หนึ่งแสนผลึกก่อเกิด?
ซือกังหยางกอดอกด้วยใบหน้าขบขัน
“ทำไมยังไม่รีบหยิบอีก หรือมันน้อยไปงั้นรึ?” ซือกังหยางแสร้งกล่าวด้วยน้ำเสียงเห็นใจ “ข้าถือว่ามีจิตใจเมตตามากแล้ว ข้าจะไม่แบ่งผลึกก่อเกิดให้แก่เจ้าแม้แต่ผลึกเดียวก็ย่อมได้! รีบๆหยิบแล้วไสหัวไป!”
หลิงฮันยิ้ม “ข้าไม่ได้รู้สึกอยากทุบตีใครให้ตายมานานมากแล้ว ขอแสดงความยินดีด้วยที่เจ้ากระตุ้นความรู้สึกนั้นของข้ากลับมาได้”
“ฮ่าๆ เจ้าจะทำอะไรได้?” ซือกังหยางส่ายหัว รุ่นเยาว์ผู้นี้ช่างโง่เขลา คิดจะใช้กำลังงั้นรึ? หากอีกฝ่ายต้องการแส่หาความอัปยศใส่ตัวเขาก็จะเป็นคนสั่งสอนเองว่าท้องฟ้ากับปฐพีนั้นห่างชั้นกันเพียงใด
ความจริงแล้วเขารู้สึกอิจฉาหลิงฮันเล็กน้อย ตัวเขานั้นบ่มเพาะพลังมากว่าหลายสิบล้านปีถึงจะบรรลุระดับวารีนิรันดร์ แต่หลิงฮันล่ะ? โลหิตภายในร่างของอีกฝ่ายยังคงเดือดพล่านราวกับเตาหลอมที่ร้อนระอุ เห็นได้ชัดว่าอายุของหลิงฮันนั้นยังน้อยมากๆ
หรือก็คืออีกฝ่ายสามารถมีชีวิตต่อไปได้อีกมากกว่าร้อยล้านปี!
หลิงฮันผลักฝ่ามือออกไป “ที่จริงเจ้าไม่มีคุณสมบัติพอให้ข้าลงมือด้วยซ้ำ!”
“ก็แค่ระดับวารีนิรันดร์ขั้นต้น… อะไรกัน!” ซือกังหยางกำลังจะแสดงท่าทางเหยียดหยาม แต่เมื่อหลิงลงมือปลดปล่อยฝ่ามือขนาดใหญ่ วงโคจรดาราจักรที่ปรากฏขึ้นของอีกฝ่ายนั้นแปลกประหลาดเป็นอย่างมาก ภายในวงโคจรดาราจักรมีดวงดาวหมุนวนอยู่เพียงแปดสิบดวงเท่านั้น แต่ขนาดของดวงดาวแต่ละดวงกลับมีขนาดใหญ่กว่าดวงดาวทั่วไปหลายร้อยเท่า
เขาสัมผัสได้ถึงแรงกดดันที่น่าสะพรึงกลัว… อย่าประมาทเด็ดขาด!
ซือกังหยางคำราม วงโคจรดาราจักรของเขาปรากฏออกมา ภายในนั้นมีดวงดาวอย่างน้อยเจ็ดร้อยดวง นั่นหมายความว่าเขามีพลังบ่มเพาะอยู่ที่ระดับวารีนิรันดร์ขั้นกลางชั้นปลาย ตามหลักแล้วพลังต่อสู้ของเขาสูงกว่าหลิงฮันราวๆสี่ดาว
“ช่างรนหาที่ตาย!” เขาเอื้อมมือตอบโต้คว้าไปยังลำคอของหลิงฮันโดยหวังจะสร้างความทรงจำอันเจ็บปวดที่หลิงฮันจะไม่มีวันลืมเลือนไปตลอดชีวิต
‘ตูม’ ฝ่ามือขนาดใหญ่ของหลิงฮันสลายพลังทำลายจากมือของซือกังหยางได้อย่างง่ายกาย หลิงฮันในตอนนี้สามารถต่อสู้อย่างทัดเทียมได้แม้แต่จอมยุทธระดับวารีนิรันดร์ขั้นสูงสุด แค่ระดับวารีนิรันดร์ขั้นกลางจะสามารถเป็นคู่ต่อสู้ของเขาได้?
