ฟู่เสี่ยวอวิ๋นแทบจะลุกขึ้นไปตบหัวหลิงฮัน
เจ้าไม่รู้รึไงว่าตัวเองแปลกประหลาดขนาดไหน?
เมื่อครู่เห็นได้ชัดว่าอีกฝ่ายตัดขาดสวรรค์และปฐพีล้มเหลว แต่นอกจากกระอักโลหิตออกมาแล้วเขากลับไม่เป็นอะไรแม้แต่น้อย นี่เขายังเป็นมนุษย์อยู่จริงๆใช่รึเปล่า?
“ข้าไม่เป็นอะไร” นางกล่าวตอบ
“ก็ดีแล้ว” หลิงฮันพยักหน้าก่อนจะเลิกสนใจนางและตั้งสมาธิทะลวงผ่านระดับต่อไป
เป็นความจริงที่เมื่อครู่เขาตัดขาดสวรรค์และปฐพีล้มเหลว เพียงแต่ด้วยกายหยาบอันไร้เทียมทานของเขา ความเสียหายที่ได้รับจึงมีเพียงอาการบาดเจ็บเล็กน้อย
เพียงแต่ต่อให้เขาจะมีกายหยาบที่สามารถตัดขาดสวรรค์และปฐพีล้มเหลวได้หลายครั้ง แต่เขาจะมัวเสียเวลาไม่ได้ ยิ่งกว่านั้นหลังจากที่ล้มเหลวไปแล้วหนึ่งครั้ง เขาก็พอมองเห็นความเป็นไปได้ที่จะตัดขาดสวรรค์และปฐพีสำเร็จแล้ว
สถานการณ์โดยรอบกลับมาเงียบสงบอีกครั้ง
ทุกคนตั้งสมาธิไปกับการทะลวงผ่านระดับโดยไม่วอกแวกสนใจใคร
ห้าวันต่อมา จู่ๆเสียงเป่ยเสวียนหมิงก็คำรามเสียงดังลั่น ออร่ามหาศาลพรั่งพรูออกมาจากร่างของเขาอย่างไม่มีที่สิ้นสุดพร้อมกับดวงตาที่ส่องประกายแสงศักดิ์สิทธิ์
ใบหน้าของเขาปรากฏรอยยิ้มพึงพอใจ ทะลวงผ่านสองนิพพานได้อย่างสมบูรณ์แบบ!
กล่าวคือพลังต่อสู้ของเขายังคงไร้เทียมทานในระดับสองนิพพาน ต่อให้พบเจอคู่ต่อสู้ระดับสองนิพพานสูงสุดเขาก็ไม่หวั่นเกรงและมั่นใจว่าสามารถเอาชนะได้
แต่ก็แน่นอนว่าหากคู่ต่อสู่เป็นจอมยุทธที่บรรลุสองนิพพานได้อย่างสมบูรณ์แบบเช่นกัน ก็ต้องตัดสินกันด้วยความเชี่ยวชาญในอำนาจแห่งกฎเกณฑ์และทักษะยุทธ์
‘ครืนน’ เมฆสีดำก่อตัวรวมกันบนท้องฟ้า แม้ที่นี่จะเป็นภายในเขตแดนลี้ลับ ทัณฑ์สายฟ้าสวรรค์ก็ยังสามารถเข้าถึง
เป่ยเสวียนหมิงทะยานร่างรับทัณฑ์สายฟ้าสวรรค์ ตราบใดที่เขารอดจากบททดสอบของทัณฑ์สายฟ้าสวรรค์ได้ เขาก็จะกลายเป็นนิรันดร์สองนิพพานที่แท้จริง
ด้วยอายุของเขา การที่สามารถบรรลุระดับโลกียนิพพานสองนิพพานได้นั้น ต่อให้เป็นในมหาขุมอำนาจก็ยังเรียกได้ว่าเป็นอัจฉริยะ ที่น่าเสียดายที่สุดคือตัวเขาไม่สามารถบรรลุระดับโลกียนิพพานด้วยวิธีตัดขาดสวรรค์และปฐพีได้
แต่เมื่อคิดๆดูให้ดีแล้ว ในโลกนี้จะมีกี่คนกันเชียวที่ตัดขาดสวรรค์และปฐพีได้สำเร็จ?
คนที่ทำได้มีเพียงเหล่าผู้สืบทอดของขุมอำนาจระดับราชานิรันดร์!
