บนกล่องมีคำใบ้บอกเอาไว้ว่าภายในกล่องนี้มีคำชี้แนะของราชานิรันดร์ซ่อนเอาไว้ ผู้ทีทำเช่นนั้นไม่ใช่ใครอื่นนอกจากหลิงฮันที่ต้องการดึงดูดความสนใจของกู่ต้าวอี้
ทักษะเก้าสวรรค์ดับสูญของกู่ต้าวอี้เองก็เป็นทักษะระดับราชานิรันดร์ เมื่อมีคำชี้แนะของราชินิรันดร์ปรากฎต่อหน้ามีรึที่เขาจะไม่คว้าโอกาสนี้ไว้?
หลิงฮันมั่นใจว่าแผนต้องสำเร็จ ต่อให้กู่ต้าวอี้จะได้รับสมบัติคุ้มกันจากเซียนซิงฉามามากมายเพียงใด เขาก็สามารถสังหารอีกฝ่ายได้หากใช้หยดโลหิตราชาเซียน
ใช้หยดโลหิตราชาเซียนเพื่อสังหารกู่ต้าวอี้ถือว่าเสียของรึไม่?
แน่นอนว่าไม่ หากเพื่อภรรยาของเขาแล้วหยดโลหิตราชาเซียนไม่อาจนับว่ามีค่าเลยแม้แต่น้อย
เขาต้องใช้ทุกสิ่งเพื่อสังหารกู่ต้าวอี้อย่างรวดเร็วที่สุด ไม่เช่นนั้นหากกู่ต้าวอี้หลบหนีไปได้จะทำอย่างไร?
“หืม นั่นมันฮันน้อยไม่ใช่รึ?” เสียงหนึ่งดังขึ้น
หลิงฮันหันหน้ามองและกล่าว “สุนัขบัดซบ เจ้าอยู่ที่นี่ด้วยรึ!”
สุนัขสบถ “นายท่านหมาทักทายเจ้าดีๆ แต่เจ้ากลับเรียกข้าแบบนั้นรึ? ข้าไม่เคยพบเจอคนไร้ยางอายขนาดเจ้ามาก่อน!”
“ข้าคร้านจะสนใจเจ้าแล้ว ข้ามีเรื่องสำคัญต้องจัดการ!” หลิงฮันเดินออกจากสำนักละอองดารา
“เจ้าวางแผนอะไรอยู่สินะ หากมีเรื่องดีๆก็อย่าได้ลืมข้าคนนี้!” สุนัขตัวดำตื่นเต้น
หลิงชำเลืองมอง สุนัขบัดซบตนเองช่างกลัวว่าโลกจะสงบสุขเกินไปจริงๆ
ทั้งสองเดินออกจากสำนักด้วยกัน ถึงแม้จะมีศิษย์มากมายเห็นเขาแต่ก็ไม่มีใครกล้าเข้ามาขวางทาง
…พลังของหลิงฮันเป็นที่ประจักษ์แล้ว ต่อให้เป็นศิษย์เก่าระดับวารีนิรันดร์ขั้นสูงก็ยังเอาชนะเขาไม่ได้ นอกจากศิษย์ระดับวารีนิรันดร์ขั้นสูงสุดแล้วใครจะกล้าขัดขวางเขา? ทุกคนต่างเกินข้อสงสัยเหมือนกันว่า หากแม้กระทั่งศิษย์ที่แข็งแกร่งที่สุดก็ไม่สามารถโค่นหลิงฮันได้ ศิษย์ระดับวารีนิรันดร์ขั้นสูงสุดคนอื่นก็คงหมดสิทธิ์เช่นกัน
ชื่อเสียงของสุนัขตัวดำก็เป็นที่กล่าวขานเช่นกัน
ไม่มีศิษย์คนใดเลยที่ชื่นชอบมัน หากใครเผลอไปล่วงเกินมันล่ะก็มันจะบุกรุกเข้ามากลางดึกและก่อกวนจนคนคนนั้นไม่มีโอกาสได้พักผ่อน ไม่ว่าจะเป็นการอุจจาระไปทั่วที่พักหรืออะไรก็ตามที่เป็นเรื่องสกปรกมันสามารถทำได้ทั้งหมด
