พวกเขาเพิ่งคุยกันว่าเป็นไปไม่ได้ที่หลิงฮันจะเอาชนะเจี่ยเหลียงได้ แต่พริบตาเดียวหลิงฮันกลับโค่นล้มศิษย์เก่าที่แข็งแกร่งทัดเทียมกับเจี่ยเหลียงต่อหน้าทุกคน
ไม่มีลูกเล่นอะไรทั้งนั้นแต่เป็นชัยชนะด้วยการโจมตีโดยตรง
ทุกคนแน่นิ่งเหมือนปลาตาย
‘ครืน’ เสียงกฎแห่งเต๋าดังขึ้นจากอากาศที่ว่างเปล่า มันคือสัญญาณว่าเซียนกำลังจะมา
พริบตาต่อมาร่างของเซียนหมิงซินก็ปรากฏตัวขึ้นบนแท่นดอกบัวโดยที่ไม่มีใครรู้ว่าเขามาได้อย่างไรราวกับว่าเขาอยู่ตรงนั้นมาก่อนแล้ว
เซียนหมิงซินกวาดสายตามองเหล่าศิษย์ก่อนที่จะหยุดชะงักเมื่อเห็นหลิงฮัน
เขาไม่ได้ปิดบังใบหน้าด้วยพลังปราณทุกคนจึงสามารถมองเห็นสีหน้าอันตกตะลึงของเขาได้อย่างชัดเจน
ตัวตนระดับเซียนที่แม้ท้องฟ้าจะร่วงหล่นก็ไม่แม้แต่กระพริบตาเป็นไปได้อย่างไรที่ตะแสดงสีหนาเช่นนั้น?
เขามองเห็นอะไรในตัวหลิงฮันกันแน่?
แต่พอคิดแล้วการที่เซียนจะมีท่าทางแบบนั้นก็ไม่ใช่เรื่องแปลก จะมีจอมยุทธระดับดาราคนไหนบ้างที่สามารถโค่นล้มจอมยุทธระดับวารีนิรันดร์ขั้นกลางได้อย่างราบคาบ!
เซียนหมิงซินจ้องมองหลิงฮันอยู่สักพักก่อนจะละสายตากลับและกล่าว “วันนี้ข้าจะพูดถึงหลักการพื้นของของรูปแบบอาคม ข้อหนึ่ง… ข้อสอง… สาม…” เขาเริ่มบรรยายความรู้อันลึกซึ้งของศาสตร์รูปแบบอาคมออกมาได้อย่างเรียบง่าย
การที่จะเข้าใจรูปแบบอาคมเซียนนั้นจะเป็นต้องเข้าใจรูปแบบอาคมพื้นทั้งหมดเสียก่อน เพราะงั้นหลิงฮันจึงรับฟังอย่างตั้งใจ และด้วยต้นสังสารวัฏเขาจะมีเวลาฝึกฝนมากกว่าคนอื่นเกือบๆสี่ร้อยเท่า
ครึ่งเดือนผ่านไปเซียนหมิงซินกล่าวจบการบรรชี้แนะ “หลิงฮัน มาที่ตำหนักของข้า”
ตำหนักที่เซียนหมิงซินอาศัยอยู่ ในสำนักย่อยที่แปดนี้มันคือสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ต้องห้าม มีเพียงศิษย์ที่แข็งแกร่งที่สุดสี่คนเท่านั้นถึงจะมีคุณสมบัติเข้าไปยังที่แห่งนั้นเพื่อขอคำแนะนำจากเซียน
หลิงฮันเข้าร่วมสำนักมาได้นานเท่าไหร่เชียว แต่กลับถูกเซียนเรียกพบแล้ว?
