เหล่าคนที่เพิ่งเข้ามายังห้องโถงต่างพูดคุยกันถึงเหตุการณ์น่าอัศจรรย์ที่ตนเองพบเห็น
ถงหลินช่างบ้าระห่ำยิ่งนักที่กล้าพลอดรักกับสตรีกลางแจ้งในอาณาเขตของจ่างซุนเหลียง!
ชะตากรรมของถงหลินถูกตัดสินแล้วว่าจบไม่สวย ทุกคนเลิกให้ความสนใจต่อเขาและเริ่มพูดคุยกับสหายที่แต่ละคนต่างไม่ได้พบเจอมานานหรือไม่ก็สานสัมพันธ์กับมิตรสหายใหม่ เมืองจันทราหม่นแสงนั้นมีอาณาเขตที่กว้างใหญ่ไพศาล ในเวลาปกติพวกเขาทุกคนจึงไม่ค่อยมีโอกาสได้พบหน้ากัน
จักรพรรดินีได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก ทุกคนต่างมาล้อมรอบนางเพื่อสร้างความประทับใจหรือไม่ก็สอบถามข้อมูลว่ามาจากขุมอำนาจใด
จักรพรรดินีไม่แยแสจนหลิงฮันต้องทำหน้าที่เป็นคนพูดคุยกับคนอื่นๆให้แทน แน่นอนว่าเขาย่อมไม่พูดจาล่วงเกินใดๆเพราะคนเหล่านี้อาจจะมีประโยชน์ในอนาคต ยิ่งกว่านั้นคือหากไม่ถูกคุกคามก่อนเขาย่อมไม่ไปคุกคามใคร
หลังจากผ่านไปราวๆครึ่งชั่วโมง ในที่สุดจ่างซุนเหลียงก็มาถึง
“จ่างซุนเหลียงมาถึงแล้ว!” เสียงใครคนหนึ่งเอ่ยกล่าว ทันใดทั่วทั้งห้องโถงก็เงียบสงบ
รุ่นเยาว์สวมมงกุฎสีม่วงผู้หนึ่งก้าวเดินเข้ามาจากทางประตู เขาเป็นชายหนุ่มที่มีดวงตาปราดเปรื่องราวกับดวงตะวัน
ด้านหลังของเขาคือชายหนุ่มผมแดงที่ก้มโค้งเดินตามมาด้วยสีหน้าเลื่อมใสราวกับจ่างซุนเหลียงที่อยู่ด้านหน้าไม่ใช่มนุษย์แต่เป็นพระเจ้า
“คารวะทายาท!” ทุกคนคุกเข่าลงหรือไม่ก็ลุกขึ้นยืนผสานมือคารวะ
บุคคลตรงหน้าพวกเขาคือราชาไร้เทียมทานที่มีพรสวรรค์สูงที่สุดในขุมอำนาจสองดาว ต่อให้เป็นอัจฉริยะจากขุมอำนาจสามดาวก็ใช่ว่าจะเทียบชั้นจ่างซุนเหลียงได้
แน่นอนว่าหลิงฮันกับจักรพรรดินีไม่คุกเข่าหรือทำการคารวะใดๆ ต่อหน้าจอมยุทธระดับเดียวกันพวกเขาจำเป็นต้องลดศักดิ์ศรีของตัวเองด้วย?
เรื่องนี้ทำให้ผู้คนรอบข้างรู้สึกกระอักกระอ่วน หากจ่างซุนเหลียงโมโหขึ้นมาจะทำอย่างไร?
“ทุกคนทำตัวตามสบาย!” จ่างซุนเหลียงกล่าวด้วยน้ำเสียงปกติ เขายื่นมือขึ้นมาเผื่อบ่งบอกให้ทุกคนนั่งลงและกวาดสายตามองหลิงฮันกับจักรพรรดินี มุมปากของเขาเผยรอยยิ้มพร้อมกับกล่าว “ธิดาหล่วนซิง!”
จักรพรรดินีไม่แม้แต่ชำเลืองมองอีกฝ่าย นางพยักหน้าเล็กน้อยเพื่อเป็นการทักทาย
จ่างซุนเหลียงไม่คิดมาก เขายิ้มอย่างเป็นมิตรและกล่าว “เอาล่ะ ข้าได้เตรียมสุราเล็กๆน้อยๆเอาไว้แล้ว เชิญทุกคนดื่มได้ตามอัธยาศัย”
เขากวาดสายตามองฝูงชนก่อนจะขมวดคิ้ว ที่นั่งในห้องโถงที่ตระเตรียมถูกนั่งแทบจะหมดทุกที่แล้วเหลือไว้เพียงที่เดียว
ที่ของถงหลิน…
ทั้งๆที่เขามาถึงแล้วแต่ถงหลินกลับยังไม่ปรากฏตัว นี่อีกฝ่ายคิดว่าตนเองเหนือชั้นไปกว่าเขารึไง?
จ่างซุนเหลียงเผยสีหน้าไม่พอใจและกล่าว “ถงหลินอยู่ที่ไหน?”
พรวด!
ใครบางคนที่กำลังดื่มสุราเข้าปากเผลอสำลักออกมา
เกิดอะไรขึ้นกันแน่?
จ่างซุนเหลียงจ้องมองไปยังชายหนุ่มผมแดงด้านข้าง ชายหนุ่มผมแดงเข้าใจทันทีและพยักหน้าอย่างเคารพ เขาก้าวเดินออกไปไถ่ถามข้อมูลก่อนที่ใบหน้าจะแปรเปลี่ยนเป็นตกตะลึง
ถงหลินกำลังพลอดรักกับสตรีอยู่ที่พุ่มหญ้ากลางแจ้ง!