ยิ่งไปกว่านั้นคือสุนัขบัดซบคนนี้ว่องไวจนไม่มีใครสามารถจับตัวได้ทัน
เมื่อออกมาถึงนอกสำนัก หลิงฮันนำอุปกรณ์บินแหวกเมฆาออกมาโดยที่สุนัขตัวดำรีบนำหน้าขึ้นไปบนยานอย่างรวดเร็ว ‘ตึง’ กางเกงในเหล็กของมันกระแทกกับเก้าอี้ของยานจนเกิดเสียงดังสนั่น
“หากยานข้าเสียหายเจ้าต้องรับผิดชอบชดใช้!” หลิงฮันถลึงตา
“ใจแคบเสียจริง!” สุนัขตัวดำทำเป็นเมินเฉยและขยับก้นให้เข้าที่กับเก้าอี้
หลิงฮันจ้องมองมันด้วยสีหน้าแปลกประหลาด
“เจ้าหนู ทำไมสายตาที่มองมาของเจ้าถึงได้ดูไม่น่าไว้ใจ!” สุนัขตัวดำกล่าวด้วยความหวาดแวงและขนลุก
หลิงฮันยิ้มและกล่าว “คงอีกไม่นาน เอาไว้ข้าจะแนะนำใครบางคนให้เจ้ารู้จัก”
หลิงฮันไม่กล่าวอะไรต่อและขับเคลื่อนอุปกรณ์บินแหวกเมฆาทันที ในอนาคตเมื่อสุนัจตัวดำพบเจอฮูหนิว มันจะได้รู้ว่าเหนือฟ้านั้นยังมีฟ้า
เห้อ เขาคิดถึงเด็กคนจอมตะกละคนนั้นจริงๆ
อุปกรณ์บินแหวกเมฆาเคลื่อนที่ออกไปยังดวงดาวรกร้างที่เขานำศพของนกอมตะสามตัวไปไว้ ณ ตอนนี้ที่นี่คับคั่งไปด้วยผู้คนจำนวนมาก
ต่อให้ใช้อุปกรณ์บินที่ไม่ได้มีระดับเหมือนกับอุปกรณ์บินแหวกเมฆาก็ใช้เวลาเพียงๆแค่ราวๆสามถึงสี่วันในการเดินทางจากดาวมู่ถูมายังที่นี่
ทุกคนกำลังต่อแถวรอเปิดกล่องที่อยู่บนรถเกวียน แต่ขนาดคนที่มีกำลังกายมหาศาลอย่างหลิงฮันยังต้องอย่างอยากเย็น เกรงว่าต่อให้เป็นศิษย์ที่แข็งแกร่งอย่างเริ่นเฟยอวิ๋นก็คงเปิดไม่สำเร็จ
ปัญหาไม่ได้อยู่ที่พลัง แต่เนื่องจากน้ำหนักของกล่องนั้นมีมากมายเกินทำให้กายหยาบไม่อาจรองรับไหว หากฝืนเปิดก็มีแต่จะทำให้กระดูกนิ้วของตัวเองแตกหัก
หนึ่งคนเปิดไม่ได้ก็ต้องใช้สองคน สองคนไม่ได้ก็สามคน แต่ไม่ว่าจะช่วยกันเท่าไหร่ก็ยังเปิดไม่ได้ ดังนั้นทุกคนจึงเริ่มเชื่อแล้วว่าภายในกล่องนี้จะต้องมีสมบัติที่ล้ำค่าหาอะไรเปรียบซ่อนเอาไว้แน่นอน
หลิงฮันรู้ว่ากู่ต้าวอี้มีแก่นกำเนิดนิรันดร์ช่วยเสริมกำลังให้ร่างกาย ถึงแม้มันจะไม่แข็งแกร่งเทียบเท่ากายหยาบของเขา แต่อีกฝ่ายก็ต้องเปิดกล่องได้อย่างแน่นอน
รีบๆมาเร็ว!
