คนแรกที่ถูกขานชื่อย่อมไม่ใช่ใครอื่นนอกจากผู้เข้าร่วมที่มีพรสวรรค์มากที่สุด
กู่ต้าวอี้ อัจฉริยะอันดับหนึ่งในทุกยุคสมัย!
ทุกคนมองไปยังกู่ต้าวอี้ด้วยแววตาอิจฉา ชายคนนี้เป็นอัจฉริยะที่มีพรสวรรค์และศักยภาพที่โดดเด่นที่สุด น่าเสียดายที่ในการต่อสู้กับหลิงฮันและจักรพรรดินีเขาไม่อาจเอาชนะทั้งสองได้ทำให้ชื่อเสียงของเขาลดงลงเล็กน้อย
แต่ไม่ว่าอย่างไรเซียนทั้งเก้าก็ต้องการตัวเขามาก ถึงได้จัดรายชื่อของเขาไว้อันดับแรกสุด
สามารถทำให้เซียนชื่นชอบได้เช่นนี้ ช่างเป็นเกียรติยศอันสูงส่ง!
กู่ต้าวอี้ไม่เห็นเซียนอยู่ในสายตา ตัวเขานั้นเคยเป็นถึงนิรันดร์ระดับโลกียนิพพาน! แต่ถึงอย่างไรการที่เขาถูกจัดรายชื่อเอาไว้เป็นคนแรกก็ยังทำให้เขารู้สึกภูมิใจเล็กน้อยอยู่ดี
“ข้าต้องการตัวเขา” เซียนผู้หนึ่งเอ่ย
“ข้าต้องการตัวเขา” เซียนอีกคนกล่าวตาม
“ข้าต้องการตัวเขา”
“……”
“ข้าต้องการตัวเขา”
เซียนทั้งเก้าเอ่ย พวกเขาทั้งหมดต้องการรับกู่ต้าวอี้เป็นศิษย์ สิ่งนี้ทำให้ราชามากกว่าสามพันคนอิจฉาอย่างมาก
กู่ต้าวอี้รู้สึกพึงพอใจ ในความคิดเขาเซียนนั้นไม่มีคุณสมบัติที่จะมาเป็นอาจารย์ของเขา แต่ตอนนี้เขามีพลังบ่มเพาะเพียงระดับดารา แถมสมุนไพรที่รวบรวมเอาไว้ที่ถ้ำจ้าวสมุนไพรก็ถูกใช้ไปเกือบหมดแล้ว หากเขาต้องการกลับไปเป็นเซียนให้เร็วที่สุด เขาจำเป็นต้องพึงพำขุมอำนาจภายนอก
ซึ่งสำนักละอองดาราคือตัวเลือกที่ดีที่สุด
เป้าหมายของเขาคือสร้างความประทับใจต่อเซียนซิงฉาเพื่อให้อีกฝ่ายรับเขาเป็นศิษย์สายตรงคนที่สิบและทุ่มเททรัพยากรทั้งหมดมาฝึกฝนเขา เมื่อเป็นเช่นนั้นเขาก็จะสามารถกลับไปเป็นราชาเซียนได้ภายในระยะเวลาพันปี!