ครึ่งวันต่อมาเป่ยเสวียนหมิงสามารถผ่านทัณฑ์สายฟ้าสวรรค์ได้สำเร็จ สายตาของเขาหันไปมองฟู่เสี่ยวอวิ๋นและพบว่าใบหน้าของนางนั้นกำลังแสดงออกถึงความเจ็บปวด กลิ่นอายแห่งเต๋าอันน่าสะพรึงกลัวกำลังก่อตัวขึ้นที่ด้านหลังของนาง
เป่ยเสวียนหมิงตกตะลึง เหตุการณ์เช่นนี้คือสิ่งที่จะเกิดขึ้นเมื่อทะลวงผ่านระดับโลกียนิพพานล้มเหลวและกำลังจะถูกอำนาจของสวรรค์และปฐพีสะท้อนกลับ!
แต่ทันใดนั้นเอง จู่ๆฟู่เสี่ยวอวิ๋นก็ลืมตาขึ้น ‘ครืนน’ ดวงตาทั้งสองของนางส่องประกายแสงศักดิ์สิทธิ์ พริบตาเดียวออร่าที่ทรงพลังยิ่งกว่าระดับสร้างสรรพสิ่งหลายล้านเท่าก็ระเบิดออกมาจากร่างกายของนาง
ระดับโลกียนิพพาน!
เป่ยเสวียนหมิงรู้สึกสับสนก่อนจะเข้าใจสถานการณ์ได้อย่างรวดเร็ว เมื่อครู่ฟู่เสี่ยวอวิ๋นนั้นตัดขาดสวรรค์และปฐพีล้มเหลว เพียงแต่ว่าในช่วงวิกฤตเป็นตายนั่นเอง นางหาโอกาสตัดความรู้สึกทางโลกของตัวเองได้ทันเพื่อหลีกเลี่ยงความตายจากอำนาจสะท้อนกลับของสวรรค์และปฐพี
ฟู่เสี่ยวอวิ๋นเผยสีหน้าเศร้าโศกและร้องไห้ ความรู้สึกที่สวรรค์และปฐพีช่วงชิงไปจากนางคือความรักที่นางมีต่อบิดามารดา จากนี้เป็นต้นไปแม้บิดามารดาจะยังถือว่าเป็นครอบครัว แต่ก็คงยากที่พวกเขาจะมีอิทธิพลทำให้จิตใจของนางหวั่นไหว
หลังจากตัดความรู้สึกทิ้งไป ความรู้สึกเศร้าโศกของนางก็ค่อยๆหายไปราวกับว่าไม่เคยรู้สึกมาก่อน
ทัณฑ์สายฟ้าปรากฏขึ้นอีกครั้งและผ่าเข้าใส่ฟู่เสี่ยวอวิ๋น
เป่ยเสวียนหมิงทำได้เพียงรอคอยให้นางรับทัณฑ์สายฟ้าสวรรค์เสร็จสิ้น เขากวาดสายตามองพวกหลิงฮันทั้งสามคนและเผยจิตสังหาร หากเป็นตอนนี้ล่ะก็ฟู่เสี่ยวอวิ๋นคงไม่อาจห้ามปรามเขาได้
แต่ก็อย่าดีกว่า… เป่ยเสวียนหมิงส่ายหัว ถึงแม้ฟู่เสี่ยวอวิ๋นจะไม่อยู่ในสถานการณ์ที่ห้ามปรามเขาได้แต่นางก็ย่อมต้องสังเกตเห็น เขาไม่ต้องการให้ฟู่เสี่ยวอวิ๋นเกิดความรู้สึกไม่พอใจต่อเพราะลงมือสังหารมดปลวกสามตัว
ผ่านไปอีกครึ่งวันฟู่เสี่ยวอวิ๋นก็รอดพ้นจากทัณฑ์สายฟ้าสวรรค์
“เสี่ยวอวิ๋น เจ้าเป็นอย่างไรบ้าง?” เป่ยเสวียนหมิงรีบก้าวเข้ามาถามไถ่
“บรรลุระดับโลกียนิพพานได้สมบูรณ์แบบ” ฟู่เสี่ยวอวิ๋นกล่าวด้วยน้ำเสียงเรียบง่าย หลังจากละทิ้งความรู้สึกรักที่มีต่อบิดามารดาทิ้งไป ท่าทางของนางก็ดูเหมือนจะนิ่งเฉยยิ่งกว่าเดิม
“ขอแสดงความยินดีด้วย” เป่ยเสวียนหมิงกล่าวด้วยรอยยิ้ม เขาไม่สนใจว่าความรู้สึกที่ฟู่เสี่ยวอวิ๋นตัดทิ้งไปจะเป็นความรู้สึกใด
