คนที่มาขวางทางเป็นชายที่มีรูปลักษณ์ราวๆสามสิบปี ไม่รู้ว่าเขาเข้าร่วมสำนักละอองดารามานานเพียงใด แต่ถ้าให้คาดเดาคงหลายล้านปีแล้ว ไม่เช่นนั้นคงไม่สามารถบรรลุระดับวารีนิรันดร์ขั้นกลางได้
“สุนัขขวางทางงั้นรึ?” หลิงฮันยิ้มเล็กน้อย
“โฮ่ง เจ้าว่าใครขวางทาง?” สุนัขตัวดำไม่รู้โผล่มาจากไหน “เจ้าหนู เจ้ากล้าดูถูกนายท่านหมา… หืม!” มันจ้องมองหลิงฮันด้วยดวงตาเปิดกว้างและขุนลุก หางของมันตั้งโด่โผล่ออกมาจากกางเกงในเหล็ก
“นี่เจ้ากินเม็ดยาแบบใดเข้าไป? ทำไมนายท่านหมาถึงสัมผัสกลิ่นอายน่าพรึงได้จากตัวเจ้า?” สุนัขตัวดำอุทาน
หลิงฮันประหลาดใจ สุนัขบัดซบตนนี้ช่างสัมผัสไวยิ่งนัก มันรู้ว่าในร่างของเขาสลักรูปแบบอาคมไว้สิบรูปแบบ? ไม่สิ มันไม่สมควรรู้แต่เป็นสัมผัสได้ถึงแรงกดดันมากกว่า
“พล่ามกันพอรึยัง?” ชายขวางทางกล่าวด้วยความเกรี้ยวกราด พวกเจ้ามองไม่เห็นหัวข้าเลย?
หลิงฮันยิ้มและกล่าว “มาขวางทางข้า เจ้ามีธุระอันใด?”
“ถามทั้งๆที่รู้อยู่แล้ว!” ชายคนนั้นแสยะยิ้ม “ข้า เจี่ยเหลียง เข้าร่วมสำนักละอองดาราเมื่อสิบแปดล้านปีก่อน เจ้าพบกับข้าแล้วเหตุใดยังไม่เรียกข้าว่าศิษย์พี่?”
หลิงฮันสะบัดมือ “งั้นข้าขอถามเจ้ากลับหน่อยว่าเมื่อมีคนคิดร้ายกับตัวข้า ข้ายังจำเป็นต้องเรียกอีกฝ่ายอย่างเคารพว่าศิษย์พี่งั้นรึ?”
ใบหน้าของเจี่ยเหลียงเปลี่ยนเป็นมืดมน กบฏก็ยังคงเป็นกบฏ ไม่น่าแปลกใจเหตุใดหลิงฮันถึงกล้าฝ่าฝืนวัฒนธรรมของสำนัก
“ในเมื่อเจ้าดื้อรั้นเช่นนั้น ในฐานะศิษย์พี่ข้าจะสั่งสอนการประพฤติให้เจ้าเอง!” เขาไม่คิดปรานี ‘ครืนน’ วงโคจรดาราจักรปรากฏขึ้นด้านหลังของเขาโดยมีดวงดารานับไม่ถ้วนล่องลอยอยู่
แม้เขาจะฝึกฝนศาสตร์รูปแบบอาคม แต่ความห่างของระดับพลังกว้างใหญ่เกินไป ต่อให้เขาไม่ต้องใช้รูปแบบอาคมก็สามารถกำราบหลิงฮันได้อย่างราบคาบ
หลิงฮันไม่กล้าประมาท เขาครุ่นคิดชั่วครู่และกระตุ้นใช้งานรูปแบบอาคมทั้งสิบพร้อมกัน ในช่วงเสี้ยววินาทีกระดูกภายในร่างของเขาได้ส่องแสงสว่างเจิดจ้า แต่ด้วยกายหยาบที่ทรงพลังของเขาทำให้ผิวหนังและกล้ามเนื้อปิดบังแสงสว่างเอาไว้มิดจึงดูแล้วเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
สุนัขตัวดำขนลุกอีกครั้งและรีบล่าถอย มันสัมผัสได้ว่าร่างกายของหลิงฮันได้แปรเปลี่ยนเป็นสัตว์อสูรที่สามารถสังหารมันได้อย่างง่ายดาย
หลิงฮันสะบัดมือปลดปล่อยทักษะดาบฟ้าคำรามเข้าใส่เจี่ยเหลียง
“เจ้าไม่คู่ควรจะต่อกรกับข้า!” เจี่ยเหลียงกล่าวอย่างเย็นชา จอมยุทธระดับดารากล้าโจมตีเขา? ไม่ว่าหลิงฮันจะเป็นอัจฉริยะเพียงใดเขาก็มีโชคชะตาคือความพ่ายแพ้!