เมื่อเวลานั้นมาถึงเขาจะเปิดประตูสู่ดินแดนแห่งเซียนและก้าวหน้าต่อไปอีก
เขา.. กู่ต้าวอี้ผู้นี้คือคนที่จะเป็นราชาในดินแดนแห่งเซียนและมีโชคชะตาที่จะได้ห้ำหั่นกับทายาทของนิกายหรือขุมอำนาจที่ยิ่งใหญ่
“กู่ต้าวอี้ เจ้าต้องการรับการชี้แนะจากใคร?” เซียนคนที่หก เซียนอันหมิงกล่าว
กู่ต้าวอี้ไม่คิดอะไรมาก ตอนนี้เขายังไม่มีคุณสมบัติเอ่ยขอเป็นศิษย์ของเซียนซิงฉาโดยตรง จากที่ดูแล้วเป็นไปได้ว่าเซียนซิงฉาจะพิจารณาศิษย์ทั้งหมดเสียก่อนถึงจะเลือกคนที่ถูกใจที่สุดเป็นศิษย์โดยตรง
เขารู้สึกเสียใจเล็กน้อยที่ไม่ได้สังหารหลิงฮันตั้งแต่พบกันในตอนแรกทำให้กลายเป็นปัญหาลามมาจนถึงตอนนี้
อันที่จริงแม้จะเป็นในตอนนั้นก็เป็นไปไม่ได้อยู่ดีที่กู่ต้าวอี้จะสังหารหลิงฮันเนื่องจากการมีอยู่ของหอคอยทมิฬ
กู่ต้าวอี้คุร่นคิดก่อนจะกล่าว “ข้าอยากอยู่ภายใต้การชี้แนะของเซียนเฮยเหอ”
เซียนเฮยเหอเป็นศิษย์ของคนแรกของเซียนซิงฉา กล่าวได้ว่าพลังของเขาแข็งแกร่งที่สุดในหมู่เซียนทั้งเก้าและมีโอกาสก้าวหน้าขึ้นเป็นเซียนระดับกลาง เพียงแต่ว่าที่กู่ต้าวอี้เลือกเซียนเซียนเฮยเหอนั้นไม่ใช่เพราะอีกฝ่ายมีโอกาสเป็นเซียนระดับกลางแต่เป็นเพราะคำว่าเซียนคนแรกนั้นเหมาะสมกับสถานะของเขาที่สุด
“อืม!” เซียนเฮยเหอพยักหน้าและเอื้อมมือออกไป ทันใดนั้นร่างของกู่ต้าวอี้ก็ลอยเข้ามายืนอยู่บนแท่นของเขา
ตำแหน่งทั้งเก้าร้อยตอนนี้หายไปแล้วหนึ่ง
“หลิงฮัน!” ปรมาจารย์ระดับวารีนิรันดร์คนก่อนหน้านี้เอ่ยขานชื่ออีกครั้ง คงมีเพียงสำนักละอองดาราเท่านั้นที่สามารถใช้จอมยุทธระดับวารีนิรันดร์ทำหน้าที่เป็นผู้ประกาศ
หลิงฮัน… คือคนที่สอง!
ดูเหมือนว่าในสายตาของเหล่าเซียน พวกเขาจะต้องการตัวกู่ต้าวอี้มากกว่า
“ข้าต้องการตัวเขา”
“ข้าต้องการตัวเขา”
“……”
“ข้าต้องการตัวเขา”
เซียนทั้งเก้าเอ่ยออกมาพร้อมกัน ในความคิดพวกเขาหลิงฮันด้อยกว่ากู่ต้าวอี้ในด้านพรสวรรค์แต่กำเนิดเพียงเล็กน้อยเท่านั้น แต่ในด้านของกายหยาบที่ทรงพลังแล้ว หลิงฮันเป็นเมล็ดพันธุ์ที่หายากและคุ้มค่าแก่การบ่มเพาะ
นี่คือเหตุผลที่ว่าทำไมหลิงฮันถึงเป็นคนที่สอง
“หลิงฮัน เจ้าตัดสินใจเลือกเซียนผู้ใด?” เซียนเฮยเหอกล่าว
ใบหน้าของหลิงฮันสงบนิ่ง แต่ภายในกลับไม่สบอารมณ์เป็นอย่างมาก
เขาด้อยกว่ากู่ต้าวอี้?
การต่อสู้สองครั้งที่ผ่านมาเขาไม่ได้ตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบแม้แต่น้อย แม้กระทั่งการโจมตีที่ทรงพลังที่สุดก็ยังไม่ได้ใช้ออกมา หากสู้กันเป็นตายจริงๆเขาก็สามารถคืนชีพได้ด้วยกำเนิดใหม่จากเถ้าถ่านซึ่งเปรียบเสมือนเขามีสองชีวิต เช่นนี้แล้วเขายังจะด้อยกว่ากู่ต้าวอี้อีก?