“อะไรกัน!” ซือกังหยางอุทานด้วยความหวาดกลัว
แค่ระดับวารีนิรันดร์ขั้นต้นเหตุใดถึงทรงพลังเพียงนี้?
ฝ่ามือขนาดใหญ่ของหลิงฮันกำลำคอของซือกังหยางเอาไว้แน่น ด้วยพลังอำนาจจากปราณก่อเกิดทำให้ร่างของซือกังหยางแข็งชาจนไม่สามารถขยับได้แม้แต่ปลายนิ้ว
“อ้าปาก!” หลิงฮันกล่าวอย่างเย็นชา
ซือกังหยางฝืนส่ายหัวและปิดปากแน่นไม่ยอมอ้า
หลิงฮันคว้าไปยังอากาศที่วางเปล่าพร้อมกับดูดแหวนมิติเข้ามาที่มือและใช่สัมผัสสวรรค์นำผลึกก่อเกิดจำนวนมากราวกับเนินเขาขนาดย่อมๆออกมา เขาหยิบผลึกก่อเกิดบนพื้นขึ้นมาหนึ่งก้อนและยัดเข้าใส่ปากซือกังหยาง
“จะ เจ้าจะทำอะไร!” ซือกังหยางตกตะลึงและรีบเอ่ยถามผ่านสัมผัสสวรรค์
“อ้าปากของเจ้า!” หลิงฮันตบเข้าที่ใบหน้าของซือกังหยางจนฟันหลุดกระเด็นและยัดผลึกก่อเกิดเข้าไปทันที
หลิงฮันหยิบผลึกก่อเกิดอีกก้อนขึ้นมาและยัดเข้าไปอีก
เมื่อถูกยัดผลึกก่อเกิดสองก้อนลงไปลึก ลำคอของเขาก็เกิดบาดแผลจนเริ่มรู้สึกเจ็บปวด
หลิงฮันไร้ความเมตตา เขาหยิบผลึกก่อเกิดก้อนที่สามขึ้นมาและยัดเข้าไปอย่างต่อเนื่อง
ต่อให้พลังบ่มเพาะของซือกังหยางจะถูกหลิงฮันผนึกเอาไว้แล้ว แต่จอมยุทธระดับวารีนิรันดณ์ก็ไม่มีทางตกตายง่ายๆ
“เจ้าทำเกินไป ตระกูลซือของข้า ไม่สิ ตำหนักเป่าหลินจะไม่มีวันไว้ชีวิตเจ้า!” ซือกังหยางไม่อาจใช้ปากพูดได้ เขาตะโกนข่มขู่ผ่านสัมผัสสวรรค์
“โอ้ ยังปากกล้าอยู่อีก” หลิงฮันยิ้มและยัดผลึกก่อเกิดเข้าปากซือกังหยางต่อ “เจ้าช่างใจกล้ายิ่งนักที่ให้ผลึกก่อเกิดข้าถึงหนึ่งแสนผลึก!”
“ข้าขอคืนผลึกก่อเกิดทั้งแสนผลึกคืนให้เจ้า มาดูว่าท้องของเจ้าจะรับพวกมันไหวไหม!”
ซือกังหยางที่ได้ยินใบหน้าเปลี่ยนเป็นซีดเผือด
ต้องกินผลึกก่อเกิดถึงหนึ่งแสนผลึก? เพียงแค่คิดว่าท้องของเขาต้องขยายใหญ่เท่าเนินเขาขนาดย่อมซือกังหยางก็รู้สึกสั่นสะท้านไปทั่วทั้งร่าง
เขาไม่เข้าใจเลยจริงๆ เขามีพลังบ่มเพาะสูงกว่าหลิงฮันแท้ๆ ต่อให้หลิงฮันเป็นอัจฉริยะสี่ดาวพวกเขาก็น่าจะเสมอกันไม่ใช่รึไง เช่นนั้นแล้วเหตุใดเขาถึงถูกหลิงฮันกำราบอย่างง่ายดาย?
