กับเรื่องนี้ที่จะปะทะกันนี้ไม่มีจ้าวอสูรคนไหนเอ่ยห้าม
ในหมู่พวกเขาใครบ้างที่หวาดกลัวหลิงฮัน? สิ่งเดียวที่พวกเขากลัวคือกลัวหลิงฮันจะหลบหนีเข้าไปในอุปกรณ์นิรันดร์ ในเมื่อหลิงฮันเป็นคนยื่นข้อเสนอท้าประลองมอบโอกาสให้พวกเขาเองทุกอย่างก็ง่ายขึ้น
โอวหยางไท่ซานขมวดคิ้วเล็กน้อย แต่ในเมื่อหลิงฮันเป็นคนกล่าวเช่นนั้นเอง เขาก็เชื่อมั่นว่าหลิงฮันต้องมีแผนการอะไรบางอย่างจึงไม่ได้ห้ามปราม
ทางเข้าเขตแดนลี้ลับถูกเปิดออก ทั้งสองจะทำการประลองกันบนห้วงอวกาศเนื่องจากหากผู้นำตระกูลถังลงมือจริงๆ เขตแดนลี้ลับคงไม่อาจต้านทานไหว
ท่ามกลางห้วงอวกาศอันมืดมิดและเงียบสงัด หลิงฮันและผู้นำตระกูลถังยืนห่างกันราวๆสิบไมล์โดยหันหน้าเข้าหากัน
“เจ้าหนู แน่ใจว่าจะไม่หลบซ่อน?” ผู้นำตระกูลถังกล่าวกับหลิงฮัน หากในขณะที่กำลังจะกำราบหลิงฮันได้แล้วหลิงฮันเกิดเข้าไปหลบในอุปกรณ์นิรันดร์ล่ะก็เขาคงหมดสิ้นหนทาง
หลิงฮันยิ้มเล็กน้อย “สุนัขเฒ่าเช่นเจ้าข้าสามารถสังหารได้เพียงพลิกฝ่ามือ อย่าได้พล่ามไร้สาระให้เสียเวลา!”
“ก็ดี!” ผู้อาวุโสตระกูลถังขมวดคิ้วและปลดปล่อยจิตสังหารอันท่วมท้น
เขาลงมืออย่างไม่รีรอ ‘ตูม’ ฝ่ามือขนาดใหญ่พุ่งเข้าใส่หลิงฮัน รูปแบบอาคมอสูรจำนวนนับไม่ถ้วนปลดปล่อยเปลวเพลิงอันร้อนระอุออกมา
“หอคอยน้อย” หลิงฮันกล่าวเบาๆในใจ
‘ครืนนน’ พลังอำนาจอันไร้ที่สิ้นสุดปะทุออกมาจากภายในร่างของหลิงฮัน ออร่าของเขายกระดับทรงพลังกว่าเดิมหลายร้อยหลายหมื่นล้านเท่า ในพริบตาเดียวที่พลังอำนาจปะทุออกมานี้ หลิงฮันรู้สึกราวกับว่าตนเองสามารถบดขยี้ได้ทุกสรรพสิ่ง
หลิงฮันปล่อยหมัดตอบโต้ฝ่ามือขนาดใหญ่ที่พุ่งเข้ามา
จ้าวอสูรจำนวนมากที่มองดูอยู่เผยสีหน้าตกตะลึง หลิงฮันกล้าสู้กับผู้นำตระกูลถังจริงๆ เขาน่าจะรู้อยู่แล้วแท้ๆว่าขัดขืนไปก็เปล่าประโยชน์
“เดี๋ยวก่อน ข้ารู้สึกเหมือนว่าพลังของเจ้าหนูนั่นจะทะยานสูงขึ้นกว่าเดิมหลายเท่า”
“นั่นสิ ทำไมดูแล้วเหมือนจะแข็งแกร่งพอๆกับเฒ่าตระกูลถังเลย”
“เป็นไปไม่ได้!”
สายตาทุกคู่เผยถึงความตะลึงก่อนจะเห็นภาพที่หลิงฮันปล่อยหมัดบดขยี้ฝ่ามือของผู้นำตระกูลถัง
นี่มัน!
จ้าวอสูรทุกคนไม่อยากจะเชื่อสายตาตัวเอง เจ้าหนูนั่นกินสมุนไพรหรือเม็ดยาแบบใดเข้าไปกันถึงแข็งแกร่งขึ้นหลายเท่าตัวขนาดนั้น?
ต้องเป็นเพราะทักษะบ่มเพาะราชานิรันดร์แน่ๆ!
