ในช่วงจังหวะสุดท้าย หลิงฮันสามารถยับยั้งพลังของรูปแบบอาคมได้ทัน ไม่เช่นนั้นพลังทำลายของการโจมตีเมื่อครู่คงไม่เรียบง่ายเช่นนั้น และเจี่ยเหลียงคงถูกสังหารไปแล้ว
สิบรูปแบบอาคมที่ผสานรวมเป็นหนึ่งไม่ได้มีพลังทำลายเพิ่มขึ้นสิบเท่าแต่เป็นร้อยเท่า!
เจี่ยเหลียงรู้สึกว่ากระดูกจำนวนมากในร่างแตกหักและไม่สามารถลุกขึ้นยืนได้
หลิงฮันเดินเข้าไปหยุดอยู่ด้านข้างศีรษะของเจี่ยเหลียงและย่อตัวลงตบตีใบหน้าของอีกฝ่าย เมื่อพอใจแล้วเขาก็ลุกขึ้นยืนและมุ่งหน้าต่อเพื่อไปฟังการชี้แนะของเซียนหมิงซิน
สุนัขตัวดำตามเขาไป แต่หลังจากที่วิ่งไปไม่กี่ก้าวมันก็หยุดชะงักและอดไม่ได้ที่จะหันหลังวิ่งกลับไปหาเซียนหมิงซิน มันยกขาหลังชี้ขึ้นฟ้าเหนือหัวเจี่ยเหลียงพร้อมกับปล่อยน้ำสายหนึ่งออกมา
นิสัยที่เมื่อพบเป้าหมายจะต้องทำสัญลักษณ์เอาไว้ของสุนัขไม่อาจเปลี่ยนแปลงได้
สุนัขตัวดำสะบัดก้นก่อนจะไล่ตามหลิงฮันต่อ แต่เมื่อมันนึกได้ว่าตัวมันเองเป็นนายท่านหมา มันก็เปลี่ยนจากเดินสี่ขาเป็นสองขาเหมือนกับมนุษย์ทันที
เจี่ยเหลียงผู้น่าสงสารกระอักโลหิตออกมาก่อนจะหมดสติแน่นิ่งไป
หลิงฮันที่เห็นก็ไม่ได้ยินจะห้ามสุนัขตัวดำ เพราะอย่างไรนั่นก็ไม่ได้เกี่ยวข้องกับเขา
“ดำน้อย เจ้าช่างไร้ยางอายยิ่งนัก!” หลิงฮันกล่าวจากใจ ไม่ว่าจะเป็นโสมเฒ่าหรือเจ้ากระต่ายก็เป็นได้เพียงเด็กน้อยเมื่ออยู่ต่อหน้าสุนัขตัวดำ
“นี่เป็นนิสัยที่ไม่เหมือนใครของข้า หากเจ้ากล้าพูดถึงมันอีกนายท่านหมาจะลงมือกับเจ้าด้วย” สุนัขตัวดำจ้องมองไปยังหลิงฮัน “ฮันน้อย เจ้าไม่คิดจะเป็นสัตว์ขี่ให้นายท่านหมาจริงๆรึ ข้าสามารถสอนทักษะบ่มเพาะที่ยอดเยี่ยมให้เจ้าได้!”
“ไสหัวไป!” หลิงฮันเตะใส่สุนัขตัวดำแต่มันก็ฉลาดพอที่จะหลบได้ทัน
หนึ่งคนหนึ่งสุนัขเดินจากไป
ทันใดนั้นเองบรรยาที่เงียบสงัดก็กลายเป็นเอะอะโวยวายราวกับโลกจะแตก
“พระเจ้า ศิษย์พี่เจี่ยพ่ายแพ้!”
“แถมยังเป็นการพ่ายแพ้แบบหมดสภาพด้วย!”