เจ้าหนูนี่คิดว่าโค่นศิษย์เก่าระดับวารีนิรันดร์ขั้นต้นได้แล้วจะไร้คู่ต่อสู้?
“พ่ายแพ้ไปซะ!” เขายกมือขวาขึ้นฟ้ากางนิ้วทั้งห้าออกและสะบั้นกลับลงสู่พื้น
เมื่อนิ้วทั้งห้าทิ่มลงสู่พื้นก็ได้ปรากฏคลื่นพลังที่หนักหน่วงราวกับขุนเขา
“ทลาย!” หลิงฮันกล่าวอย่างไม่แยแส
‘ตูม’ ปราณดาบฟาดฟันคลื่นพลังแหลกสลายเป็นเศษซากอย่างง่ายดาย
เจี่ยเหลียงอ้าปากค้าง การโจมตีของเขาอัดแน่นไว้ด้วยพลังทำลายของระดับวารีนิรันดร์ขั้นกลาง เป็นไปได้อย่างไรที่จะถูกทำลายง่ายดายเช่นนั้น?
ถ้าเจ้ามีพลังขนาดนี้ เหตุใดเมื่อตอนสู้กับศิษย์เก่าระดับวารีนิรันดร์ขั้นต้นทั้งสิบสามคนถึงได้มีสภาพย่อยยับเช่นนั้น?
การปฏิวัติวันนั้นเขาเองก็มองดูการต่อสู้อยู่เหมือนกันทำให้ตระหนักถึงพลังของหลิงฮันเป็นอย่างดี จะบอกว่าเวลาเพียงปีเดียวหลิงฮันสามารถยกระดับพลังของตนเองมาได้ขนาดนี้งั้นรึ… เขาไม่มีทางเชื่อเด็ดขาด!
“ข้าดูถูกเจ้าไปหน่อย!” แม้เจี่ยเหลียงจะตกตะลึงแต่ก็ไม่ได้แตกตื่น การโจมตีเมื่อครู่เขาไม่ได้ใช้พลังออกไปทั้งหมด ทันใดนั้นเอง กระดูกของเขาได้ส่องสว่างจากการกระตุ้นใช้งานรูปแบบอาคม แสงสว่างของธาตุทั้งห้าส่องประกายออกมาตามผิวหนัวของเขา
เขาเองก็สลักรูปแบบอาคมหยินหยางห้าธาตุเอาไว้บนร่างกาย!
“จงพ่ายแพ้!” เขาคำรามและรีดเค้นอำนาจของรูปแบบอาคมโดยไม่ดูถูกหลิงฮันอีกต่อไป ศิษย์ใหม่ผู้นี้… แตกต่างจากคนอื่นๆ!
หลิงฮันยิ้ม เจ้าสลักรูปแบบอาคมหยินหยางห้าธาตุแล้วอย่างไร?
ตัวเขานั้นมีถึงสิบ!
จำนวนสิบจะไม่สามารถเหนือกว่าหนึ่งงั้นรึ?
เขาชี้นิ้วปลดปล่อยทักษะดาบฟ้าคำรามออกไปเต็มกำลัง อำนาจของทัณฑ์สายฟ้าสวรรค์ผสานรวมเข้ากับรูปแบบอาคมหยินหยางห้าธาตุทั้งสิบ
ตูม!
