เวลาเกือบร้อยปีที่ผ่านมานี้ หลินอวีฉีไม่ได้เปลี่ยนไปเลย
“อย่าได้เข้าใจผิด ข้ามาเพื่อดูว่าหานซินเหยียนหลอมเม็ดยาปราณโลหิตคลั่งได้ถึงไหนแล้ว ข้าใช้เวลาไม่นานก็จะรีบจากไป” หลิงฮันไม่ต้องการยุแหย่สตรีเย้ายวนผู้นี้
หลินอวีฉีหันหน้ามอง “เหตุใดถึงรีบเช่นนั้น? หรือเจ้าจะไปสำนักละอองดารา?”
แม้แต่เรื่องนี้นางก็รู้?
หลิงฮันประหลาดใจเล็กน้อย ถึงแม้สตรีผู้นี้จะเรียกว่าเป็นอัจฉริยะในศาสตร์วรยุทธแต่นางก็ยังห่างไกลจากราชาในหมู่ราชา นางไม่มีคุณสมบัติพอจะเข้าร่วมสำนักละอองดารา
“เหอๆ ดูสิว่าพี่สาวใส่ใจเจ้าขนาดไหน เจ้าช่างจิตใจเย็นชานักที่ปล่อยให้พี่สาวรอนานขนาดนี้!” หลินอวีฉีแสร้งทำเป็นเศร้า “วันนี้เจ้าต้องชดเชยให้แก่พี่สาว!”
“เข้าเรื่องกันดีกว่า หานซินเหยียนอยู่รึไม่?” หลิงฮันกล่าวด้วยน้ำเสียงไม่มีอารมณ์ร่วม
“เดี๋ยวก่อนสิ อย่างน้อยก็ให้พี่สาวช่วยอุ่นเตียงให้เจ้าเป็นอย่างไร?” หลินอวีฉีลุกขึ้นยืนและค่อยๆเดินอย่างยั่วยวนเข้าใกล้หลิงฮัน
‘ฉึบ’ จู่ๆก็มีมือหนึ่งจับข้อมืองามของนางเอาไว้
หลินอวีฉีตกตะลึง ในตอนแรกนางนึกว่าเป็นมือของหลิงฮัน แต่มือนี้เป็นมือเรียบเนียบและอ่อนนุ่มของสตรีที่ยืนอยู่ข้างกายหลิงฮัน ถึงอย่างนั้นนางก็ไม่ได้พยายามสะบัดมือหนี นางกำลังตกตะลึว่าเหตุใดสตรีผู้นี้ถึงได้แข็งแกร่งขนาดนี้!
นางชำเลืองมองไปยังอีกฝ่ายก่อนจะอ้าปากค้าง ในโลกนี้มีสตรีที่งดงามเช่นนี้อยู่ได้อย่างไร? ดวงตาของนางเผยสีหน้าหลงไหลและพร้อมกับมีน้ำลายไหลออกมาจากปาก
เหลือเชื่อ…
นางเป็นสตรีที่งดงามมากคนหนึ่งแท้ๆ เป็นไปได้อย่างไรที่นางจะลุ่มหลงในเสน่ห์ของสตรีอื่น?
หลินอวีฉีรู้สึกว่าขอแต่อีกฝ่ายเอ่ยคำขอออกมา ไม่ว่าอีกฝ่ายจะออกคำสั่งอะไรนางก็จะทำตามแน่นอน
เมื่อคิดได้เช่นนี้ใบหน้าของนางก็เปลี่ยนเป็นความตกตะลึงอย่างปิดไม่มิด เสน่ห์ที่รุนแรงนี้คืออะไรกัน? แม้กระทั่งนางที่เป็นสตรีด้วยกันยังหลงขนาดนี้ หากเป็นบุรุษเพศไม่ใช่ว่าพวกเขาจะยอมแม้แต่คุกเข่าก้มหัวเพื่อแค่ได้มองข้อเท้าของอีกฝ่ายหรอกรึ?