“เป็นไปได้อย่างไร? ศิษย์พี่เจี่ยมีพลังบ่มเพาะอยู่ที่ระดับวารีนิรันดร์ขั้นกลางชั้นปลายแถมยังสลักรูปแบบอาคมหยินหยางห้าธาตุเอาไว้บนร่างกาย เหตุใดเขาถึงพ่ายแพ้ให้กับศิษย์ใหม่ระดับดารา?”
“ต่อให้เห็นด้วยตาตัวเองข้าก็ทำใจเชื่อไม่ลง!”
“หรือต้องให้ศิษย์พี่ระดับวารีนิรันดร์ขั้นสูงเป็นคนลงมือ?”
ทุกคนจ้องมองหน้ากันและมีความรู้สึกว่าต่อให้เป็นระดับวารีนิรันดร์ขั้นสูงก็อาจจะไม่สามารถกำราบหลิงฮันได้
พวกเขาแพร่งพรายข่าวที่น่าอัศจรรย์นี้อย่างรวดเร็ว ‘หลิงฮันแข็งแกร่งขึ้นอย่างมาก แม้กระทั่งศิษย์พี่ระดับวารีนิรันดร์ขั้นกลางก็ไม่สามารถหยุดยั้งเขาได้’
หลิงฮันกับสุนัขตัวดำเดินทางมาถึงจุดศูนย์กลางของสำนักที่มีลานกว้างสี่เหลี่ยมตั้งอยู่โดยที่แท่นยืนรูปทรงดอกบัวสูงสามฟุตอยู่กึ่งกลาง บนแท่นดอกบัวไม่มีใครยืนอยู่แต่รอบด้านนั้นเต็มไปด้วยผู้คน
เซียนหมิงซินยังมาไม่ถึง การชี้แนะสั่งสอนจึงยังไม่เริ่ม
หลิงฮันโล่งอก เขานึกว่าจะมาช้าจนพลาดโอกาสเสียแล้ว
“ดำน้อย ดูเหมือนเจ้าจะไปไหนมาไหนได้โดยไม่กังวลเลยนะ” หลิงฮันกล่าว สุนัขตัวดำไม่ได้ถูกเซียนพามายังสำนัก แต่มันกลับสามารถสร้างปัญหาโดยไม่มีใครสามารถควบคุมมันได้
‘ตุบ’ เขาพลิกตัวหลบสุนัขตัวดำที่จู่ๆก็พุ่งมากัดอย่างกะทันหันได้ทัน
สุนัขตัวดำเค้นเสียงและกล่าว “เรียกข้าว่านายท่านดำ! นายท่านดำเข้าใจไหม?”
หลิงฮันยิ้มเมินเฉยทำเป็นไม่ได้ยิน
“ใต้สวรรค์และปฐพีนี้ใครๆก็ชื่นชอบข้า” สุนัขตัวดำกล่าวอย่างไม่เขินอาย
หลิงฮันอยากจะกระทืบสุนัขตัวดำเสียเหลือเกิน เจ้าน่ะรึเป็นที่รักของทุกคน ลองให้ข้าโยนเจ้าออกไปสิจะต้องมีคนมาต่อแถวรอทุบตีเจ้ายาวเหยียดจนวนรอบดาวมู่ถูได้หลายรอบแน่นอน
ผ่านไปไม่นานฝูงชนก็เริ่มส่งเสียงเอะอะ ศิษย์แต่ละคนกระซิบพูดคุยกันด้วยสีหน้าตกตะลึง
แน่นอนว่าหลิงฮันย่อมได้รับว่าพวกเขากำลังพูดคุยกับถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นระหว่างเขากับเจี่ยเหลียงเมื่อครู่
“ข่าวปลอม เป็นไปไม่ได้!”