นี่เจ้าต้องไม่ได้พบเห็นสตรีมากี่ร้อยปีกัน ถึงได้หิวกระหายเช่นนี้?
ชายหนุ่มผมแดงรีบกลับไปกระซิบข้างหูจ่างซุนเหลียง
สีหน้าของจ่างซุนเหลียงแสดงออกถึงความเกรี้ยวกราดจนแทบจะทุบโต๊ะ
เจ้าตัวบัดซบถงหลินกล้าพลอดรักกับสตรีในสวนของเขา? ไม่ใช่ว่านี่เปรียบเสมือนกาารหักหน้าเขาอย่างโจ่งแจ้งรึไง? บังอาจนัก!
เพียงแต่ว่าจ่างซุนเหลียงกลับยังไม่ลงมือใดๆ เขาพยายามระงับอารมณ์และเอ่ยทักทายทุกคนในห้องโถง
เขาคือทายาทที่จะได้รับสืบทอดตำแหน่งประมุขในอนาคต แน่นอนว่าเขาต้องควบคุมสถานการณ์ให้ได้ เขาเปลี่ยนหัวข้อพูดคุยเพื่อทำให้ผู้คนลืมเรื่องของถงหลินอย่างรวดเร็ว
จ่างซุนเหลียงรู้สึกสนใจจักรพรรดินีเป็นอย่างมาก เพราะอย่างไรนางก็เป็นเพียงราชารุ่นเยาว์คนเดียวที่มีพรสวรรค์ทัดเทียมกับเขา ยิ่งกว่านั้นสถานะของนางยังดูลึกลับเป็นอย่างมาก เป็นไปได้ว่านางจะมาจากขุมอำนาจที่ทรงพลังสักแห่ง!
“แม่นางหล่วนซิง หลังจากนี้ข้าอยากจะชวนแม่นางไปศึกษาวรยุทธด้วยกัน ไม่ทราบว่าแม่นางคิดอย่างไร?” จ่างซุนเหลียงกล่าวรุกจักรพรรดินีตรงๆไม่อ้อมค้อม
จักรพรรดินีคร้านจะแยแส บางทีหากจ่างซุนเหลียงกล่าวว่าต้องการประลองกับนาง นางอาจจะรู้สึกสนใจ
หลิงฮันหัวเราะและกล่าว “ภรรยาข้าไม่ค่อยชอบยุ่งเกี่ยวกับคนแปลกหน้า หากพี่ชายจ่างซุนต้องการ ข้าสามารถไปแทนนางได้”
เจ้าน่ะรึจะมาแทน?
จ่างซุนเหลียงเผยท่าทางไม่สบอารมณ์ คำที่หลิงฮันพูดว่า ‘ภรรยาของข้า’ ทำให้เขารู้สึกปวดใจขึ้นมาทันที
เขานึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้พร้อมกับหันหน้าไปกล่าวกับชายหนุ่มผมแดงด้วยสัมผัสสวรรค์ หลังจากนั้นครู่หนึ่งเขาก็หันไปกล่าวกับทุกคนด้วยรอยยิ้ม “ไหนๆพวกเราก็รวมตัวกันแล้ว มาจัดงานประลองเล็กๆกันเสียหน่อยเป็นอย่างไร?”
“ตามที่ทายาทต้องการ” ทุกคนรีบพยักหน้า แน่นอนว่าพวกเขาย่อมไม่กล้าปฏิเสธ
“หลิงฮัน ข้าขอท้าประลองเจ้า!” ชายหนุ่มผมแดงรีบลุกขึ้นยืนและตะโกนใส่หลิงฮัน
หลิงฮันประหลาดใจ เขาพยายามทำตัวไม่โดดเด่นและมาที่นี่เพียงเพื่อดูเหล่าอัจฉริยะรุ่นเยาว์ของเมืองจันทราหม่นแสงแท้ๆ แต่จู่ๆกลับมีคนมาท้าประลองเขาเสียได้?
ฮึ่ม… เพราะวันก่อนเขาไม่ตอบโต้อะไร จึงคิดว่าจะรังแกเขาได้ง่ายๆงั้นรึ?
“ตกลง” หลิงฮันพยักหน้าด้วยรอยยิ้ม
“ชื่อหลง ระวังตัวด้วย อย่าได้ลงมือจนมีคนตาย” จ่างซุนเหลียงกล่าวกับชายหนุ่มผมแดง
ชายหนุ่มผมแดงเข้าใจสิ่งที่จ่างซุนเหลียงต้องการจะสื่อ ตราบใดที่ไม่สังหารอีกฝ่ายเขาก็สามารถลงมือโจมตีได้ไม่ยั้งตามใจชอบ เขาพยักหน้าและกล่าวตอบ “ขอรับ”
ชายหนุ่มผมแดงทะยานร่างออกจากห้องโถงและกล่าว “หลิงฮัน ออกมาสู้กัน!”
หลิงฮันเคี้ยวอาหารในปากให้เสร็จก่อนจะจิบสุราเล็กน้อยและกล่าวกับจักรพรรดินี “ภรรยาข้า เดี๋ยวข้ากลับมา”
จักรพรรดินีพยักหน้าและเป็นฝ่ายแหงนหน้าจูบหลิงฮัน
เหตุการณ์นี้ทำให้ทุกคนรู้สึกริษยาจนแทบจะบ้าคลั่ง จักรพรรดินีที่ตอนแรกพวกเขาต่างคิดว่านางมีนิสัยเย็นชาและหยิ่งยโสกลับแสดงท่าทีอ่อนโยนกับหลิงฮัน!
ไอ้คนบัดซบแสนโชคดี… ไปตายซะ!