“อ่อก!” ซือกังหยายส่ายหัวไปมา ผลึกก่อเกิดถูกยัดเข้าปากของเขาไม่หยุดด้วยความเร็วสูง
“เจ้าไม่หวาดกลัวการล้างแค้นจากตำหนักเป่าหลินของข้ารึไง!” ซือกังหยางกล่าวอย่างเกลียดชัง
เพี๊ยะ!
หลิงฮันตบเข้าที่ใบหน้า “เจ้ากินผลึกก่อเกิดจนเสียสติแล้ว? หากข้าหวาดกลัวข้าจะลงมือ? กล้าถึงขนาดขโมยของของข้าไปเป็นของตัวเอง เกรงว่าสมองของเจ้าคงจะไม่ปกติสินะ”
ซือกังหยางอยากร้องไห้ นี่เขาไปยั่วนะดวงดาวหายระผู้นี้ได้อย่างไร ไม่เพียงแค่อีกจะทรงพลังราวกับสัตว์ประหลาดแต่แม้กระทั่งตำหนักเป่าหลินก็ยังไม่หวาดกลัว
“ข้าจะยืนทุกอย่างให้เจ้า!” ซือกังหยางรีบกล่าวอย่างไม่ลังเลเพราะกลัวว่าหลิงฮันจะสังหารเขา
“ไม่ต้องรีบขนาดนั้น” หลิงฮันส่ายหัว “ไม่ว่าทำอย่างไรเจ้าก็ไม่อาจหนีข้าพ้น มาเล่นสนุกกันต่ออีกหน่อยดีกว่า”
เล่นน้องสาวเจ้าสิ!
ซือกังหยางสบถในใจ
หลิงฮันหรี่ตามอง “นี่เจ้าแอบด่าข้า?”
“อ่อก!” ซือกังหยางส่ายหัว เนื่องจากปากถูกยัดเอาไว้ด้วยผลึกก่อเกิดทำให้เขาอึดอัดและเปล่งเสียงออกมาไม่ได้
“เจ้าควรประพฤติตัวอย่างสื่อสัตย์ ไม่เช่นนั้นการกระทำของเจ้าจะนำพาหายนะมาสู่ตัว” หลิงฮันกล่าวแนะนำ
ซือกังหยางอยากจะสบถด่าออกมาดังๆแต่ก็ไม่กล้า
“ว่าแต่ผลึกก่อเกิดมันอร่อยขนาดนั้นเลย? งั้นก็กินต่อเลย ไม่ต้องกังวลไม่มีใครมาแย่งเจ้าหรอก!” หลิงฮันยัดผลึกก่อเกิดต่อเนื่องไม่หยุด
ซือกังหยางรู้สึกทรมานจนอยากจะตาย เขาร้องโอดครวญ “สิ่งที่เจ้าอยากได้ข้ายอมยกให้ทุกอย่าง ได้โปรดปล่อยข้า!”
“ไร้สาระ แร่โลหะศักดิ์สิทธิ์เหล่านั้นแต่เดิมเป็นของข้าอยู่แล้ว เจ้าจะทำเป็นใจกว้างเพื่ออะไร?” หลิงฮันยัดผลึกก่อเกิดต่อ อีกฝ่ายคิดจะสร้างความอัปยศให้เขาด้วยผลึกก่อเกิดหนึ่งแสนก้อน ถ้างั้นแล้วเขาก็จะคืนผลึกก่อเกิดทั้งหมดคืนให้โดยไม่ขาดแม้แต่ก้อนเดียว
ซือกังหยางร้องไห้น้ำตานอง หากรู้ว่าจะเป็นแบบนี้มีรึที่เขาจะมอบผลึกก่อเกิดให้หลิงฮัน