จักรพรรดินีสะบัดมือ ‘พรึบ’ คลื่นพลังที่ไม่อาจต้านทานระเบิดออกมา ‘โพล๊ะ โพล๊ะ โพล๊ะ’ พริบตาเดียวร่างของปรมาจารย์ระดับดารานับสิบคนก็ระเบิดเป็นหมอกโลหิต
อั่ก! อั่ก!
จักรพรรดิโจ้วเทียนกับจักรพรรดิปี้ลั่วกระอักโลหิตออกมาและมองหน้ากัน
จักรพรรดินียังผ่านทัณฑ์สายฟ้าสวรรค์ไม่เสร็จแท้ๆ เหตุใดถึงได้แข็งแกร่งขนาดนี้?
ด้วยพลังบ่มเพาะของพวกเขากับอำนาจแห่งจักรภพยังไม่อาจต้านทานแม้แต่หนึ่งฝ่ามือของจักรพรรดินี!
เป็นไปได้อย่างไร?
อีกฝ่ายไม่สามารถชี้นำอำนาจแห่งจักรภพไปใช้งานได้แท้ๆ!
จักรพรรดิทั้งสองจ้องมองไปที่หลิ.ฮัน หากไม่ใช่เพราะรุ่นเยาว์ผู้นี้ผลลัพธ์คงไม่เป็นแบบนี้
หากพวกเขาพังประตูหินได้ทันจักรพรรดินีก็จะไม่สามารถทะลวงผ่านระดับได้ และหากถูกรบกวนในขณะที่กำลังบ่มเพาะพลังจักรพรรดินีก็จะถูกพลังของตนเองตีย้อนกลับ หากเป็นเช่นนั้นพวกเขาก็จะสามารถสยบจักรพรรดินีได้อย่างง่ายดาย
ดูจากท่าทางของจักรพรรดินี ไม่เพียงนางจะต้องการสังหารพวกเขาอย่างเดียว แต่แม้กระทั่งร่างกายของพวกเขานางก็คงบดขยี้ไม่เหลือซาก ด้วยการที่พวกเขาเป็นจักรพรรดิที่อยู่เหนือผู้อยู่มาเป็นเวลานาน พวกเขาย่อมรู้อยู่แกใจว่าตัวตนเช่นพวกเขาไม่มีทางเปลี่ยนใจแน่หากตัดสินใจสังหารใครแล้ว ดังนั้นจักรพรรดิทั้งสองจึงไม่คิดจะร้องขอความเมตตาและเพ่งสายตามองไปยังหลิงฮัน
หากพวกเขาจะตายก็ต้องลากหลิงฮันไปสู่จุดจบด้วย
หากพวกเขาไม่ได้ครอบครองจักรพรรดินี เจ้าหนูนี่ก็ต้องไม่ได้เช่นกัน!
“ฆ่า!”
จักรพรรดิทั้งสองตะโกนพร้อมกัน พวกเขากระตุ้นใช้งานอุปกรณ์ศักดิ์สิทธิ์เต็มพลังและปลดปล่อยพลังที่แข็งแกร่งที่สุดในระดับดาราออกมาพร้อมกับโจมตีเข้าใส่หลิงฮัน
นี่คือการโจมตีที่ทรงพลังที่สุดของพวกเขา
แต่น่าเสียดายที่ถึงแม้จักรพรรดินีในตอนนี้จะมีพลังบ่มเพาะระดับดาราแต่พลังต่อสู้ของนางนั้นข้ามขั้นไปเป็นระดับวารีนิรันดร์แล้ว
‘พรึบ’ จักรพรรดินียกมือขึ้นอยากลวกๆ ทันใดนั้นร่างของจักรพรรดิทั้งสองก็หยุดชะงักถูกตรึงเอาไว้จนแทบจะขยับไม่ได้ ไม่ว่าพวกเขาจะดิ้นรนอย่างไรก็ไม่ได้ผล
“บังอาจทำร้ายคนรักของข้า พวกเจ้ารนหาที่ตายเอง!” เส้นผมสีดำของจักรพรรดินีสยายออก เสื้อคลุมของเขาสะบัดพลิ้วไหว แม้ท่าทีของนางจะกำลังโกรธเกรี้ยวแต่กลับยังงดงามไม่น่ากลัวแม้แต่น้อย
ทันที่ได้ยินคำกล่าวของนาง ทุกคนก็ตกตะลึงอีกครั้ง
ถึงแม้ทุกคนจะรู้อยู่แล้ว แต่ด้วยนิสัยของจักรพรรดินีไม่น่าเชื่อว่านางจะเป็นคนกล่าวออกมาเองอย่างไม่ปิดบังว่าว่าหลิงฮันเป็นคนรักของนาง
เพี๊ยะ!