เจี่ยเหลียงปลดปล่อยอำนาจของรูปแบบอาคมออกมาและโจมตีตอบโต้ด้วยสีหน้าเหยียดหยาม เขาตั้งใจว่าการโจมตีจะบดขยี้กระดูกทั่วร่างของหลิงฮันจนแหลกสลาย แต่เขาก็ต้องระมัดระวังไม่ให้เผลอสังหารหลิงฮันหรือทำให้แก่นพลังได้รับความเสียหายเช่นกัน ไม่เช่นนั้นเขาเองก็ต้องไปรับโทษจากทางสำนัก
แต่ทันใดนั้นเองเจี่ยเหลียงก็ต้องชะงักด้วยความตะลึง การโจมตีของเขาสลายหายไปเมื่อปะทะกับหลิงฮัน!
เป็นไปได้อย่างไร!
ไม่ใช่ว่าต้องเป็นการโจมตีของหลิงฮันที่สลายไปหรอกรึ ทำไมมันถึงได้กลับตาลปัตรกันล่ะ?
‘ตูม’ ร่างของเจี่ยเหลียงถูกส่งลอยกระเด็นขึ้นฟ้าและกระอักโลหิตออกมาเป็นสายราวกับสายรุ้ง
ร่างของเขาร่วงลงสู่พื้นดินอย่างรุนแรงจนฝุ่นฟุ้งกระจาย
ผู้คนที่อยู่รอบข้างนิ่งเงียบราวกับป้าช้า
หลิงฮันในตอนนี้มีชื่อเสียงโด่งดังมาก โดยสิ่งที่ทำให้เขามีชื่อเสียงนั้นไม่ใช่เพราะเหตุการณ์ขัดขืนวัฒนธรรมของสำนักจนตกเป็นเป้าสายตาของเหล่าศิษย์เก่าหรือความแข็งแกร่งที่เขาแสดงให้เห็นในวันแรกที่เข้าร่วมสำนัก แต่เป็นเพราะเขามีภรรยาที่งดงามมากต่างหาก
เมื่อเจี่ยเหลียงลงมือศิษย์คนอื่นๆจึงมาดูการแสดงสนุกๆ แต่ไม่มีใครคาดคิดเลยว่าผลลัพธ์จะกลายเป็นแบบนี้
นี่ต้องไม่ใช่เรื่องจริง! ช่างไร้เหตุผลสิ้นดี! พวกเขาต้องโดนผีหลอกอยู่แน่ๆ!
ทุกคนอดไม่ได้ที่จะขยี้ตาตนเอง แต่ถึงจะจ้องมองอีกครั้งพวกเขาก็ยังพบกับร่างของเจี่ยเหลียงที่นอนอยู่บนพื้น
บ้าไปแล้ว นี่มันช่างฝืนสวรรค์อย่างแท้จริง!
ทุกคนรู้ว่าระดับดาราขั้นสมบูรณ์นั้นมีพลังต่อสู้เทียบได้กับระดับวารีนิรันดร์ขั้นต้นชั้นต้น ซึ่งพลังบ่มเพาะก็ไม่ได้แสดงถึงพลังต่อสู้ทั้งหมดของจอมยุทธแต่ละคน มีอัจฉริยะระดับสัตว์ประหลาดบางคนที่สามารถต่อกรได้แม้กระทั่งจอมยุทธระดับวารีนิรันดร์ขั้นต้นชั้นกลาง ชั้นปลายหรือแม้กระทั่งชั้นสูงสุด
โดยเรื่องนี้ทุกคนสามารถยอมรับได้
แต่คู่ต่อสู้ในครั้งนี้ของหลิงฮันคือจอมยุทธระดับวารีนิรันดร์ขั้นกลาง! แถมยังไม่ใช่ระดับวารีนิรันดร์ขั้นกลางชั้นต้นแต่เป็นชั้นปลาย!
พระเจ้า… ทุกคนตกตะลึงอ้าปากค้างและรู้สึกว่าหัวของตนเองแทบจะระเบิด