“ฮึ่ม จะปล่อยให้เจ้าหนูบัดซบนั่นมีชีวิตอยู่ไม่ได้!”
“ในเมื่อบ่วงอาฆาตปรากฏขึ้นมาแสดงว่าเขากลับมาดินแดนศักดิ์สิทธิ์แล้ว”
“ช่างกล้าหาญนัก สังหารคนของตระกูลฮูไปแล้วยังกล้าโผล่หน้ากลับมาอีก”
“จะประมาทไม่ได้ เจ้าหนูนั่นอุตส่าห์หลบหนีไปถึงดินแดนใต้พิภพ การที่เขากล้ากลับมานั้นมีอะไรไม่ชอบมาพากล!”
ไม่ว่าอย่างไรหลิงฮันก็ต้องถูกสังหาร เขากับดินแดนต้องห้ามแปดศิลาไม่อาจอยู่ร่วมโลกกันได้ ตอนนี้มีเซียนของตระกูลฮูถูกเขาสังหารไปถึงสองคนแล้ว
เพียงแต่ว่าการที่หลิงฮันกล้ากลับมาเช่นนี้ พวกเขาย่อมรู้ว่ามันเป็นกับดัก
ฮูลั่วลังเล เขาไม่ได้ต้องการสังหารหลิงฮันเพราะอยากแก้แค้นเพียงอย่างเดียว แต่อีกฝ่ายยังครอบครองสมบัติของราชันวารีสวรรค์ที่เป็นถึงทักษะบ่มเพาะระดับราชานิรันดร์ด้วย!
“ต่อให้เป็นกับดัก พวกเราก็ต้องรีบก่อนที่ดินแดนต้องห้ามอื่นๆจะรู้ตัว!” ฮูลั่วรีบกล่าว “ข้าจะเป็นคนลงมือไล่ล่าเจ้าหนูนั่นด้วยตัวเอง อาวุโสสองเจ้าคอยคุ้มกันตระกูลอยู่ที่นี่ ส่วนคนอื่นๆตามข้ามา”
ด้วยการไล่ล่าของเซียนถึงห้าคน เขาไม่เชื่อว่าหลิงฮันจะพลิกสวรรค์หลบหนีไปไหนได้!
ต่อให้โอวหยางไท่ซานคอยช่วยเหลือหลิงฮันอยู่ พลังอำนาจของอีกฝ่ายก็ต้องถูกจำกัดเอาไว้ด้วยอำนาจแห่งกฎเกณฑ์ของดินแดนศักดิ์สิทธิ์
“เพื่อสมบัติของราชันวารีสวรรค์ ต่อให้เป็นกับดักพวกเราก็ต้องเสี่ยง!” ฮูลั่วกล่าวหนักแน่น
“อืม!” เซียนคนอื่นๆพยักหน้า หากได้ครอบครองทักษะบ่มเพาะราชานิรันดร์ อำนาจของตระกูลฮูจะทะยานสูงขึ้นพรวดพราด ในอนาคตต่อให้ไปอยู่ในดินแดนแห่งเซียนแล้วก็ยังมีโอกาสที่พวกเขาจะได้เป็นราชานิรันดร์ระดับแนวหน้า
คุ้มค่าที่จะเสี่ยง!
