลายพลังชีวิตของเป้าหมายโดยตรง เมื่อศัตรูตกตายดาบไม้จะทำการดูดซับโลหิตของซากศพและค่อยๆส่องประกายสว่างขึ้นเรื่อยๆราวกับว่าจ้าวอสูรกำลังถูกปลุกขึ้นมาจากภายในดาบ