ร่างหนึ่งปรากฏออกมาพร้อมกับคลื่นแสงแห่งเต๋า เขาคือชายที่มีรูปลักษณ์อยู่ในช่วงอายุห้าสิบปี เขาคือชายร่างสูงผมม่วงที่แม้รอบกายจะไม่มีสายลมพัดผ่านแต่ผมก็สยายราวกับคลื่น
ชายคนนี้ทรงพลังเป็นอย่างมาก แรงกดดันของเขาปกคลุมไปทั่วพื้นที่จนจ้าวอสูรทุกคนต้องหยุดชะงักตัวสั่น
“จ้าวอสูรปฐพี!” จ้าวอสูรป้าเจี้ยนและจ้าวอสูรคนอื่นๆอุทาน
จ้าวอสูรปฐพีนั้นหากเป็นดินแดนศักดิ์สิทธิ์ก็คือเซียนระดับสูง ตัวตนเช่นนี้สามารถกำราบเซียนระดับต้นหรือจ้าวอสูรระดับเหลืองได้ด้วยมือเพียงข้างเดียว
“คารวะผู้อาวุโส!” เหล่าจ้าวอสูรผสานมือคารวะ บุคคลตรงหน้าเป็นปรมาจารย์ระดับแนวหน้า อย่างน้อยในเขตดวงดาวหลายร้อยเขตใกล้เคียงนี้ก็ไม่มีใครเป็นคู่ต่อสู้ของเขาได้
“คารวะผู้อาวุโสสาม!” รุ่นเยาว์ตระกูลถังทั้งสี่คนโค้งตัวคารวะด้วยความเคารพ ถังเฟิงเองก็ก้มหัวเล็กน้อย ถึงแม้เขาจะดูแก่ชรากว่าแต่อีกฝ่ายนั้นมีสถานะสูงกว่าเขา
ชายที่เพิ่งปรากฏตัวมีชื่อว่าถังหยุน เขาเป็นคนของตระกูลถังที่มีสถานะเป็นถึงผู้อาวุโสสาม
จ้าวอสูรขวงล่วนและจ้าวอสูรคนอื่นๆตกตะลึง ขนาดแค่ผู้อาวุโสสามยังเป็นถึงจ้าวอสูรระดับสูง หากเป็นผู้อาวุโสหนึ่งกับผู้อาวุโสสองล่ะจะแข็งแกร่งขนาดไหน?
ตระกูลถังเป็นขุมอำนาจแบบใดกันแน่ ช่างน่าสะพรึงกลัวนัก!
หลังจากถังเฟิงก้มหัวคารวะเสร็จ เขาก็หันไปแสยะยิ้มใส่จ้าวอสูรขวงล่วนพร้อมกับกล่าว “เจ้าจะช่วยเหลือเจ้าหนูนั่นไม่ใช่รึ? ฮ่าๆ เอาสิลงมือเลย!”
ใบหน้าของจ้าวอสูรขวงล่วนเปลี่ยนเป็นมืดมนและกำหมัดแน่น
ด้วยการที่บรรลุระดับพลังที่สูงเช่นนี้ทำให้หาได้ยากนักที่เขาจะรู้สึกโกรธ ตัวเขานั้นอยู่บนจุดสูงสุดมาตลอดใครจะกล้าขัดคำสั่งเขา? แต่ไม่คาดคิดว่าจะมีตัวตนระดับจ้าวอสูรปฐพีปรากฏตัวเช่นนี้
“ฮ่าๆๆ!” ถังเฟิงหัวเราะ ถึงแม้ปกติเขาจะไม่อยากทำตัวโอหังต่อหน้ารุ่นเยาว์แต่ครั้งนี้นั้นต่างออกไป จ้าวอสูรสิบกว่าคนตรงหน้าบังอาจขัดขืนเขาทำให้เขารู้สึกไม่สบอารมณ์อย่างมาก
ตระกูลถังของพวกเขามาจากไหน? ผู้นำของพวกเขาเป็นตัวตนที่มาจากดินแดนแห่งเซียน แค่หนึ่งนิ้วของเขาก็มีค่ามากกว่าชีวิตของคนเหล่านี้หลายร้อยเท่า!
