หลิงฮันยิ้มและปลดปล่อยอำนาจสวรรค์
‘ครืนน’ สุดยอดราชาทั้งสามเปลี่ยนสีหน้าพร้อมกัน ต่างคนต่างแสดงออกถึงใบหน้าที่ตกตะลึง
จู่ๆพลังของพวกเขาก็ลดไปสองดาว!
ใช่ว่าพวกเขาจะไม่มีไพ่ลับเอาไว้ตอบโต้ แต่สถานการณ์เกิดขึ้นกะทันหันเกินไป ยังไม่ทันที่พวกเขาจะเตรียมพร้อมหลิงฮันก็จู่โจมมาเสียแล้ว
‘ตูม ตูม ตูม’ สุดยอดราชาทั้งสามถูกกระแทกลอยกระเด็นร่วงหล่นจากแผ่นหินพร้อมกัน แม้พวกเขาจะไม่ได้บาดเจ็บสาหัสแต่หากถูกพลักออกแผ่นหินแล้ว… พวกเขาก็มีโชคชะตาเดียวคือร่วงสู่เบื้องล่าง
แผ่นหินของหลิงฮันดูดกลืนแผ่นหินทีเดียวถึงสามอัน!
ความสูงของเขากำลังถูกยกขึ้นไปยังจุดสูงสุด!
แผ่นหินใต้เท้าของหลิงฮันดูดกลืนแผ่นหินอีกสามแผ่นและค่อยๆเพิ่มความสูงขึ้นจนถึงแผ่นหินสีทอง
ผู้คนเบื้องล่างที่กำลังจ้องมองอยู่ต่างเผยสีหน้าที่ไม่อยากจะเชื่อ
ใครจะคิดว่าหลิงฮันจะทำได้ขนาดนี้?
เขาไม่ใช่แม้กระทั่งราชาระดับสามด้วยซ้ำ!
“หลิง! ฮัน!” กู่ต้าวอี้คำราม เขากำลังพัวพันอยู่กับจักพรรดินีทำให้ไม่มีโอกาสไต่เต้าขึ้นไปถึงจุดสูงสุด จิตใจของเขาอัดแน่นไปด้วยความรู้สึกเกรี้ยวกราด “ถ้าเจ้ากล้าขึ้นไปอีกแม้แต่ก้าวเดียว ข้าจะสังหารเจ้า!”
“พูดเหมือนข้าเกรงกลัวเจ้า!” หลิงฮันเค้นเสียงและก้าวขาข้ามไปยังแผ่นหินสีทองอย่างไม่ลังเล
แผ่นหินสีทองปลดปล่อยแสงสว่างเจิดจ้า ร่างของหลิงฮันถูกปกคลุมไปด้วยแสงสีทองจนดูราวกับเป็นเทพเจ้าสงครามที่พร้อมบดขยี้สิ่งมีชีวิตทั้งปวง
ภาพที่เห็นตรงหน้าส่งผลให้จิตใจของทุกคนสั่นสะท้าน
“วาสนานั่นต้องเป็นของนายท่านหมา!” สุนัขตัวดำไม่รู้ว่ามาจากไหน มันอยู่ในระดับความสูงที่ห่างจากหลิงฮันสองฟุต เนื่องจากไม่มีแผ่นหินของศัตรูที่ช่วยให้ความสูงของมันเพิ่มขึ้นแล้วมันจึงตะเกียกตะกายกระโดดกัดข้อเท้าของหลิงฮัน
ความเร็วของมันน่าทึ่งเป็นอย่างยิ่ง แต่ด้วยอำนาจแห่งกฎเกณฑ์ของหุบเขาแห่งนี้ในขณะที่ปากของมันกำลังจะกัดข้อเท้าของหลิงฮัน พลังที่มองไม่เห็นก็ได้ควบแน่นเป็นตาข่ายขวางกั้นเอาไว้
“แหง่ง! แหง่ง!” สุนัขตัวดำยังคงพยายาม ซึ่งเรื่องน่าอัศจรรย์ก็เกิดขึ้น ตาข่ายราวกับว่าจะถูกกัดขาดเล็กน้อยทำให้หัวของสุนัขตัวดำรอดเข้าไปได้และปากของมันก็กัดเข้าที่ต้นขาของหลิงฮันพอดี
“อั่ก!” หลิงฮันกัดฟัน
อย่างที่รู้กันว่ากายหยาบของเขาไร้เทียมทานขนาดไหน แต่ฟันของสุนัขตัวดำกับสามารถกัดเขาจนเกิดความรู้สึกเจ็บปวด
“สุนัขบัดซบ ปล่อยปากของเจ้าซะ!” หลิงฮันสะบัดเท้าอย่างรวดเร็ว
“ไม่มีทาง ถึงตายข้าก็ไม่ปล่อย! วาสนาต้องเป็นของนายท่านหมา!” สุนัขตัวดำกัดฟันแน่นพร้อมกับกล่าวโอดครวญ
ที่ด้านล่างพวกเขา หลงเซียงเยว่ไล่ตามขึ้นมาอย่างรวดเร็ว
หลิงฮันถอนหายใจและพยายามถึงร่างของสุนัขตัวดำขึ้นมา แต่ตาข่ายที่สุนัขตัวดำกัดขาดนั้นมีรูกว้างเพียงแค่ให้หัวของมันโผล่ขึ้นมาได้ หากจะนำมันขึ้นมาทั่งตัวจะเป็นเรื่องที่ยากลำบากขนาดไหน?
