หลิงฮันไม่กล้าประมาทอีกฝ่ายที่กำลังจะใช้กระบวนท่าที่ทรงพลังที่สุด
เพราะอย่างไรหงหม่าก็เป็นราชาระดับแนวหน้า!
หลิงฮันนำดาบออกมา ไม่ใช่ดาบอสูรนิรันดร์แต่เป็นดาบไม้ผุพัง
ดาบอสูรนิรันดร์มีอำนาจในการทำลายล้างที่น่าสะพรึงกลัวก็จริง แต่ตอนนี้มันเป็นเพียงอุปกรณ์ศักดิ์สิทธิ์ระดับสิบเอ็ด จะให้นำไปปะทะกับอุปกรณ์กึ่งเซียนก็ดูจะเป็นเรื่องยากเกินไป
เพราะงั้นเขาจึงเลือกใช้ดำไม้พุพัง ดาบเล่มนี้คือสมบัติจากดินแดนใต้พิภพ แม้สภาพของมันจะไม่สมบูรณ์ แต่รากฐานของมันก็ยังทรงพลังเพียงพอจะทัดเทียนกับอุปกรณ์กึ่งเซียนได้แน่นอน
หงหม่าที่เห็นหลิงฮันนำดาบไม้พุพังออกมาตอบโต้อุปกรณ์กึ่งเซียนของตนเองมีท่าทีโมโหทันที
นี่เจ้าดูถูกข้า?
เขาสะบัดไม้กวาดอย่างเกรี้ยวกราด คลื่นแสงสีขาวนับไม้ถ้วนถูกปลดปล่อยออกมากระหน่ำเข้าใส่หลิงฮัน
หลิงฮันตั้งท่ารับด้วยดาบไม้ ภายใต้การกระตุ้นของเขารูปแบบอาคมบนตัวดาบค่อยๆส่องประกายขึ้นทีละอันพร้อมกับปลดปล่อยแสงสลัวสีแดงเข้มราวกับโลหิตออกมา ดาบไม้พุพังนี้อบอวลไปด้วยจิตสังหารที่รุนแรงเกินจะพรรณนา
ผู้คนรอบข้างร่างกายแข็งค้างราวกับถูกจิตสังหารของดาบครอบงำ
จิตสังหารของดาบทำให้จิตใจของพวกเขาโหยหาฆ่าฟันโดยไม่สนว่าอีกฝ่ายจะเป็นใคร อย่าว่าแต่ศิษย์พี่ศิษย์น้องในสำนักเลย ต่อให้เป็นญาติพี่น้องหรือบุตร พวกเขาก็พร้อมที่จะกวัดแกว่งกระบี่ใส่
เป็นดาบที่ชั่วร้ายอะไรเช่นนี้!
มือขนาดใหญ่ลอยลงมาจากท้องฟ้าละอ้านิ้วทั้งห้าออกเป็นกรงปิดกั้นลานประลองของหลิงฮันกับหงหม่า ที่ทำเป็นนี้ก็เพราะป้องกันไม่ให้จิตสังหารอันรุนแรงจากดาบไม้แพร่กระจายออกจากลานประลอง
ร่างของหลิงฮันโอบล้อมไปด้วยปราณสีดำ ดาบไม้พุพังได้กระตุ้นออร่าของจ้าวอสูรในร่างเขาให้ปะทุออกมาส่งผลให้ที่บริเวณหน้าผากกับแก้มของเขาปรากฏรูปแบบอาคมอสูร
“เซียนซิงฉาลงมือ!”
ทุกคนอุทานออกมา พลังน่าเกรงขามที่สัมผัสได้จากมือขนาดใหญ่นั่นคือพลังของเซียนซิงฉา เขาลงมือเพื่อช่วยให้ทุกคนหลุดจากการครอบงำของจิตสังหารอันชั่วร้าย
การประลองนี้เป็นเพียงการปะทะกันของศิษย์ใหม่ระดับวารีนิรันดร์ขั้นต้นสองคนเท่านั้น การที่ต้องถึงขนาดให้เซียนซิงฉาลงมือเป็นหลักว่าดาบไม้นั่นน่าสะพรึงกลัวขนาดไหน
หงหม่าตกตะลึงอ้าปากค้าง เมื่อครู่เขาไม่สบอารมณ์ที่หลิงฮันนำดาบไม่สมประกอบออกมาดูถูกเขา แต่ตอนนี้เขาได้แต่แอบหวังว่าหลิงฮันจะนำดาบเล่มนั้นเก็บไปไม่เอามาสู้กับเขา
ดาบที่ชั่วร้ายขนาดนั้น เพียงแค่มองก็ทำให้เขาขนลุกแล้ว
สภาพของหลิงฮันในตอนนี้ราวกับตกไปอยู่ในวิถีแห่งมารร้าย แต่ถึงอย่างนั้นจิตวิญญาณของเขาก็ยังบริสุทธิ์ไม่มีความชั่วร้ายใดๆเจือปน
ดินแดนใต้พิภพกับดินแดนศักดิ์สิทธิ์แตกต่างกันเพียงแต่อำนาจแห่งกฎเกณฑ์ของสวรรค์และปฐพี ส่วนในด้านอื่นๆนั้นทั้งสิงดินแดนล้วนแต่ไม่มีความแตกต่างกัน
จะดีหรือชั่วอยู่ที่จิตใจของคนไม่ใช่สภาพภายนอก
“เข้ามา!” หลิงฮันคำรามและปลดปล่อยการโจมตี ด้วยการสนับสนุนจากสมบัติระดับสูง ทักษะดาบฟ้าคำรามในตอนนี้จึงทรงพลังเกินกว่าจะบรรยาย
‘พรึบ’ คลื่นดาบถูกสะบั้นออกไป ภายในคลื่นดาบมีทั้งประกายสายฟ้ากาลเวลาแปรผันพันปีและมหาสมุทรโลหิตที่เป็นอำนาจเฉพาะของดาบไม่พุพัง
ตูม!