“ไม่ใช่ก่อนหน้านี้พวกเจ้ายังปากดีอยู่เลยรึไง? ทำไมตอนนี้ถึงกลัวหัวหดไปแล้วล่ะ?” ถังเฟิงชี้นิ้วไปยังจ้าวอสูรทั้งสิบเจ็บด้วยท่าทางเหยียดหยาม
“เฒ่าหก!” ถังหยุนเอ่ยกล่าวด้วยเสียงเบาแต่ก็ทำให้ถังเฟิงต้องหยุดพล่ามทันที “เขตแดนลี้ลับอยู่ที่ไหน?”
“เรื่องนั้น…” ถังเฟิงเกาหัว เขามัวสนใจแต่จะสังหารหลิงฮันจนลืมเรื่องเขตเดนลี้ลับไปเสียสนิท “ผู้อาวุโสสาม เจ้าหนูนั่นสังหารถังโม่และได้รับสมุนไพรศักดิ์สิทธิ์ลึกล้ำกับอุปกรณ์อสูรมาจากในแขตแดนลี้ลับ!”
“โฮ่?” ถังหยุนมองไปยังหลิงฮัน สายตาของเขากวาดมองร่างของหลิงฮันอย่างทะลุปรุโปร่ง “เพียงแค่ระดับวารีนิรันดร์ขั้นกลางจะสังหารถังโม่ได้อย่างไร?”
“เขาสามารถกระตุ้นพลังใช้งานพลังของอุปกรณ์อสูรได้!” ถังเฟิงกล่าว
ถังหยุนเผยสีหน้าตกตะลึง จอมยุทธระดับวารีนิรันดร์สามารถกระตุ้นพลังของอุปกรณ์อสูรได้? ไม่มีทาง! ไม่ว่าอย่างไรก็เป็นไปไม่ได้! หากไม่ทะลวงผ่านระดับสร้างสรรพสิ่งก็ไม่มีทางที่จะเข้าใจอำนาจแห่งกฎเกณฑ์ของระพลังนั้น
“จัดการเขาซะ!” ถังหยุนกล่าว กับแค่รุ่นเยาว์ระดับวารีนิรันดร์เขาไม่อยากลงมือด้วยตัวเอง
ถังเฟิงจ้องมองหลิงฮันและกล่าว “ทีนี้ใครจะกล้าหยุดข้า?”
“ท่านพ่อ!” จูเซวียนดึงแขนจ้าวอสูรป้าเจี้ยน หากหลิงฮันตกอยู่ในมือของถังเฟิงเขาจะต้องตายแต่นอน
จ้าวอสูรป้าเจี้ยนขมวดคิ้วและไม่กล่าวอะไรออกมา
คราวนี้คนที่ออกคำสั่งให้ลงมือคือจ้าวอสูรปฐพี มีรึที่เขาจะทำอะไรได้? หากในที่นี้มีเขาเพียงแค่คนเดียวก็ยังพอฉวยโอกาสพาหลิงฮันหนีได้อยู่ เพราะอย่างไรความเร็วของจอมยุทธระดับสร้างสรรพสิ่งนั้นก็แทบจะไม่ต่างกัน
ในขณะเดียวกัน จ้าวอสูรขวงล่วนเองก็ขมวดคิ้วเคร่งเครียด เขาติดหนี้บุญคุณหลิงฮันอยู่ หากต้องมองดูหลิงฮันประสบปัญหาโดยตัวเขาไม่ทำอะไรเลยจะกลายเป็นหนามที่รัดเหนี่ยวจิตใจของเขาไปตลอดกาล
“ท่านพ่อ ช่วยหมอนั่นเร็ว!” อูเจวี๋ยกล่าวเสียงเบา แม้เขาจะไม่ชอบหลิงฮันที่กลั่นแกล้งเขาตอนเป็นเด็ก แต่เขาก็ยังคงจำได้ไม่ลืมว่าเป็นเพราะหลิงฮันเขาถึงได้กลับมายังดินแดนใต้พิภพ
“ฮ่าๆๆ ก็แค่ฝูงมดปลวกที่คิดจะต่อต้านมังกร!” ถังเฟิงยิ้มเย็นชาและเอื้อมฝ่ามือเข้าใส่หลิงฮัน
‘พรึบ!’
