หลิงฮันพัฒนาเม็ดยาอย่างต่อเนื่องไม่หยุด การจะพัฒนาเม็ดยาชนิดใหม่ให้สมบูรณ์ได้นั้นจำเป็นต้องมีการดัดแปลงหลายส่วน
หลังจากผ่านไปหกเดือนหลิงฮันได้เผยรอยยิ้ม
เขาพบจุดเปลี่ยนที่สำคัญที่จะทำให้ประสิทธิภาพของเม็ดยาเพิ่มขึ้นแล้ว
เมื่อทดลองหลอมสำเร็จเขาก็แบ่งเม็ดยากับจักรพรรดินี
“พรึบ!” หลังจากกินเม็ดยาได้ไม่นาน ร่างของทั้งสองก็ถูกเปลวเพลิงแผดเผา เม็ดยาออกฤทธิ์แรงเกินไปจนก่อให้เปลวเพลิงปะทุ
โชคดีที่ร่างกายของทั้งสองเหนือกว่าจอมยุทธระดับวารีนิรันดร์ไปไกลหลายขุม ไม่ต้องกล่าวถึงหลิงฮัน กายหยาบของเขาเพียงอย่างเดียวแทบจะสามารถทัดเทียมกับระดับสร้างสรรค์พสิ่ง ในขณะที่จักรพรรดินีเองก็มีแก่นกำเนิดนิรันดร์ที่สามารถกระจายความเสียหายไปยังร่างแยกทั้งเก้าได้ แน่นอนว่าฤทธิ์ของเม็ดยาเองก็เช่นกัน
แต่ถึงพวกเขาจะต้านทานไหว จมูก ปาก หูและตาของพวกเขาก็ยังมีโลหิตไหลซึมออกมา
แม้ทั้งสองคนจะทรมานแต่ผลลัพธ์ของเม็ดยาก็ได้ผล
จักรพรรดินีขัดเกลาและเข้าใจหลักของระดับพลังอย่างถ่องแท้มาสักพักแล้ว ตอนนี้เมื่อปราณก่อเกิดถูกสะสมในร่างจนครบนางจึงทะลวงผ่านขั้นพลังทันที เมฆสีดำของทัณฑ์สายฟ้าสวรรค์ก่อตัว นางรีบไปยังสุดสายน้ำของหุบเขาวารีครามซึ่งเป็นสถานที่สำหรับให้จอมยุทธรับทัณฑ์สายฟ้าสวรรค์
หลิงฮันขาดพลังปราณอีกเล็กน้อยจึงกินเม็ดยาเข้าไปอีกเม็ด
“ฮึ่ม!” เขาโอดครวญเบาๆ กายหยาบของเขาไร้เทียมทานก็จริงแต่มีเพียงส่วนกระดูกเท่านั้นที่ทนทานเกือบเท่าวัสดุเซียนในขณะที่กล้ามเนื้อของเขายังไม่ใช่ระดับนั้น ฤทธิ์ของเม็ดยาทำให้เส้นเลือดของเขาฉีกขาดและอวัยวะภายในได้รับบาดเจ็บสาหัส
หลิงฮันสูดลมหายใจและกัดฟันยกระดับพลังบ่มเพาะเป็นระดับวารีนิรันดร์ขั้นกลางชั้นสูงสุด
เขาทำการขัดเกลาหลักแห่งเต๋าใต้ต้นสังสารวัฏ หลังจากเวลาผ่านไปอีกสิบวันหลิงฮันก็ลุกขึ้นและออกจากหอคอยทมิฬเพื่อรับทัณฑ์สายฟ้าสวรรค์และทะลวงผ่านขั้นเป็นระดับวารีนิรันดร์ขั้นสูง
จักรพรรดินีผ่านทัณฑ์สายฟ้าสวรรค์เสร็จก่อนแล้ว นางนั่งอยู่กลางห้องพักหิน ด้วยออร่าอันทรงพลังทำให้นางดูราวกับเป็นราชานีผู้ไร้พ่าย
“รอข้าที่นี่” หลิงฮันกล่าวทิ้งท้ายและพุ่งออกมาจากที่พัก
เขาเคลื่อนที่ไปได้เพียงหนึ่งพันไมล์ ทัณฑ์สายฟ้าสวรรค์ระลอกแลกก็ผ่าลงมา
ตำแหน่งของเขายังอยู่ห่างไกลจากสุดเส้นทางของหุบเขาวารีคราม แต่ยังไงก็ไม่มีใครอาศัยอยู่รอบๆหุบเขาอยู่แล้วเขาก็จึงสามารถรับสายฟ้าสวรรค์ต่อได้อย่างไร้กังวล