หลิงฮันพยักหน้า หลังจากเซียนหมิงซินจากเดินเขาก็เดินมุ่งหน้าไปยังตำนักเซียน
ครั้งนี้ไม่มีศิษย์คนใดกล้าหยุดยั้งเขา
อย่างแรกเลยคือเพราะแม้แต่ศิษย์ระดับวารีนิรันดร์ขั้นกลางก็ไม่สามารถหยุดเขาได้ อย่างที่สองคือหลิงฮันถูกเซียนเรียกพบ ใครบ้างจะกล้าขัดขวาง?
“นั่นมันสุนัขตัวดำ!”
“บัดซบ เจ้าสุนัขนั่นปรากฏตัวอีกแล้ว!”
“จัดการมันเลย!”
ต่อให้ไม่มีเรื่องของหลิงฮันฝูงชนก็กลายเป็นเอะอะ ทุกคนจ้องมองไปยังสุนัขตัวดำ ก่อนหน้านี้พวกเขาตั้งสมาธิไปกับการบรรยายชี้แนะของเซียนจึงไม่ได้สังเกตเห็นมันจนถึงตอนนี้
ชั่วพริบตาศิษย์จำนวนนับพันก็พุ่งโจมตีพร้อมกับเพื่อสังหารสุนัขตัวดำ
สุนัขไร้ยางอายตัวนี้ไปทำเรื่องเลวทรามอะไรมากันแน่ ผู้คนถึงได้เคียดแค้นมันขนาดนั้น?
หลิงฮันรู้สึกเห็นใจเล็กน้อยแต่ก็ก้าวท้าวเดินจากไป
เขามาถึงตำหนักอย่างรวดเร็วซึ่งแท้จริงแล้วมันเป็นลานที่พักขนาดเล็กที่มีกลิ่นอายแห่งความเก่าแก่ มีศิษย์คนหนึ่งยืนอยู่เฝ้าประตูทางเข้าอยู่ เมื่อเห็นหลิงฮันเขาได้รีบกล่าวออกมา “ศิษย์พี่หลิง เซียนไปบอกเมื่อท่านมาถึงให้เข้าไปได้เลย”
หลิงฮันจ้องมองดูอีกฝ่าย เขาเป็นศิษย์ที่มีพลังบ่มเพาะระดับวารีนิรันดร์ที่ห่างไกลจากคำว่ารุ่นเยาว์ไปมากแล้ว ที่หน้าผากของเขาปรากฏรอยเหี่ยวย่นและสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายแห่งความตาย
ศิษย์คนนี้คงเป็นจอมยุทธเฒ่าที่มีอายุหลายร้อยล้านปีและติดตามเซียนมาเป็นเวลานาน
โลกแห่งวรยุทธนั้นโหดร้าย หากพลังบ่มเพาะไม่มีการพัฒนาใดๆและหยุดอยู่กับที่ก็มีแต่จะถูกกาลเวลากัดกร่อยพลังชีวิตไปทีละน้อย
หลิงฮันรู้สึกหวาดหวั่นในใจและเดินเข้าไปยังลานที่พัก
จากมุมมองด้านนอก ลานที่พักแห่งนี้มีขนาดเล็กมาก แต่หลังจากเข้าไปแล้วจะกลับพบว่าภายในคือโลกอีกโลกหนึ่ง
เมื่อเดินผ่านประตูเข้ามาแล้ว ภายในคือมหาสมุทรอันกว้างใหญ่ที่มีดอกบัวสีเขียวมากมายลอยอยู่ในมหาสมุทร ดอกบัวแต่ละดอกใหญ่โตจนปกคลุมแทบจะทั่วทั้งมหาสมุทร
ในระยะที่ห่างไกลออกไป เซียนหมิงซิงนั่งอยู่บนดอกบัวและกำลังตกปลาอยู่ หลิงฮันโคจรทักษะย่างก้าวไล่ตามดารามุ่งหน้าไปยังทิศทางนั้น
การเคลื่อนไหวของเขานั้นรวดเร็วมาก แต่ผ่านไปไม่นานก็พบว่าระยะห่างระหว่างเขากับเซียนหมิงซินไม่ได้ลดลงเลยแม้แต่น้อย
เห็นได้ชัดว่าเขากำลังมุ่งหน้าไปหาอีกฝ่ายแท้ๆ แถทเซียนหมิงซินก็ไม่ได้เคลื่อนไหวด้วย เหตุใดเขาถึงยังไม่สามารถเข้าใกล้อีกฝ่ายได้?
