ราชาเซียนสูงสุดที่มีพลังต่อสู้แข็งแกร่งถูกสังหารในพริบตา
หลิงฮันกล่าวด้วยรอยยิ้ม “เจียงอู๋ซาง โผล่หัวออกมา!”
เหล่าโจรภูเขามองหน้ากัน รองหัวหน้าโจรที่เหลือกล่าวด้วยน้ำเสียงขึงขัง “ลงมือพร้อมกัน สังหารบุรุษและจับเป็นสตรี!”
แม้พวกเขาจะเกรี้ยวกราดขนาดไหนก็ไม่อาจทำใจสังหารสตรีงดงามอย่างจักรพรรดินีได้ลง
‘พรึบ’ โจรภูเขาอย่างน้อยร้อยคนพุ่งทะยานร่างปลดปล่อยการโจมตีใส่หลิงฮันพร้อมกัน
“ตาย!” จักรพรรดินีเค้นเสียงเย็นชา ร่างแยกทั้งเก้าของนางก้าวเดินออกมาและปลดปล่อยทักษะทรงพลังมากมาย เหล่าโจรภูเขาถูกสังหารโดยที่แม้แต่ดวงวิญญาณก็ไม่อาจหนีพ้นความตาย
หลิงฮันเองก็ลงไม่อย่างไม่ลังเล ‘ครืน’ ร่างของเขาระเบิดกลุ่มก้อนเปลวเพลิงออกมา เปลวเพลิงของเขาทรงพลังและบริสุทธิ์ราวกับว่ามันสามารถแผดเผาความมืดมิดทั้งมวลให้กลายเป็นเถ้าธุลี
เพลิงเก้าสวรรค์!
ด้วยระดับพลังของหลิงฮันที่สูงขึ้น อำนาจของเพลิงเก้าสวรรค์ย่อมทรงพลังขึ้นตาม ยิ่งมันเป็นถึงหนึ่งในเก้าเพลิงบรรพบุรุษด้วยแล้ว มีรึที่พลังของมันจะไม่น่าสะพรึงกลัว?
‘ตูม’ เพลิงเก้าสวรรค์ลุกลามไปทั่วพื้นที่ เหล่าโจรภูเขาทำได้เพียงรอดโอดครวญอยู่ชั่วขณะก่อนที่ร่างจะสลายกลายเป็นเศษขี้เถ้า
“หนี! หนีเอาตัวรอด!”
ยังไม่ทันจะได้ลงมือ โจรภูเขาทุกคนก็หันหลังเผ่นหนี
บุรุษสตรีคู่นี้ไม่ต่างอะไรจากปีศาจร้าย พวกเขาไม่อาจต่อต้านไหว!
“ทำชั่วอะไรไว้ย่อมได้รับผลกรรมของตนเอง!” หลิงฮันสะบัดมือ เพลิงเก้าสวรรค์ขยายรัศมีกว้างกลายเป็นกรงขนาดใหญ่ปิดกั้นหุบเขาของกลุ่มโจรภูเขาเอาไว้
“ใช้ทุกอย่างที่มีจัดการทั้งสองคนนั้น!” เหล่าโจรภูเขาดวงตาแดงฉานและหันกลับมาตอบโต้อีกครั้ง
ครั้งนี้พวกเขาไม่สนใจแล้วว่าจักรพรรดินีจะงดงามเพียงใดและกระหน่ำโจมตีอย่างบ้าคลั่ง
ต่อให้เป็นสตรีที่งดงามราวกับเทพธิดาเพียงใดก็ไม่สำคัญเท่าชีวิตของตัวเอง
แต่ก็น่าเสียดาบ ด้วยความต่างของพลังที่มีมากเกินไป ต่อให้พวกเขาทุ่มสุดตัวแล้วจะทำอะไรได้?