ฮูลั่วและเซียนอีกห้าคนเคลื่อนที่ด้วยคลื่นอำนาจแห่งเต๋าสีทองไปยังดาวมู่ถู พวกเขานำพารุ่นเยาว์จำนวนหนึ่งไปด้วยโดยให้อยู่ในอุปกรณ์มิติศักดิ์สิทธิ์ ด้วยระยะทางที่ห่างไกลทำให้ต่อให้เป็นพวกเขาก็ต้องใช้เวลาสามเดือนเต็มกว่าจะมาถึงดาวมู่ถู
ด้วยแรงกดดันจากเซียนถึงหกคนโดยที่สองในหกนั้นเป็นถึงราชาเซียน ส่งผลให้จิตวิญญาณของทุกชีวิตในดาวมู่ถูสั่นสะท้านราวกับจะแตกออกเป็นเสี่ยงๆ
“คารวะราชาเซียน!” เซียนซิงฉาและเซียนอีกเก้าคนปรากฏตัวแสดงความเคารพต่อฮูลั่ว
ฮูลั่วปลดปล่อยสัมผัสสวรรค์ออกเป็นวงกว้างเพื่อตรวจสอบแต่ก็ไม่พบอะไรทีแปลกไปแม้แต่น้อย ดวงดาวดวงนี้ยังคงเป็นเหมือนเดิม ปรมาจารย์ที่ทรงพลังที่สุดที่เขาสัมผัสได้คือเซียนซิงฉา
น่าแปลก…
เขาไม่เชื่อว่าหลิงฮันจะกล้ากลับมาโดยที่ไม่มีจอมยุทธที่แข็งแกร่งคอยช่วยเหลือ
หรือว่าโอวหยางไท่ซานและขุมอำนาจที่หลิงฮันพามาด้วยจะหลบอยู่ในอุปกรณ์มิติศักดิ์สิทธิ์?
ฮูลั่วไม่มีทางคาดเดาได้ว่าที่หลิงฮันกล้ากลับมานั้นเป็นเพราะมีวาสนาศักดิ์สิทธิ์จากหอคอยทมิฬ
‘หรือนี่จะเป็นแผนการของดินแดนต้องห้ามอื่นๆที่จงใจล่อข้าออกมาแล้วฉวยโอกาสบุกรุกดินแดนต้องห้ามแปดศิลา’ ฮูลั่วคิด
ไม่ใช่ว่าทุกขุมอำนาจที่เรียกว่า ‘ดินแดนต้องห้าม’ จะเป็นมิตรต่อกันทั้งหมด แต่ละขุมอำนาจมีความบาดหมางและความเกลียดชังต่อกัน ซึ่งดินแดนต้องห้ามแปดศิลาเองก็ไม่รู้ว่าได้ล่วงเกินดินแดนต้องห้ามไปมากมายเพียงใด
ฮูลั่วพยายามอดกลั้นความโกรธและจิตสังหารเอาไว้ก่อนจะกล่าว “ข้านำคนของตระกูลมาในวันนี้เพื่อประลองแลกเปลี่ยนศาสตร์วรยุทธกับศิษย์ของเจ้า”
ใบหน้าของเซียนซิงฉาแสดงออกถึงความมึนงง นี่เจ้ากินยาผิดขวดรึอย่างไร?
ไม่ว่าใครก็มองออกว่าสีหน้าของเจ้านั้นกำลังแสดงออกว่าอยากฆ่าสังหาร แต่ถึงอย่างนั้นเจ้ากลับบอกว่ามาเพื่อประลองแลกเปลี่ยนศาสตร์วรยุทธ?
แต่หากราชาเซียนกล่าวแบบนั้นใครจะปฏิเสธได้?
“ถ้าเช่นนั้นพวกเจ้าไปเตรียมการให้พร้อม” เซียนซิงฉากล่าวกับเซียนทั้งเก้าเพื่อให้พวกเขาไปคัดเลือกศิษย์เมล็ดพันธุ์จากสำนักย่อยของแต่ละคนมา
เซียนซิงฉาพาคนอื่นไปยังลานประลองโบราณเพื่อนั่งชมการต่อสู้ ซึ่งแน่นอนว่าราชาเซียนทั้งสองได้นั่งอยู่ในตำแหน่งที่สูงที่สุด โดยที่เซียนซิงฉานั้นนั่งอยู่กับเซียนอีกสี่คนของตระกูลฮู
ผ่านไปไม่นานเซียนหมิงซินและเซียนคนอื่นก็มาถึงพร้อมกับศิษย์ที่แข็งแกร่งที่สุดของแต่ละสำนักย่อย ศิษย์คนอื่นๆไม่มีใครเลยที่มาเพื่อดูการประลอง ทางสำนักย่อยที่แปดนำศิษย์มาเพียงสามคนคือเริ่นเฟยอวิ๋น ฉีเทียนและอวี๋ซู่ซู่เท่านั้นโดยที่ไม่ได้พาไช่เหมี่ยวมาด้วย
ฮูลั่วไม่แม้แต่เปิดตาชำเลืองมองเนื่องจากสัมผัสสวรรค์ของเขาปกคลุมไปทั่วทั้งดาวมู่ถูแห่งนี้แล้ว เขากล่าว “หลิงฮันอยู่ที่ไหน?”
