ราชาไค่หยุนกวัดแกว่งหอกสามง่ามและกำลังจะลงมือโจมตี แต่ทันใดนั้นจู่ๆมือของเขาก็หยุดชะงักและสั่นสะท้านจนแทบจะจับหอกสามง่ามเอาไว้ไม่อยู่
พลังชีวิตของเขากำลังแห้งเหือดและใกล้ตาย!
ที่จริงด้วยบาดแผลสาหัสขนาดนี้เขาไม่สมควรกลับมาถึงดินแดนต้องห้ามได้ด้วยซ้ำ แต่เป็นเพราะความมุ่งมั่นที่อยากมีชีวิตอยู่ทำให้เขาลากสังขารมาถึงจุดนี้ได้
แต่ต่อให้ความมุ่งมั่นจะแรงกล้าแต่ไหนบาดแผลก็ไม่ได้หายไป ในทางกลับกัน เมื่อพลังชีวิตถูกเผาผลาญจนหมดสิ้นแล้วเขาจะมีชีวิตต่อไปได้?
ร่างกายอันเหี่ยวแห่งเหลือแต่กระดูกและดวงวิญญาณที่ใกล้จะสูญสิ้นนั้น เปรียบเสมือนไฟของแท่งเทียนที่เมื่อถูกลมพัดก็พร้อมจะดับมอดตลอดเวลา
เขากำลังจะตาย!
ราชาไค่หยุนตกตะลึง หากเขาร่างกายของเขาไม่ได้เหลือแต่กระดูกใบหน้าของเขาคงแสดงสีหน้าตกตะลึงออกมาแล้ว
ไม่! ไม่! ไม่! ไม่!
สิ่งที่เขาหวาดกลัวที่สุดคือความตาย ความปรานารถอยากมีชีวิตของเขารุนแรงกว่าใครทุกคน ไม่เช่นนั้นแล้วเขาคงไม่สามารถหลบหนีกลับมาได้ทั้งๆที่ตกอยู่ในสภาพน่าอนาถเช่นนี้และยอมทิ้งชีวิตไปแล้ว
ใบหน้าที่ไร้ดวงตาของเขากวาดมองไปยังทุกคนในดินแดนต้องห้าม
“ท่านประมุขจัดการเลย”
“ท่านประมุขสังหารหมอนั่นให้ตาย!”
“ท่านประมุขผู้ไร้เทียมทาน!”
สมาชิกตระกูลฉงทุกคนโห่ร้องให้กำลังใจราชาไค่หยุน ในความคิดของทุกคนที่นี่ ประมุขของพวกเขาคือสัญลักษณ์อันไร้พ่าย ยิ่งเมื่อมีรูปแบบอาคมและอุปกรณ์เซียนในมือด้วยแล้ว เขาไม่มีทางแพ้ให้แก่ใคร
ฟืบบบบ!
ราชาไค่หยุนสูดลมหายใจอย่างรุนแรงจนเกิดเป็นพายุ
พายุที่ปรากฏขึ้นก่อให้เกิดแรงดูดอันทรงพลัง ทันใดนั้นเอง เหล่าสมาชิกตระกูลก็ร้องโอดครวญออกมาอย่างทรมาน พวกเขารู้สึกราวกับว่ากล้ามเนื้อและโลหิตกำลังถูกดึงออกจากร่าง!
ทำไมถึงเป็นแบบนี้ไปได้
แรงดูดของพายุนั้นรุนแรงเกินกว่าที่สมาชิกตระกูลฉงจะต้านทานไหว กล้ามเนื้อและโลหิตของพวกเขาถูกฉีกแยกออกมาจากร่างจนเหลือแต่กระดูกในพริบตา กล้ามเนื้อและโลหิตของพวกเขาทั้งหมดลอยเข้าสู่พายุและก่อตัวกลายเป็นมังกรทองแดง
บางคนที่ยังไม่บรรลุระดับพระเจ้า ดวงวิญญาณได้หลุดออกจากร่างทันที โครงกระดูกที่ไม่มีอะไรยึดติดร่วงลงกับพื้นและสิ้นชีพในพริบตา
เหล่าสมาชิกที่บรรลุระดับพลังพระเจ้าแล้วยังสามารถคงสภาพดวงวิญญาณให้ติดอยู่กับโครงกระดูกได้ ตราบใดที่ปราณก่อเกิดไม่หมดพวกเขาก็สามารถฟื้นฟูสร้างกล้ามเนื้อและโลหิตกลับมาได้ เพียงแต่พวกเขาทุกคนก็ต้องพบกับความสิ้นหวัง คลื่นพายุที่นึกว่าสิ้นฤทธิ์ได้เริ่มทำการดูดดวงวิญญาณของพวกเขาไปด้วย
พวกเขาไม่อาจทำอะไรได้ ดวงวิญญาณของสมาชิกตระกูลทุกคนถูกดูดเข้าไปในพายุทันที แม้แต่ตัวตนระดับเซียนก็ไม่มีข้อยกเว้น ต่อหน้าแรงดูดระดับราชาเซียนสูงสุดที่ถือครองอุปกรณ์เซียนระดับสูงและควบคุมรูปแบบอามคมอยู่ การขัดขืนของพวกเขากลายเป็นสูญเปล่าอย่างสิ้นเชิง
“ทำไมกัน!”
