หากการลอบโจมตีเมื่อครู่สามารถสังหารหลิงฮันได้ ห้วงอวกาศคงเต็มไปด้วยฝนโลหิตแล้ว
ราชาเซียนทั้งสิบแปดคนมึนงง ด้วยการกระหน่ำโจมตีของพวกเขาเมื่อครู่ต่อให้หลิงฮันซ่อนตัวอยู่ในอุปกรณ์มิติศักดิ์สิทธิ์ก็ยังยากที่จะหนีพ้นจากความตาย แต่ทว่าหลังจากการโจมตีของพวกเขา ห้วงมิติรอบๆนี้กลับว่างเปล่าอย่างน่าสับสน
ภายในหอคอยทมิฬ หลิงฮันประหลาดใจเล็กน้อย ราชาเซียนทั้งสิบแปดคนที่ปรากฏตัวนี้เขาไม่เคยเห็นหน้ามาก่อนแม้แต่คนเดียว
แต่ในดินแดนศักดิ์สิทธิ์ราชาเซียนจะมีจำนวนมากมายเท่าไหนกันเชียว?
หลิงฮันมั่นใจว่าราชาเซียนเหล่านี้ได้ปลอมแปลงรูปลักษณ์ของตนเองเพื่อที่ว่าหากการลอบโจมตีล้มเหลว หลิงฮันจะได้ไม่สามารถระบุตัวตนของพวกเขาได้และยังมีโอกาสร่วมเรือลำเดียวกับหลิงฮันเข้าสู่ดินแดนแห่งเซียน
“ฮึ่ม!” เขาเค้นเสียงเย็นชา คิดว่าอะไรจะง่ายดาบเช่นนั้น?
รูปลักษณ์อาจจะปลอมแปลงกันได้ แต่ไม่ใช่กับกลิ่นอาย!
จอมยุทธแต่ละคนที่กลิ่นอายพลังบ่มเพาะเฉพาะตัว หากอยู่ในสภาพปกติออร่าอาจจะถูกควบคุมไม่ให้เล็ดลอดออกมา แต่เมื่อใดที่ทำการโจมตีโดยเฉพาะกับการลอบสังหารที่ต้องใช้พลังทั้งหมดนั้นเป็นไปไม่ได้เลยที่จะควบคุมการเล็ดลอดของกลิ่นอายได้
หลิงฮันจดจำกลิ่นอายของราชาเซียนเหล่านี้เอาไว้เรียบร้อย เมื่อใดที่พบเจอกันครั้งหน้าเขาจะรับรู้ได้ว่าใครบ้างที่ลอบสังหารเขาโดยการบังคับให้ราชาเซียนทุกคนปลดปล่อยการโจมตี
“คอยก่อนเถอะ!”
พลังต่อสู้ของเขาเหมือนกับของจักรพรรดินี หากขัดเกลาพลังบ่มเพาะจนบรรลุเซียนระดับต้นขั้นสูงสุดแล้ว พลังต่อสู้ของเขาจะทัดเทียมกับเซียนระดับสูงขั้นสูงสุด และเมื่อเขาทะลวงผ่านเป็นเซียนระดับกลาง เขาจะมีพลังต่อสู้ที่ไม่ต้องหวาดกลัวราชาเซียนอีกต่อไป
ต่อให้เอาชนะราชาเซียนสูงสุดไม่ได้ แต่เขาก็มีข้อได้เปรียบจากกายหยาบอันไร้เทียมทาน
เหล่าราชาเซียนยังไม่คิดจะจากไปไหนและนั่งอยู่กลางห้วงอวกาศ มนุษย์เราไม่สามารถหายไปอย่างสมบูรณ์ได้เด็ดขาด หลิงฮันจะต้องใช้วิธีการบางอย่างซ่อนตัวอยู่แน่
มีความเป็นไปได้สูงมากว่าจะเป็นอุปกรณ์นิรันดร์!