“ฮันน้อย เจ้ารีบดึงข้าขึ้นไปเร็ว! สตรีโหดเหี้ยมนั่นกำลังจะตามมาถึงแล้ว!” สุนัขตัวดำกล่าวเร่งเร้า
“สุนัขบัดซบ ข้าว่ารีบปล่อยปากของเจ้าจะง่ายกว่า!” หลิงฮันตะโกน
“ไม่!” สุนัขตัวดำส่ายหัวไปมา
พริบตาเดียวหลงเซียงเยว่ก็ตามขึ้นมาทัน ด้วยพลังอันแข็งแกร่งของนางทำให้การไต่เต้าขึ้นมาเป็นงานที่ง่ายดายมาก มีเพียงแค่ในระดับความสิบฟุตสุดท้ายเท่านั้นที่ความเร็วในการไต่เต้าของนางจะลดลงเนื่องจากราชาในระดับความสูงนี้มีน้อยเกินไป
แต่ถึงอย่างนั้นนางก็ยังมาถึงได้อยู่ดี เมื่อระยะของนางห่างกับสุนัขตัวดำสองฟุต ดาบในมืของนางก็ถูกกวัดแกว่งโจมตีใส่สุนัขตัวดำ
“อ้ากกก!” สุนัขตัวเขากรีดร้อง แต่ด้วยกายหยาบอันทนทานของมันที่ไม่ด้อยไปกว่าหลิงฮัน ดาบที่ฟันเข้ามาจึงทำให้เกิดเพียงประกายไฟราวกับโลหะปะทะกันโดยที่ผิวหนังของมันไม่ได้รับบาดแผล
“เจ็บจนจะบ้าตายแล้ว!” มันร้องโอดครวญอย่างน่าเวทนา
ผู้คนที่อยู่เบื้องล้างอ้าปากค้าง เจ้าร้องโอดครวญขนาดนั้นทั้งๆที่ขนแม้แต่เส้นเดียวก็ไม่ร่วงเนี่ยนะ!
