หลิงฮันไม่รับรู้ถึงเหตุการณ์ด้านนอก เขาใช้สมาธิทั้งหมดไปกับการศึกษารูปแบบอาคมโดยที่ไม่ตระหนักถึงเวลาที่ค่อยๆผ่านพ้นไป
สองปีหลังจากนั้น
หลิงฮันลืมตาขึ้นใต้ต้นสังสารวัฏ ตอนนี้เขาศึกษารูปแบบอาคมอีกาโลหิตจนเชี่ยวชาญแล้ว
เขาควบแน่นเพลิงเก้าสวรรค์เป็นใบมีดและสลักรูปแบบอาคมลงบนกระดูกในร่าง
ส่วนรูปแบบอาคมก่อนหน้านี้น่ะรึ? เพียงแค่นึกคิดคัมภีร์สวรรค์ก็สามารถฟื้นสภาพการดูกของเขาให้กลับสู่สภาพดั้งเดิมได้ในพริบตา
เมื่อเทียบกับรูปแบบอาคมระดับสิบสี่แล้ว รูปแบบอาคมอีกาโลหิตมีความซับซ้อนยิ่งกว่าหลายหมื่นเท่า
แต่ตัวของหลิงฮันก็ไม่ใช่ระดับดาราอีกต่อไป สัมผัสสวรรค์ของระดับวารีนิรันดร์ย่อมแข็งแกร่งกว่าเดิม เพราะงั้นการสลักรูปแบบอาคมจึงรวดเร็วกว่าครั้งก่อนมากนัก
สิบวันต่อมา หลิงฮันสลักรูปแบบอาคมลงบนกระดูกสำเร็จเสร็จสิ้นทั้งหมดสิบรูปแบบ อันที่จริงกระดูกของเขายังมีพื้นที่เหลือให้สลักรูปแบบอาคมอีกาโลหิตได้อีกครึ่งรูปแบบ แต่พลังของครึ่งรูปแบบนั้นเล็กน้อยกินไปเขาจึงไม่สนใจ
หลิงฮันออกจากหอคอยทมิฬ
ในช่วงเวลาสองปี พลังบ่มเพาะของทุกคนไม่มีการเปลี่ยนแปลงเท่าไหร่ ผิดกับจักรพรรดินีและสตรีนกอมตะ ทั้งสองไม่เพียงได้รับทรัพยากรจากสำนักแต่ยังได้รับเม็ดยาจากหลิงฮันด้วย นอกจากนั้นพวกนางก็ยังสามารถเข้ามาบ่มเพาะพลังใต้ต้นสังสารวัฏได้อีก
ถึงแม้หลิงฮันจะเก็บตัวฝึกฝน แต่เขาก็ทิ้งเศษเสี้ยวสัมผัสสวรรค์เอาไว้ หากพวกนางต้องการเข้าหอคอยทมิฬเพียงแค่เข้ามาในที่พักของเขาเสษเสี้ยวสัมผัสสวรรค์ก็จะมาพวกนางเข้ามาในหอคอยทมิฬ
“เจ้าทำสำเร็จแล้ว?” สตรีนกอมตะกล่าวทัก
หลิงฮันพยักหน้า
“นี่แก่นก่อเกิดพลังเซียนของเจ้า” จักรพรรดินีส่งมอบกล่องหยกให้แก่เขา
แก่นก่อเกิดพลังเซียนเกิดจากการควบแน่นพลังงานจากสวรรค์และปฐพีมาควบแน่นเป็นสมบัติซึ่งสามารถช่วยขัดเกลาพลังบ่มเพาะได้อย่างมีประสิทธิภาพอย่างมากสำหรับจอมยุทธที่มีระดับพลังต่ำกว่าเซียน
หลิงฮันครุ่นคิดก่อนจะกล่าว “เจ้าใช้มันเถอะ”
จักรพรรดินีชะงักก่อนจะเข้าใจความคิดของหลิงฮัน อันธพาลผู้นี้ยังคงคิดจะให้นางบรรลุเป็นเซียนให้เร็วที่สุดเพื่อที่จะได้ร่วมรักกับนาง
จักรพรรดินียิ้มและเก็บกล่องหยก ในเมื่อหลิงฮันต้องการนางก็จะขัดเกลาพลังให้บรรลุระดับสร้างสรรพสิ่งให้เร็วที่สุด
“มีใครมาที่นี่เพื่อสร้างปัญหารึไม่?” หลิงฮันเอ่ยถาม
“จะไม่มีได้อย่างไร? แต่คนเหล่านั้นถูกพี่สาวจัดการไปหมดแล้ว” สตรียกอมตะยิ้ม
หลิงฮันหัวเราะ ถึงแม้จักรพรรดินีจะมีพลังบ่มเพาะเพียงระดับวารีนิรันดร์ขั้นต้น แต่หากมีหินต้นกำเนิดสวรรค์อยู่ในมือใครจะเป็นคู่ต่อสู้ของนางได้?
“ข้าต้องหาทางกำจัดกู่ต้าวอี้” หลิงฮันจับคางครุ่นคิด ในสำนักละอองดาราหรือแม้แต่ในดาวมู่ถูแห่งนี้คงไม่สามารถสังหารอีกฝ่ายได้เนื่องจากมีเซียนคอยดูแลอยู่ สัมผัสสวรรค์ของเซียนนั้นสามารถแพร่กระจายได้ทั่วทุกซอกทุกมุมดวงดาว
“คงต้องรอให้มีเขตแดนลี้ลับปรากฏขึ้นมาเท่านั้นถึงจะมีโอกาสสังหารกู่อ้าวอี้” หลิงฮันกล่าว แต่นั่นก็ยังเป็นเรื่องยากลำบากอยู่ดี กู่ต้าวอี้เป็นปรมาจารย์ระดับโลกียนิพพานของดินแดนแห่งเซียน เขตแดนลี้ลับในดินแดนศักดิ์สิทธิ์จะสามารถทำให้เขารู้สึกสนใจได้?