ฝ่ามือของจักรพรรดินีสะบัดไปยังอากาศที่ว่างเปล่า ใบหน้าของจักรพรรดิโจ้วเทียนและจักรพรรดิปี้ลั่วถูกตบพร้อมกัน
“ข้าจะบดขยี้ซากศพของเจ้าและนำไปให้สุนัขป่ากิน!”
จักรพรรดินีกล่าวอย่างเกรี้ยวกราด ความรู้สึกโมโหของนางไม่ได้ลดลงเลย ตรงกันข้ามกลับจะยิ่งเพิ่มสูงขึ้นด้วยซ้ำ ในตอนแรกนางกังวลเพียงแค่เรื่องอาการบาดเจ็บของหลิงฮัน แต่เมื่อความกังวลนั้นหายไปความคิดอื่นก็เข้ามาในหัวนางแทน
หากตอนที่นางออกมา หลิงฮังตายไปแล้วล่ะ?
เพียงแค่คิดเรื่องนี้ดวงตาของจักรพรรดินีก็เปลี่ยนเป็นแดงฉาน ผมยาวดำของนางสยายออกด้วยจิตสังหาร แววตาเต็มเปี่ยมไปด้วยความเกรี้ยวกราด
ถ้าหลิงฮันตาย นางจะสังหารสิ่งมีชีวิตทั้งหมดของดาวเหอหนิงเพื่อหลิงฮัน!
เพี๊ยะ!
จักรพรรดินียังคงตบหน้าสองจักรพรรดิต่อไปโดยที่ไม่ออมแรง ยิ่งนางตบตีใบหน้าของสองจักรพรรดิก็ยิ่งปูดบวม ผ่านไปสักพักสองจักรพรรดิก็ทนไม่ไหว พวกเขากระอักโลหิตบ้วนฟันที่แตกหักออกมา สภาพผมเผ้ายุ่งเหยิงในตอนนี้ทำให้ทั้งสองคนดูเหมือนจักรพรรดิแม้แต่น้อย
จักรพรรดินีไม่หยุดมือ แม้เสียงของทัณฑ์สายฟ้าสวรรค์จะกระหน่ำผ่าลงมาอย่างต่อเนื่องแต่เสียงตบด้วยฝ่ามือของนางก็ยังดังก้องกังวาล
ความเกรี้ยวกราดของจักรพรรดินีเพิ่มขึ้นไม่หยุด แม้นางจะอยากสังหารสุนัขสองตัวนี้ให้ตายขนาดไหนก็ไม่อาจปล่อยให้ทั้งสองตายไปอย่างสบาย ดังนั้นนางจึงควบคุมพลังเอาไว้ และในขณะเดียวกันดวงตาของนางก็จดจ้องไปยังเหล่าปรมาจารย์ระดับดาราของอีกสองจักรวรรดิ ทันทีที่นางชี้นิ้วไปยังปรมาจารย์เหล่านั้น ‘โพล๊ะ โพล๊ะ โพล๊ะ’ ร่างของพวกเขาก็แหลกสลายกลายเป็นหมอกโลหิต
นี่คืออำนาจของจักรพรรดินี ในระดับพลังเดียวกันนางคือตัวตนไร้เทียมทาน
“จักรพรรดินีจงเจริญ!” พวกฉีเชียวเซวี่ยเอ่ยตะโกนด้วยความตื่นเต้น
นี่คือผู้นำของพวกนาง เพียงหนึ่งการโจมตีสามารถสังหารศัตรูได้มากมาย จักรพรรดินีผู้แข็งแกร่งที่สุดในโลก!
จักรพรรดิทั้งสองมองหน้ากันและเผยสีหน้าแห่งความสิ้นหวัง
พลังของพวกเขากับจักรพรรดินีนั้นต่างกันจนถึงระดับที่ไม่อาจคาดเดา แม้แต่จะตายอย่างสบายพวกเขาก็ยังทำไม่ได้
ฮึ่ม! จักรพรรดิไม่อาจถูกทำให้ความอัปยศ!