หลิงฮันและจักรพรรดินีเข่นฆ่าสังหารอยู่ฝ่ายเดียวอย่างไร้ความเมตตา หลิงฮันรังเกียจโจรภูเขาเหล่านี้เป็นทุนเดิมในขณะที่จักรพรรดินั้นไม่แยแสใคร ในสายตาของนาง นอกจากหลิงฮันกับสหายของหลิงฮันแล้ว สิ่งมีชีวิตอื่นๆในโลกนี้ก็ไม่ต่างอะไรจากสุนัข
การสังหารหมู่กินเวลาไปครึ่งก้านธูป ในตอนนี้เองจู่ๆก็มีเสียงปรบมือดังขึ้น ร่างของชายผู้หนึ่งก้าวเดินออกมาจากบ้านไม้ไผ่ เขาเป็นชายที่มีรูปลักษณ์อยู่ในช่วงอายุสามสิบปี ผิวของเขาขาวกระจ่างใสและมีใบหน้าหล่อเหลา
“เจียงอู๋ซาง?” หลิงฮันเอ่ยถาม
“ไม่ผิด” ชายสวมชุดฟ้าครามผู้นั้นพยักหน้า
หลิงฮันประหลาดใจเล็กน้อย เขาคิดว่าผู้นำของกลุ่มโจรภูเขาอันโหดเหี้ยมนี้จะเป็นคนเถื่อนร่างสูงยักษ์เสียอีก เขาไม่คิดมาก่อนว่าผู้นำกลุ่มโจรจะเป็นชายที่ดูเป็นมิตรเช่นคนตรงหน้า
“ดูจากพลังของพวกเจ้าสองคน วันนี้ข้าคงไม่อาจหนีพ้นความตายไปได้ เพียงแต่ก่อนที่จะลงมือ ข้าอยากให้พวกเจ้าฟังเรื่องของข้าเสียหน่อย” เจียงอู๋ซางโค้งตัวให้กับพวกหลิงฮัน
หลิงฮันรู้สึกสงสัยจึงกล่าวตอบไป “เชิญพูด”
เจียงอู๋ซางเรียบเรียงเรื่องราวครู่หนึ่งก่อนจะกล่าว “ข้าไม่ใช่คนที่ฝักใฝ่ในศาสตร์วรยุทธมากเท่าไหร่ ข้าทุ่มเทเวลาทั้งชีวิตของข้าไปกับการศึกษาประวัติศาสตร์และได้แต่งงานมีภรรยาที่งดงามกับบุตรที่น่ารัก ถึงแม้ข้ามักจะถูกผู้อื่นยกย่องว่ามีพรสวรรค์ในศาสตร์วรยุทธแต่ข้าไม่ได้ชอบการต่อสู้เท่าไหร่”
“ทว่า…”
ฃ
เขาชะงักแน่นิ่งไปชั่วครู่ ดวงตาของเขาเผยให้เห็นถึงเพลิงแห่งความแค้น “วันหนึ่ง ข้าได้ออกไปศึกษาชิ้นส่วนของประวัติศาสตร์ที่สาปสูญกับพรรคพวก และวันนั้นเมื่อกลับถึงบ้านข้ากลับพบว่าภรรยากับบุตรของข้าเสียชีวิตไปแล้ว!”
“ในตอนนั้นข้าแทบจะกลายเป็นบ้า เมื่อสงบสติได้ข้าสืบพบว่าเป็นนายน้อยจอมเสเพลของตระกูลติงที่หลงไหลในความงามของภรรยาข้าและต้องการตัวนาง แต่เนื่องจากภรรยาของข้าไม่ยินยอมตระกูลติงผู้นั้นจึงสังหารนางทิ้ง และเพื่อระบายความโกรธแม้แต่บุตรเพียงสามปีของข้ามันก็ไม่ละเว้น”
“ข้าบุกไปล้างแค้นแล้วแต่ก็ไม่สามารถผ่านประตูของตระกูลติงไปได้ ข้าถูกทุบตีปางตายและถูกนำร่างออกมาทิ้งนอกเมือง”
“ในตอนแรกข้าคิดว่าชีวิตคงจบแล้ว แต่สวรรค์กลับไม่ยอมให้ข้าตาย ข้ารอดชีวิตมาได้อย่างปาฏิหาริย์”
“ข้ารู้ว่าตระกูลติงนั้นแข็งแกร่งเกินว่าจะแก้แค้นได้สำเร็จข้าจึงผันตัวกลายมาเป็นโจรภูเขาและปล้นสังหารขบวนพ่อค้าที่ออกมาจากเมืองธุลีจันรทราเพื่อก่อความวุ่นวายให้แก่ตระกูลติง”
ที่แท้ก็เป็นเช่นนี้!