ตามไม้ปะทะเข้ากับไม้กวาด คลื่นแสงระเบิดปะทุไปทั่วพื้นที่จนทุกคนต้องเผลอหลับตา โชคดีที่ตอนนี้เซียนซิงฉารับหน้าที่คุ้มกันลานประลองชั่วคราว ไม่เช่นนั้นป่านนี้ลานประลองคงถูกทำลายไปแล้ว แถมผู้คนด้านนอกก็จะได้รับลูกหลงจนบาดเจ็บด้วย
เมื่อคลื่นปะทะสลายไป ร่างของหลิงฮัยกับหงหม่าก็ยังคงยืนอยู่อย่างองอาจ
ออร่าของหลิงฮันกลับเป็นปกติ ดาบไม่พุพังในมือของเขายังคงปลดปล่อยออร่าทรงพลังออกมา ร่องรอยพุพังของมันยังคงมีอยู่เหมือนเดิมแต่ไม่มีร่องรอยเสียหายใหม่ใดๆเกิดขึ้น
ส่วนทางด้านหงหม่า?
ตามร่างกายของเขาไม่มีบาดแผลใดๆ แต่ไม้กวาดในมือของเขาแตกหักออกเป็นหลายส่วน!
แม้กระทั่งอุปกรณ์กึ่งเซียนก็ยังถูกทำลาย?
กระบวนท่าที่สาม หงหม่าก็ยังเป็นฝ่ายด้อยกว่า
“อึก!” หงหม่ากัดฟันก่อนจะส่ายหัวและกล่าว “ข้าแพ้แล้ว”
หลิงฮันพยักหน้าอย่างไม่ใส่ใจเนื่องจากเขายังไม่ได้เอาจริง รูปแบบอาคมทั้งสิบนั้นถูกเก็บเอาไว้เพื่อจัดการกับกู่ต้าวอี้
หงหม่ารู้สึกไม่สบอารมณ์ ข้าด้อยกว่าเพียงแค่เล็กน้อยเจ้าจำเป็นต้องทำท่าทีอวดดีขนาดนั้น?
แต่แพ้ก็คือแพ้ พวกเขาตกลงกันไว้ก่อนแล้วว่าจะตัดสินแพ้ชนะในสามกระบวนท่า
หงหม่าเค้นเสียงและเดินจากไป
‘คราวหน้าเขาจะต้องเอาชนะให้ได้’
หลิงฮันยิ้มและเดินลงจากลานประลอง เขาตั้งมั่นว่าจะเป็นอันดับหนึ่งของการประลองศิษย์ใหม่เพื่อรางวัลแก่นก่อเกิดพลังเซียน
หนึ่งวันต่อมา ผู้เข้ารอบรองสุดท้ายก็ถูกตัดสิน
หลิงฮันปะทะหลงเซียงเยว่ กู่ต้าวี้ปะทะจักรพรรดินีหล่วนซิง
การประลองเริ่มได้ไม่นานก็กลายเป็นการต่อสู้อันดุเดือด
หลงเซียงเยว่มีสายเลือดของมังกรแท้จริงที่สามารถปลดปล่อยอำนาจมังกรได้ แต่น่าเสียดายที่หากคู่ต่อสู้ของนางคือกู่ต้าวอี้หรือจักรพรรดินี อำนาจมังกรก็อาจจะใช้ได้ผล แต่สำหรับหลิงฮันแล้วอำนาจมังกรของนางสามารถใช้เป็นเกราะป้องกันอำนาจสวรรค์ได้เท่านั้น หากไร้อำนาจมังกรแล้วพลังต่อสู้ของนางตะถูกลดลงสองดาวและคงพ่ายแพ้อย่างราบคาบ
แต่ไพ่ลับของนางไม่ได้มีเท่านั้น นางทักษะลมหายใจมังกรอันทรงพลัง ลมหายใจแปรเปลี่ยนเป็นเพลิงทมิฬที่สามารถเผาผลาญได้แม้กระทั่งแร่โลหิตศักดิ์สิทธิ์ระดับเดียวกัน!