สำหรับเขาฟู่เสี่ยวอวิ๋นในตอนนี้เหมาะสมที่จะเป็นคู่ครองของเขาเป็นอย่างมาก เพราะหากฟู่เสี่ยวอวิ๋นทะลวงผ่านนิพพานด้วยวิธีพิเศษสำเร็จ สถานะของนางจะอยู่เหนือยิ่งไปกว่าเขา
“ไปกันเถอะ” ฟู่เสี่ยวอวิ๋นจ้องมองหลิงฮันกับจักรพรรดินี นางไม่คิดว่าทั้งสองคนจะตัดขาดสวรรค์และปฐพีสำเร็จเช่นกันและสุดท้ายคงต้องฝืนละทิ้งความรู้สึกทางโลกเหมือนกับนาง
ทั้งสองนำแพไม้ออกมาและจากไป
“ถึงแม้ข้าจะไม่สังหารเจ้า แต่เจ้าก็ไม่อาจบรรลุระดับนิพพานได้สำเร็จอยู่ดี” เป่ยเสวียนหมิงจ้องมองหลิงฮัน ทั้งๆที่เวลาผ่านมาหลายวันแล้วแต่พวกหลิงฮันก็ไม่มีทีท่าว่าจะทะลวงผ่านระดับเลยแม้แต่น้อย เพราะงั้นต่อให้เขาไม่ลงมือเอง แต่พวกหลิงฮันก็คงจะฝืนตัดขาดสวรรค์และปฐพีจนตายไปเอง
เมื่อเห็นแพไม้ของทั้งสองคนค่อยๆห่างออกไป สตรีนกอมตะก็มีท่าทางโล่งอก นางเป็นกังวลตลอดเวลาว่าเป่ยเสวียนหมิงอาจจะลอบโจมตีกระทันหันโดยไม่ให้ตั้งตัว
“อืม ข้าจะจำคำพูดของเจ้าเอาไว้” จู่ๆหลิงฮันก็กล่าวออกมาและยิ้มมุมปาก
เขาไม่คิดจะไว้ใจใครง่ายๆอยู่แล้ว ไม่ใช่แค่เป่ยเสวียนหมิง แต่ถึงแม้จะเป็นฟู่เสี่ยวอวิ๋นเขาก็ไม่เชื่อใจ เพราะงั้นถึงแม้จะดูเหมือนว่าเขากำลังตั้งสมาธิทั้งหมดไปกับการทะลวงผ่านระดับ แต่ความเป็นจริงเขาแพร่กระจายสัมผัสสวรรค์เอาไว้ตลอดเวลาเผื่อในกรณีที่ว่าพวกเป่ยเสวียนหมิงแอบลอบโจมตีกระทันหัน เขาจะได้พาภรรยาทั้งสองหลบไปในหอคอยทมิฬได้ทัน
โชคดีที่ถึง ถึงแม้เป่ยเสวียนหมิงจะมีท่าทีว่าจะลงมืออยู่หลายครั้ง แต่สุดท้ายอีกฝ่ายก็ไม่ได้ทำอะไร
เมื่อทั้งสองคนจากไปแล้ว ก็ถึงเวลาที่หลิงฮันจะตั้งสมาธิทั้งหมดไปกับการทะลวงผ่านนิพพานเสียที
การตัดขาดสวรรค์และปฐพีนั้นยากลำบากเป็นอย่างมาก ตั้งแต่ที่พวกเขาเข้ามายังเขตแดนลี้ลับเวลาก็ผ่านพ้นไปแล้วหกสิบสองวันใน ณ ตอนนี้เหลือเวลาอีกเพียงแค่หนึ่งในสามส่วนเท่านั้นก่อนที่หุบเหวสืบสานนิพพานจะปิดตัว
ร่างของหลิงฮันและจักรพรรดินีระเบิดออร่าอันทรงพลังออกมาพร้อมกัน ออร่าของพวกเขาควบแน่นเปลี่ยนสภาพกลายเป็นปราณดาบมหึมา
ตัดขาดสวรรค์และปฐพี!
ฉัวะ! ปราณดาบของทั้งสองคนสะบั้นเข้าใส่อำนาจแห่งสวรรค์และปฐพีที่มองไม่เห็น ‘ครืนนน’ ทันใดนั้นเองเสียงสั่นสะเทือนอันกึกก้องราวกับอัสนีบาตก็ดังสนั่นไปทั่วท้องฟ้าราวกับสวรรค์และปฐพีกำลังพิโรธ
การตัดขาดสวรรค์และปฐพีคือการขัดขืนอาณัติแห่งสวรรค์ จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่สวรรค์และปฐพีจะเกรี้ยวกราด
สตรีนกอมตะเผยสีหน้าตื่นเต้นดีใจ นี่หมายความว่าหลิงฮันกับจักรพรรดินีใกล้จะทำสำเร็จแล้ว!