หลิงฮันนั่งรอคอยอย่างใจจดใจจ่อ
สุนัขตัวดำไม่อาจอยู่นิ่งเฉย มันลุกขึ้นเดินป้วนเปี้ยนไปมา กางเกงในเหล็กของมันสะท้อนแสงส่องประกายไปทั่วโดยที่มันไม่รู้สึกอับอายเลยแม้แต่น้อย
ใครก็ตามก็ถูกมันหมายหัวล้วนแต่ต้องหวาดกลัวไปถึงขั้วหัวใจและตกอยู่ในดวงดาวแห่งความโชคร้าย ฉายาของมันคือราชาไร้ยางอายแห่งสำนักย่อยที่แปด
สุนัขตัวดำจงใจชำเลืองมองไปยังเหล่าฝูงคนเพื่อข่มขู่ให้หวาดกลัว
สองวันต่อมา จักพรรดินีได้บอกกับเขาผ่านหอคอยทมิฬว่านางดูดซับสมุนไพรศักดิ์สิทธิ์ลึกล้ำเสร็จแล้ว พลังบ่มเพาะของนางตอนนี้บรรลุระดับวารีนิรันดร์ขั้นต้นชั้นปลายเป็นที่เรียบร้อย
ที่การพัฒนาของนางรวดเร็วกว่าหลิงฮันเป็นเพราะนางมีแก่นก่อเกิดพลังเซียนที่หลิงฮันมอบให้นาง
ทว่าหลิงฮันยังคงคิดว่าพลังบ่มเพาะของจักรพรรดินียังคงพัฒนาไปอย่างเชื่องช้าเกินไป เขาอยากให้นางบรรลุระดับเซียนเสียแต่ตอนนี้เลย
เขาไม่นำจักรพรรดินีและสหายคนอื่นๆออกมา แผนการสังหารกู่ต้าวอี้ในครั้งนี้ยิ่งมีคนน้อยก็ยิ่งดี แต่หากมีข้อผิดพลาดและแผนการถูกเปิดเผยเขาก็จะใช้อุปกรณ์บินแหวกเมฆาหลบหนีทันที อันที่จริงเหตุผลที่เขามายังสำนักละอองดาราก็เป็นเพราะต้องการทรัพยากรบ่มเพาะเพียงเท่านั้น
แต่ถึงอย่างไรหลิงฮันก็ยังรู้สึกติดค้างเซียนหมิงซินที่คอยให้คำชี้แนะเขาอยู่พอสมควร
เมื่อเวลาผ่านไป รถเกวียนและสมบัติก็ดึงดูดความสนใจของผู้คนมากขึ้น เหล่าปรมาจารย์ต่างมารวมตัวกัน ไม่ว่าจะเป็นศิษย์ที่แข็งแกร่งที่สุดอย่างเริ่นเฟยอวิ๋นหรือฉีเทียนก็มาถึงที่นี่แล้ว ไม่ใช่เฉพาะสำนักย่อยที่แปดเท่านั้น ข่าวลือถูกแพร่กระจายไปยังสำนักย่อยทั้งหมด
ไม่มีใครสนว่าข่างลือจะมาจากไหน สิ่งที่พวกเขาสนใจคือกล่องสมบัติที่ปรากฏอยู่ตรงหน้าเพียงอย่างเดียว
“หลิงฮัน!” ฉีเทียนและไช่เหมี่ยวตะโกนพร้อมกัน พวกเขาไม่มีทางลืมเด็ดขาด ต่อให้หลิงฮันจะชนะการประลองศิษย์ใหม่และนำเกียรติมาให้กับสำนักย่อยที่แปดก็ตาม เขาก็ต้องทำตามวัฒรธรรมของสำนัก!
หลิงฮันหัวเราะและกล่าว “พวกเจ้าอยากจะสู้?”