สายตาของผู้นำตระกูลถังหรี่ลงเล็กน้อย ผลลัพธ์ตรงหน้าคือสิ่งที่เขาไม่คาดคิดมาก่อน เขาเค้นเสียงและกล่าว “ถึงว่าทำไมเจ้าถึงกล้าเป็นคู่ต่อสู้ของข้าคนนี้ ที่แท้เจ้าก็มีอำนาจสนับสนุนจากทักษะราชานิรันดร์!”
ผู้นำตระกูลถังอิจฉาเป็นอย่างมาก ทักษะที่สามารถทำให้จอมยุทธระดับวารีนิรันดร์ขั้นสูงกลายเป็นจ้าวอสูรสวรรค์สูงสุดในพริบตาเช่นนี้ หากได้ฝึกฝนบ้างตัวเขาจะทรงพลังขนาดไหน?
บางทีเขาอาจจะสามารถฉีกช่องว่างมิติเข้าสู่ดินแดนแห่งเซียนได้โดยตรงเลย?
หลิงฮันรู้สึกพึงพอใจกับพลังในตอนนี้มาก แต่น่าเสียดายที่พลังนี้ไม่ใช่ของเขา แต่ถึงอย่างไรเขาก็มั่นใจว่าในอนาคตไม่ไกลนี้เขาจะสามารถครอบครองพลังเช่นนี้ได้ด้วยตัวเอง
“เฒ่ากู่ ข้าจะส่งเจ้าลงนรกให้เอง!” หลิงฮันจู่โจมด้วยมือเปล่า พลังต่อสู้ของเขาในตอนนี้แข็งแกร่งเป็นอย่างมากเนื่องจากเขาคือคนที่สามารถผสานอำนาจแห่งกฎเกณฑ์ทั้งสองได้สำเร็จ พลังของเขาอยู่เหนือจ้าวอสูรสวรรค์และราชาเซียนทุกคน
ทั้งสองเข้าปะทะกันอย่างดุเดือดกลางห้วงอวกาศโดยที่ผู้นำตระกูลถังตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบอย่างสิ้นเชิง
“ไม่น่าเชื่อว่าเจ้าหนูนั่นจะทรงพลังขึ้นได้ขนาดนั้น!”
“แม้เฒ่ากู่จะไม่ใช่จ้าวอสูรสวรรค์สูงสุดที่แข็งแกร่งที่สุด แต่เขาก็แข็งแกร่งมากพอที่จะอยู่ในสิบอันดับแรกแน่นอน”
“การจะไล่ต้อนเฒ่ากู่ให้จนมุมได้แบบนั้นเกรงว่าคงมีเพียงจ้าวอสูรสวรรค์ที่แข็งแกร่งที่สุดเพียงสองสามคน”
“แต่ไม่มีทางที่พลังของเจ้าหนูนั่นจะคงอยู่ตลอดกาล ไม่งั้นแล้วลำดับชั้นของระดับพลังจะมีความหมายอะไร”
เหล่าจ้าวอสูรสวรรค์แลกเปลี่ยนความเห็นกันผ่านสัมผัสสวรรค์ นอกจากโอวหยางไท่ซานกับจ้าวสวรรค์อีกสองคนแล้ว จ้าวอสูรสวรรค์คนอื่นๆต่างๆจ้องมองหลิงฮันตาไม่กระพริบ อันที่จริงโอวหยางไท่ซานเองก็หวั่นไหวต่อทักษะบ่มเพาะราชานิรันดร์เช่นกัน แต่เขามีสามัญสํานึกมากพอ
“ไม่ได้การ ดูเหมือนเฒ่ากู่จะต้านไม่ไหวแล้ว!”
“ลงมือพร้อมกันเลย!”
หลังจากปะทะกันหลายร้อยกระบวนท่า ผู้นำตระกูลถังก็ตกอยู่ในสถานการณ์ที่จะถูกกำราบได้ตลอดเวลา เรื่องนี้ทำให้เหล่าจ้าวอสูรสวรรค์ไม่อาจนิ่งเฉยได้อีกต่อไปและต้องช่วยกันกำราบหลิงฮัน
“ฮึ่ม พวกไร้ยางอาย!” โอวหยางไท่ซานลงมือขัดขวางเหล่าจ้าวอสูรที่เป็นอดีตพันธมิตร “หลิงฮัน เจ้ารีบหนีไป!”