หลิงฮันถอนหายใจ ความทุกข์ทรมานที่เจียงอู๋ซางได้รับนั้นหนักหนาสาหัสเป็นอย่างยิ่ง นอกจากนี้ก็ไม่รู้ว่ามีมีสตรีอีกมากมายเพียงใดที่มีชะตากรรมเหมือนกับภรรยาของเจียงอู๋ซาง
เจียงอู๋ซางผู้นี้ถูกความเคียดแค้นกัดกินจิตใจแอย่างสมบูรณ์แล้ว
หลิงฮันแน่นิ่งไปพักหนึ่งก่อนจะกล่าว “เจ้าก็บรรลุระดับราชาเซียนสูงสุดแล้ว ทำไมถึงไม่ทะลวงผ่านระดับโลกียนิพพาน? อย่างน้อยเจ้าก็พอมีความหวังแก้แค้นสำเร็จขึ้นมาบ้าง”
เจียงอู๋ซางแหงนมองท้องฟ้าและกล่าวด้วยรอยยิ้ม “สิ่งที่ข้าไม่คิดจะลืมเลือนคือความรักที่มีต่อภรรยาและบุตร หากต้องตัดความรู้สึกนั้นทิ้งข้าขอยอมไม่ล้างแค้นดีกว่า”
การจะบรรลุระดับโลกียะนิพพานจำเป็นต้องตัดความรู้สึกทางโลกทิ้ง ซึ่งความรู้สึกที่จะสูญเสียไปคือความรู้สึกที่สำคัญที่สุด
เจียงอู๋ซางนั้นเพื่อที่จะไม่ลืมความรู้สึกที่มีต่อภรรยาและบุตร เขายอมแม้กระทั่งไม่พยายามทะลวงผ่านระดับโลกียนิพพานและล้มเลิกความหวังที่จะแก้แค้น
หลิงฮันถอนหายใจและกล่าว “เจียงอู๋ซาง ด้วยการกระทำอันโหดเหี้ยมที่ผ่านมาของเจ้าไม่ว่าอย่างไรข้าก็ต้องสังหารเจ้า แต่ข้าขอสัญญาว่าวันหนึ่งข้าจะทำลายตระกูลติงให้สิ้นซากเพื่อคืนความยุติธรรมให้แก่เจ้า”
เจียงอู๋ซางหัวเราะ “ไม่ว่าคำสัญญานั่นจะสำเร็จหรือไม่ข้าก็ขอขอบคุณล่วงหน้า! สำหรับข้าการเผชิญหน้ากับเจ้าคงเป็นการต่อสู้ครั้งสุดท้ายแล้ว”
เขาคำรามเสียงต่ำก่อนจะระเบิดพลังรุนแรงที่เพียงพอจะทำให้ราชาเซียนสูงสุดสั่นสะท้านด้วยความหวาดกลัวออกมา
“เมื่อในระดับวารีนิรันดร์ ข้าควบแน่นดวงดาวได้ถึงหกล้านดวง หากไม่ใช่เพราะข้าไม่สนใจศาสตร์วรยุทธ การที่ข้าจะควบแน่นดวงดาวได้ถึงแปดล้านดวงหรือแม้แต่สิบล้านดวงก็ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้” เจียงอู๋ซางกล่าว “เพราะฉะนั้นเจ้าอย่าได้ประมาท ไม่งั้นคนที่เสียชีวิตอาจจะกลายเป็นเจ้าไม่ใช่ข้า!”
หลิงฮันมองไปยังจักรพรรดินี “ข้าจัดการเอง”
ถึงแม้เจียงอู๋ซางจะก่อวีรกรรมชั่วร้ายมามาก แต่อีกฝ่ายก็เป็นบุรุษผู้หนึ่งที่คู่ควรให้เขาส่งไปยังโลกหน้าด้วยมือตัวเอง
จักรพรรดินีพยักหน้าและก้าวถอยออกมา