จักรพรรดิทั้งสองคำรามและตอบโต้
แน่นอนว่าพวกเขาไม่ได้คิดจะสู้เป็นตายกับนาง พวกเขาตั้งใจจะใช้ประโยชน์จากทัณฑ์สายฟ้าสวรรค์ทำให้ตนเองตายอย่างสงบ ตามหลักของกฎแห่งสวรรค์และปฐพี หากโจมตีคนที่กำลังรับทัณฑ์สายฟ้าสวรรค์ ผู้ที่โจมตีก็จะต้องรับทัณฑ์สายฟ้าสวรรค์ตามไปด้วย
หากได้รับทัณฑ์สายฟ้าสวรรค์ พวกเขาย่อมสามารถควบคุมความตายของตัวเองได้
‘ครืนน’ ทัณฑ์สายฟ้าสวรรค์แยกออกมาสองส่วน พลังของทัณฑ์สายฟ้าสวรรค์ทั้งสองถูกลดให้เทียบเท่ากับระดับพลังบ่มเพาะของสองจักรพรรดิ
แววตาของจักรพรรดินีหรี่ลง พวกเจ้าคิดจะฆ่าตัวตาย?
‘ครืนน’ ทัณฑ์สายฟ้าสวรรค์ผ่าลงมา ซึ่งเป้าหมายก็คือสองจักรพรรดิ
จักรพรรดิทั้งสองแสดงสีหน้าราวกับกำลังหลุดพ้น ทีนี้พวกเขาจะได้ตายเสียที
จักรพรรดิก็ยังมีความภาคภูมิใจในฐานะจักพรรดิ หากจะตายก็ต้องตายให้สมเกียรติ
พรึบ!
มือปราณก่อเกิดขนาดใหญ่ปรากฏขึ้นกลางอากาศและโอบล้อมร่างของสองจักรพรรดิเอาไว้ มือปราณก่อเกิดนี้ทั้งงดงามและเรียบเนียนอย่างน่าอัศจรรย์
ทัณฑ์สายฟ้าสวรรค์ที่ผ่าลงมาถูกมือขนาดใหญ่บังเอาไว้ทำให้ร่างกายของจักรพรรดิโจ้วเทียนและจักรพรรดิปี้ลั่วไม่ได้รับบาดเจ็บใดๆ
มือที่ว่า… คือมือของจักรพรรดินี!
ใครจะไปคาดคิดว่านางจะทำเช่นนี้?
ทำไมจักรพรรดินีถึงต้องปกป้องทั้งสองคนด้วย? ไม่ใช่ว่านางเป็นคนทำให้จักรพรรดิทั้งสองจนตรอกจนต้องทำแบบนี้เองหรอกรึ?
แต่ผ่านไปครู่หนึ่งทุกคนก็เข้าใจ
ที้จักรพรรดินีทำเช่นนี้ก็เพราะไม่ต้องการให้ทั้งสองคนตายง่ายเกินไปและจะค่อยๆทรมานไปอย่างช้าๆ
‘ครืนนน’ ทัณฑ์สายฟ้าสวรรค์ระลอกต่อไปที่ผ่าลงมามีพลังมากกว่าเดิมถึงสิบเท่า
นี่เป็นการแจ้งเตือนจากสวรรค์และปฐพี ใครก็ตามที่แทรกแซงทัณฑ์สายฟ้าสวรรค์คนผู้นั้นจะต้องถูกลงโทษ
พลังที่เพิ่มขึ้นสิบเท่าของทัณฑ์สายฟ้าสวรรค์นั้นแม้แต่พลังของจักรพรรดินีก็ไม่อาจต้านทานได้ และนี่ก็เป็นเพียงการแจ้งเตือนครั้งแรกเท่านั้น หากจักรพรรดินียังลงมือต่อ พลังของทัณฑ์สายฟ้าสวรรค์จะเพิ่มขึ้นเป็นร้อยเท่า พันเท่าหรืออาจจะหมื่นเท่า พลังของมันจะเพิ่มขึ้นจนกว่าผู้ที่แทรกแซงจะตกตาย
ดังเมื่อพลังของทัณฑ์สายฟ้าสวรรค์เพิ่มขึ้น แม้แต่จักรพรรดินีที่หยิ่งทนงก็ไม่กล้าที่จะลงมือต่อ