เขาสลายพลังป้องกันเพื่อขัดเกลากายหยาบด้วยสายฟ้าสวรรค์
ผ่านไปครึ่งวันเมื่อขัดเกลากายหยาบเสร็จหลิงฮันก็ทำการโคจรหยดวารีอมตะ กายหยาบของเขายังไม่บรรลุระดับเซียนตามคาด แต่ถึงอย่างนั้นกระดูกของเขาก็แข็งแกร่งกว่าเดิมมากและสามารถสลักรูปแบบอาคมเก้าผสานพินาศเพิ่มได้อีก
จริงอยู่ที่พลังบ่มเพาะของเขาในตอนนี้จะยังห่างไกลจากระดับวารีนิรันดร์ขั้นสมบูรณ์ แต่ด้วยกายหยาบที่ไร้เทียมทานหากสลักรูปแบบอาคมสังหารจำนวนมากลงไปย่อมสามารถบดขยี้จอมยุทธระดับต่ำกว่าเซียนได้ทุกคน
เขากลับไปที่ห้องหินและลงมือแก้ไขสลักรูปแบบอาคมเก้าผสานพินาศใหม่
ภายใต้รูปแบบอาคมเซียน รูปแบบอาคมเก้าผสานพินาศคือรูปแบบอาคมสังหารที่ทรงพลังที่สุด
ก่อนหน้านี้เขาสลักได้สิบเอ็ดรูปแบบ แต่ตอนนี้… จำนวนของรูปแบบอาคมที่สลักได้เพิ่มมาเป็นยี่สิบเจ็ด!
นับว่าน่าสะพรึงกลัวอย่างมาก หลิงฮันโคจรพลังไปที่ปลายนิ้วและควบแน่นพลังปราณเป็นคลื่นแสงแท่งยาวราวกับดาบ
“หากใช้คลื่นดาบนี้จู่โจม แม้แต่ถังโม่ก็ไม่สามารถหยุดยั้งได้!” หลิงฮันเคยสู้กับถังโม่มาก่อน แม้เขาจะใช้ดาบอสูรนิรันดร์ในการสังหารถังโม่แต่เขาก็ประจักษ์ถึงพลังของอีกฝ่ายเป็นอย่างดี
หากหลิงฮันมีโอกาสได้สู้กับถังโม่อีกครั้งและใช้รูปแบบอาคมสังหารทั้งยี่สิบเจ็ดนี้ เขามั่นใจว่าฝ่ายที่จะตกตายต้องเป็นถังโม่
ถือว่าเขาโชคดีที่มีกายหยาบไร้เทียมทานจนยากที่จอมยุทธระดับวารีนิรันดร์จะสร้างความเสียหายต่อเขาได้ หากเขาสลายพลังของกายหยาบลงเขาย่อมเลือกที่จะไม่สู้กับถังโม่ซึ่งๆน่าแน่นอน เพราะอย่างไรพลังบ่มเพาะของเขาก็คือระดับวารีนิรันดร์ขั้นสูงเท่านั้นไม่อาจนำไปเทียบกับระดับวารีนิรันดร์ขั้นสมบูรณ์ได้
“อย่างน้อยหากไม่ใช่คู่ต่อสู้ระดับสัตว์ประหลาดที่ขัดเกลาพลังจนควบแน่นดวงดาวได้เกินกว่าสามล้านดวงข้าก็ไม่ต้องหวาดกลัวใคร” หลิงฮันพึมพำ
ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม แค่อัจฉริยะที่ควบแน่นสร้างดวงดาวได้ถึงสองล้านห้าแสนก็คือว่าเป็นสัตว์ประหลาดแล้ว คงไม่อาจยอมรับได้หากมีใครที่ควบแน่นดวงดาวได้เกินกว่าสามล้านดวง
“ในหุบเขาวารีครามจะมีตัวตนระดับนั้นอยู่รึเปล่า?” หลิงฮันสงสัยเล็กน้อย