เซียนซิงฉามองไปยังเซียนหมิงซินและเอ่ยถาม “หมิงซิน แล้วหลิงฮันล่ะ?”
“ท่านอาจารย์ หลิงฮันออกเดินทางไปฝึกตนและยังไม่กลับมาเลย” เซียนหมิงซินกล่าวโกหก
ฮูลั่วเค้นเสียง บ่วงอาฆาตที่เขาจับได้นั้นหายไปจากดาวดวงนี้และยังไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆ นั่นหมายความได้อย่างเดียว… หลิงฮันกำลังหลบอยู่ในอุปกรณ์มิติศักดิ์สิทธิ์
คิดจะหลอกเขารึ?
“ช้าก่อนผู้อาวุโส!” ทันใดนั้นร่างหนึ่งก็ลอยมาจากท้องฟ้า ที่หลังของเขาปรากฏครีบเหมือนปลาและมีพังผิดเชื่อมนิ้วทั้งห้าเอาไว้ ร่างนั้นลอยลงมาและคุกเข่า “ข้ามีนามว่าไช่เหมี่ยว รุ่นเยาว์ผู้นี้มีเรื่องอยากแจ้งให้ทราบ!”
“โอหัง!” เหล่าเซียนตระกูลฮูถลึงตาโหดเหี้ยม
เซียนหมิงซินมีสีหน้าเย็นชา เขารีบเอื้อมมือออกไปไปคว้าร่างไช่เหมี่ยว
ปัง!
ในขณะที่เขาเอื้อมมือออกไป จู่ๆคลื่นอำนาจอันทรงพลังก็สะท้อนพลังของเขากลับมา ใบหน้าเซียนหมิงซินกลายเป็นซีดเผือดราวกับกระดาษและกระอักโลหิตออกมา
ฮูลั่วดึงนิ้วกลับและกล่าว “ให้เขาพูด”
เซียนซิงฉากำหมัดแน่น ด้วยการที่เขารักศิษย์ทั้งเก้าเหมือนครอบครัวทำให้เขาทนไม่ไหวอยากจะลงมือจู่โจมใส่ฮูลั่วเดี๋ยวนี้ แต่หากเขาผลีผลามทำเช่นนั้นทุกคนที่นี่คงต้องสิ้นชีพ!
เขาสูดหายใจลึกเพื่อพยายามระงับอารมณ์
“พูดมา” ฮูลั่วกล่าวกับไช่เหมี่ยวและเผยรอยยิ้มออกมา
ไช่เหมี่ยวรู้สึกฮึกเหิมและไม่แม้แต่หันไปมองเซียนหมิงซิน ความอัปยศที่เขาได้รับจากเหตุการณ์ก่อนหน้านี้ทำให้เขาไม่มีหน้าจะอยู่ในสำนักละอองดาราอีกต่อไปและคิดจะลาออกจากสำนัก แต่ก่อนหน้านั้นเขาต้องกำจัดหลิงฮันให้ได้เสียก่อน ซึ่งบังเอิญเหลือเกินที่ตระกูลฮูปรากฏตัวพอดี
“ผู้อาวุโส หลิงฮันกลับมาสำนักแล้วเมื่อสามเดือนก่อนและตอนนี้กำลังเก็บตัวอยู่ในที่พัก” ไช่เหมี่ยวกล่าว
แน่นอนว่าฮูลั่วคาดเดาเรื่องนี้เอาไว้แล้วถึงได้วางแผนบุกมาที่นี่ ตอนนี้เมื่อได้รับคำยืนยันจากปากของไช่เหมี่ยวเขาจึงหันไปกล่าวกับเซียนซิงฉาด้วยรอยยิ้ม “เจ้าหลอกข้า?”
ประโยคที่ฮูลั่วกล่าวออกมานั้นแฝงไว้ด้วยจิตสังหารอันน่าสะพรึงกลัว