พวกเขาไม่เชื่อว่าหลิงฮันจะไม่มีวันออกมาตลอดกาล
หนึ่งปีผ่านพ้นไปอย่างรวดเร็ว หลิงฮันราวกับว่าหายไปจากโลกนี้อย่างสมบูรณ์ ราชาไค่หยุนที่เป็นหนึ่งในราชาเซียนที่ลอบสังหารหลิงฮัน การที่เขาสัมผัสถึงบ่งอาฆาตไม่ได้แสดงว่าหลิงฮันยังคงซ่อนตัวอยู่ที่นี่ไม่ได้แอบปรากฏตัวแล้วหนีไปไหน
สำหรับราชาเซียน การรอคอบเป็นเวลาหมื่นๆปีไม่ใช่ปัญหา พวกเขาสงบอารมณ์รอคอยให้หลิงฮันปรากฏตัวออกมา
เพียงแต่ว่าเมื่อเวลาผ่านไปอย่างยาวนาน เหล่าราชาเซียนที่รอคอยอยู่ในดาวมู่ถูก็พบว่าหลิงฮันหายตัวไปและไม่ได้ปรากฏตัวที่ดาวหยุนติงพวกเขาจึงทำการออกตามหา
“แยกย้าย!”
เหล่าราชาเซียนที่ลอบโจมตีหลิงฮันเปลี่ยนสีหน้าและสลายตัวอย่างรวดเร็ว
หากราชาเซียนที่เหลือมาที่นี่แล้วไม่พบว่าพวกเขาอยู่ในกลุ่มนั้นด้วย ความจริงที่ว่าใครบ้างที่ลอบโจมตีหลิงฮันก็จะถูกเปิดโปง ตอนนี้พวกเขาไม่รู้แม้แต่ว่าหลิงฮันหายไปที่ไหน เพราะงั้นแล้วจึงยังไม่กล้าเปิดเผยตัวตน พวกเขาหันหลังแยกย้ายกันทันที
ภายในหอคอยทมิฬ หอคอยน้อยบอกข่าวดีกับหลิงฮัน ต้นสังสารวัฏแตกกิ่งก้านใหม่กลับมาอีกครั้งและสามารถใช้งานได้แล้ว!
ประสิทธิภาพของต้นสังสารวัฏยกระดับขึ้นหลายเท่า จำนวนคนที่สามารถใช้งานได้พร้อมกันเพิ่มเป็นหนึ่งร้อยคนและระยะเวลาของใต้ต้นสังสารวัฏหนึ่งวันจะเท่ากับร้อยปี
หลิงฮันดีใจเป็นอย่างมาก การบ่มเพาะพลังโดยไร้ต้นสังสารวัฏนั้นเชื่องช้าเป็นอย่างมาก
ครึ่งปีต่อมาในที่สุดหลิงฮันก็บรรลุเป็นเซียนระดับต้นขั้นสูงสุด
หลังจากขัดเกลารากฐานของระดับพลังให้มั่นคง หลิงฮันก็เลือกที่จะยังไม่ทะลวงผ่านเป็นเซียนระดับกลาง
หากพลังปราณที่สั่งสมไว้ยังไม่เพียงพอ ฝืนทะลวงผ่านไปก็มีแต่จะนำความตายมาสู่ตัว
หากต้องการสะสมพลังปราณให้มากพอจำเป็นต้องใช้เวลาดูดซับพลังวิญญาณหลายล้านปีหรือไม่ก็ต้องพึ่งพาเม็ดยา มีเพียงวิธีการเหล่านี้เท่านั้นการทะลวงผ่านระดับถึงจะไม่เผาผลาญพลังชีวิต
แน่นอนว่าหลิงฮันย่อมเลือกวิธีใช้เม็ดยา เหตุผลแรกคือการดูดซับพลังวิญญาณตามปกตินั้นใช้เวลานานเกินไป เหตุผลที่สองคือเขาเป็นถึงจักรพรรดิปรุงยา เขาคงไม่โง่ถึงขนาดที่จะไม่ใช้เม็ดยาในเวลาแบบนี้
เพียงแต่ว่าเม็ดยาระดับเซียนนั้นยากที่จะเรียนรู้เป็นอย่างมาก หลิงฮันไม่รีบร้อน เขาค่อยๆใช้เวลาไปกับการยกระดับความรู้เกี่ยวกับศาสตร์เม็ดยาให้บรรลุสู่ระดับเซียน
เวลาผ่านไปอีกหนึ่งปี หลิงฮันหยุดศึกษาศาสตร์เม็ดยา เขามั่นใจว่าความสามารถของตนเองในตอนนี้สามารถหลอมเม็ดยาระดับเซียนได้แล้ว
แต่เพื่อที่จะหลอมเม็ดยาเซียนจำเป็นต้องมีสมุนไพรเซียนเป็นวัตถุดิบหลัก หลิงอันมีอยู่ในมือไม่มีมาก จากงานแลกเปลี่ยนสมบัติครั้งก่อนเขามีเพียงสามต้นเท่านั้น
“หากหลอมสำเร็จทั้งสามเตา อาจจะโชคดีได้เม็ดยาถึงสิบเม็ด”
เขาลงมือหลอมเม็ดยาอย่างระมัดระวัง ด้วยการที่มีสมุนไพรเซียนเพียงสามต้นเขาจึงไม่ทำพลาดได้ หลิงฮันใช้เวลาสามเดือนในการหลอมเม็ดยาเซียนชุดแรก
“ก็หลอมสำเร็จอยู่หรอก แต่คุณภาพของเม็ดยาไม่ได้ตามที่ข้าหวังเอาไว้” หลิงฮันส่ายหัว แต่การที่สามารถหลอมเม็ดยาเซียนสำเร็จเพียงแค่การทดลองหลอมครั้งแรก พรสวรรค์แห่งศาสตร์เม็ดยาของเขาจะเป็นต้องอันดับหนึ่งของดินแดนศักดิ์สิทธิ์อย่างไม่ต้องสงสัย
“ลองอีกครั้ง!”