หลิงฮันยิ้มในใจ หลินอวีฉีไม่รู้ว่าจักรพรรดินีนั้นมีเสน่ห์อันหาใครเทียบเคียง แม้กระทั่งสองจักรพรรดิก็ถึงขนาดยอมยกจักรวรรดิของตนเองให้กับนาง
“เจ้าคิดจะหลับนอนกับสามีข้างั้นรึ?” จักรพรรดินีอย่างอย่างไร้อารมณ์
“เอ่อ เรื่องนั้น…” แม้จะเป็นปีศาจสาวที่ชอบยั่วยวนผู้อื่น แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าจักรพรรดิท่าทีของนางกลับกลายเหมือนเป็นเพียงเด็กสาว
“ก็ได้ งั้นคืนนี้เจ้ามาร่วมเตียงกับพวกข้า!” จักรพรรดินีกล่าวบางสิ่งที่เหลือเชื่อออกมา “ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปเจ้าจะเป็นคนของตระกูลหลิงและต้องเรียกข้าว่าพี่สาว!”
“คือว่าเรื่องนั้น เอ่อ ข้าแค่ล้อเล่น!” หลินอวีฉีตกตะลึง จะให้นางไปร่วมเตียงด้วยคืนนี้? แถมยังต้องเรียกอีกฝ่ายว่าพี่สาว?
“โอ้?” จักรพรรดินีปลดปล่อยกลิ่นอายอันสูงศักดิ์และกล่าว “จงเรียกข้าว่าพี่สาว!”
หลินอวีฉีรีบระเบิดปราณก่อเกิดออกมาเพื่อดึงข้อมือออกจากมืออีกฝ่าย แต่ทันใดนั้นนางก็พบว่ามือที่กำลังจับนางเอาไว้นั้น นอกจากจะงดงามประณีตราวกับงานแกะสลักชั้นยอดแล้ว ยังทรงพลังจนนางไม่สามารถดึงข้อมือออกมาได้!
นางพยายามอยู่หลายต่อหลายครั้งโดยที่ใบหน้าของจักรพรรดินีนั้นยังคงสงบนิ่งราวกับไม่ได้ใช้แรงอะไรมากมาย
พลังต่างกันเกินไป!
หลิงฮันส่ายหัว จักรพรรดินีขัดเกลาพลังบ่มเพาะจนบรรลุขั้นสมบูรณ์แล้ว แถมยังเป็นขั้นสมบูรณ์ชั้นสูงสุดอีกด้วย ที่สำคัญคือนางเป็นอัจฉริยะของเผ่าเก้าอสรพิษแห่งเผ่าสวรรค์บรรพกาลที่มาจากดินแดนนิรันดร์!
หากจะให้เทียบแล้วก็ลองดูอย่างตระกูลติงของติงจื่อเฉิน คนในตระกูลติงทุกคนสามารถใช้ทักษะกาลเวลาแปรผันพันปีที่เป็นทักษะอันน่าสะพรึงกลัวได้ทุกคน
ต่อให้ระดับพลังของหลิงฮันเท่ากับจักรพรรดินี หากเขาต้องการเอาชนะนางก็ยังเป็นเรื่องยากและคงต้องพึ่งพลังป้องกันของคัมภีร์สวรรค์นิรันดร์จนกว่าพลังปราณของจักรพรรดินีจนถูกเผาผลาญจนหมด เช่นนั้นแล้วหลินอวีฉีจะสามารถต่อต้านจักรพรรดินีได้อย่างไร?
“พี่สาว!” หลินอวีฉีรีบเผยรอยยิ้มประจบประแจง ในที่สุดนางก็รู้ว่าไม่ว่าจะเป็นหน้าตา รูปร่างหรือแม้กระทั่งนิสัยนางก็ไม่สามารถทัดเทียมอีกฝ่ายได้ แต่ความแค้นของสตรีนั้นสามปีล้างแค้นก็ยังไม่สาย!