ทำไมถึงเอ่ยชื่อเขาหลังกู่ต้าวอี้?
ในสายตาของเซียนเหล่านี้ ดูเหมือนพวกเขาจะให้ความสำคัญกับศักยภาพ ซึ่งกู่ต้าวอี้มีแก่นกำเนิดนิรันดร์!
เอาเถอะ รอให้ถึงคราวที่เขาเหยียบย่ำใบหน้าของกู่ต้าวอี้ในอนาคต ดูสิว่าเซียนเหล่านี้จะมีสีหน้าอย่างไร
หลิงฮันไม่แยแส อันที่จริงเขาไม่สนใจด้วยซ้ำว่าจะเข้าร่วมกับเซียนผู้ใดเขาเพียงแค่ต้องการทักษะจำนวนมากเท่านั้น
เขากวาดสายตามองก่อนจะกล่าว “ข้าต้องการรับคำชี้แนะจากเซียนหมิงซิน”
หืม?
เซียนทั้งเก้าประหลาดใจเล็กน้อย ถึงแม้พวกเขาจะเป็นเซียนเหมือนกัน แต่ทั้งเก้าคนนั้นมีพลังที่แตกต่างกัน แน่นอนว่าในหมู่พวกเขาคนที่แข็งแกร่งที่สุดคือเซียนเฮยเหอ แถมความเชี่ยวชาญของเซียนเฮยเหอยังเป็นวิถีดาบอีกด้วย ไม่ว่ามองอย่างไรหลิงฮันก็ควรจะเลือกรับคำชี้แนะจากเซียนเฮยเหอแท้ๆ
หรือจะเป็นเพราะความบาดหมางระหว่างเขากับกู่ต้าวอี้?
แต่ทำไมถึงได้เลือกเซียนหมิงซิน? ในหมู่เก้าเซียน เซียนหมิงซินนั้นเชี่ยวชาญในศาสตร์รูปแบบอาคม
หรือหลิงฮันคิดจะเรียนรู้ศาสตร์รูปแบบอาคมจากเซียนหมิงซิน? แต่การทำฝึกฝนรูปแบบอาคมให้แข็งแกร่งระดับเซียนนั้นยากลำบากเป็นอย่างมาก หลายร้อยล้านปีที่ผ่านมานี้มีเพียงเซียนหมิงซินคนเดียวที่ฝึกฝนสำเร็จ
“อืม!” เซียนหมิงซินเอ่ย ไม่ว่าอย่างไรเขาก็เป็นเซียนที่สูงส่ง ตัวตนเช่นเขาจะไม่สามารถให้คำชี้แนะกับจอมยุทธระดับดาราได้เชียวรึ? เขาเอื้อมมือไปออกไปนำร่างของหลิงฮันลอยเข้ามายังแท่นยืนของตน
“จักรพรรดินี… จักรพรรดินีหล่วนซิง?” ผู้ประกาศระดับวารีนิรันดร์มองไปยังรายชื่อและพูดติดขัดเล็กน้อย มีใครบางคนที่นำฉายามาอยู่นำหน้าชื่อของตนเองด้วย? แถมคำว่าจักรพรรดินีนั้นฟังดูสูงส่งจนเขาทำให้เขาที่เป็นคนเอ่ยชื่อเกิดความไม่พอใจเล็กน้อย
แต่สตรีผู้นี้ถูกจัดอยู่ในชื่อที่สาม ซึ่งเป็นข้อยืนยันว่าพรสวรรค์ของนางล้ำเลิศขนาดไหน
ดังนั้นเขาจึงระงับความไม่พอใจเอาไว้และไม่แสดงสีหน้าใดๆ
จักรพรรดินีก้าวออกมา เพียงแค่ไม่กี่ลมหายใจผู้คนโดยรอบก็กลายเป็นนิ่งเงียบและหลงในเสน่ห์ของนาง