หลิงฮันหยุดเท้า เขาจ้องมองอย่างละเอียดถี่ถ้วนก่อนจะแสดงสีหน้าเข้าใจ
รูปแบบอาคม!
ดอกบัวสีเขียวแท้จริงแล้วคือรูปแบบอาคม ไม่ว่าจะเป็นใบของมันหรือลำต้นก็ล้วนแต่ถูกสร้างขึ้นจากรูปแบบอาคมที่พิเศษ
เขาเริ่มตรวจสอลเพื่อทำลายรูปแบบอาคม
เซียนหมิงซินชำเลืองมองมาที่เขาและเผยรอยยิ้ม การที่หลิงฮันสามารถพบเจอเขาได้ไวเพียงนี้ไม่ใช่เรื่องที่จะทำได้ง่ายๆ จากที่ดูแล้วหลิงฮันสามารถจัดอยู่ในลูกศิษย์สิบอันดับแรกที่เขาเคยสั่งสอนรูปแบบอาคมมาได้เลย
เพียงแต่ว่าการที่มองทะลุปรุโปร่งกับแก้ได้นั้นเป็นคนล่ะเรื่อง
รูปแบบอาคมนี้ไม่ใช่รูปแบบอาคมที่ยากอะไรมากนัก เขาต้องการทดสอบว่าหลิงฮันจะใช้เวลาแก้รูปแบบอาคมนานเพียงใด
อวี๋ซู่ซู่หกวัน เริ่นเฟยอวิ๋นเก้าวันครึ่ง ฉีเทียนสิบวัน และไช่เหมี่ยวสิบวันครึ่ง
เขารู้ว่าหลิงฮันมีพรสวรรค์ที่โดดเด่นในศาสตร์วรยุทธ เพราะงั้นจึงไม่ได้คาดหวังว่าหลิงฮันจะแก้ไขรูปแบบอาคมนี้ได้อย่างรวดเร็ว ที่เขาต้องการทดสอบหลิงฮันเป็นเพราะก่อนหน้านี้ที่ลานบรรยายชี้แนะเขาได้พบว่าหลิงฮันสลักรูปแบบอาคมเอาไว้บนร่างกายถึงสิบรูปแบบ
ตราบใดที่หลิงฮันสามารถแก้ไขรูปแบบอาคมสำเร็จภายในยี่สิวัน เขาจะทุ่มเทฝึกฝนหลิงฮันเป็นอย่างดี แม้จะไม่ได้มีพรสวรรค์ในศาสตร์รูปแบบอาคมที่สูงส่งเท่าไหร่ แต่การที่สามารถสลักรูปแบบอาคมถึงสิบรูปแบบไว้บนร่างกายก็พอจะทดแทนกันได้
หลิงฮันครุ่นคริดอยู่สามวันก่อนจะส่ายหัว
ความเข้าใจในรูปแบบอาคมของเขายังตื้นเขินเกินไป หากต้องการแก้ไขรูปแบบอาคมนี้อาจจะต้องใช้เวลาถึงยี่สิบวันหรือมากกว่านั้น เขารู้ว่านี่คือการทดสอบของเซียนหมิงซิน เพียงแต่การที่ไม่รู้ว่าอีกฝ่ายกำหนดเวลาเอาไว้กี่วันนั้นทำให้เขาเคร่งเครียดเล็กน้อย
ในเมื่อเป็นแบบนี้แล้วก็ต้องใช้วิธีการที่เรียบง่ายที่สุด… ใช้กำลัง!