หืม?
จู่ๆหลิงฮันก็นึกบางอย่างออก
เมื่อตอนที่เขายังอยู่ในทวีปฮงเทียน เขาได้รับทักษะที่เหลือทิ้งไว้จากผู้ติดตามทั้งสิบสองของราชันวารีสวรรค์ ซึ่งก็คือศรฆ่ามังกรทะลวงดาราและทักษะกายาเก้ามังกรทรราช
เขตแดนลี้ลับแห่งนั้นแต่เดิมแล้วเป็นส่วนหนึ่งของดินแดนศักดิ์สิทธิ์แต่ด้วยวิธีการที่น่าอัศจรรย์บางอย่างมันจึงถูกส่งผ่านห้วงมิติลงไปยังทวีปฮงเซียน
ก่อนหน้านี้พลังบ่มเพาะของหลิงฮันยังค่ำเกินไปทำให้ไม่สามารถคาดเดาพลังบ่มเพาะของผู้ติดตามทั้งสิบได้ แต่ตอนนี้เขาสามารถยืนยันได้แล้วว่าทั้งสิบสองคนนั้นต้องเป็นตัวตนระดับเซียนไม่ผิดแน่
ไม่ต้องกล่าวถึงเหตุผลอื่น แค่ลองดูจากทักษะกายาเก้ามังกรทรราชที่สามารถทำให้ผู้ฝึกฝนมีพละกำลังทัดเทียมกับเก้ามังกรแท้จริงก็พอ เก้ามังกรแท้จริงนั้นเป็นสัตว์อสูรศักดิ์สิทธิ์ที่มีพลังเท่ากันกับเซียน! ส่วนทักษะศรฆ่ามังกรทะลวงดารานั้นก็ได้ถูกกล่าวเอาไว้ว่าสามารถบดขยี้ดวงดาวและสังหารมังกรแท้จริงได้ ความสามารถที่ว่านี้จะเป็นความสามารถของใครได้หากไม่ใช่เซียน?
ลองคิดดูแล้วผู้ติดตามทั้งสิบสองและราชันวารีสวรรค์เป็นตัวตนระดับใดกันแน่?
เซียนระดับสูง? หรืออาจจะ… ราชาเซียน?
เขาก็ไม่รู้เหมือนกันว่าราชันวารีสวรรค์สิ้นชีพไปนานเพียงใดแล้ว แต่ผู้ติดตามทั้งสิบสองนั้นได้ทำการส่งเขตแดนลี้ลับสิบสองสวรรค์ลงไปยังทวีปฮงเซียนซึ่งหลิงฮัน็ได้รับพิกัดตำแหน่งที่ซ่อนสมบัติสืบของทอดราชันวารีสวรรค์มาจากเขตแดนลี้ลับแห่งนั้นนั่นเอง
สมบัติสืบทอดที่อาจจะเป็นของราชาเซียน… ไม่สิ สมบัติสืบทอดที่อาจจะมาจากดินแดนแห่งเซียน มีรึที่กู่ต้าวอี้จะไม่หวั่นไหว?
ไม่ว่ากู่ต้าวอี้จะมาจากดินแดนแห่งเซียนและเป็นตัวตนที่แข็งแกร่งขนาดไหนเขาก็คงไม่อาจปล่อยผ่านไปได้ง่ายๆ
เขาแลกเปลี่ยนแผนการกับสตรีนกอมตะและจักรพรรดินี พวกเขาได้ข้อสรุปว่าจะออกเดินทางตามหาตำแหน่งที่ตั้งของที่ซ่อนสมบัติสืบทอดของราชันวารีสวรรค์
แต่การจะเข้าไปยังเขตแดนลี้ลับของราชันวารีสวรรค์ที่อาจจะเป็นตัวตนระดับราชาเซียนนั้น แน่นอนว่าพวกเขาต้องเตรียมตัวให้พร้อมกันเสียก่อนจึงเผื่อเวลาไว้สิบวันก่อนจะออกเดินทาง
“อาจารย์! อาจารย์!” ติงผิงรีบร้อนเข้ามาหาเขา
“เกิดอะไรขึ้น?” หลิงฮันเอ่ยถาม หาได้ยากนักที่ศิษย์ของเขาจะมาหาเขาด้วยท่าทีเร่งรีบเช่นนี้
ติงผิงสูดลมหายใจและกล่าว “เซียนซิงฉามีคำประกาศออกมาแล้วว่าจะรับกู่ต้าวอี้เป็นศิษย์คนที่สิบ!” ใบหน้าของติงผิงแสดงออกถึงความเกรี้ยวกราด คนที่สมควรถูกรับเป็นศิษย์สมควรเป็นอาจารย์ของเขาแท้ๆ อีกฝ่ายไม่เห็นรึไงว่าอาจารย์ของเขาเอาชนะกู่ต้าวอี้ได้ในการประลองศิษย์ใหม่และได้รับฉายาศิษย์ใหม่ที่แข็งแกร่งที่สุด
หลิงฮันยิ้ม “ข้าพอรู้อยู่แล้ว” อันที่จริงเขาไม่ได้ต้องการคารวะเซียนซิงฉาเป็นอาจารย์อยู่แล้ว
“อาจารย์ ทำไมท่านถึงดูไม่เดือดร้อนเลย?” ติงผิงร้อนรน
ในเมื่อเซียนซิงฉารับศิษย์แล้ว ย่อมหมายถึงศิษย์คนอื่นไม่หลงเหลือความหวังที่จะกลายเป็นเซียนอีกต่อไป