“ท่านประมุข ทำไมกัน?”
เหล่าสมาชิกที่ถูกดูดวิญญาณร้องโอดครวญด้วยความไม่ยินยอม เหตุใดประมุขถึงได้ทำเรื่องเช่นนี้กับพวกเขา
ราชาไค่หยุนไม่แยแส ท่ามกลางท้องฟ้า กล้ามเนื้อ โลหิตและดวงวิญญาณก่อตัวกันเป็นมังกรทองแดงมหึมา สมาชิกตระกูลฉงทุกคนมีสายเลือดของมังกรห้วงเวลา เพราะงั้นเมื่อแก่นโลหิตและดวงวิญญาณของพวกเขาผสานรวมเข้าด้วยกันถึงได้เกิดเป็นภาพเช่นนี้
ราชาไค่หยุนอ้าปากและสูดลมหายใจ พร้อมกันนั้นมังกรทองแดงมหึมาก็ลอยเข้าหาเขาและหล่อเลี้ยงถ่ายเทพลังทั้งหมดให้แก่เขา
กล้ามเนื้อและโลหิตฟื้นสภาพขึ้นมาจากร่างที่มีแต่โครงกระดูก แต่ถึงอย่างนั้นสภาพของราชาไค่หยุนก็ยังไม่กลับสู่สภาพสมบูรณ์ ร่างกายของเขาแค่กลับมาดูเหมือนมนุษย์กว่าก่อนเท่านั้น
นั่นก็ช่วยไม่ได้ ระดับพลังบ่มเพาะของเขาสูงเกินไป กล้ามเนื้อและโลหิตของสมาชิกตระกูลทุกคนจึงทำให้เขาฟื้นฟูบาดแผลเล็กน้อยและหนีพ้นความตายมาได้เท่านั้น
“ตาย!” เขาคำรามและกวัดแกว่งหอกยาวสามง่ามใส่หลิงฮัน รูปแบบอาคมมังกรทองแดงที่อยู่ใต้เท้าระเบิดอำนาจห้วงเวลาออกมาพร้อมกัน
เขารังเกียจหลิงฮันเป็นอย่างมาก ทุกอย่างที่เกิดขึ้นเป็นเพราะหลิงฮัน หากเขาไม่ถูกไล่ต้อนจนปางตายมีรึที่เขาจะดูดกลืนแก่นโลหิตและดวงวิญญาณของสมาชิกตระกูลตนเอง?
แต่เขาก็ไม่รู้สึกเสียใจกับสิ่งที่ทำลงไปเท่าไหร่ ตราบใดที่เขามีชีวิตอยู่ตระกูลย่อมสามารถสร้างขึ้นใหม่ได้ตลอด แต่ในทางกลับกัน หากเขาตายตระกูลฉงก็ถึงคราวจบสิ้น
“เจ้ามันต่ำทรามยิ่งกว่าสัตว์เดรัจฉาน!” ใบหน้าของหลิงฮันเผยถึงความเย็นชา นิสัยเฉกเช่นราชาไค่หยุนไม่อาจนับว่าเป็นมนุษย์ได้อีกต่อไป
แม้เขาจะเป็นศัตรูกับราชาไค่หยุนแต่เขาก็ไม่เคยคิดที่จะสังหารทุกชีวิตบนดินแดนต้องห้ามเปิดเมฆา อย่างมากเขาก็แค่จะทำลายที่นี่ทิ้งและสั่งให้ทุกคนแยกย้ายกันไป แต่ทว่าราชาไค่หยุนนั้นเพื่อที่ตนเองจะได้มีชีวิตอยู่เขาถึงขนาดดูดกลืนชีวิตของเหล่าทายาทตนเองได้อย่างไม่ลังเล
“ทั้งหมดเป็นเพราะเจ้า!” ราชาไค่หยุนคำรามและกระหน่ำโจมตี