น่าเสียดายอีกครั้งที่คู่ต่อสู้ของนางคือหลิงฮัน
ตัวเขาทั้งฝึกฝนกำเนิดใหม่จากเถ้าถ่านด้วยเพลิงนิรันดร์และมีเพลิงบรรพบุรุษผสานอยู่ในร่างกาย คิดจะสร้างบาดแผลให้เขาด้วยเพลิงงั้นรึ? ช่างน่าขัน!
หลงเซียงเยว่รู้สึกหดหู่เป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นอำนาจมังกรหรือลมหายใจมังกรก็ล้วนแต่เป็นทักษะที่ทรงพลังที่สุดของเผ่ามังกร อีกอย่างเผ่ามังกรแท้จริงเองก็มีกายหยาบอันแข็งแกร่งที่สามารถใช้ร่างกายเปล่าๆบดขยี้สัตว์อสูรศักดิ์สิทธิ์ตนอื่นได้ทั้งหมดทั้งมวล
แต่หลงเซียงเยว่ก็ได้เห็นผลลัพธ์จากกระประลองกายหยาบระหว่างเทียนเซี่ยตี้เอ้อกับหลิงฮันมาแล้ว
หากคิดจะเทียบกายหยาบกับหลิงฮันก็ไม่ต่างจากแส่หาความพินาศให้ตนเอง!
มาถึงจุดนี้นางยอมรับในตัวหลิงฮันอย่างแท้จริง หากเป็นตอนนี้ต่อให้หลิงฮันจะกล่าวขอยืมเขามังกรจากนาง นางก็คงไม่เสนอข้อต่อรองใดๆ
ในโลกนี้มีบุรุษจำนวนไม่มากที่สามารถอยู่เหนือนางได้ ในที่นี้อาจจะมีเพียงหลิงฮันกับกู่อ้าวอี้เพียงแค่สองคนเท่านั้น
การประลองกินเวลาไปหนึ่งวันและหลิงฮันก็สามารถเอาชนะหลงเซียงเยว่ไปอย่างอยากลำบากโดยไม่ใช้รูปแบบอาคมทั้งสิบ
“คืนนี้มาหาข้า!” หลังจากกล่าวประโยคนี้กับหลิงฮัน หลงเซียงเยว่ก็รีบจากไปด้วยท่าทีเขินอาย
นี่หรือว่านางคิดจะแอบลอบสังหารเขาในยามค่ำคืน? ข้าไม่ไปเด็ดขาด!
หลิงฮันครุ่นคิด ในเมื่อหลงเซียงเยว่มีอาสาวที่บรรลุระดับสร้างสรรพสิ่งแล้วเขาคงเปลี่ยนเป้าหมายไปเป็นอาสาวของนางดีกว่า ไม่เช่นนั้นหากต้องรอให้หลงเซียงเยว่บรรลุระดับสร้างสรรพสิ่งได้ ไม่รู้ว่าจะต้องรออีกนานเท่าไหร่
เขาเดินลงจากลานประลอง ในด้านกู่ต้าวอี้กับจักรพรรดินีนั้นทั้งสองยังคงต่อสู้กันอย่างดุเดือด
หากพูดตามหลักแล้ว กู่ต้าวอี้เป็นผ่ายที่แข็งแกร่งกว่า
ทั้งสองฝึกฝนทักษะเก้าสวรรค์ดับสูญเหมือนกัน แต่กู่ต้าวอี้นั้นเป็นร่างกำเนิดใหม่ของนิรันดร์ระดับโลกียนิพพานแถมยังมีแก่นกำเนิดนิรันดร์ที่สร้างขึ้นจากการเกิดใหม่เก้าชาติภพ นอกจากนั้นเขาก็ยังถือครองอุปกรณ์เซียนอีก ไม่ว่าจะเป็นข้อไหนเขาก็เหนือกว่าจักรพรรดินี
ทว่าจักรพรรดินีนั้นมีหินต้นกำเนิดสวรรค์ ตราบใดที่การโจมตีของคู่ต่อสู้มีพลังต่ำกว่าระดับสร้างสรรพสิ่ง หินก้อนนี้ย่อมสามารถดูดซับการโจมตีได้ทั้งหมด
เพราะงั้นนางในตอนนี้จึงไม่มีทางพ่ายแพ้