ด้วยประสบการณ์ที่เคยหลอมสำเร็จมาแล้ว หลิงฮันย่อมมีความมั่นใจและเชี่ยวชาญมากขึ้น หลังจากผ่านไปอีกครึ่งปีเม็ดยาเซียนอีกสองชุดก็ถูกหลอมสำเร็จโดยมีคุณภาพสูงกว่าครั้งก่อน
“เวลาไม่พอจริงๆ” หลิงฮันกล่าวอย่างเศร้าโศก
ในตอนนี้เมื่อเขาเป็นเซียนเขาก็สามารถสลักรูปแบบอาคมสังหารระดับเซียนลงบนร่างกายได้แล้ว แต่ก่อนที่จะทำเช่นนั้นเขามีเรื่องมากมายให้ทำอย่างเช่นขัดเกลารากฐานพลังบ่มเพาะเซียนระดับต้น ศึกษาศาสตร์ปรุงยาและหลอมเม็ดยา เขาไม่มีเวลาให้ฝึกฝนรูปแบบอาคมเลยแม้แต่น้อย
โชคดีที่ยังมีต้นสังสารวัฏ ไม่เช่นนั้นภายในระยะเวลาหนึ่งแสนปีเขาคงไม่มีเวลาให้ศึกษาศาสตร์รูปแบบอาคม
“เรื่องศาสตร์รูปแบบอาคมเอาไว้หลังจากที่ข้าทะลวงผ่านเซียนระดับกลางแล้วกัน”
เขาและจักรพรรดินีเตรียมพร้อมขั้นสุดท้าย ทั้งสองแบ่งเม็ดยาเซียนกันคนละห้าเม็ดและออกมากลางห้วงอวกาศ
ทั้งสองแยกย้ายออกห่างกันเพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้ทัณฑ์สายฟ้าสวรรค์ของพวกเขาเข้ามาพัวพันกัน
หลิงฮันและจักรพรรดินีระเบิดออร่าทั้งหมดออกมา พร้อมกันนั้นเมฆสายฟ้าก็ก่อตัวรวมกัน บรรยากาศอันกดดันแพร่จะจายไปทั่วห้วงอวกาศ
ในตอนที่พวกเขาทะลวงผ่านเป็นเซียนระดับต้น พวกเขาได้รับทัณฑ์สวรรค์ที่รุนแรงเทียบเท่ากับเซียนระดับสูง ตอนนี้เมื่อทะลวงผ่านเป็นเซียนระดับกลาง ทัณฑ์สวรรค์ที่พวกเขาได้รับจะรุนแรงเทียบเท่าราชาเซียนหรือไม่?
ตูม!
ทัณฑ์สายฟ้าสวรรค์ของหลิงฮันกับจักรพรรดินีผ่าลงมาแทบจะพร้อมกัน คลื่นสายฟ้าสวรรค์ทั้งสองคลื่นที่ผ่าลงมาแปรเปลี่ยนสภาพกลายเป็นรูปร่างของมนุษย์ ‘ครืนน’ ออร่าอันทรงพลังที่ปลดปล่อยออกมาคือออร่าของราชาเซียน!