ตอนที่จักรพรรดินีไม่อยู่ ค่อยดูเถอะว่านางจะลวนลามหลิงฮันอย่างไร!
“ข้าแค่ล้อเล่นเท่านั้น พี่สาวโปรดอย่าเก็บไปใส่ใจ!” นางกล่าวด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนและกระพริบตาปริบๆ
แน่นอนว่าจักรพรรดินีย่อมไม่สนใจและกล่าวตอบ “ล้อเล่น? เจ้าหมายถึงเจ้ากำลังล้อเล่นกับข้า?”
รอยยิ้มบนใบหน้าของหลินอวีฉีหายไปทันที จิตสังหารที่อีกฝ่ายปลดปล่อยออกมาทำให้นางต้องยอมศิโรราบ นางเผลอก้าวถอยหลังไปสองสามก้าวโดยที่ไม่อยากจะยุ่งเกี่ยวกับสตรีตรงหน้าอีกต่อไป ใบหน้าของนางกระตุกพร้อมกับกล่าว “ขะ ข้าจะกล้าล้อเล่นกับพี่สาวได้อย่างไร!”
จักรพรรดินีจ้องมองหลินอวีฉีด้วยใบหน้าจริงจัง “ข้าไม่เคยล้อเล่นกับใคร ในเมื่อเจ้ากล้าล้อเล่นกับข้าเจ้าก็ต้องชดใช้! เจ้าต้องถูกลงโทษโดยการหลับนอนกับสามีของข้าคืนนี้!”
บ้าบอที่สุด!
หลินอวีฉีแทบจะกระอักโลหิตออกมา ทำไมเจ้าต้องให้ข้าไปหลับนอนด้วย? ข้าแค่พูดล้อเล่นเฉยๆเหตุใดต้องสร้างความลำบากให้ข้าขนาดนี้? นางยังคงฝืนยิ้มและกล่าว “พี่สาวช่างชอบพูดตลกเสียจริง!”
“ฮึ่ม!” จักรพรรดินีเค้นเสียง นางกุมมือของหลินอวีฉีอย่างเบาบางก่อนจะส่งผ่านปราณก่อเกิดเข้าไปในร่างหลินอวีฉี เจตจำนงยุทธของนางทำการผนึกพลังบ่มเพาะของหลินอวีฉีทันที
ด้วยพลังของนาง หลินอวีฉีจึงไม่สามารถต่อต้านได้แม้แต่น้อย
อะไรกัน!
หลินอวีฉีตกตะลึง หากพลังบ่มเพาะของนางถูกผนึกนางก็ไม่ต่างอะไรกับคนทั่วไป! หากนางถูกปลดเสื้อผ้าและจับโยนลงเตียงของหลิงฮันนางจะทำอย่างไร? นี่นางจะต้องถูกเด็กน้อยอย่างหลิงฮันปู้ยี่ปู้ยำจริงๆรึ?
“เอิ่ม เลิกคิดได้เลย ข้าไม่ยอมรับว่าตัวเองจะมีความคิดสกปรกเช่นนั้น!” หลิงฮันรีบกล่าว แค่มองหน้าหลินอวีฉีเขาก็รู้ว่านางกำลังคิดอะไรอยู่
“พี่สาว ข้าผิดไปแล้ว!” หลินอวีฉีกล่าวโอดครวญไปยังจักรพรรดินี
“เจ้าสำนึกแล้วจริงๆรึว่าตนเองผิด?” จักรพรรดินีกล่าวอย่างไม่แยแสด้วยท่าทีสงบนิ่ง
“สำนึกแล้ว” หลินอวีฉีกล่าวด้วยเสียงต่ำ นางกลัวจะถูกอีกฝ่ายลงโทษเป็นอย่างมาก