หลงเซียงเยว่ชะงัก ถึงแม้ดาบเมื่อครู่จะไม่ใช่พลังทั้งหมดของนาง แต่เป็นไปได้อย่างไรที่มันจะตัดแม้แต่ขนเส้นเดียวของสุนัขไม่ขาด เจ้าสุนัขตนี้… ไม่ธรรมดาอย่างมาก
หลิงฮันเองก็ตกตะลึงเช่นกัน แต่เมื่อคิดว่าสุนัขตัวดำมาจากดินแดนแห่งเซียนและเกิดออกมาจากไข่ที่พบในโบราณสถานโบราณ การที่มีจะมีความสามารถติดตัวพิเศษเหนือใครก็เป็นเรื่องสมเหตุสมผล
หลงเซียงเยว่กระหน่ำฟันดาบจู่โจม สุนัขตัวดำเองก็ร้องโอดครวญอย่างต่อเนื่อง แต่ถึงอย่างนั้นดาบของหลงเซียงเยว่ก็ไม่สามารถสร้างความเสียหายให้แก่สุนัขตัวดำได้เลยแม้แต่น้อย
“เจ้าหนู พานายท่านหมาขึ้นไปเร็ว ไม่เช่นนั้นก้นของนายท่านหมาของถูกผ่าออกเป็นสองแฉกแน่!” สุนัขตัวดำโอดครวญ
“เจ้าโง่รึเปล่า ก้นของใครบ้างไม่ใช่สองแฉก?” หลิงฮันยิ้ม
“อ้ากก นายท่านหมาเจ็บปวดเลยพูดไม่คิด ว่าแต่ทำไมยังไม่รีบดึงข้าขึ้นไปอีก! เจ้าหนู นี่เจ้าลืมกินข้าวเลยไม่มีแรงเหลือรึไง” สุนัขตัวดำเร่งเร้าอีกครั้ง
หลิงฮันอยากจะเหยียบหน้าของสุนัขบัดซบตัวนี้เหลือเกิน แต่มันกัดข้อเท้าเขาเอาไว้ไม่ปล่อย เขาจึงไม่มีทางเลือกนอกจากพยายามดึงมันขึ้นมา ด้วยความพยายามของเขาร่างของสุนัขตัวดำค่อยๆถูกดึงผ่านตาข่ายขึ้นมาทีละหนึ่งนิ้ว
เมื่อเห็นว่าครึ่งร่างของสุนัขตัวดำลอดตาข่ายไปได้ หลงเซียงเยว่ก็กระโดดคว้าหางของสุนัขตัวดำเอาไว้ การกระทำของนางแสดงให้เห็นอย่างโจ่งแจ้งว่านางต้องการขึ้นไปด้านบนด้วย ‘ครืนน’ แผ่นหินใต้เท้าของนางร่วงลงสู่พื้นดินในขณะที่ตัวนางห้อยอยู่กับสุนัขตัวดำกลางอากาศ
ผู้คนเบื้องล่างมองดูด้วยปากที่กระตุกไปมา พวกเขาต่างคิดในใจว่าการแย่งชิงวาสนาในครั้งนี้ช่างตลกยิ่งนัก
“สตรีตัวเหม็น ปล่อยมือซะ ไม่งั้นหางของนายท่านหมาต้องถูกเจ้าดึงขาดแน่!” สุนัขตัวดำเห่าไล่
หลงเซียงเยว่ไม่แยแส ต่อให้ตายนางก็จะจับหางของมันเอาไว้
“หางอันล้ำค่าของนายท่านหมาไม่ใช่สิ่งที่ใครจะมาจับได้ง่ายๆ!” สุนัขตัวดำสบถต่อ
หลงเซียงเยว่ยังคงนิ่งเงียบ
เมื่อเห็นเช่นนี้ซื่อเฉินเฟิง เทียนเซี่ยตี้เอ้อ หงหม่าและราชาคนอื่นๆก็ไม่ลังเลเช่นกัน พวกเขากระโดดคว้าจับหางของสุนัขตัวดำเอาไว้ บางทีพวกเขาอาจจะได้ขึ้นไปยังแผ่นหินสีทองด้วยจริงๆ?
นะ… นี่มัน!
ผู้คนเบื้องล่างอึ้งจนไม่รู้จะกล่าวอะไรออกมา เหล่าราชาที่แข็งแกร่งกำลังคว้าจับหางของสุนัขเอาไว้ ภาพที่พวกเขาเห็นในตอนนี้ช่างน่าตลกยิ่งนัก
คนเหล่านี้… ใช่สุดยอดราชาจริงๆรึ?
จักรพรรดินียังคงเหนี่ยวรั้งกู่ต้าวอี้เอาไว้ ในขณะที่ราชาจำนวนหนึ่งสามารถผ่านขึ้นมาระยะความสูงสุดท้ายได้และคว้าหางของสุนัขตัวดำได้สำเร็จ
หางของสุนัขตัวดำมีความยาวสองฟุตทำได้มีพื้นที่เพียงพอให้คนจำนวนหนึ่งจับเอาไว้ หากของสุนัขตัวดำกลายเป็นเป้าหมายของเหล่าราชาทันที ส่วนราชาที่มาทีหลังเมื่อไม่มีที่ให้จับหางแล้วพวกเขาก็เกิดความคิดที่จะจับขาหลังทั้งสองของมันแทน