คลื่นแสงแห่งดาบและกรงเล็บที่ทรงพลังถูกปลดปล่อยออกไป จ้าวอสูรป้าเจี้ยนกับจ้าวอสูรขวงล่วนลงมือต่อต้านฝ่ามือของถังเฟิงพร้อมกัน
“พวกเจ้าคิดต่อต้าน!” ถังเฟิงเกรี้ยวกราด ขนาดผู้อาวุโสสามมาอยู่ตรงนี้แล้วพวกเจ้ายังกล้า?
“ผู้อาวุโส!” จ้าวอสูรขวงล่วนและจ้าวอสูรป้าเจี้ยนผสานมือไปยังถังหยุน “หลิงฮันสังหารถังโมด้วยการต่อสู้ที่เท่าเทียม ท่านไม่คิดว่าการที่จ้าวอสูรลงมือกับเขาจะเป็นการกระทำที่ไร้ความยุติธรรมเกินหน่อยหรอกรึ?”
“ไร้ความยุติธรรม?” ถังเฟิงหัวเราะ “ตระกูลถังของข้าต่างหากที่คือความยุติธรรม! ผู้อาวุโสสาม โปรดลงมือสังหารสองคนนั้นด้วยเพื่อไม่ให้เกียรติของตระกูลเราถูกเหยียดหยาม!”
ยิ่งยโสอะไรอย่างนี้ คิดว่าตระกูลถังเป็นเจ้าของดินแดนใต้พิภพหรืออย่างไร?
“ผู้อาวุโส!” หลิงฮันเอ่ยเสียงดัง “รุ่นเยาว์มาจากดินแดนต้องห้ามแปดศิลาเพื่อสั่งสมประสบการณ์ในดินแดนใต้พิภพ หากมีอะไรเกิดขึ้นกับข้าผู้นำตระกูลข้าจะต้องไม่มีวันนิ่งเฉยแน่”
เขาพูดพล่ามไร้สาระออกไปเรื่อยเปื่อยโดยยกดินแดนต้องห้ามแปดศิลาออกมาถ่วงเวลา ตราบใดที่หอคอยน้อยตื่นขึ้นมาและหอคอยทมิฬสามารถใช้การได้อีกครั้ง ต่อให้เป็นจ้าวอสูรปฐพีหรือสวรรค์เขาก็ไม่กลัว!
ถังเฟิงชะงักก่อนจะหันไปมองถังหยุนด้วยสีหน้าลังเล
ดินแดนต้องห้ามคือขุมอำนาจเช่นเดียวกันตระกูลถัง คนที่เขาหวาดกลัวไม่ใช่หลิงฮันแต่เป็นขุมอำนาจเบื้องหลัง หากดินแดนต้องห้ามที่ว่าแข็งแกร่งกว่าตระกูลถังพวกเขาคงพบเจอปัญหาใหญ่แน่
“ข้าไม่เคยได้ยินมาก่อน” ถังหยุนเอ่ยกล่าว ภายในดวงตาของเขาปรากฏดวงดารานับร้อยล้านและสัมผัสได้ถึงออร่าอันน่าสะพรึงด้วย
หลิงฮันยิ้ม “รุ่นเยาว์ไม่ใช่คนของดินแดนใต้พิภพแต่มาจากดินแดนศักดิ์สิทธิ์!”
“เป็นไปไม่ได้!” ถังเฟิงส่ายหัวทันที จอมยุทธที่ผสานเป็นหนึ่งเดียวกับดินแดนใต้พิภพได้อย่างสมบูรณ์เช่นนี้จะเป็นคนจากดินแดนศักดิ์สิทธิ์ได้อย่างไร? อย่างที่รู้ว่าหากเข้าสู่ต่างดินแดน อำนาจแห่งอำนาจเกณฑ์ที่ฝึกฝนมาทั้งชีวิตจะถูกลบล้างหายไปรวมถึงพลังบ่มเพาะก็จะค่อยๆถดถอยตามกาลเวลา
เพราะงั้น ถึงแม้จะมีคำกล่าวว่าหากบรรลุระดับสร้างสรรพสิ่งขั้นสูงและผสานอำนาจแห่งกฎเกณฑ์ทั้งสองให้เป็นหนึ่งเดียวจะสามารถเปิดเส้นทางสู่ดินแดนแห่งเซียนก็ตาม แต่ความจริงแล้วมันคือสิ่งที่เป็นไปไม่ได้!