ตอนนี้เขามีอุปกรณ์เซียนะระดับสูงอยู่ในมือและมีรูปแบบอาคมคอยสนับสนุน พลังต่อสู้ของเขาสมควรทรงพลังยิ่งกว่าเดิม แต่น่าเสียดายที่ไม่ว่าอย่างไรสภาพร่างกายของเขาในตอนนี้ก็อ่อนแอเกิน การดูดกลืนชีวิตของสมาชิกตระกูลทั้งหมด เพียงพอที่จะทำให้เขาหนีพ้นความตายมาได้เท่านั้นซึ่งห่างกับกับสภาพสมบูรณ์เป็นอย่างมาก
หลิงฮันไม่จำเป็นต้องหวาดกลัว
เขากระหน่ำปลดปล่อยทักษะนิรันดร์ออกไปไม่ยั้ง ราชาไค่หยุนพยายามสุดความสามารถเพื่อต่อต้าน เพียงแต่ด้วยร่างกายเช่นนี้ราชาไค่หยุนจะรั้งการปะทะเอาไว้ได้นาน? ผ่านไปหนึ่งพันกว่ากระบวนท่า สภาพของเขาก็กลับไปปางตายอีกครั้ง
ครั้งนี้ไม่มีใครให้เขาดูดกลืนอีกต่อไป
“อยากรู้เหลือเกินว่าเมื่อไปพบหน้าสมาชิกตระกูลในนรกเจ้าจะทำหน้าอย่างไร!” หลิงฮันกวัดแกว่งดาบคู่ เล่มหนึ่งสะบั้นคอราชาไค่หยุนในขณะที่อีกเล่มแท่งทะลวงเข้าที่หน้าอก
ราชาไค่หยุนยังเหลือพลังพอจะต่อต้าน?
‘ฉัวะ’ ศีรษะของเขากระเด็นลอยขึ้นฟ้า หน้าอกถูกแทงทะลุแผ่นหลัง
ราชาไค่หยุนไม่ยินยอม เขาสลัดดวงวิญญาณออกจากร่างเพื่อดิ้นรนเฮือกสุดท้าย หลิงฮันไม่ลังเลที่จะใช้ดาบอสูรนิรันดร์ผ่าดวงวิญญาณของอีกฝ่ายออกเป็นสองส่วน
ดวงวิญญาณทั้งสองส่วนของราชาไค่หยุนยังคงพยายามเชื่อมต่อกลับเข้าหากันแต่ก็ทำไม่สำเร็จ
“ทำไมต้องเป็นข้า?” เขาคำรามออกมาอย่างไม่ยินยอม ก่อนหน้านี้เขาไม่ใช่แค่คนเดียวที่รุมต่อสู้กับหลิงฮัน แต่เหตุใดหลิงฮันถึงได้เพ่งเล็งไล่ล่าสังหารเขาแค่คนเดียวตั้งสี่ปี?
“ก็แค่กรรมตามทันเจ้าเท่านั้น” หลิงฮันกล่าวเย็นชา “ข้าได้รับมรดกสืบทอดของราชันวารีสวรรค์และสัญญาเอาไว้ว่าจะส่งเจ้าลงสู่นรก”
ว่าไงนะ!
ดวงวิญญาณของราชาไค่หยุนสั่นสะท้านก่อนจะเลิกดิ้นรน… ที่แท้ก็เป็นเช่นนี้!
เขาหัวเราะอย่างอเนจอนาถ จากผลกรรมที่เขาทรยศราชันวารีสวรรค์ในตอนนั้น ในที่สุดร้อยปีต่อมาเขาก็ถูกลงทัณฑ์
“ฮ่าๆๆๆ!” ดวงวิญญาณราชาไค่หยุนหัวเราะลั่นก่อนจะสลายไปอย่างรวดเร็วจนเหลือไว้เพียงความว่างเปล่า
หนึ่งในราชาเซียนแห่งยุคสมัย ร่วงหล่นไปอีกหนึ่ง!
ทันทีที่ราชาไค่หยุนตาย หอกสามง่ามก็ร่วงหล่นลงมาจากท้องฟ้า รูปแบบอาคมที่สูญสิ้นผู้ควบคุมก็หยุดทำงาน
หลิงฮันสลายทักษะทั้งหมดก่อนจะชำเลืองมองโดยรอบและถอนหายใจ
เบื้องท้องฟ้าที่เขายืนอยู่ ทุกพื้นที่กองพะเนินไปด้วยซากศพ กลิ่นโลหิตลอยฟุ้งไปทั่วจนรู้สึกได้ถึงความเศร้าโศกที่รุนแรง