“ใช่แล้ว ศิษย์พี่เจี่ยมีพลังบ่มเพาะอยู่ที่ระดับวารีนิรันดร์ขั้นกลางชั้นปลายแถมยังเชี่ยวชาญรูปแบบอาคมหยินหยางห้าธาตุ ไม่ต้องพูดถึงเรื่องจะโค่นล้มเขาได้อย่างราบคาบ แค่หากต้องการต่อสู้ทัดเทียมเขาก็ต้องมีพลังบ่มเพาะระดับวารีนิรันดร์ขั้นกลางชั้นสูงสุดเป็นอย่างน้อย”
“จะบอกว่าจอมยุทธระดับดารามีพลังต่อสู้ทัดเทียมกับระดับวารีนิรันดร์ขั้นสูง? ต่อให้สังหารข้า ข้าก็ไม่มีทางเชื่อ”
“ไม่มีทางเป็นไปได้ ต่อให้มีอุปกรณ์เซียน แต่จอมยุทธระดับดาราก็ไม่สามารถกระตุ้นพลังของมันออกมาใช้งานได้อย่างเต็มที่”
ทุกคนส่ายหัว แม้ในตอนแรกพวกเขาจะตกตะลึงแต่ก็ไม่มีเชื่อว่าเป็นเรื่องจริง แม้กระทั่งคนที่เห็นด้วยตาตัวเองยังทำใจเชื่อไม่ได้ แล้วคนที่แค่ได้ยินข่าวมีรึจะยอมเชื่อ
“ละ หลิงฮันอยู่นั่น!” ใครบางคนชี้ไปยังหลิงฮัน
หลิงฮันไม่ได้หลบซ่อนตัว จึงกลายเป็นเป้าสายตาไปโดยปริยาย
สายตาของทุกคนจับจ้องไปยังทิศทางของนิ้วที่ชี้ออกไป
การที่หลิงฮันมาอยู่ที่นี่หมายความว่าอะไร?
เจี่ยเหลียงทำหน้าที่ล้มเหลว…
หรือข่าวลือที่ว่าหลิงฮันเอาชนะเจี่ยเหลียงได้จะเป็นความจริง?
‘ตุบ’ ร่างหนึ่งลอยไปยังหาหลิงฮัน เบื้องหลังของเขาปรากฏวงโคจรดาราจักรที่ปลดปล่อยอำนาจอันทรงพลังออกมา ชายคนนี้คือศิษย์เก่าระดับวารีนิรันดร์ขั้นกลางและเป็นหนึ่งศิษย์ที่แข็งแกร่งที่สุดในลานแห่งนี้
ศิษย์ที่แข็งแกร่งที่สุดอย่างพวกเริ่นเฟยอวิ๋นหรือศิษย์ระดับวารีนิรันดร์ขั้นสูงนั้นคือกลุ่มศิษย์ที่ทรงพลังที่สุดในสำนักย่อยที่แปก พวกเขาสามารถนัดหมายขอคำชี้แนะจากเซียนหมิงซินได้โดยตรงจึงไม่จำเป็นต้องมาฟังคำชี้แนะที่ลานแห่งนี้
“ข้าไม่เชื่อว่าเจ้าจะโค่นเซียนหมิงซินลงได้ มาสู้กับข้า!” ชายคนนั้นกล่าวและลงมืออย่างไม่รีรอ นิ้วของเขาชี้ออกไปและแปรเปลี่ยนเป็นทวนทองคำพุ่งเข้าใส่หลิงฮัน
หลิงฮันรู้สึกรำคาญจึงปล่อยหมัดออกไปตอบโต้อย่างไม่พูดพล่าม
ตูม!
รูปแบบอาคมทั้งสิบปลดปล่อยอำนาจอันไร้ที่สิ้นสุด ร่างของชายคนนั้นลอยปลิวกระเด็นราวกับไร้น้ำหนักเหมือนกับกระดาษพร้อมกับกระอักโลหิต
‘ตุบ’ ชายคนนั้นร่วงลงสู่พื้น แขนขาของเขากระดิกเล็กน้อยโดยที่ปากมีฟองน้ำลายไหลออกมา
ผู้คนมองดูเหตุการณ์อยู่ชะงักแน่นิ่งทันที