ทว่าจ้าวอสูรทั้งสองที่มีความเห็นเดียวกันกับโอวหยางไท่ซานนั้นเลือกที่จะไม่ลงมือ สำหรับพวกเขาการที่ไม่ขัดขวางโอวหยางไท่ซานก็ถือว่าเป็นการไว้หน้ามากแล้ว
หลิงฮันกวาดสายตามองและจดจำใบหน้าทุกคนเอาไว้ สำหรับใครที่เลือกลงมือกับเขา เขาจะจัดการลงโทษคนเหล่านั้นแน่นอน
“เจ้าหนู วันนี้ไม่ว่าอย่างไรเจ้าก็ไม่อาจหนีไปไหนพ้น! ส่งมอบทักษะราชานิรันดร์มาแต่โดยดีแล้วเจ้าจะได้รับการไว้ชีวิต!” จ้าวอสูรสวรรค์ตระกูลเย่คำราม แม้เขาจะกล่าวไปเช่นนั้นแล้วกลับปล่อยหมัดออกไปอย่างไร้ความเมตตาเรียบร้อยแล้ว
ที่จริงต่อให้หลิงฮันตายพวกเขาก็สามารถดึงความทรงจำจากดวงวิญญาณได้ เมื่อเป็นเรื่องของทักษะบ่มเพาะราชานิรันดร์พวกเขาไม่คิดจะเชื่อคำพูดของหลิงฮันเท่าไหร่ หากพวกเขาบ่มเพาะทักษะผิดๆไปตามคำพูดของหลิงฮันผลสุดท้ายคงได้รับบาดเจ็บสาหัสจากอำนาจแห่งเต๋า
“ถ้าเช่นนั้นข้าก็จะส่งพวกเจ้าลงนรกไปด้วย!” หลิงฮันตะโกนและไม่ปกปิดพลังอีกต่อไป
ใช่แล้ว ที่ผ่านมาเขายังไม่ได้เอาจริง ไม่เช่นนั้นแล้วผู้นำตระกูลถังจะสามารถต้านทานการโจมตีของเขาได้หลายร้อยกระบวนท่าได้อย่างไร?
เขาอยากรู้ว่าจ้าวอสูรทุกคนจะเลือกทางไหนจึงจงใจถ่วงเวลาเอาไว้
ตอนนี้เมื่อรู้เจตนาของแต่ละคนแล้วก็ไม่จำเป็นต้องออมมืออีกต่อไปและเริ่มการสังหารได้
“ตาย!” หลิงฮันสะบัดมือ ทันใดนั้นดาบไม้ผุพังก็ปรากฏขึ้นที่มือซ้าย และดาบอสูรนิรันดร์ปรากฏที่มือขวา ดาบทั้งสองปลดปล่อยพลังอันน่าสะพรึงกลัวออกมา
ณ เวลานี้อำนาจของดาบไม้ผุพังทรงพลังกว่าดาบอสูรนิรันดร์
เนื่องจากมันคืออุปกรณ์อสูรระดับยี่สิบ ด้วยพลังของหลิงฮันในตอนนี้อำนาจของมันจึงถูกกระตุ้นออกมาเต็มที่ แต่ในทางกลับกัน ดาบอสูรนิรันดร์นั้นยังเป็นเพียงอุปกรณ์ศักดิ์สิทธิ์ระดับสิบเจ็ด อำนาจที่ปลดปล่อยออกมาเมื่อเทียบกับดาบไม่ผุพังแล้วอ่อนแอกว่าพอสมควร
เพียงแต่หากถูกโจมตีด้วยดาบอสูรนิรันดร์โดยตรง ไม่ต้องกล่าวถึงจ้าวอสูรสวรรค์ ต่อให้เป็นนิรันดร์ระดับโลกียนิพพานก็ต้องสิ้นชีพ ดาบเล่มนี้คืออุปกรณ์นิรันดร์ในอนาคต จุดเด่นของมันคือพลังทำลายล้างที่ไม่อาจต้านทาน
เมื่อหลิงฮันกวัดแกว่งดาบทั้งสองในมือ จ้าวอสูรคนอื่นๆก็ไม่กล้าปะทะซึ่งๆหน้าอีกและเบี่ยงหลบหนีไปทั่วทิศทาง
“ทักษะรัตติกาลเงาทมิฬ!” หลิงฮันปลดปล่อยทักษะนิรันดร์ ‘ครืนนน’ ความมืดมิดอันเป็นอนันต์โอบล้อมจ้าวอสูรทุกคนที่อยู่โดยรอบ
ยิ่งพลังบ่มเพาะสูงขึ้นอำนาจของทักษะรัตติกาลเงาทมิฬก็ยิ่งเพิ่มขึ้น ตอนมีแม้แต่จ้าวอสูรสวรรค์ก็ยังได้รับผลกระทบเต็มๆ
ทักษะดาบฟ้าคำรามถูกปลดปล่อยออกมาตามๆกัน หลิงฮันไม่เพ่งเล็งว่าเป้าหมายจะเป็นใคร เขามุ่งเป้าอย่างเดียวคือสังหาร!