เรื่องที่เขาอยากรู้คงได้คำตอบในไม่ช้า นั่นเพราะเขาได้รับการแจ้งเตือนว่าในอีกสามเดือนจะมีการประลองระหว่างเหล่าศิษย์ของหุบเขาวารีคราม ทุกคนต้องเข้าร่วมโดยไม่สามารถปฎิเสธได้แม้ตะมีเหตุผลอะไรก็ตาม
“ยังเหลือเวลาอีกสามเดือน ไม่รู้ว่าข้าจะพัฒนาไปได้แค่ไหน” หลิงฮันพึมพำ
เขาและจักรพรรดินีกินเม็ดยาอย่างต่อเนื่อง หากวัดตามความสามารถในการต้านทานฤทธิ์ของเม็ดยาแล้วจักรพรรดินีนับว่าเหนือกว่าเขา ฤทธิ์ของเม็ดยาแพร่กระจายไปยังร่างแยกทั้งเก้าของนางจนแทบจะไม่หลงเหลือความรุนแรงใดๆ
ระยะเวลาสามเดือนเพียงพอจะทำให้นางบรรลุระดับวารีนิรันดร์ขั้นสูงชั้นกลาง ส่วนหลิงฮันอาจต้องใช้เวลานับปี
แต่ก็ดีแล้ว ยิ่งจักรพรรดินีเข้าใกล้ระดับสร้างสรรพสิ่งได้เร็วก็ยิ่งดี! หลิงฮันเผลอยกมือขึ้นมาลูบเข้าหากัน แค่คิดถึงตอนนั้นเขาก็เลือดกำดาวไหลแล้ว
เขาทำการศึกษาทักษะนิรันดร์ที่มีอยู่ในตอนนี้
ทักษะที่อยู่ในมือเขาไม่ได้มีแค่หนึ่ง
ก่อนหน้านี้เขาได้รับทักษะนิรันดร์มาจากตระกูลหูสองทักษะ หนึ่งคือทักษะแผ่ไพศาลที่ช่วยเพิ่มความหนาแน่นของปราณก่อเกิด หากการบวนท่าทีมีพลังทำลายเท่ากันถูกปล่อยออกมา กระบวนท่าทีมีการควบแน่นของปราณก่อเกิดที่หนักหน่วงกว่าย่อมทรงพลังกว่า
อีกทักษะคือทักษะรัตติกาลเงาทมิฬ หลังจากปลดปล่อยทักษะแล้วผู้ใช้จะสามารถสร้างสภาพแวดล้อมอันมืดมิดได้ในระยะหนึ่งและคู่ต่อสู้ที่อยู่ในระยะของทักษะจะสูญเสียสัมผัสทั้งห้า
เปรียบแล้วก็เหมือนกับตอนที่พบเจอจักรพรรดิเพลิงอัสนี แต่พลังของจักรพรรดิเพลิงอัสนีนั้นสมควรแข็งแกร่งกว่าทักษะนี้มากเนื่องจากอีกฝ่ายน่าจะเป็นตัวตนระดับโลกียนิพพานหรือสูงกว่านั้น
ส่วนทักษะที่สามที่เขามีคือทักษะร่างเงามังกรทะยาน มันคือทักษะระดับนิรันดร์ที่ได้รับมาจากหุบเขามหาสมุทรมังกร
ในดินแดนศักดิ์สิทธิ์นี้แค่ครองทักษะระดับนิรันดร์เพียงหนึ่งทักษะก็เพียงพอที่จะทำให้หัวเราะลั่นแล้ว แต่นี่เขามีถึงสาม
“จะฝึกฝนทักษะไหนก่อนดี!” หลิงฮันจงใจกล่าวออกมา
หลิงฮันนั่งฝึกฝนทักษะนิรันดร์ใต้ต้นสังสารวัฏ ระยะเวลาสิบปีเท่ากับหนึ่งวัน สามเดือนก็เกือบจะเป็นเวลาพันปี เวลาขนาดนั้นเขาจะไม่สามารถฝึกฝนทักษะให้สำเร็จได้สักเล็กน้อยเลยรึ?
เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว สามเดือนต่อมาหลิงฮันลืมตาขึ้นและเผยรอยยิ้ม เขามาอยู่หุบเขาวารีครามก็สองปีแล้ว การที่ไม่ได้สู้กับอัจฉริยะคนไหนของที่นี่เลยทำให้เขารู้สึกคันไม้คันมืออย่างมาก